Ep.6
Bad Blue Night
“นายทำอะไรแพรว ทำอะไร?? ฉันจะแจ้งตำรวจ” ฉันมือไม้สั่นไปหมด และหมดหนทางจริง ๆ แม้แต่ปลายนิ้วที่กดโทรศัพท์ยังสั่นไม่ยอมหยุด
แม้ฉันจะพูดคำว่าตำรวจออกไป แต่ผู้ชายคนนั้นก็ทำแค่ยักคิ้วอย่าไม่ได้เกรงกลัวใด ๆ
ตุ๊บบบ!!
เขาทำเพียงแค่ปัดมือถือของฉันให้ร่วงลงไปที่พื้นอย่างไม่สนใจ
เราอยู่ในเขตบ้านของเขา และฉันรู้จักคำว่าอำนาจมืดนั้นดี เพียงแต่ว่าฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ยัยแพรวดาวเป็นอะไรทั้งนั้น
เด็กอายุสิบห้าแบบนั้น จะทนรับเรื่องอะไรหนักหนาได้ขนาดไหนเชียว...
“พวกเราผิดอะไร ปล่อยน้องฉันเถอะ ช่วยเมตตาหน่อยได้ไหม???” ฉันเขย่าแขนคนตรงหน้าทั้งน้ำตา ฉันหันไปมองแววตาของคนใจโหดคนนั้นที่ว่างเปล่าเหลือเกิน
“เมตตางั้นเหรอ??? คงใช้กับโคตรเหง้าต้นตระกูลคนโกงแบบพวกเธอไม่ได้” เขาพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาใหญ่อย่างสำราญใจ เหมือนคนที่ไร้ซึ่งความรู้สึก
และเสียงในห้องก็เงียบไปสนิท ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก พร้อมกับหมอคนเดิมที่เดินออกมาจากห้อง
ซึ่งฉันก็รีบวิ่งตรงไปที่ห้องนั้นทันที ยัยแพรวดาวนอนนิ่งไปทั้งคราบน้ำตาอาบแก้ม ฉันรีบเดินเข้าไปกอดร่างของน้องสาวและทำอะไรไม่ได้เลย ยัยแพรวดาวนอนลืมตาสะลึมสะลือด้วยอาการคล้ายเมายาบางอย่าง…
ฉันแค่ไม่คิดว่าคนเราจะมีจิตใจที่โหดร้ายและทารุณกันได้ขนาดนี้ ฉันรู้ว่าเขาใจร้ายแต่ไม่คิดว่าจะชั่วช้าได้ขนาดนี้ด้วย
“แพรวหนูไม่เป็นไรใช่ไหม??” ฉันถามอาการของน้องสาวที่ยังคงนอนกะพริบตาช้า ๆ และไม่ตอบอะไรกลับมา...
ฉันกำหมัดแน่นและเดินออกอย่างฟิวส์ขาดและหมดความอดทนเต็มที
ขณะที่หมอคนนั้นและบลูไนท์กำลังคุยเรื่องอะไรกันสักอย่าง
ฟุบบบ
กระชากแขนของเขาให้หันหน้ามาทางฉัน
“นายทำอะไรน้องสาวฉัน??” ฉันตวาดถามลั่นอย่างข่มอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
“คุณบลู // นาย” ทั้งหมอและบอดี้การ์ดต่างตกใจกับท่าทีของฉัน เว้นแต่คนตัวสูงที่หันหน้ามาเผชิญกับฉัน และก้มมองมือของฉันที่จับต้นแขนของเขา
“พูดต่อเลยหมอ” เขาหันไปยกมือเชิงอนุญาตให้หมอคนนั้นพูดต่อไปอย่างไม่สนใจคำถามของฉันเลยสักนิด
“จากผลการตรวจร่างกายภายใน เธอสะอาดและเยื่อพรมจรรย์ยังอยู่ในสภาพไม่เคยผ่านการฉีกขาดใด ๆ ... แต่ร่างกายของเธอยังไม่เจริญพันธุ์ได้เท่าที่ควร แต่สุขอนามัยทุกอย่างถือว่าแข็งแรงดี”
คำพูดของหมอทำเอาฉันเผลอจิกเล็บเข้าไปยังแขนของคนตรงหน้าอย่างพูดไม่ออกเลยจริง ๆ
ซึ่งเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีเจ็บแต่อย่างใด ใบหน้ายังคงเรียบนิ่งเฉย
“คงต้องรอจนกว่าจะอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ หรืออย่างต่ำก็ควรจะ 17-18” หมอพูดต่อพลางหลบสายตาของฉัน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!” ฉันทวนคำนั้นอย่างปะติดปะต่อเรื่อง
“ถ้าใช้ยาเร่งเจริญพันธุ์ล่ะ?? ทำยังไงก็ได้ให้พร้อมมีทายาท ให้พร้อมใช้!!” เขาถามหมอต่อ ราวกับว่าน้องสาวของฉันเป็นแม่พันธุ์ไก่ในฟาร์ม หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่รอแค่ฤดูเจริญพันธุ์เท่านั้น
“ไม่ได้นะ!! คุณยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม???” ฉันเสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจ
“แต่ผมว่า... มีใครอีกคนที่เหมาะสมกว่านะ”
หมอพูดขึ้นและพยักหน้ากับบลูไนท์ที่ยังคงทำหน้านิ่งขรึม
บลูไนท์หันมามองทางฉันก่อนจะจับมือของฉันและสะบัดมือทิ้ง และมองอย่างรังเกียจ
“ที่เลือกเด็กนั่น เพราะมันสดและสะอาดกว่ายังไงล่ะ! ไม่รู้ว่ายัยนักเรียนนอกที่เพิ่งจบผ่านมาแล้วกี่ขนาด จนกลวงไปหมดแล้วละมั้ง”
เขาพูดแค่นั้นกับหมอ และทุกคนก็ทำได้แค่เงียบไป รวมถึงฉันที่ยังไม่เข้าใจในความหมายนั้นทั้งหมด
เสียงฝีเท้าของบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างหอบเหนื่อย
“นายครับ... มันมาแล้วครับนาย” เขารายงานกับบลูไนท์ และก้มหัวอย่างเคารพ
“แค่คลิปเสียงของลูกสาวคนเล็กก็ยอมโผล่หัวมาแล้วเหรอ??” บลูไนท์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกครั้งด้วยใบหน้าที่สะใจ ก่อนจะกระชากตัวของฉันให้ไปนั่งข้าง ๆ เขาบนโซฟา โดยที่เอาแขนพาดลงบนไหล่ของฉัน ทำให้ปลายของบุหรี่ที่จุดไฟนั้น อยู่ห่างจากแก้มของฉันเพียงแค่นิดเดียว
และนั่นทำให้ฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย...
“พ่อ...” ฉันรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงใคร
พ่อเดินเข้ามาในชุดเสื้อยืดกางเกงสี่ส่วน พร้อมกับหมวกดำอำพรางใบหน้า ราวกับผู้ต้องหาคดีร้ายแรง
“พริบพราว” พ่อมองมาทางฉันด้วยสายตาที่คลั่งจนแทบสิ้นสติ
“มาสักทีนะ พสุธ!!! นึกว่าจะต้องให้รอนานกว่านี้” บลูไนท์เรียกชื่อพ่อของฉันอย่างไรซึ่งความเคารพใด ๆ ก่อนจะพ่นควันบุหรี่สีเทานั้นออกหน้าระรื่น
“เราคุยกันได้นะ คุณบลูไนท์... ผมมาเพื่อเจรจา” พ่อยกมือขึ้นประหนึ่งท่านยอมแพ้ และเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่กลัวเกรงคนตรงหน้า
กลิ่นควันไฟที่แผดเผาบุหรี่นั้นส่งกลิ่นไหม้มาใกล้ข้างแก้มของฉัน และเขายังคงปล่อยมันเป็นแบบนั้น...
ซึ่งฉันก็ทำได้แค่เพียงนั่งนิ่ง ๆ ในอ้อมแขนของจอมโหดนั่น
“ปล่อยลูก ปล่อยครอบครัวผมไปเถอะ ทำผมแทนเถอะได้โปรด” พ่อของฉันพนมมือไหว้คนตรงหน้าอย่างแทบขาดใจ
“ก็จ่ายเงินมาสิ หนึ่งร้อยล้านที่โกงไป พร้อมดอกเบี้ยที่ฉันต้องเสียเวลา” เขาแบมือไปทางพ่อของฉันและพูดขึ้นนิ่ง ๆ
“ผมจะใช้คืนให้ แต่อย่าทำอะไรลูกเมียผมเลย” พ่อพูดออกมาทั้งน้ำตา
“เงิน!!” บลูไนท์ขึ้นเสียงลั่นใส่พ่อของฉันอีกครั้ง
“ผมยังไม่มี แต่ผมจะหามาคืนให้บริษัทคุณทุกบาททุกสตางค์ ผมขอแค่เวลาเท่านั้น” พ่อรับปากออกไปด้วยแววตาที่หวาดหวั่น
บลูไนท์นิ่งไปก่อนจะ… หัวเราะออกมาอย่างสมเพชพ่อและครอบครัวฉัน
“เมื่อไหร่????” เขาพูดขึ้นและมองหน้าพ่ออย่างเจ้าเล่ห์
“ผมจะหามาเร็วที่สุด” พ่อฉันรับปากออกไปทั้งที่เสียงสั่นเครือจนแทบจับใจความไม่ได้
“ฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าแกจะไม่พาครอบครัวหนีหายไปพร้อมหนี้ก้อนโต และทรยศฉันอีกครั้ง??” เขาเอียงคอถามกลับมาอย่างไม่วางใจ
“ผมไม่ทำอีกแล้ว” พ่อตกปากรับคำด้วยความหวาดกลัวความคิดของคนตรงหน้า
“100 ล้านนี่ยังไม่นับดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ วันอีกนะ กว่าจะชำระครบ ดอกก็คงปาไปทบต้นแล้วมั้ง” เขาพูดขึ้นลอย ๆ ปนเสียงหัวเราะในลำคอ
“ช่วยเมตตาผมที ผมไม่กล้าหลอกลวงอะไรคุณอีกแล้ว ผมไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ ผมสำนึกผิดต่อบริษัท ต่อพ่อของคุณจริง ๆ ครับ” พ่อของฉันพยายามจะพูดให้เขาเชื่อว่าท่านจะไม่หนีหนี้ไปไหน
“บริษัทของฉันถูกแกโกงกินไปตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไหนจะเรื่องที่แกขายความลับ ขายลูกค้าเราให้ฝ่ายตรงข้ามอีก??? กว่าจะฟื้นกลับมารุ่งเรืองได้ก็คงอีกนาน”
เขาสวนกลับพ่อก่อนจะโยนแฟ้มเอกสารตรงหน้าใส่หน้าของพ่อฉันอย่างไร้มารยาท
“คุณทำกับพ่อฉันมากไปแล้วนะ!!”
ฉันลุกขึ้นอย่างไม่พอใจที่บลูไนท์ทำกับพ่อฉันราวกับไม่ใช่คน!!
“อย่าปากเก่ง!!!”
เขาพูดขึ้นนิ่ง ๆ และใช้นิ้วโป้งกดลงที่ต้นคอของฉัน ก่อนจะหันมามองหน้าของฉันนิ่ง ๆ และใบหน้าของฉันห่างจากบุหรี่ที่จุดไฟเพียงแค่เสี้ยวเดียว ฉันรับรู้ถึงความร้อนของมันแม้จะยังไม่ทันโดนปลายแก้มเลยด้วยซ้ำ ทำให้ฉันทำได้แค่นั่งข่มน้ำตาอย่างไม่กล้าแม้จะขยับตัวขัดขืนใด ๆ
พ่อมองเอกสารเหล่านั้นอย่างจำนน
“บริษัทหุ้นตก บัญชีติดลบฉิบหายวายวอด จวนจะเจ๊งไม่เป็นท่า จนฉันต้องเอาเงินทุนส่วนตัวมาค้ำเอาไว้ และหาเงินช่วยเหลือจุนเจือพวกพนักงานที่เหลือ!!! แล้วแกล่ะ เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่โกงครอบครัวอื่นเขามางั้นหรอ???”
เขาตอบไปพลางกลอกตาอย่างหงุดหงิดใจ
“ผม” พ่อตะกุกตะกักราวกับเถียงออกมาไม่ออก
“นี่นับว่าฉันใจบุญแค่ไหนแล้ว... ที่ไม่เอาลูกปืนยัดใส่สมองที่คิดแต่เรื่องชั่ว ๆ ของแก” เขาพูดนิ่ง ๆ ก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นบ้าน และเหยียบจนไฟนั้นดับลง
“แต่จะฆ่าแกตอนนี้มันก็คงเปล่าประโยชน์ หนี้แค่สูญเปล่า ลูกเมียแกก็สุขสบาย!!” บลูไนท์กดไฟแช็กในมือของเขาและมองเปลวไฟที่พลิ้วไหวนั่นอย่างสำราญใจ
แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากครอบครัวของเราแทนการใช้หนี้ แต่ที่แน่ ๆ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ๆ
“ในเมื่อแกยินดีจะใช้หนี้คืนให้ ฉันก็จะให้โอกาสแกนะ คนระยำแบบแกได้กลับตัว” เขาพูดขึ้นก่อนจะชี้สั่งให้ลูกน้องเข้าไปพาตัวแพรวดาวออกมาจากห้องนั้น
“คุณจะทำอะไรยัยแพรวดาว ทำผมเถอะ ฆ่าผมเลย”
พ่อพูดออกมาทั้งน้ำตาแต่ท่านถูกบอดี้การ์ดของหมอนั่นกดคอเอาไว้
สายตาที่พ่อมองแพรวดาวราวใจจะขาดรอน ๆ
ส่วนฉันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จอมโหดคนนี้ก็ทำได้แค่มองเหตุการณ์ทั้งหมดราวกับคนเป็นใบ้
มันเจ็บปวด และรวดร้าวจนอ้าปากพูดอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างที่ฉันเจอตอนนี้มันแย่ แย่มากเกินกว่าที่ฉันจะอธิบายออกมาได้
ฉันต้องมองเห็นคนที่ฉันรัก ทั้งสองคนร้องไห้และเจ็บปวด ทำไมเขาไม่เห็นใจพวกเราบ้างเลย… ทำไมกัน....
“ทุก ๆ วันที่สามสิบของเดือน ฉันต้องได้เงินผ่อนชำระหนี้ ...หนึ่งล้านบาทถ้วน ไม่ขาด ไม่เกิน”
เขาพูดนิ่ง ๆ ในขณะที่ลูกน้องของเขาอุ้มแพรวดาวที่ยังคงสลบนิ่งไปออกมาจากห้องและวางลงบนโซฟาอย่างนิ่มนวล
“ได้... ได้ผมจะหามา” พ่อพยักหน้ารับและมองยัยแพรวดาวด้วยความกังวล
“แพรว...” ฉันพยายามจะเรียกน้องให้ได้สติทั้งที่น้องนั่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
“แกเป็นคนฉลาด พสุธ แกใช้ความฉลาดและความเชื่อใจของแกหักหลังบริษัทของฉันได้ แกก็ต้องหักหลังมันเพื่อลูกเมียแกได้เหมือนกันจริงไหม??” เขาเลิกคิ้วถามพ่อด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม
“ผมจะทำ ผมจะเอาข้อมูลและลูกค้ามาคืนให้คุณ... แค่ปล่อยลูกผมเถอะ ผมยอมทุกอย่าง” พ่อมองมาที่ฉันสลับกับยัยแพรวดาว และก้มหน้าอย่างหมดสิ้นศักดิ์ศรี
“ตกลงง่ายดีนี่” บลูไนท์พยักหน้านิ่ง ๆ
“เพียงแต่ว่า ฉันต้องมีหลักประกันว่าแกจะไม่คิดเบี้ยวหนี้ หรือทรยศหักหลังฉันอีกเท่านั้นเอง” บลูไนท์พูดขึ้นเสียงเรียบนิ่ง
“และนั่นไม่ใช่ข้อเสนอ แต่เป็นข้อบังคับ”
“คุณต้องการอะไร พูดออกมาเลย”
พ่อเงยหน้าขึ้นมองบลูไนท์ และใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม และซีดสนิท...
“เด็กคนนั้น ต้องมาอยู่กับฉัน และต้องอุ้มท้องทายาทให้กับฉัน” บลูไนท์พูดออกมาด้วยใบหน้าที่แน่นิ่ง ราวกับไม่รู้สึกใด ๆ ที่เขากำลังจะเอาเด็กที่อายุแค่สิบห้าปี มาเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์ของตัวเอง และยังต้องมาเป็นคนอุ้มบุญให้ทายาทของเขาอย่างน่าทุเรศที่สุด
“ห้ะ...// ห้ะ??”
เสียงฉันกับพ่อร้องขึ้นมาอย่างตกใจกับคำพูดของบลูไนท์
“ไม่ได้นะ ยัยแพรวดาวอายุแค่ 15 เองนะคะ จะไปอุ้มท้อง หรือ... ไปทำแบบนั้นได้ยังไง ...เธอยังเด็กอยู่เลยนะ มันอันตรายเกินไป”
ฉันพูดออกไปอย่างอ้างถึงเหตุผล... แม้ว่าเขาจะไม่สนใจจะฟังก็ตาม
“ว่าไงล่ะ?”
บลูไนท์ถามเน้นย้ำไปที่พ่อที่นั่งผมหลับตาสนิทปล่อยให้น้ำตาไหลพรากอาบหน้า มือทั้งสองของท่านกำหมัดแน่นและสั่นไปด้วยความโกรธ
พ่อเงยหน้ามองฉันทั้งดวงตาที่แดงก่ำ...
“หนี้รอยยี่สิบล้าน จะหมดลงทันทีที่ลูกสาวของแก... คลอดทายาทให้กับฉัน”
บลูไนท์ยื่นข้อเสนอที่เหี้ยมโหดและชั้นต่ำให้พ่อของฉันตัดสินใจ
พ่อสั่นไปทั้งตัวและมองมาที่ฉันทั้งน้ำตา... แววตาที่เต็มไปด้วยคำว่าขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ...
“ผมจะตกลง ถ้าคุณเปลี่ยนจากแพรวดาว กับพริบพราว...”
พ่อพูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
บลูไนท์ไม่ได้ตกใจกับคำตอบของพ่อเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับนิ่งฟังราวกับไม่ใส่ใจ
“ผมยืนยันและการันตีได้ว่า ลูกสาวคนโตของผม ยังบริสุทธิ์และเพียบพร้อมจะอุ้มบุญให้กับคุณมากกว่า ยัยแพรวดาว... แพรวดาวยังเด็กเกินไปไม่ประสีประสาอะไร...”
พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นและหลบสายตาของฉันทันที และประโยคนั้นของพ่อ ทำเอาฉันเองก็อึ้งอยู่ไม่น้อย... แต่ฉันคิดว่าฉันเข้าใจเหตุผลของพ่อ...
บลูไนท์นิ่งไปก่อนจะเหลียวสายตามามองที่ฉันตั้งแต่หัวจรดถึงปลายเท้า
“สุดท้ายแกเองก็ทรยศ แม้กระทั่ง... ลูกเลี้ยงตัวเองสินะ”
เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยประโยคที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเลย...
ลูกเลี้ยง??? ฉันพยายามตีความหมายคำพูดนั้น ...มันหมายความว่ายังไงกันแน่... มันหมายความว่ายังไง...
พ่อยังคงส่ายหน้าทั้งที่ไม่กล้าแม้จะสบสายตากับฉัน
บลูไนท์เดินไปหยิบปืนในลิ้นชักขึ้นมาจ่อไปที่หน้าของพ่อฉัน
........
...............
“นายจะทำอะไรพ่อของฉันอะ” ฉันเอาตัวเองไปบังไว้ทันที ด้วยความตกใจและสัญชาตญาณ
“พราวว...” พ่อเรียกชื่อฉันเบา ๆ ก่อนจะสะอื้นร้องไห้และก้มหน้าก้มตา
บลูไนท์มองเข้ามาที่แววตาของฉันนิ่ง ๆ ....
“พ่อ… ของเธอจะตายทันที ถ้าที่พูดมาทั้งหมด… เขาโกหกฉันแม้แต่คำเดียว”
ปืนของเขาจ่อตรงมาที่หน้าผากของฉัน เพราะฉันเอาตัวเองบังกระสุนของพ่อเอาไว้
เขาเลื่อนวิถีกระสุนจากหน้าผาก และเลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอก ก่อนจะไล่ระดับลงมาเรื่อย ๆ ทำเอาฉันไม่สามารถหายใจได้ทั่วท้อง และติดขัด...
จนเลื่อนต่ำไปหยุดที่จุดใต้ต่ำสะดือลงไป และจ่ออยู่แบบนั้น เพื่อรอคำตอบว่า เรื่องที่พ่อเพิ่งพูดบรรยายออกมาเกี่ยวกับฉันนั้น...
“พ่อของฉัน... ไม่ได้โกหกคุณ...”
ฉันพูดออกไปและหันกลับไปฝืนยิ้มอย่างน้อมรับการตัดสินใจของผู้เป็นพ่อ
บลูไนท์เอียงคอมองหน้าฉันอย่างคิดและพิจารณาด้วยสายตาที่เหยียด
“งั้นก็ดี คืนนี้ก็... มาพิสูจน์กัน...!!!” บลูไนท์ลดปืนลงทันทีก่อนจะกระชากแขนของฉันให้เข้าไปประชิดตัวของเขา
“เธอไม่ได้มีค่ามากเท่าเงินร้อยล้านหรอกนะ แต่ฉันจะถือว่า เป็นค่าดอกเบี้ยรายวันฆ่าเวลาไปก่อนก็แล้วกัน” เขาพูดขึ้นเสียงแข็ง ๆ และออกแรงบีบที่ข้อมือของฉันอย่างรุนแรง
“เอาจริง ๆ ฉันไม่ได้สนหรอกนะว่าจะเป็นลูกเลี้ยงแกหรือลูกแท้ ๆ ขอแค่สืบพันธุ์ให้ทายาทของฉันมีอวัยวะครบสามสิบสอง ฉันก็จะยอมยกหนี้ให้”
เขาพูดหน้าตาย และมองมาที่ฉันสลับไปแพรวดาว
“เพราะฉันไม่พิศวาสพวกเธอเลยสักนิด” บลูไนท์มองเหยียด ๆ และแสยะยิ้มเล็กน้อย
“พาพวกมันกลับไปส่งที่บ้านเช่าของมัน และจับตาดูเอาไว้ และรอฟังคำสั่งจากฉัน” เขาเดินไปสั่งลูกน้องด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
"ถ้าแกตุกติก หรือเล่นแง่กับฉัน!!! ลูกเลี้ยงสุดที่รักของแก... จะตกเป็นนางบำเรอทั้งของฉันและพวกมันด้วย งานก็จะหนักหน่อยนะ"
เขาพูดและหันไปมองพวกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รอบ ๆ บ้านด้วยรอยยิ้มที่แสนจะชั่วร้ายและต่ำทรามนั้น...
ในขณะที่ฉันถูกบลูไนท์ลากกระชากออกไปจากห้องนี้… พ่อก็ตะโกนออกมาสุดเสียงตามหลังของฉันมาทันที
“พราว พ่อขอโทษนะลูก พ่อรักลูกนะ หนูคือลูกแท้ ๆ ของพ่อ ...หนูคือลูกแท้ ๆ ของพ่อนะ พ่อขอโทษ... ขอโทษจริง ๆ นะลูกรัก”
พ่อพูดออกด้วยเสียงที่อ่อนล้าและใกล้จะหมดแรง ท่านพยุงยัยแพรวดาวที่ยังคงสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์ของยานอนหลับ ...ก็เนื่องจากการตรวจภายในอย่างละเอียดที่บลูไนท์ได้เอาหมอคนนั้นมาตรวจร่างกายยัยแพรวดาวเพื่อที่จะบังคับให้น้องสาวของฉันเป็นแม่พันธุ์ให้กับเขาอย่างไร้ซึ่งอารยธรรมและความเป็นมนุษย์
ฉันถูกบลูไนท์ลากเข้ามาที่ห้องห้องหนึ่ง ที่มีเตียงมหึมา ตั้งอยู่กลางห้อง... มือข้างหนึ่งของเขาถือปืนสีเงินกระบอกใหญ่ มืออีกข้างกระชับบีบแน่นอย่างไร้ความเมตตาใด ๆ กับต้นแขนของฉัน มันเจ็บราวกับจะบีบให้กระดูกแหลกละเอียดคามือไปเลยด้วยซ้ำ
ฟุบบบบบ!!!
“กระสุนปืนจะเจาะทะลุกบาล คนทรยศอย่างพ่อเธอทันที ถ้าฉันพิสูจน์ว่าสินค้าที่ฉันแลกไปด้วยเงิน
100 กว่าล้าน มันไม่ใช่ของมือหนึ่ง!!!” เขาพูดเสียงแข็งกร้าวก่อนจะวางกระบอกปืนเอาไว้เหนือหัวเตียง
“แก้ผ้าออกทั้งหมด” เขากอดอกและสั่งในสิ่งที่เขาต้องการออกมา
ตัวของฉันสั่นระงมด้วยความรู้สึกกลัวจับใจ จะร้องก็กลัวลูกปืน จะหนีก็กลัวความตาย… ทำได้แค่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจจะฝืนกลั้นเอาไว้ได้
“เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม??” เขาถามย้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดุดัน
“…ค่ะ...” ฉันพยักหน้าและตอบไปอย่างตะกุกตะกัก
ฉันไม่เคยรู้จักบลูไนท์มาก่อน แต่เท่าที่รู้เขาเป็นคนใจร้าย และฆ่าคนได้ง่ายกว่าผักง่ายกว่าปลา...
ฉันหลับตาสนิทก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกทั้งน้ำตา จนถึงชิ้นสุดท้าย
บลูไนท์จองมองร่างกายของฉันนิ่ง ๆ แต่เป็นฉันที่กลัวและหนาวสั่น ด้วยอุณหภูมิแอร์ในห้อง และความกลัวที่มีตรงหน้า
เขาจับไหล่ของฉันให้ทรุดลงไปที่พื้นและเงยหน้ามองเขาในระดับที่ต่ำกว่า...
“ปลุกมันขึ้นมา เพราะฉันยังไม่มีอารมณ์กับเรือนร่าง... ของเธอ!!”
เขาพูดขึ้นนิ่ง ๆ และมองหน้าฉันอยู่แบบนั้น ในขณะที่ใบหน้าของฉันอยู่ในระดับของสิ่งนั้นของเขา
และส่งสายตาเชิงบังคับมาที่ฉัน ฉันต้องใช้มือที่สั่นเทา รูดซิปกางเกงของคนตรงหน้าออกช้า ๆ และค่อย ๆ รูดลงมาทั้งน้ำตาอาบหน้า
“เร็วหน่อย” เขาพูดเชิงบังคับก่อนจะจับที่ท้ายทอยของฉันให้จ่อใกล้กับท่อนเอ็นที่ขึ้นเป็นลำเต็มเป้าตุง ๆ คับแน่นกางเกงของเขา
ฟุบบบบบ
คนใจโหดนั่นจับเอาใบหน้าของฉันแนบเข้ากับท่อนเอ็นลำใหญ่นั้นและบดขยี้ใบหน้าของฉันอย่างไร้ปรานีกับสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวที่สุดบนโลก
แม้ฉันจะพยายามจะต้านทานเท่าไหร่ แต่แรงที่เขาใช้กดนั้นยิ่งทวีคูณแรงเป็นเท่าตัว
“ดึงออกมา และทำความสะอาดมันด้วยปากของเธอ” บลูไนท์มองเข้ามาในแววตาของฉันนิ่งราวกับทุกอย่างที่ทำอยู่มันคือเรื่องธรรมดาและปกติ
ฉันพยักหน้ายอมรับชะตากรรมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...ฉันมองไปที่ปืนที่วางบนหัวเตียงไม่ไกล
นึกหน้าของแพรวดาว หน้าของพ่อ ...ก่อนจะกลั้นใจรูดจับลำท่อนเอ็นที่ใหญ่เกือบสุดรอบมือนั่น และกำสิ่งที่หน้ากลัวนั่นจ่อที่ปลายริมฝีปากอย่างฝืนใจ
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เตรียมใจ จอมโหดคนนั้นก็จับที่ผมตรงท้ายทอยของฉันก่อนจะบังคับให้ฉันอมสิ่งนั้นเข้าไปจนสุดลึกบาดลำคอ
“อ๊อกกกกก!!!”
ท่อนเอ็นใหญ่ทะลุทะลวงเข้าไปสุดลำคอจนฉันแทบจะอ้วกสวนออกมา
ฉันถูกบังคับให้กลืนกินมันเข้าและออกอย่างทารุณ
“ออ แอ้ววว... อ๊ออกกกก ๆ ๆ”
แม้ว่าฉันจะพยายามร้องขอแต่กลับเปล่าประโยชน์
เขาไม่ได้สนใจว่าฉันจะเป็นหรือตาย สนใจแค่ให้ฉันทำให้เขาได้เป็นสุขก็เท่านั้น
“อุดอ่อน อุดดดด... (หยุดก่อน... หยุด)”
ฉันพยายามจะร้องขอและดันใบหน้าออกจากท่อนล่างของตรงหน้า
อ๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มือของบลูไนท์ขย้ำจับปลายผมของฉันและกระชากกระแทกกับท่อนเอวล่างของเขา ราวกับเครื่องจักร...
จน...
ฉันรวบรวมกำลังที่ตัวเองพอจะมีอยู่ ผลักออกจากการอมและช่วยออรัลทางปากจากท่อนเอ็นที่ยาวใหญ่ของคนตรงหน้า
และพะอืดพะอม ระบมไปทั้งลำคอของตัวเอง...
“นี่เธอ!!” เขามองหน้าของฉันอย่างไม่พอใจเท่าที่ควร
“คุณบลูไนท์....” ฉันเรียกชื่อของเขาด้วยความกลัว และพยายามจะส่ายหน้าหนี
หมับ!!!!
บลูไนท์จับตัวของฉันกระชากให้ลุกขึ้นมาจากพื้นทันที
“แสดงได้ดีนะ แต่เอาจริง ไม่ต้องเฟคทำเหมือนไม่เคยหรอก !!!”
เขาผลักฉันนอนลงกับเตียงก่อนจะจับขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน
“อย่านะ อย่าทำฉันเลย” ฉันร้องออกมาจากลำคอ ทั้งที่รู้ว่ามันไร้ความหมายใด ๆ
“ถ้าฉันเอามันเข้าไป… แล้วเธอไม่มีเลือดออกมา… เธอและพ่อก็แค่ตาย” เขาพูดพลางจับท่อนเอ็นขนาดใหญ่นั้น
ส้วบบบบบบ!!!
และเสียบมันเข้ามาจนมิดด้าม....
“อื้อออออออส์!!!! ฉันเจ็บ...”
ฉันร้องลั่นและรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า
แต่เขากลับนิ่งเฉยและไม่ได้สนใจว่าฉันจะเป็นหรือตาย ราวกับว่าฉันเป็นเพียง...
ตั้บบบบ ตั้บบบบ
“โอ้ย!! เจ็บบบ...คุณบลูไนท์... เจ็บบบบบบ!!!!!!!!!!!”
ฉันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ด้วยขนาดของเขาที่ไม่สามารถเข้าไปในช่องรักของฉันได้เลย
แต่เขากลับไม่สนใจและกระแทกเข้าและออกอย่างรุนแรง ยิ่งช่องรักบีบตอดรัดของเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกระแทกสวนกลับมามากเท่านั้น...
ตั้บ ๆ ๆ ๆ ตั้บบบ
“ได้โปรด ...ได้โปรดฉันเจ็บ ...ฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ” ฉันร้องออกมาทั้งน้ำตา และพยายามจะดันแผ่นอกกว้างของเขาออกไป...
“นอนเฉย ๆ เถอะน่าา แล้วจะไม่เจ็บ”
เขาตอบมาแค่นั้น ก่อนจะสวนตอบด้วยแรงกระแทกที่ทำเอาฉันจุกจนร่างกายเขยื้อนไปตามแรงกระแทกของคนโหดร้ายคนนี้...
ฉันหลับตาข่มความเจ็บปวดทั้งน้ำตา ร่างกายที่ถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี ร่องรักที่ถูกกระทำชำเราจนแทบจะฉีกขาดออก เลือดความบริสุทธิ์ชำระล้างหนี้สินและทดแทนบุญคุณของ… พ่อ... พ่อที่เลี้ยงฉันมาทั้งชีวิต...
พั่บ ๆ ๆ ๆ
“โอ้ย!!!” ฉันร้องลั่นทันที ที่ริมฝีปากพร้อมกับรอยเขี้ยวฟันของเขา กัดลงเหนือเนินอกขาวเนียนของฉันอย่างรุนแรงจน ช้ำเลือด...
“ฮื้ออออ. ฉันไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริง ๆ พอสักที!!!” ฉันร้องไห้และแทบจะร้องขอชีวิต
“…อื้อออส์..ซ์สส....พริบพราวเธอมัน..”
และนั่น... คือประโยคแรกที่บลูไนท์เรียกชื่อของฉัน พร้อมกับเสียงครางเบา ๆ ที่ก้องอยู่ไม่ไกล...
และ
ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยน้ำกามอารมณ์นั้นเข้ามาในช่องรักที่ปะปนด้วยความเลือดบริสุทธิ์ของฉัน....
………..
………………..
…………………….
ฟุบบบบ...
เขาทิ้งตัวนอนลงข้างกายของฉัน และหอบเหนื่อย...
………..
……………….
…..
เขาใช้ปลายนิ้วตวัดเช็ดคราบเลือดที่ติดไปกับท่อนเอ็นขลิบปลายนั่น
และมองมันอย่างพึงพอใจที่ได้เห็นรอยเลือด และความเจ็บปวดของฉัน...
……………..
แต่นั่น ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย...ในคืนนี้...
บลูไนท์กระชากผ้าม่านให้เปิดออก ท่ามกลางแสงไฟที่สลัวในห้องนอนกว้างใหญ่ไพศาล
แสงจันทร์เลือนลาง ที่ส่องแสงขึ้นมาในคืนที่ท้องฟ้าสีน้ำเงินครามและมืดมน....
พั่บ ๆ ๆ ต่าบบบ ต่าบบบบ
"ฮื้ออส์ อื้อออ" ฉันร้องคราญครางอย่างเจ็บปวด สุดเกินจะทนได้...
เสียงเตียงแข็งแกร่งที่เขยื้อนตามแรงขย่มของคนบ้าระห่ำ ที่ยังคงข่มขืนร่างกายของฉัน ครั้งแล้วครั้งเล่า…
ฉันนอนแน่นิ่งและถูกกระทำอยู่แบบนั้น ...จนกระทั่งหมดสติลงไปเอง...
…………..