เกิดใหม่ในงานเลี้ยง

2620 Words
คืนนี้เป็นงานมอบรางวัลแก่นักธุรกิจหลายสาขา หยวนอวี้เฟิง หนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ร่างงดงามระหงในชุดสูทสีขาว ขับให้เจ้าตัวดูภูมิฐานและงดงามในค่ำคืนนี้ หญิงสาวดีกรีนักธุรกิจหน้าใหม่ของวงการที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุเพียง 30 ปี โดดเด่นจนเป็นที่จับตามอง การทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนัก ส่งผลให้หญิงสาวเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจของจีน เธอเริ่มจับธุรกิจด้านการนำเข้าส่งออก จากธุรกิจเล็กๆก็ขยายจนเติบโต มีเจ้าของกิจการร้านค้ามากมายต้องการร่วมธุรกิจกับเธอ ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปีจนประสบความสำเร็จ วันนี้เป็นวันที่เธอได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัล “ผู้ทรงอิทธิพลด้านการส่งออก” หนุ่มสาวหลายคนต่างก็จับจ้องให้ความสนใจกับดาวดวงใหม่ของวงการ นักข่าวสายธุรกิจต่างต้องการสัมภาษณ์ นิตยสารหลายเล่มต้องการติดต่อไปขึ้นปก แต่ด้วยความที่ยังไม่อยากเป็นที่รู้จักมากเกินไป เธอจึงให้เลขาปฏิเสธ เมื่อผลประโยชน์นั้นหอมหวาน ก็ไม่แปลกที่ใครมักจะเข้าหา หลังปลีกตัวจากงานเลี้ยง หยวนอวี้เฟิงก็ให้คนขับรถมาส่งยังเพนท์เฮาส์หรูกลางใจเมือง เธออาศัยอยู่ในเพ้นท์เฮาส์นี้เพียงลำพัง เนื่องด้วยบิดามารดาเสียชีวิตจากเครื่องบินตกตั้งแต่เธอเรียนอยู่เพียงมัธยมปลายเท่านั้น การเป็นเด็กกำพร้าทำให้หญิงสาวต้องอดทนกว่าผู้อื่น ทรัพย์สมบัติที่บิดามารดาทิ้งไว้ให้ มีมากพอที่จะทำให้เธอเรียนจนจบได้อย่างสบายๆ และใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบาก เมื่อเรียนจบ เธอนำเงินก้อนที่เหลือมาลงทุน และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุ่มเทลงไป มันทำให้เธอมีทรัพย์สมบัติมากมายในวันนี้ ต่อให้ไม่ต้องทำงานอีก เธอก็ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบายตลอดไป เมื่อกลับถึงบ้านที่แสนสงบสุข เธอต้องการพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน หญิงสาวลงไปนอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำสุดหรูใบโปรด เธอชอบคลายเมื่อยในห้องน้ำที่ทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหล่านี้ หลังจากผ่อนคลายสบายใจ เธอก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นกิจวัตรที่ชื่นชอบ นั่นคือ “การอ่านนิยาย” คืนนี้เธอตั้งใจว่าจะอ่านนิยายเรื่อง “ดวงใจทรราช” ให้จบ เธอชื่นชอบนิยายเรื่องนี้มากจากคำโปรย พระเอกนั้นทั้งหล่อและเก่งกาจ เขาเป็นบุตรที่เกิดจากสตรีที่รักของฮ่องเต้แต่ไร้อำนาจ และเพราะไม่มีอำนาจในมือ จึงถูกฮองเฮาที่มีตระกูลใหญ่โตรังแก เมื่อเติบโตขึ้นฮองเฮาหวังให้บุตรชายของตนขึ้นเป็นรัชทายาท แต่สวรรค์ไม่เห็นใจ องค์ชายรองถูกพิษจนสิ้นชีวิต สร้างความโกรธแค้นให้ฮองเฮาและตระกูลเป็นอย่างมาก นางจึงแก้แค้นเขาทุกวิถีทาง พระเอกต้องใช้ปัญญาและความอดทนเข้าสู้ โดยมียาใจเป็นนางเอกบุตรแม่ทัพผู้เก่งกาจ และมีฮ่องเต้สนับสนุนจนได้ครองบัลลังในที่สุด ส่วนฮองเฮาและตระกูลถูกฆ่าสังเวยความผิดทั้งหลาย พอเริ่มอ่านได้ไม่กี่ตอนก็รู้สึกมึนหัว หรือเพราะวันนี้ดื่มมากไปหน่อยรึเปล่านะ หลังอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จ กำลังเตรียมจะเข้านอน จู่ๆก็รู้สึกหน้ามืด ล้มฟุบลงไปบนเตียงและแน่นิ่งสนิทในท่านั้น ***** หญิงสาวกระพริบตาปริบๆ เมื่อสายตาลางเลือนเริ่มโฟกัสภาพได้ ที่นี่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้น? จำได้ว่า เธออยู่ในห้องนอนและกำลังเตรียมจะนอน แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคืองานเลี้ยง! ใช่มันคืองานเลี้ยงแน่ๆ แล้วยังเป็นงานเลี้ยงที่หรูหรามาก หากแต่แขกทุกคนในงานล้วนแต่งกายคล้ายเครื่องแต่งกายของหนังจีนย้อนยุค! ก่อนที่จะได้สงสัยอะไร ความทรงจำทั้งหมดก็หลั่งไหลวนเวียนในพริบตาเดียว เหมือนพึ่งนึกออก ว่าตนเองคือคุณหนูใหญ่เฟิงอวี้หยวนแห่งจวนอัครเสนาบดี ปีนี้นางอายุ 18 ผ่านพิธีปักปิ่นมาเมื่อสองปีที่แล้ว ยามนี้มาร่วมงานชมดอกเหมยของฮองเฮาแห่งวังหลัง เดี๋ยว! จากความทรงจำของตนเอง ทุกสิ่งอย่างคือใช่! นางคือคุณหนูเฟิงอวี้หยวน! คนที่หลงรักองค์ชายใหญ่ผู้มียศเป็นจวิ้นอ๋องจากนิยายเรื่อง ดวงใจทรราช และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา และยังจะถูกเขาฆ่าตายหลังคืนเข้าหอเพียงวันเดียวอีกด้วย! ตายๆๆ! นี่นางเป็นคุณหนูผู้งมงายในรัก และตายเพราะงมงายผู้นั้นน่ะหรือ! ถ้าอย่างนั้นนี่ก็คืองานเลี้ยงชมดอกเหมยเพื่อระดมทุนช่วยเหลือชาวเมืองหมาน นางจำได้ว่า นี่คือฉากในนิยายตอนที่ 2 และนางก็พึ่งอ่านมาได้แค่ 2 ตอน!!! เสียดายชะมัด.. หยวนอวี้เฟิงตั้งสติ ว่านางควรทำอย่างไรดี เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกันนะ จึงเริ่มจากการสำรวจผู้คนในงานอีกครั้ง นางค่อยๆหันไปมองจวิ้นอ๋องหยางหย่งหมิงเป็นอันดับแรก เขาคือพระเอกของนิยายเรื่องนี้ นางต้องการดูเขาชัดๆ อยากรู้ว่าระดับพระเอกจะหล่อแค่ไหน แล้วก็ไม่ผิดหวัง เขาหันมาสบตาเข้ากับนางจริงๆ ใบหน้าหล่อเหลาระดับพระเอกดาราเกาหลีแต่สายตากลับเรียบนิ่ง เขามองนางซักพักก่อนผินหน้ากลับไปสนใจอย่างอื่น นางตกใจที่เขาหันมาพอดีจนแทบหลบตาไม่ทัน จวิ้นอ๋องผู้นี้มีท่าทางสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา กิริยาสุขุมนุ่มนวล ปีนี้เขาอายุ 25 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นจวิ้นอ๋องเมื่อปีที่แล้ว ในจวนของเขายังไม่มีสนมชายาใด สมแล้วที่เป็นพระเอก คุณสมบัติครบถ้วน! แต่หากจุดจบของนางต้องเป็นเช่นนิยายที่คิดจะอ่าน นางก็ไม่คิดจะเสี่ยง แถมจะหนีจากเขาไปให้ไกลด้วย จะมีสามีทั้งทีต้องเป็นคนที่นางไว้ใจได้และไม่เป็นอันตรายต่อครอบครัวของตน นางไม่ได้สนใจว่าเขามองอะไรอยู่ เพราะถึงจะหล่อแต่ก็ไม่ใช่สเป็กเช่นกัน นางชอบแบบหนุ่มดาราจีนหน้าหวาน ยิ่งโตยิ่งเบ้าหน้าฟ้าประทานที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ต่างหาก โฮก...ยิ่งตอนโยกเอวบนเวทียิ่งเกือบขิต ก่อนที่จะเหลวไหลไปมากกว่านี้ นางก็เก็บสติกลับมาเพื่อพิจารณาเรื่องราวต่างๆ จากความทรงจำของร่างนี้ ร่างนี้คือเฟิงอวี้หยวน ชื่อคล้ายกับหยวนอวี้เฟิง ด้วยอำนาจของบิดาที่มีและเจ้าตัวยังเป็นว่าที่คู่หมายขององค์ชายคนสำคัญ เฟิงอวี้หยวนจึงเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่โดดเด่นอันดับหนึ่ง ลำดับการนั่งอยู่ใกล้เชื้อพระวงศ์ที่สุด เอ๊ะ เดี๋ยว!! เหมือนลืมเรื่องสำคัญอะไรไป ก่อนจะคิดเรื่องอื่นใด นี่คืออะไร!นางทะลุมิติเข้ามาในนิยายงั้นหรือ! ถึงแม้ว่าจะเป็นคนชอบอ่านนิยายแค่ไหน ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองได้ ถ้าอย่างนั้นร่างเดิมของเราล่ะ! ไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง หรือจะตายไปแล้ว! พูดแล้วน้ำตาจะไหล คิดถึงชีวิตแสนหรูหราสะดวกสบายในชีวิตที่แล้ว ที่อุตส่าห์ทุ่มเททำงานจนประสบความสำเร็จ ยังไม่ได้มีแฟน มีครอบครัว และเสวยสุขเลย..... ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจริงๆ ก็มีเสียงแหลมแทรกขึ้นมา “องค์ชายรองเสด็จจจจจ” เสียงแหลมจากด้านหน้าประตูดังผ่านเข้ามา เมื่อหันไปตามเสียงก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลางดงาม โอ้วว...นั่นมันพ่อดอกโบตั๋นขาว หนุ่มในสเป็กเลยนี่! แม้หน้าตาไม่คล้ายกับดาราจีนขวัญใจวัยเก๋าอย่างนาง แต่ก็นับได้ว่าเป็นหนุ่มน้อยงดงามดั่งเทพเซียนตรงสเปคของนางเลยทีเดียว ตัดสินใจได้ทันทีเลยว่า “ฉันจะเอาคนนี้!” ถ้าจำไม่ผิดตอนนี้องค์ชายรองก็มีอายุสิบแปดปีเช่นเดียวกับนางสินะ แล้วยังเป็นคู่หมายของร่างนี้อีก โอ้ว..... การมาที่นี่ นางมีเป้าหมายแล้ว!! เมื่อคิดว่านี่คือว่าที่สามีของร่างนี้ นางก็พร้อมยินยอมสวมรอยสานต่อเจตนาผู้ใหญ่ ส่วนความต้องการของเจ้าของร่างนั้น เมื่อไม่อยู่ก็ถือว่าสละสิทธิ์! หากไม่ยินดีก็มาทวงคืนได้เลย นางไม่ได้ติดขัดสิ่งใด แต่ก่อนอื่นขอชื่นชมของดียุคโบราณนี้ก่อน องค์ชายรองหันมามองนางแวบหนึ่งเพราะมีคนจ้องพระองค์มากเกินไป ก็ต้องแปลกใจ แทนที่จะพบแววตาเฉยเมยเช่นทุกครั้ง ก็พบกับแววตาชื่นชม? นางนึกชื่นชมเขาตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาเลิกสนใจคุณหนูเอาแต่ใจผู้นั้นก่อนเดินเข้าไปทำความเคารพเสด็จแม่ของตน “ถวายพระพรฮองเฮา ลูกขออภัยที่มางานเลี้ยงของมารดาช้า เพราะติดภารกิจสำคัญพะยะค่ะ” ร่างกายสูงเพรียวหล่อเหลาเกินมาตรฐานขององค์ชายหนุ่ม ทำเอานางไม่อยากจะเชื่อว่าคนสมัยนี้หล่อขนาดนี้ได้ยังไง หรือเขาตกลงมาจากสวรรค์กันแน่ แม้มีใบหน้านั้นจะนิ่งสงบ แต่ยามแย้มริมฝีปากอมยิ้มเพียงเล็กน้อย ก็ทำเอาเหล่าคุณหนูทั้งหลายรวมถึงนางใจละลาย กับรอยยิ้มดาเมจรุนแรงร้ายกาจนี้ นางแทบจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากัดด้วยความขัดเขิน “ไม่เป็นไร ขอแค่เจ้ามาแม่ก็พอใจแล้ว” ฮองเฮาตรัสด้วยความเมตตาเอ็นดูโอรสสุดที่รักของนาง เมื่อเห็นความลำเอียงเช่นนี้ กุ้ยเฟยมารดาขององค์ชายใหญ่หยางหย่งหมิง ที่ครองตำแหน่งสตรีที่โปรดปรานของฝ่าบาทก็กำผ้าเช็ดหน้าแน่น หากนี่ไม่ใช่งานสำคัญไหนเลยนางและบุตรชายจะมานั่งปั้นยิ้มให้เสียเวลา! องค์ชายรองได้รับอนุญาตให้นั่งประจำที่ ซึ่งอยู่ถัดจากฮองเฮา ตำแหน่งของเขาสูงกว่าองค์ชายใหญ่ เพราะมีศักดิ์เป็นบุตรสายตรงของฮองเฮา ตามธรรมเนียมแล้ว ต้องขึ้นเป็นรัชทายาทองค์ต่อไป คุณหนูน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหมายมั่น อยากแต่งเข้าตำหนักองค์ชายรองทั้งสิ้น เพราะมีความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่รออยู่ หากแต่ไม่เป็นดั่งฝัน ได้แต่งให้จวิ้นอ๋องก็สมความปรารถนาเช่นกัน ฮองเฮาจับตามองคุณหนูสกุลเฟิงอยู่ จึงเห็นความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ ตลอดการเริ่มงานมา คุณหนูผู้นี้ลอบมองจวิ้นอ๋องอยู่หลายครั้ง แววตาที่ทอดมองมีความอ่อนหวานลึกซึ้งและจวิ้นอ๋องหยางหย่งหมิงก็มองตอบเช่นกัน ถึงสีหน้าไม่ไหวติงแต่แค่สายตาก็ล่อลวงผู้คนได้ คุณหนูใหญ่เฟิงอวี้หยวนผู้นี้ ถูกวางตัวให้แต่งเป็นชายาขององค์ชายรองหยางเหวินหลง แต่ยังไม่ทันไรดอกซิ่งก็ทำท่าจะโน้มกิ่งข้ามกำแพงเสียแล้ว นางไม่อยากทำอะไรรุนแรง เพราะคุณหนูเฟิงผู้นี้ เป็นหลานสาวสายตรงของตระกูลเฟิงของนาง การแต่งงานแล้วให้กำเนิดทายาทสืบบัลลังเป็นสิ่งจำเป็น นางกำลังจะใช้โอกาสนี้ให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดและทำความรู้จักกันมากขึ้น หากต้องตัดปัญหาที่จะเกิด ก็ขอให้เป็นเรื่องในอนาคต ยิ่งพอเห็นแววตาที่คุณหนูเฟิงมองโอรสของตนเมื่อครู่ ฮองเฮาก็บอกกับตนเองว่า ยังพอมีหวัง “เอาล่ะ ข้าขอขอบใจทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ งานเลี้ยงที่จัดขึ้นนี้ ก็เพื่อร่วมสมทบเงินและเสบียง เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวหมานที่กำลังเดือดร้อนจากภัยแล้งอยู่ในขณะนี้ จากการร่วมแรงร่วมใจบริจาคของทุกท่าน ตอนนี้จึงได้เงินช่วยเหลือและเสบียงจำนวนมาก ข้าและฝ่าบาทรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจของทุกท่านในครั้งนี้ยิ่งนัก” “โอกาสนี้ ข้าขอแต่งตั้งให้องค์ชายรองหยางเหวินหลงและจวิ้นอ๋องหยางหย่งหมิง พร้อมด้วยคุณหนูจากสกุลเฟิง สกุลเหลียว สกุลไป๋ และสกุลฉี เข้าร่วมขบวนเดินทางไปมอบความช่วยเหลือแก่ชาวหมานในครั้งนี้ จงใช้สติปัญญาและความอดทนเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนให้สำเร็จเถิด” เมื่อสิ้นรับสั่งผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็ออกมาคุกเข่า น้อมรับพระเสาวนีย์ ขบวนเดินทางครั้งนี้ ถูกเตรียมพร้อมโดยราชสำนักเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ฮองเฮาเป็นผู้มอบของบริจาคมากเกินครึ่ง จึงเป็นแม่งานในครั้งนี้ การจัดเก็บภาษีมีปัญหามาหลายปี ท้องพระคลังในตอนนี้แทบจะว่างเปล่า เพื่อกู้หน้าตนเองแล้ว ฮ่องเต้จึงต้องขอความช่วยเหลือจากเฟิงฮองเฮาผู้ร่ำรวย ด้วยตระกูลของนางมากอำนาจและร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ เฟิงอวี้หยวนแอบเหล่มองไปทางไป๋ซูฮวา นางเอกของนิยายเรื่องนี้ ใบหน้าขาวผุดผ่อง ดวงตากลมโตสดใส เหมือนบรรจุดวงดาวทั้งท้องฟ้าไว้ ตาของนางมีประกายระยิบระยับ คุณหนูไป๋ในชุดสีฟ้าสดใส เกล้าผมทรงสูง ท่าทางเหมือนคนฝึกยุทธ์สมเป็นบุตรสาวตระกูลแม่ทัพ ท่าทางทโมนสดใสแบบนี้แหละ ตกผู้ได้ทุกเรื่อง นางให้นางเอกเรื่องนี้ผ่าน! ขณะที่กำลังประเมินนางเอกอยู่นั้นก็มีเสียงด้านข้างทักนางแทรกเข้ามา “หยวนเออร์ เจ้ามีความสามารถ ต้องทำงานนี้ได้สำเร็จแน่นอน” เสียงหวาน ใบหน้ายิ้มแย้ม ส่งยิ้มการค้ามาให้ เป็นคุณหนูรองสกุลเหลียว เหลียวชิงเหลียนนั่นเอง ตามความทรงจำ นางเป็นสหายโดยผิวเผินกับร่างนี้และคอยประจบเอาใจอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส ครานี้ก็เช่นกัน การเดินทางไปช่วยเหลือชาวเมืองหมานที่ประสบภัยแล้งในเขตทางใต้นั้น เป็นงานที่ตระกูลของนางอยากไปร่วม ด้วยการนำของพระราชทานและเสบียงไปช่วยชาวเมืองนั้นเป็นงานง่าย และได้รับความชื่นชมจากผู้คน ใครๆก็อยากไป แต่คนที่จะได้ไป ต้องมีกองหนุนที่ดี บารมีต้องสูง ไม่อย่างนั้นตำแหน่งนี้ คงไม่ตกใส่หัวแน่ๆ และหากทำได้ดี เมื่อกลับมาย่อมมีความชอบ “เจ้าก็กล่าวหนักไป ข้าพอมีความสามารถบ้างเพียงเท่านั้น” นางกล่าวตอบไปตามมารยาทที่พึงมี แม้ท่าทางของคุณหนูผู้นี้ไม่ค่อยจริงใจแต่ตระกูลเหลียวก็เป็นฝ่ายสนับสนุนที่ดีไม่น้อย งานเลี้ยงดำเนินไปอีกเพียงเล็กน้อยก็ถึงยามเซิน ฮองเฮาและกุ้ยเฟยกลับตำหนักไปแล้ว เหล่าคุณหนูคุณชายทั้งหลายก็ได้โอกาสพูดคุยกับผู้ที่ตนหมายตา องค์ชายรองรีบลุกขึ้นเดินออกไป เพราะไม่ต้องการเสวนากับใคร โดยเฉพาะเหล่าคุณหนูที่จับจ้องมาทางพระองค์ เหมือนมดเห็นขนมหวานเช่นไรเช่นนั้น เขารู้สึกรำคาญมากจริงๆ จวิ้นอ๋องหยางหย่งหมิงนั่งอยู่ต่ออีกครู่ เพื่อให้คุณหนูใหญ่สกุลเฟิงผู้นั้น ได้ลอบมองเขาต่ออีกสักพัก จึงจะค่อยลุกออกจากงานเช่นเคย ที่ผ่านมาเขารับรู้ถึงความปรารถนาของนาง หากเขามอบความกล้า และความหวังให้แก่นางมากขึ้นอีกสักนิด นางต้องเป็นประโยชน์ต่อเขาแน่ สิ่งที่เขาต้องการจากนาง ไม่ใช่ตัวของนาง แต่เป็นอำนาจจากตระกูลของนางต่างหาก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยังไม่บุ่มบ่ามทำสิ่งใด เขาหาได้รู้ไม่ว่า เกิดเหตุการณ์ผีเสื้อกระพือปีก นับแต่นี้ต่อไป ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD