Aid & Kivi
2
อิฐขับรถมาส่งกีวี่ที่ป้ายรถเมล์เพราะว่าเธอไม่อยากให้เขาไปส่งเธอที่ร้าน ก่อนจะหันไปมองร่างหนาที่หันมามองเธอด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยและก็พามาส่ง...”
“ครับผม ว่าแต่คุณแน่ใจนะว่าจะให้ผมส่งตรงนี้?”
“อืม ถ้าไงฉันขอตัวนะ” กีวี่ลงจากรถทันทีพร้อมกับเดินตรงไปตามทางโดยมีสายตาของอิฐที่จับจ้องไปที่กระจกหลัง มองแผ่นหลังบอบบางที่เดินเลี้ยวเข้ามุมไป... อิฐได้แต่สงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับกีวี่ เธอเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอก แต่ทำไมถึงได้ถูกตามล่าจากใครก็ไม่รู้ เฮ้อช่างเถอะ คงไม่มีอะไรแล้วล่ะมั้ง? ร่างหนากลับไปที่คอนโดของตัวเองก่อนจะมองลูกน้องที่ยืนทำหน้าไม่ดีอยู่
“ทำหน้าแบบนี้ ใครมาปล้นห้องฉันว่ะ?”
“เปล่าครับเฮีย มาดามมาครับ...”
“มะ แม่นะเหรอ!!” ร่างหนาถึงกับตกใจสุดขีดที่เขาคิดว่าหนีการดูตัวมารอดแล้ว ยังจะต้องมาเจอด้านยักษ์อย่างแม่ของเขาอีกเหรอ อิฐหลับตาลงแล้วเปิดประตูเข้าไปก็เห็นผู้เป็นแม่กำลังนั่งรออยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้านิ่งๆ
“แม่...”
“เสียมารยาทมากที่สุด”
“...”
“หนีออกมาจากงานได้ไงกันอิฐ แม่เสียหน้ามากนะที่จะพาแกไปรู้จักกับน้องสิตานะ”
“ก็ผมบอกแม่แล้วไง ว่าผมไม่ชอบให้แม่จับผมคลุมถุงชน” อิฐถอดเสื้อสูทออกแล้วมองแม่บังเกิดเกล้าที่ลุกขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่มาเฟียแกร่งอย่างเขาต้องสยบ
“คลุมถุงชน? แม่นะเหรอจับแกคลุมถุงชนอิฐ”
“ก็จริงปะล่ะ พาไปแต่ละงาน... มีเรื่องจะให้ทำก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เข้ามาตลอด ผมโตแล้วนะแม่”
“เหรอ? 28 แล้ว... แม้แต่ผู้หญิงสักคนแม่ยังไม่เคยเห็นแกพามาหาแม่สักคน”
“แม่... คนเราถ้าจะรัก จะชอบใครสักคนมันต้องใช้เวลานะ แม่จะให้ผมไปหาซื้อตามตลาดนัดหรือไง? ความรักนะครับแม่ ไม่ใช่หาซื้อกันได้ง่ายๆ
“ก็ถ้ารอแกหาความรักอยู่แบบนี้ 30 40 แกก็ยังคงหาหลานมาให้แม่อุ้มไม่ได้อยู่ดี!!”
“แม่...”
“พ่อแกกำชับมาแล้วนะอิฐ หนูสิตาลูกสาวเจ้าของโรงแรมเจไอ ต้องมาเป็นทองแผ่นเดียวกับเราให้ได้!!” คุณหญิงอิสราหรือมาดามอิสรา แม่ผู้เข้มงวดของอิฐยืนมองหน้าลูกชายคนเดียวด้วยสีหน้าเด็ดขาด ลูกชายคนนี้ของเธอช่างดื้อรั้นและหัวแข็งเป็นที่สุด ให้มาสานต่อธุรกิจอสังหาฯ ก็ไม่ทำ... ดันมาทำงานมันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างการซื้อขายอาวุธ แถมยังทำตัวลอยชายไปวันๆ ไม่เคยสนผู้หญิงที่ไหนจนเธอจะคิดไม่ตกว่าลูกชายของเธอจะเป็นเกย์หรือเปล่า?
“แล้วไงล่ะ ผมไม่แต่ง... ไม่ทำอะไรทั้งนั้นอ่ะ” อิฐหงุดหงิดทันทีก่อนจะนั่งลงที่โซฟาแล้วมองผู้เป็นแม่ที่เดือดจนไม่รู้จะเดือดยังไงกับลูกชายตัวดีของตัวเอง
“อิฐ ฟังแม่นะ... แม่อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา”
“ผมก็อยู่คนเดียวได้นะแม่ ผมก็อยู่ของผมมาได้ตั้งนาน... แม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะหาหญิงให้ผมเหอะ ผมขอ”
“ไม่ได้ พรุ่งนี้แกต้องไปรับหนูสิตาที่บ้านและพาไปร้านชุดที่แม่ให้ที่อยู่ไว้”
“แม่!!”
“ไม่ต้องมาเรียก ถ้าพรุ่งนี้แกไม่ทำตามที่แม่บอก... เรื่องนี้ถึงหูพ่อแกแน่!!” ร่างของคุณหญิงอิสราเดินออกจากห้องไปทันทีพร้อมกับลูกน้องของเขาที่ขับรถไปส่งแม่ของเขา อิฐกุมหัวตัวเองทันทีอย่างหงุดหงิด คว้าบุหรี่ที่อยู่ในลิ้นชักตรงโซฟามาจุดสูบทันทีอย่างเครียดๆ หยิบกระดาษที่แม่ของเขาจดที่อยู่บ้านของสิตาและร้านเสื้อที่เขาต้องพาเธอคนนี้ไป ร่างหนาพ่นควันบุหรี่ออกจากปากทันทีอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“ให้ตายเหอะ ถ้ากูเจอใครถูกใจนะ... แม่งจะจับปล้ำให้ท้องไปเลย!!” อิฐสบถออกมา แต่ก็คงจะยากเพราะคนอย่างเขาไม่มอบหัวใจให้ใครง่ายๆ นอกซะจากเพเมียโชที่เขาให้ไป แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามานั่งเศร้าที่คนที่ตัวเองชอบไปเป็นเมียเพื่อนหรอกนะ พรุ่งนี้สิเขาจะเอายังไง?
เช้าวันรุ่งขึ้นร่างหนาก็ขับรถมาที่คฤหาสน์ของสิตาที่เขาเคยเจอในงานสังสรรค์ ความจริงเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและอ่อนหวานนะ แถมยังอ่อนกว่าเขาตั้งแปดปี ให้ตายเหอะกูล่ะเบื่อจริงๆ เจอแต่คนที่อายุน้อยกว่า... เดี๋ยวแม่งก็จับคนที่อายุเยอะกว่าทำเมียแม่งเลย!! เอาให้คุณหญิงอิสราช๊อคตายไปเลย เหอะ บาปกรรมจริงไอ้อิฐ... รถหรูของอิฐจอดลงทันทีพร้อมกับร่างหนาที่แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดากับกางเกงยีนซีดขาดๆ ผมสีดำที่ยาวก็ถูกรวบไปไว้ที่ท้ายทาย ใบหน้าหล่อคมมีความหงุดหงิดอยู่ แต่ก็ต้องปรับสีหน้าให้ดี... ร่างหนาเดินตรงไปก็เห็นพ่อของสิตา
“สวัสดีครับคุณลุง...”
“อ้าว ตาอิฐ... มารับสิตาเหรอลูก?”
“ครับ พอดีคุณแม่บอกว่าสิตาอยากจะไปลองตัดชุด”
“อ่อ ใช่เพราะว่าสิตาจะออกงานนะ... แม่อิฐไม่ได้บอกเหรอว่าอิฐก็ต้องไปด้วย”
“อะ ห๊ะ!!” อิฐถึงกับช๊อคอีกครั้งที่แม่ของตัวเองจัดการอะไรโดยที่ไม่บอกเขาเลย ร่างหนาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไปให้ก่อนจะมองไปที่บันไดก็เห็นร่างเล็กของสิตาที่เดินยิ้มลงมา พร้อมกับแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีขาว ใบหน้าสวยยิ้มหวานมาให้อิฐจนเขาก็ได้แต่ส่งยิ้มให้แค่นั้น
“ขอบคุณพี่อิฐมากนะคะ ที่สละเวลามาพาสิตาไปตัดชุด”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พอดีแม่พี่สั่งนะ...” สิตาถึงกับเหวอไปทันทีกับคำพูดของอิฐที่ตรงซะจนเธอถึงกับหน้าเสีย อันที่จริงเธอแอบชอบอิฐมานานมาก แต่ไม่กล้าที่จะสานสัมพันธ์เพราะคนอย่างอิฐเป็นคนที่เข้าถึงยากและชอบคนยากมาก ดังนั้นเธอจึงจำเป็นที่จะต้องเอาชนะใจเขาทุกอย่าง... และแม่ของเขาก็เต็มใจที่อยากจะได้เธอเป็นลูกสะใภ้ด้วย นั่นก็เข้าทางเธอแบบเต็มๆ
“งั้นสิตาไปก่อนนะคะคุณพ่อ... ไปเถอะค่ะพี่อิฐ” ร่างหนายกมือไหว้พ่อของสิตาแล้วเดินนำร่างเล็กมาที่รถ ก่อนจะขับออกไปโดยที่ระหว่างไม่มีการพูดคุยอะไรสักคำ ทำให้สิตาหันไปมองใบหน้าหล่อทันที
“พี่อิฐรำคาญสิตาหรือเปล่าค่ะ?” อืม... รำคาญ!! (ปล. ลุงแกคิดในใจนะ)
“เปล่านี่ครับ พี่ไม่รู้จะพูดอะไรดี...” จบการสนทนา ร่างหนาก็เลี้ยวไปตามทางก็มาจอดรถที่หน้าร้านเสื้อผ้าที่ดูแล้วน่าจะเปิดใหม่และแม่ของเขารู้จักได้ไงกัน? อิฐลงจากรถมองป้ายชื่อร้านก็ผุดยิ้มทันทีกับชื่อที่แปลกมาก
“Green Kivi เนี้ยนะ?”
“ไปเถอะ แบรนด์นี่ดังมากที่อังกฤษนะคะ” อิฐพยักหน้ารับอย่างหงุดหงิด มองร่างของสิตาที่เดินเข้าไปในร้านก่อนที่เขาจะเดินเข้าไป ภายในร้านมีชุดที่ตัดด้วยการออกแบบเยอะมากมีทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย ร่างหนากวาดสายตามองไปทั่วก็ไปสะดุดกับเสื้อเชิ้ตลายทางสีน้ำเงินก็เดินไปดูทันที ดีไซค์ดีชะมัด!! เนื้อผ้าก็นุ่ม
“สวัสดีค่ะ แบรนด์ Green Kivi ยินดีต้อนรับนะคะ” น้ำเสียงคุ้นหูเรียกให้อิฐหันไปมองก็ต้องตกใจทันทีกับร่างเล็กของคนที่เขาช่วยไว้เมื่อคืน กีวี่ที่ยิ้มให้กับลูกค้าก็มองเลยไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอึ้งอยู่... ทั้งสองคนตกใจกันเล็กน้อย แต่ก็แค่นั้นในเมื่อกีวี่เลือกที่จะยิ้มให้กับสิตา
“คุณสิตาใช่ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ สิตาเอง...”
“อ๋อ คุณหญิงอิสราโทรมากำชับแล้วละค่ะ... และก็ให้ตัดชุดให้คุณผู้ชายคนนั้นด้วย”
“ผมด้วยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ” กีวี่มองอิฐที่เท้าเอวกลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิด อันที่จริงคุณหญิงอิสราก็คือแม่ของอิฐซึ่งเธอไม่รู้เลยนะ แค่คุณหญิงบอกว่าลูกชายของเธอเป็นคนที่ดื้อมากจริงๆ เลยบอกให้เธอตัดชุดให้เขาด้วย และกำชับว่าต้องให้เขาตัดชุด
“พี่อิฐก็ต้องไปงานกับสิตานี่น่า คุณป้าบอกแล้ว...”
“แต่ชุดพี่มีแล้ว ถ้าจะไปก็เอาชุดเดิมก็ได้”
“แต่ว่า...”
“ตัดเถอะค่ะคุณอิฐ”
“...” ร่างหนาที่กำลังหงุดหงิดอยู่ถึงกับเงียบทันทีที่มองใบหน้าหวานของกีวี่ที่ยิ้มให้เขา และใช่เขาก็เพิ่งจะเห็นเธอยิ้มเนี้ยล่ะเพราะเรื่องเมื่อวานเธอดูเหมือนเป็นคนที่เย็นชายังไงไม่รู้ แต่อย่างว่าลูกค้านี่น่าก็ต้องยิ้มสิ... เป็นเจ้าของร้านจะมานั่งทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดทะเลทำไม
“ถ้ายังไงฉันขอวัดตัวคุณสิตาก่อนแล้วกันนะคะ... เสร็จคุณสิตาก็เลือกผ้าและแบบในหนังสือเล่มนี้เลย เชิญทางนี้เลยค่ะ” กีวี่เดินนำร่างเล็กของสิตาไปที่ห้องวัดตัวที่เธอจะต้องวัดไซค์ให้พอดีที่สุด ร่างเล็กวัดตัวให้สิตาเสร็จก็ออกมาจากห้องมองอิฐที่นั่งหงุดหงิดอยู่แบบนั้น
“ต่อไปคุณอิฐค่ะ...”
“ครับ”
“คุณสิตาเลือกตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้พนักงานมาช่วยดูด้วย” ร่างเล็กเรียกพนักงานสาวให้พาสิตาไปนั่งที่มุมรับแขกและหยิบหนังสือที่เป็นดีไซค์ของตัวเองให้สิตาดู อิฐยืนอยู่ตรงกลางห้องก่อนที่กีวี่จะปิดประตูแล้วเดินตรงไปหาเขาทันทีพร้อมกับสายวัดตัว
“ผมไม่รู้เลยว่าร้านนี้คือของคุณ...”
“อือ” กีวี่ได้แต่รับคำสั้นและวัดตัวเขาช่วงหัวไหล่แล้วจดลงสมุด ใบหน้าหล่อมองใบหน้าของกีวี่ที่นิ่งและเย็นชาจนเขาจ้องเธออยู่แบบนั้น ทำให้กีวี่ที่ถูกจ้องจำต้องเงยหน้ามองเขาที่จ้องเธออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่า ผมแค่คิดว่า... ทำไมคุณถึงได้นิ่งแบบนี้”
“...”
“คุณเย็นชาจนผมรู้สึกหงุดหงิด”
“แล้วคุณจะมาหงุดหงิดทำไม? ในเมื่อฉันเป็นของฉันแบบนี้” ร่างหนายิ้มทันทีที่กีวี่มองค้อนเขาและจัดการวัดแผงอกของเขา ร่างหนาอยู่ไม่เฉยจนกีวี่เงยหน้ามองเขาทันทีอย่างตำหนิ
“อยู่เฉยๆ ได้ไหม?”
“ได้... แต่ไม่”
“เอ๊ะ คุณอิฐ...”
“เรียกทำไมครับ กลัวจำชื่อผมไม่ได้เหรอ?”
“นี่คุณ!!” กีวี่สูดลมหายใจเข้าทันทีอย่างโมโห ให้ตายเหอะผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้กวนเธอแบบนี้นะ... เป็นเพื่อนกับโชได้ไงกัน ร่างเล็กขมวดคิ้วทันทีจนอิฐอมยิ้มออกมาเพราะถ้าเธอจะไม่ยิ้มก็ขอให้แสดงอาการที่มันเหมือนคนหน่อยไม่ใช่นิ่งเป็นหุ่นยนต์ กีวี่วัดตัวให้เขาจนเสร็จเหลือสุดท้ายก็คือวัดรอบคอซึ่งแน่นอนเธอจะต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นไปเพราะเขาสูงมาก ปลายเท้าของกีวี่เขย่งจนสุดปลายนิ้วแล้ว ใบหน้าของกีวี่จับจ้องไปที่คอหนาแล้วเป็นจังหวะที่ร่างเล็กเจ็บนิ้วเท้าเลยทำให้หงายหลังทันที...
“อะ ว้าย!!”
หมับ!! สองแขนแกร่งโอบเอวบางไว้แน่นทำให้ใบหน้าของทั้งสองคนเฉียดกันนิดหน่อย จมูกชนกันทำให้รับรู้ถึงลมหายใจที่ร้อนระอุทั้งที่ภายในห้องเย็นฉ่ำไปด้วยความเย็นจากแอร์ ดวงตากลมโตของกีวี่สบกับดวงตาคมของอิฐที่กำลังจับจ้องใบหน้าสวยหวาน มือทั้งสองข้างก็โอบเอวบางไว้โดยไม่ปล่อย ถึงแม้มือเล็กจะยันอกแกร่งไว้ก็ตามที
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่... ปล่อย” ร่างเล็กบิดตัวไปมาก่อนที่อิฐจะปล่อยแขนออกจากเอวบาง กีวี่ลูบหน้าตัวเองไปมาก่อนจะรู้สึกเจ็บที่นิ้วเท้าทันทีแต่ก็กั้นไว้แล้วหยิบสมุดมาจดต่อ
“เสร็จแล้ว คุณออกไปเลือกสีผ้าเถอะ...”
“แน่ใจนะว่าคุณไม่เป็นอะไร?”
“แน่สิ ฉันรู้ตัวเองดี... คุณออกไปเถอะ” อิฐมองร่างเล็กที่เดินไปนั่งจดอะไรในสมุดก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ร่างหนาเดินไปนั่งกับสิตาที่ชี้ให้เขาดูว่าจะตัดชุดแบบไหนดี แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเสียงเธอเลย... นอกจากจับจ้องไปที่ประตูห้องวัดตัวหรือห้องลองชุดที่ยังคงไม่เปิดออกมา
“พี่อิฐเอาสูทสีเทานะ... สิตาว่าเหมาะกับพี่มากเลย”
“อืม” สิตามองอิฐที่สายตาไม่ได้มองมาที่หนังสือ แต่กลับมองไปที่ห้องวัดตัวจนเธอได้แต่สงสัยจนกระทั่งประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กของเจ้าของแบรนด์ดังที่เดินยิ้มมาหาเธอ
“คุณสิตาเลือกแบบได้ยังคะ?”
“อ๋อ ได้แล้วค่ะ... สิตาเอาแบบเป็นชุดราตรียาวเปิดหลัง ด้านหน้าปิดหมดเลย เอาเป็นสีน้ำทะเลค่ะ ส่วนของพี่อิฐเอาชุดสูทสีเทา”
“ได้ค่ะ ถ้ายังไงถ้าเราตัดเสร็จแล้วจะโทรไปแจ้งนะคะ” กีวี่ยิ้มให้กับสิตาก่อนจะหันมาสบตากับอิฐที่มองไปยังเท้าเธอที่ตอนนี้ถูกพันแผลไว้ ร่างหนาไม่อยากจะลุกไปจากร้านของกีวี่เลย แต่ก็ต้องหงุดหงิดที่ร่างเล็กของสิตาดึงแขนเขาแล้วควงทันที เพราะรู้สึกว่าอิฐจะมองกีวี่นานไปแล้ว
“ไปเถอะพี่อิฐ สิตาหิวแล้ว...”
“อืม แต่คุณไม่เป็นอะไรแน่นะครับ?”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณที่คุณเป็นห่วง” อิฐมองกีวี่ที่ก้มหน้าให้เขาแล้วหันหลังไปวัดชุดที่อยู่ในหุ่นต่อ ร่างหนาเดินออกมาจากร้านแล้วมองมือเล็กของสิตาที่จับแขนอยู่ ก่อนจะดึงมือเล็กออกทันทีจนสิตางง
“หิวไม่ใช่เหรอ ไปกินๆ ซะ... พี่จะได้ไปส่ง” สิตามองอิฐที่เดินขึ้นรถไปทันที พร้อมกับหันไปมองในร้านเสื้อผ้า... หมายความยังไง? พี่อิฐกับคุณกีวี่รู้จักกันงั้นเหรอ? ไม่สิ จะรู้จักกันได้ไง ในเมื่อคุณกีวี่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก อีกอย่างคุณกีวี่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะรู้จักกับพี่อิฐ ร่างเล็กได้แต่สงสัยก่อนจะนั่งรถและอิฐก็พาสิตาไปกินข้าวจริงๆ ย้ำว่าพาไปกินจริงๆ และมาส่งเธอที่บ้านเวลาเกือบค่ำๆ
“สิตาถามอะไรพี่หน่อยได้ไหม?”
“อะไรเหรอ?”
“พี่รู้จักกับคุณกีวี่ที่ห้องเสื้อ Green Kivi เหรอ?” อิฐไม่ตอบแต่ถอนหายใจออกมาทันที เขาไม่ชอบผู้หญิงที่มาถามเซ้าซี้เขาที่สุด... ไม่ชอบผู้หญิงที่มาจุ้นจ้านกับชีวิตของเขา หรือเรื่องส่วนตัวของเขา
“สิตาจะอยากรู้ไปทำไม?”
“ก็สิตาเห็นพี่อิฐมองคุณกีวี่...”
“แล้ว?”
“ก็...”
“พี่จะมองใครมันก็เรื่องของพี่นะ พี่ยังโสด เข้าใจตรงกันป่ะ?” สิตามองอิฐที่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เขาไม่ชอบเลยจริงๆ กับผู้หญิงที่ชอบมาจับผิดเขาแบบนี้ อีกอย่างเขากับเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย
“ลงไปได้แล้ว ดึกแล้ว...”
“พี่ไล่สิตาเหรอ?”
“อือ”
“พี่อิฐ...” ร่างหนามองร่างเล็กที่น้ำตาคลอทันทีก่อนจะลงจากรถไป เขาไม่สนหรอกนะ... ว่าจะทำให้เธอเสียใจหรืออะไร? แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบเลย สิ่งที่แม่ของเขากำลังยัดเหยียดให้เนี้ยล่ะ!! รถของอิฐขับออกไปทันที ปล่อยให้ร่างเล็กกำมือแน่นด้วยความโกรธกับสิ่งที่เขาพูด
“ถึงยังไง... พี่ก็คือของสิตา ยังไงๆ เราสองคนก็ต้องแต่งงานกัน พี่อิฐ!!”
อิฐขับรถไปเรื่อยๆ เพราะหงุดหงิดกับสิ่งที่ตัวเองพบเจอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงกีวี่ที่นิ้วเท้าเธอถูกพันแผลไว้ แล้วกูจะห่วงทำไมเนี้ย? มันเรื่องของเธอหรือเปล่า พอเถอะอิฐ กลับไปนอนได้แล้ว... อีกด้านของกีวี่ที่ตอนนี้กำลังปิดร้านลงเพราะตอนนี้ก็ดึกพอควร ร่างเล็กโบกมือให้กับพนักงานสาวที่เดินจากไป ส่วนร่างเล็กก็จะไปหาอะไรกินมองนิ้วเท้าตัวเองที่จู่ๆ ก็บวมขึ้นมาเฉยเลย เฮ้อ!!
“ไงกีวี่...”
“อึก... คะ คุณไฟนอล”
“ตกใจหรือไง? วันนี้เธอไม่รอดมือฉันแน่ มานี่!!” ร่างสูงของไฟนอลที่จับตามองกีวี่อยู่ตลอดทั้งวันแค้นเคืองร่างเล็กที่ตัวเองกำลังลากไปอย่างสุดๆ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ทำให้เขาต้องสูญเสียพี่ชายที่รักไป ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ทำให้คนในครอบครัวของเขาที่เหลืออยู่คนเดียวต้องตายลง เขาเจ็บปวดมากแค่ไหนมีใครรู้บ้าง!! จะมีใครรู้ไหมว่าเขาเองก็แทบจะบ้าตายที่ต้องยืนมองพี่ชายของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย...
“คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหม? ฉันเดินเองได้”
“หึ ปล่อยเหรอ? ปล่อยให้เธอหนีฉันไปแบบคราวนั้นนะเหรอ ฝันไปเถอะยัยสารเลว!!” กีวี่บิดหน้าไปมาด้วยความเจ็บปวด เพราะมือหนาบีบข้อมือเธอแรงมากจนกระดูกแทบจะแตก ไฟนอลมองกีวี่ที่เดินตามมาอย่างเจ็บปวด แค่เห็นใบหน้าหวานที่แสดงสีหน้าแบบนี้ก็ทำให้เขาสะใจอย่างสุดๆ แล้ว
“มา!! อย่าสำออย...”
“โอ๊ย ฉันเจ็บเท้า”
“ฉันต้องสนไหม? ตามมา!!” ไฟนอลกระชากร่างเล็กจนล้มลงทันที กีวี่เงยหน้ามองไฟนอลที่แสยะยิ้มอย่างเหนือกว่าก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือบาง แล้วกระชากผมกีวี่ทันทีอย่างแรง
“โอ๊ย เจ็บ...”
“อย่าสำออย ลุก!! เจ็บแค่นี้มันไม่ทำให้เธอตายหรอกกีวี่ อย่างเธอมันต้องตายด้วยน้ำมือของฉัน!!” มือหนาของไฟนอลเตรียมจะฟาดลงที่แก้มนวล จนกีวี่หลับตาลงทันทีอย่างหวาดกลัว
หมับ!! กีวี่นิ่งไปก่อนจะเงยหน้ามองมือของไฟนอลที่ถูกจับด้วยมือของใครอีกคน จนเธอตกใจทันทีกับใบหน้าหล่อคมที่มองมาที่เธอ อิฐมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ไฟนอลกลับสะบัดมือออกแล้วกระชากกีวี่ให้ลุกขึ้นจนอิฐคว้าแขนบางไว้ทันที
“ถอยไป มึงอย่าเสือก!!”
“ผมต้องเสือก ถ้าคนที่คุณกำลังจะทำร้ายคือเพื่อนของผม...”
“หึเพื่อนเหรอกีวี่? เพื่อนหรือผัวใหม่กันแน่ห๊ะ!!” กีวี่มองไฟนอลที่หันไปมาอิฐตาขวาง ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังตกเป็นที่สนใจทันที กีวี่มองอิฐที่ใบหน้าหล่อนิ่งตอนนี้กำลังกัดกรามจนนูนไปหมด ร่างบางจับไปที่แขนเขาที่จับมือเธอให้ออกไปจนอิฐงุนงง
“เรื่องของฉันกับคุณไฟนอล ฉันขอเคลียร์เองนะคุณอิฐ...”
“กีวี่...”
“เรื่องของฉันกับเขา เรามีเรื่องต้องสะสางกัน ขอบคุณที่คุณพยายามจะปกป้องฉัน... แต่ฉันไม่เป็นไรจริงๆ”
“หึได้ยินชัดแล้วนะ มานี่ยัยตัวซวย!!” อิฐมองกีวี่ที่ถูกกระชากแขนให้ขึ้นรถพอร์ชสุดหรูไป ก่อนที่ไฟนอลจะหันมามองอิฐแล้วชูนิ้วกลางให้เขาพร้อมกับแสยะยิ้ม แล้วเข้าไปในรถบึ้งออกไป อิฐได้แต่สับสนกับสิ่งที่กีวี่พูด... เธอมีอะไรปิดบังเขากันแน่? และเขาจะปล่อยเธอไปแบบนี้งั้นเหรอ... เฮ้อ ไอ้อิฐมึงแม่งจะเป็นสุภาพบุรุษเกินไปเปล่าว่ะ? ไฟนอลขับรถไปสถานที่ที่แห่งหนึ่งทันทีโดยมีกีวี่นั่งไปด้วยอย่างนิ่งๆ จนกระทั่งรถมาจอดที่สุสานคริสต์แห่งหนึ่ง ไฟนอลเดินลงจากรถและลากหญิงสาวให้เดินตรงเข้าไปในสุสานที่ตอนนี้บรรดาลูกน้องของเขาจุดไฟจนพื้นที่ตรงนั้นสว่างไปหมด
พลั่ก!!
“อึก...”
“หึ ดูให้ชัดๆ ยัยฆาตกร!! แหกตาดูให้ชัดๆ”
“ฮึก... เจ็บ!!” กีวี่ถูกไฟนอลจับท้ายทอยไว้แล้วกดใบหน้าหวานไปที่ป้ายหลุมศพของคนที่เธอรัก ใบหน้าหวานเหลือบสายตามองรูปภาพของแฟนซีที่กำลังยิ้มให้เธออยู่ ก่อนจะที่ร่างเล็กจะร้องไห้ออกมาทันทีจนไฟนอลดึงใบหน้าเธอให้ออกมา
“เห็นไหมว่าเธอทำให้พี่ฉันต้องโดดเดี่ยวกับที่นี่มานานแค่ไหน!!”
“ฮึก ฮือๆ”
“น้ำตาของเธอ... มันเรียกคืนชีวิตพี่ชายฉันได้ไหมห๊ะ!! มันเรียกคืนมาได้ไหม!!” ร่างเล็กถูกกดใบหน้าไปที่ป้ายหลุดศพอีกครั้งจนตอนนี้เธอมึนหัวไปหมดแล้วเพราะไฟนอลไม่ยั้งมือให้การกระแทกหน้าผากเธอ
“ไหว้พี่แฟนซะ...”
“ฮือๆ”
“พนมมือไหว้พี่แฟนซะ!!” ไฟนอลจิกหัวกีวี่ออกมาแล้วมองร่างเล็กที่ค่อยๆ พนมมือไหว้หลุมศพของคนที่เธอรัก ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตาไปหมดพร้อมกับมือเล็กที่ลูบไปที่ป้ายชื่อและรูปของเขา
“ฮึก แฟน... วี่รักแฟน”
ปึ่ก!!
“ฮึก... เจ็บ!! พอแล้ว...”
“ฉันจะเอาเลือดของเธอ มาสังเวยที่หน้าหลุมศพพี่ชายของฉัน!!”
“...”
“ผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ มันสมควรตายไปซะ ไม่ใช่พี่ชายของฉัน!!”
ปึ่กปึ่กปึ่ก
เสียงหน้าผากของกีวี่ที่กระแทกกับป้ายหลุมศพ เพราะแรงที่ไฟนอลจับกระแทก... ตอนนี้ใบหน้าของกีวี่อาบไปด้วยเลือดจนเธอไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากชาไปหมดทั้งหน้า แต่เป็นไฟนอลที่ยิ้มอย่างสะใจก่อนจะดึงผมกีวี่ให้เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อโหดถึงกับมองผลงานของตัวเองทันทีอย่างมีความสุข มองรอยเลือดที่ไหลไปตามป้ายชื่อของแฟนซีและรูปภาพของพี่ชายที่ยิ้มอยู่
“เหอะ ไงพี่แฟน... ผมเอาเลือดแฟนพี่มาสังเวยแล้วนะ”
“ฮึก... ฮือๆ”
“และใช่ผมจะยังไม่ฆ่าแฟนพี่หรอก ขอให้ผมได้ทำร้ายยัยนี้ให้เจ็บปวด... ให้มันรับรู้ถึงความเจ็บปวดของผม ที่ต้องขาดพี่ไป!!” มือเล็กจับมือหนาไว้แน่นจนไฟนอลมองด้วยสายนิ่งๆ ใบหน้าหวานร้องไห้ออกมาพร้อมกับเลือดจะปะปนกันไป
“ฉันขอโทษ... ฮึก ไฟนอลฉันขอโทษ”
“สายไปแล้วกีวี่ สิ่งที่เธอจะเจอต่อไปนี้... คือการเอาคืน!!” ไฟนอลกระชากร่างเล็กที่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วกับการที่ตัวเองถูกทำร้าย มองร่างหนาที่จะพาเธอไปไหนก็ไม่รู้อย่างพร่ามัว
“หยุด!!” เสียงเข้มดังขึ้นทำให้ไฟนอลหยุดชะงักทันที กีวี่ค่อยๆ หรี่ตามองก็พบว่าเป็นอิฐที่ตอนนี้กำลังถือปืนจ่อมาที่หน้าของไฟนอล อิฐที่กังวลตอนแรกว่าจะไม่มาแต่ตอนนี้เขาก็ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้วไง... และใช่ เห็นกีวี่อยู่ในสภาพแบบนี้แล้วเขายิ่งโหมไฟในตัวทันที บอกให้ลูกน้องจัดการล้อมไฟนอลไว้
“ปล่อยกีวี่ซะ!!”
“เหอะ ตกลงมึงเป็นผัวใหม่กีวี่ใช่ไหม?”
“กูบอกว่าให้ปล่อย!!”
“กูไม่ปะ...”
ปัง!! ไฟนอลถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ กระสุนปืนเฉียดหูเขาไปนิดเดียวเท่านั้นจนเขาอึ้ง... หมอนี่ ไม่ธรรมดา คนไม่ยิงปืนแม่นจริงๆ จะทำไม่ได้แน่ ร่างสูงของอิฐเดินตรงเข้ามาเผชิญหน้ากับไฟนอลก่อนจะเอื้อมมือไปดึงร่างเล็กที่ยืนแทบจะไม่ไหวมาอยู่ในอ้อมอกของตัวเองทันที
“มึงอย่ามาซ่ากับกู... ไฟนอล”
“!!!”
“ถ้ากูไม่เจ๋งจริงคงสืบหาเรื่องของมึงไม่ได้ ไอ้อันธพาลหน้าอ่อน!!”
“มึงเป็นใคร?”
“หึจำชื่อกูไว้ให้ดีนะ... กูชื่ออิฐ ถ้ามึงรักตัวกลัวตาย อย่ามายุ่งกับกีวี่อีก!!”
“...”
“เพราะคราวหน้า จะไม่ใช่แค่การยิงขู่... แต่กูจะฆ่ามึงและหมกศพมึง โดยแจ้งให้มึงเป็นคนสูญหาย” ไฟนอลมองอิฐด้วยสีหน้าโมโหอีกครั้ง เห็นทีจะต้องสืบซะแล้วสิว่ามันตรงหน้าเป็นใคร? และใหญ่มาจากไหน
“กูไม่กลัวมึงหรอก... เธอรอดไปนะกีวี่ แต่ถ้าวันอื่นเธอไม่รอดแน่!!” อิฐมองร่างหนาของไฟนอลที่เดินขึ้นรถไปพร้อมกับลูกน้องอีกห้าคน ร่างหนาเอาปืนเหน็บเอวแล้วมองร่างเล็กที่ตอนนี้เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาพร่ามัว
“กีวี่...”
“ฮึก แฟน...” ใบหน้าหวานฟุบลงกับอกแกร่งจนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเลอะไปหมด อิฐพากีวี่กลับมาที่คอนโดของตัวเองให้เวลาต่อมา และตามหมอประจำตระกูลของเขามาทันทีพร้อมกับวานให้พยาบาลช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอซึ่งให้กีวี่สวมแค่เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาตัวเดียวเท่านั้น ร่างหนายืนรออยู่ที่หน้าห้องของตัวเองอย่างกระวนกระวาย จนกระทั่งหมอและพยาบาลเดินออกมา
“คุณอิฐครับ...”
“อ่ะหมอ ว่าไงครับเพื่อนผมเป็นไงบ้าง?”
“ก็หนักเอาการนะครับ แต่หมอทำแผลให้แล้วเรียบร้อย... แต่ยาแก้ปวดและแก้อักเสบ ผมอยากให้คุณอิฐให้เธอกินนะครับเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ถ้ายังไงเธออาจจะมีอาการตัวร้อนก็ไม่ต้องกังวลนะครับ พรุ่งนี้ถ้าเธอฟื้นก็พาไปตรวจสมองที่โรงพยาบาลอีกที”
“ครับ ขอบคุณนะครับ” อิฐเดินไปส่งหมอกับพยาบาลและกระชับให้ลูกน้องของตัวเองไปส่งที่โรงพยาบาล และตัวเขาก็เดินเข้าห้องมามองใบหน้าหวานที่เป็นช้ำเขียวไปหมด หน้าผากมนก็ถูกพันแผลไว้รอบๆ อิฐนั่งลงข้างร่างเล็กแล้วยกมือลูบไปที่แก้มนวลเบาๆ
“คุณมีเรื่องอะไรกันแน่กีวี่...” ร่างหนาดึงผ้าห่มให้เธอ ก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าห้องไปอาบน้ำทันที พลางครุ่นคิดกับเรื่องของชายที่ชื่อไฟนอล เด็กนั่นเป็นอันธพาลที่อันตรายที่สุดตอนนี้ และกีวี่ไปรู้จักมันได้ยังไง? และมันพากีวี่ไปที่หลุมศพทำไม? เฮ้อ อิฐมึงนี่น่าสุภาพบุรุษจริงๆ ไอ้เวรเอ๋ย!! อิฐถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำสวมแค่กางเกงบ๊อกเซอร์สีน้ำตาลตัวเดียว มองนาฬิกาที่ตอนนี้ควรปลุกเธอให้กินยาได้แล้ว
“กีวี่ ตื่นมากินยาก่อน...”
“...”
“กีวี่... กี่วี่ครับ” กีวี่ยังคงนิ่งอยู่แบบนั้นจนเขาต้องถอนหายใจออกมา แล้วถ้าไม่กินยาแบบนี้ก็ต้องเจ็บแผลนะสิ ร่างหนาหันไปมองน้ำกับยาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าทันที
“ขอโทษนะครับ... ผมจำเป็น” มือหนาช้อนหลังกีวี่ให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหยิบน้ำมาดื่มอมไว้และตามด้วยยาแก้อักเสบ อิฐจับคางมนให้อ้าปากก่อนจะค่อยๆ ประกบจูบร่างเล็กทันทีพร้อมกับปล่อยน้ำและยาที่อยู่ในปากเข้าไปทันที และประกบริมฝีปากบางอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเขาใช้ลิ้นกวาดเลียเข้าไปในโพรงปาก ก็พบว่าเธอได้กลืนยากับน้ำลงไปแล้ว ร่างหนาผละจูบออกมามองใบหน้าหวานที่รู้สึกตัวนิดหน่อย มือเล็กโอบกอดเอวหนาทันทีจนอิฐงุนงง
“หนาว...”
“คุณหนาวเหรอกีวี่?”
“ฮึก ฉันหนาว...” อิฐขยับตัวขึ้นไปนอนบนเตียงทันทีพร้อมกับร่างเล็กที่ยังคงกอดเขาแน่นอยู่แบบนั้น ร่างหนาดึงผ้าห่มร่างเล็กทันทีก่อนจะลูบผมเธอเบาๆ เธอเจอเรื่องราวร้ายๆ มาวันนี้ คงจะเจ็บมากสินะกีวี่...
“ให้ผม... ดูแลคุณนะครับ กีวี่”