ตอนที่ 2 เหตุผลที่ต้องไป

1943 Words
เมื่อธาริณีพาธาราไปถึงที่บ้านเช่าของแก้วกานดาก็พบว่าแก้วกานดาไม่ได้ไปทำงาน เธอกำลังเก็บของใส่กล่องเหมือนกำลังจะย้ายออก ร้านดอกไม้เล็กๆ ที่หน้าบ้านก็ติดป้ายลดราคาเพราะจะปิดตัวลง ธาราลงไปจากรถ ไหว้กาญจนาที่มองเขาและธาริณีอย่างตื่นๆ แก้วกานดาเองก็ตกใจไม่คิดว่าธาราจะรู้เรื่องและมาหาเธอเร็วขนาดนี้ “แก้วจะไปไหน” ธาราถามเธอเสียงเข้ม “คุยกับหนูแก้วดีๆ สิลูก” ธาริณีแสร้งบอกลูกชาย “หนูแก้วจะย้ายไปไหนลูก” ธาริณีแกล้งถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “แก้วจะย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานค่ะ” แก้วกานดามองธาริณีที่แกล้งทำดีอยู่ตรงนั้น แล้วตัดสินใจโกหกเขาไป “จริงหรือเปล่าที่แม่ผมบอกว่าแก้วยอมเลิกกับผมเพื่อเงินห้าแสนบาท” ธาราถามเธอไปตรงๆ “ค่ะ” แก้วกานดาตอบสั้นๆ กาญจนายืนมองธาริณีที่ยิ้มอย่างสะใจแล้วคิดว่าดีแล้วที่ลูกสาวถอนตัวออกมา ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์และร้ายกาจมาก “ไหนแก้วบอกว่ารักผม ทำไมยอมทิ้งผมไปด้วยเงินเพียงแค่นี้” ธาราถามเธอ “ก็คุณห่วยแตก งานการไม่ยอมทำ ใครจะรู้ล่ะคะว่าบริษัทคุณจะไปรอดหรือเปล่า ขนาดตอนเรียนฉันยังต้องช่วยคุณทำรายงานเลย คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างคุณ อาจทำให้บริษัทล้มละลายเพราะการบริหารงานของคุณ ตอนนั้นฉันก็จะไม่ได้อะไร สู้รับเงินไว้แล้วหาคนที่เขาสามารถดูแลฉันได้ จะไม่ดีกว่าเหรอคะ” แก้วกานดาแกล้งพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ “อีกอย่างที่ผ่านมาเรื่องฉันก็แค่คบเพื่อหวังเงินทองของคุณเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยได้อะไรตอบแทนมาสักอย่าง ฉันเบื่อค่ะ ฉันเหนื่อยที่ต้องแกล้งทำว่ารักคุณ ทั้งที่ฉันไม่เคยรักคุณเลย” แก้วกานดากลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วโกหกเขาไป ธาราเสียใจที่ได้ยินแก้วกานดาบอกว่าไม่รักเขา เธอเข้ามาใกล้ชิดเขาก็เพียงเพราะเงินเท่านั้น “อย่าได้พบเจอกันอีกเลยแก้วกานดา” ธาราพูดขึ้นมาเสียงเบา หัวใจสลายที่ต้องรับรู้ความจริงจากปากของเธอ เขาเดินไปขึ้นรถแล้วน้ำตาของลูกผู้ชายก็เกือบจะไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็พยายามฝืนเอาไว้ ธาริณีมองแก้วกานดากับกาญจนาด้วยแววตาที่สมเพชก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูเศร้าและขึ้นไปนั่งบนรถเพื่อปลอบใจลูกชาย เมื่อรถของธาราลับสายตาไปแก้วกานดาก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ เธอรักเขามาก แต่ให้เลือกระหว่างความปลอดภัยของมารดาและคนรัก เธอต้องเลือกมารดาอยู่แล้ว แม้จะเจ็บปวดแคไหนก็ตาม แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ********************* ธารานั่งดื่มเหล้าที่เคาน์เตอร์บาร์ในบ้านของเขาด้วยความเสียใจ ศรศักดิ์เลิกงานมาก็มานั่งดื่มเป็นเพื่อนลูกชาย แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ตอบบิดา บอกแค่ว่าเขาจะดื่มเพื่อลืมแก้วกานดาเท่านั้น “หลังจากวันนี้ไป ผมจะเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท ผมจะทำให้บริษัทของเรายิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น พิสูจน์ว่าผมสามารถริหารงานได้ดีแค่ไหน ผมสัญญา” ธาราบอกบิดาอย่างมุ่งมั่น ยกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบช้าๆ แล้วนึกถึงคำพูดดูถูกของแก้วกานดาที่มีต่อเขา เปลี่ยนมันเป็นแรงผลักดันเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น “พ่อไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แกคิดได้แบบนี้พ่อก็ดีใจด้วย” ศรศักดิ์บอกลูกชายที่กำลังเมานิดๆ แล้วตบไหล่เบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ธารารินเครื่องดื่มให้บิดาอีกแล้วชนแก้วกัน “เพื่อว่าที่ประธานบริษัทในรุ่นถัดไป” ศรศักดิ์บอกแล้วชนแก้วกับธารา แล้วทั้งสองคนก็ดื่มเครื่องดื่มจนหมดแก้ว ทั้งคู่ดื่มด้วยกันสักพัก ธาราก็ขึ้นไปนอนพัก น้ำตาของเขาไหลออกมาทางหางตา กำมือแน่นด้วยความเจ็บปวดและแค้นใจที่โดนคนรักหักหลังด้วยการหลอกลวงและหาผลประโยชน์จากเขา “ผมจะทำให้คุณต้องเสียใจที่ทิ้งผมไป” ธาราพึมพำออกมาเบาๆ ด้วยความแค้น คิดถึงภาพตอนที่เคยรักกัน แก้วกานดาทำทุกอย่างเหมือนว่าเธอรักเขาจนเขาเชื่อสนิทใจ ทั้งรอยยิ้มนั้น คำพูดที่อ่อนหวาน การเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือในด้านการเรียนของเขา รวมไปถึงยอมมอบความสาวให้กับเขา ทุกอย่างมันคือการหลอกลวงเพียงเพื่อหวังเงินทองจากเขาเท่านั้น ยิ่งคิดธาราก็ยิ่งเจ็บปวด เขาหลับตาลงแล้วหลับไปด้วยความเมา ********************* สองเดือนผ่านไปหลังจากที่เลิกกับธารา แก้วกานดายังไม่ได้งานทำ เธอทิ้งใบสมัครงานไว้รอเรียกตัวจากบริษัทต่างๆ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้งานทำเลยสักที่ แก้วกานดาและกาญจนายังพอมีเงินเก็บอยู่ เธอไม่ได้เอาเช็คของธาริณีไปขึ้นเงิน เธอกับมารดาตกลงกันว่าจะไม่เอาเงินของธาริณีมาใช้เด็ดขาด เพราะไม่อยากมีปัญหาในภายหลัง แก้วกานดาช่วยงานกาญจนาที่เปิดร้านดอกไม้เล็กๆ โดยปรับปรุงหน้าบ้านขึ้นมาให้เป็นห้องกระจก โดยใช้เงินเก็บที่มีปรับปรุงบ้านและร้านให้ดูดีขึ้น และรับทำพานดอกไม้ พวงหรีดติดพัดลม พานบายศรี เพิ่มเติมจากการรับจัดดอกไม้แบบทั่วไปเพื่อขยายฐานลูกค้าอีกด้วย “แม่ว่าแก้วไม่ต้องหางานหรอกลูก มาทำงานที่ร้านกับแม่ดีกว่า” กาญจนาชวนให้แก้วกานดามาช่วยงานที่ร้านอย่างถาวรไปเลย เพราะลูกค้าเริ่มเข้ามาใช้บริการเยอะมากแล้ว และเธอทำงานคนเดียวไม่ทัน “ค่ะแม่” แก้วกานดารับปาก เธอคิดว่าจะเปิดขายออนไลน์และบริการส่งถึงบ้านเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าให้เข้ากับยุคสมัยด้วย แก้วกานดาจัดดอกไม้ช่วยมารดาด้วยอาการที่ดูไม่สู้ดีนัก ทุกครั้งที่เธอจัดช่อกุหลาบหรือได้กลิ่นมัน แก้วกานดามีอาการวิงเวียนและบอกว่าเหม็น ทั้งๆ ที่เธอชอบดอกกุหลาบมาก อาการของเธอมันทำให้กาญจนาสงสัยว่าแก้วกานดาอาจจะกำลังตั้งครรภ์แต่ก็ไม่ได้พูดความคิดนั้นออกมาให้เธอต้องคิดมาก “แม่ว่าไปให้หมอตรวจหน่อยก็ดีนะลูก” “แค่นี้เองค่ะแม่ ทานยาแก้แพ้ก็น่าจะหาย” “ไปหาหมอเถอะ แม่ว่าอาการมันดูแย่อยู่นะ” กาญจนาเกลี้ยกล่อมบุตรสาว จนในที่สุดแก้วกานดาก็ยอมไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลตรวจออกมาพบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว กาญจนากุมมือลูกสาวเพื่อให้กำลังใจ ขณะที่แก้วกานดานั้นหูอื้อไม่ได้ยินที่หมอพูด เธอคิดกังวลไปต่างๆ นานาว่าจะสามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้อย่างไร เธอต้องบอกธาราดีหรือเปล่า แล้วธาริณีถ้ารู้ว่าเธอตั้งครรภ์กับธารา ธาริณีจะตามมาทำร้ายเธอและลูกหรือเปล่า ยิ่งคิดแก้วกานดาก็ยิ่งสับสน เธอกลัวและกังวลล่วงหน้าไปหมดทุกอย่างทั้งๆ ที่อะไรๆ ก็ยังไม่เกิดขึ้น กาญจนาพาแก้วกานดาที่กำลังตกใจไปรับยาแล้วพากลับไปที่บ้าน เมื่อถึงบ้านแก้วกานดาก็ร้องไห้กอดมารดาแล้วกราบขอโทษที่เธอทำพลาดลงไป “แก้วขอโทษค่ะแม่ แก้วขอโทษ ปกติแก้วป้องกันตลอด แก้วไม่รู้ว่าพลาดได้ยังไง” แก้วกานดาบอกมารดา ธาราเป็นฝ่ายป้องกันเสมอ เขาสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีสัมพันธ์ทางร่างกายกัน “มันเกิดขึ้นแล้ว อย่าโทษตัวเองเลยแก้ว เรามาคิดกันดีกว่าว่าต่อไปนี้จะทำยังไงกับเด็กในท้อง จะบอกธารหรือว่าจะหาพ่อใหม่ให้เด็ก” กาญจนาถามลูกสาว “แก้วอยากเก็บลูกเอาไว้ค่ะ ถ้าบอกธาร แม่เขาต้องให้แก้วทำแท้งแน่นอนเลย และแก้วก็ไม่อยากมีใครในตอนนี้ แก้วขอเลี้ยงลูกคนเดียวได้หรือเปล่าคะแม่” แก้วกานดาบอกมารดาเสียงสั่น เธอไม่อยากให้ลูกมีพ่อใหม่ เพราะกลัวว่าลูกจะโดนทำร้ายเหมือนอย่างในข่าว “แล้วแต่แก้ว ยังไงแม่ก็ต้องช่วยแก้วเลี้ยงหลานอยู่แล้ว เพียงแต่ที่แม่บอกไปอย่างนั้น เพราะแม่กลัวแก้วอายที่ท้องไม่มีพ่อ” กาญจนาบอก “แก้วไม่อายหรอกค่ะแม่ สมัยนี้แม่เลี้ยงเดี่ยวมีเยอะแยะ” แก้วกานดาบอกมารดาทั้งน้ำตา “อย่าร้องเลยลูก ทานข้าวทานยาแล้วไปพักผ่อนเถอะ” กาญจนาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใย ทำให้แก้วกานดาดีใจที่มารดาเข้าใจและไม่ได้ต่อว่าอะไรให้เธอต้องกังวล ********************* ธาราตั้งใจทำงานผิดกับก่อนหน้านี้ที่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ทำให้ธาริณีพอใจและรู้สึกว่าตัวเองทำถูกต้องแล้วที่ทำให้แก้วกานดาออกไปจากชีวิตของธาราจนทำให้เขามีแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น “วันนี้เลิกงานแล้วไปทานข้าวนอกบ้านเป็นเพื่อนแม่หน่อยสิธาร” ธาริณีบอกลูกชายที่กำลังวุ่นกับเอกสารตรงหน้าอยู่ ธาราเงยหน้าขึ้น นี่เป็นครั้งที่สองในรอบเดือนนี้แล้วที่ธาริณีพยายามจะจับคู่ให้เขากับลูกของเพื่อนในแวดวงสังคมของเธอ “ผมรู้นะครับว่าแม่คิดจะทำอะไร ผมไม่ไปครับ ผมไม่ชอบไปนั่งปั้นหน้าดูผู้หญิงที่อยากมาเป็นเมียผมจนตัวสั่นแบบนั้น” ธาราพูดขึ้นมาอย่างมีอคติ ตั้งแต่เลิกกับแก้วกานดาไป เขาก็มองผู้หญิงทุกคนในแง่ลบ และไม่ยอมเปิดใจให้ใคร เพราะลึกๆ แล้วถึงจะแค้นแก้วกานดา แต่ว่าเขาก็ยังรักเธอมากจนเกินกว่าจะตัดใจได้ง่ายๆ “ธาร แกจะอคติกับผู้หญิงทุกคนไม่ได้นะ” ธาริณีบ่นให้ลูกชายอย่างหงุดหงิดแล้วกระแทกก้นนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “โธ่ แม่ครับ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะยอมมาดูตัวกับคนที่ไม่รู้จัก ถ้าไม่ใช่คนที่โดนบังคับ ก็คงเป็นประเภทไม่มีใครเอา เลยต้องมาดูตัวแบบนี้” ธาราพูดแล้ววางเอกสารตรงหน้าลง เพราะตอนนี้เขาไม่มีสมาธิทำงานแล้ว “ไม่รู้ล่ะ ยังไงเย็นนี้แกก็ต้องไปดูตัว” ธาริณีบอก “งั้นแม่เลือกเอาก็แล้วกันนะครับ ระหว่างให้ผมไปดูตัวแล้วไม่ต้องมาทำงานแบบนี้ กับตั้งใจทำงานแบบนี้โดยไม่มีเมีย แม่จะเลือกเอาอย่างไหน อย่าคิดว่าผมไม่กล้าทิ้งงานนะครับ แม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้แคร์อะไรทั้งนั้น” ธาราพูดแล้วมองมารดาด้วยแววตาที่จริงจังจนธาริณีถอดใจ “ตามใจ” ธาริณีบอกแล้วลุกเดินหนีไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอได้แต่คิดในแง่ดีว่าให้เขาตั้งใจทำงานดีกว่าให้เขาไปติดผู้หญิงจนงานการไม่ยอมทำเหมือนตอนคบกับแก้วกานดา *********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD