บทที่1

3579 Words
Aid & Kivi 1 ‘วี่ หันมามองกล้องหน่อยสิ’ ‘ไม่เอานะแฟน วี่เขิน เอาออกไปเลย...’ ‘5555 ไม่เอาสิ แฟนกำลังถ่ายอยู่นะ ยิ้มเร็วๆ งั้นแฟนเข้ากล้องด้วยอ่ะ’ ดวงตากลมโตมองภาพในจอทีวีขนาดใหญ่พร้อมกับน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมที่จับจ้องไปที่ใบหน้าของชายคนที่อยู่ในทีวี ใบหน้าหล่อสวมแว่นสายตากรอบสี่เหลี่ยมสีดำ มีผมสีดำซอยละต้นคอ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอและเป็นยิ้มที่เธอชอบมากที่สุด มือเล็กยกขึ้นเกี่ยน้ำตาตัวเอง เงยหน้ามองฝ่าผนังที่มีรูปของเธอกับเขา... ภาพที่เขาและเธอนั่งกอดกันท่ามกลางสวนดอกไม้ที่เธอและเขาชอบไปด้วยกัน ฝ่ามือบางยกปิดหน้าตัวเองทันทีกับสิ่งที่เป็นตราบาปให้เธอจนทุกวันนี้ ‘วี่ อย่าไปนะ... วี่ แฟนรักวี่นะ’ ‘ฮึก วี่ก็รักแฟน แต่เราสองคนไปด้วยกันไม่ได้... พอเถอะแฟน วี่ว่าเราพอเถอะ!!’ ‘ไม่นะวี่ แฟนรักวี่... อย่าทำกับแฟนแบบนี้ แฟนจะขาดใจนะ...’ ร่างเล็กหยิบกรอบรูปที่อยู่บนหัวเตียงมาดู ลูบไปตามรูปภาพของชายผู้เป็นที่รักเบาๆ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ไหลออกมาเป็นสาย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คนที่อยู่ในภาพกลับมาหาเธอได้อีก... “แฟน ฮึก... วี่ขอโทษ วี่รักแฟน ฮือๆ ได้ยินไหมแฟน วี่รักแฟน ฮึก” กีวี่สาวน้อยอายุยี่สิบสามปี ใบหน้าสวยหวานมีผมยาวปะบ่าสีดำน้ำตาลกอดรูปที่อยู่ในอ้อมอกแน่นทันทีราวจะขาดใจ คนในรูปจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก... คนรักของเธอที่จากเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เพราะเธอคือต้นเหตุ... เธอเป็นคนทำให้เขาต้องตาย เธอทำให้คนที่รักต้องตายลง... กีวี่เหม่อมองออกไปที่ท้องฟ้าที่มืดมิด ภายนอกมีหิมะตกนิดหน่อยเนื่องจากอังกฤษในตอนนี้อยู่ในช่วงหน้าหนาว ใบหน้าสวยหวานกอดรูปที่ถือไว้แน่น ช่วงเวลาที่เธอหนีมาที่นี่ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่อยากจะอยู่ในที่ที่ทำให้เธอต้องพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต การที่คนรักถูกพรากจากไปเป็นเพราะเธอคนเดียวที่เป็นต้นเหตุทุกๆ อย่าง... แต่ตอนนี้เธอพร้อมที่จะกลับไปสู้ความเป็นจริงแล้ว ที่ที่เธอหนีมาเกือบห้าปี... พรุ่งนี้เธอจะกลับเมืองไทย ไปหาเขา ไปหาแฟนซี... ณ ประเทศไทย ร่างสมส่วนของร่างบางเดินออกจากสนามบินด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใบหน้าสวยหวานเป็นที่จับตามองของชายหลายคนที่เดินผ่านไปมา แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับไม่มีให้เห็น จะมีก็แต่ความเย็นชาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ ร่างบางขึ้นรถไปทันทีเพื่อตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าของตัวเองที่เปิดไว้ตั้งแต่กลับมาเคลียร์เรื่องของเธอกับผู้ชายอีกคนที่ขอเธอคบ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกชอบเขาหรือรักเขาสักนิด มันผิดที่เธอให้ความหวังเขาโดยที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเขา นอกจากเพื่อนเท่านั้น โช... เขาคือผู้ชายแบดบอยที่ตอนนี้สถานะของเราสองคนคือเพื่อนที่ดีต่อกันและตัวของเขาก็ได้พบเจอกับความรักที่แท้จริงแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็โล่งอกที่ไม่ได้ทำให้เขาเสียใจที่เธอไม่สามารถรักเขาได้ หรือต่อให้เป็นใคร... เธอก็รักใครไม่ได้จริงๆ กีวี่ตรงมาที่หน้าร้านของตัวเองที่มีชื่อว่า ‘Green Kivi’ ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยเสื้อผ้าที่เธอออกแบบทั้งหมด ตั้งแต่ก่อนเรียนจบและตอนนี้เธอก็เรียนจบแล้วด้วย แบรนด์เสื้อผ้าของเธอถึงแม้จะไม่ได้ดังมากเหมือนที่เมืองนอก แต่ก็พอเป็นที่รู้จักเพราะโชยังคงคอยช่วยโปรโมทร้านให้เธอเสมอๆ แต่ตอนนี้เราไม่ได้เจอกันเท่าไหร่ ก็ดีแล้วล่ะ เพราะเธออยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า ร่างบางเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอน มีพร้อมทุกอย่างทั้งครัว ทีวีและอื่นๆ เธอจะอาศัยนอนที่ร้านเป็นส่วนใหญ่เพราะถึงยังไงเธอก็ตัวคนเดียว อยู่แบบนี้นะดีแล้ว ร่างสูงของชายหนุ่มที่อายุยี่สิบแปดปีกำลังเดินหงุดหงิดผ่านหน้าร้านต่างๆ เพราะได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นแม่ที่บังคับเขาให้ไปงานสังสรรค์อะไรสักอย่าง ซึ่งแน่นอนเขาไม่ชอบมันสักนิด ใบหน้าหล่อคมมีใบหน้าที่ยุ่งเหยิง ผมสีดำซอยละต้นคอตอนนี้ได้ถูกมัดเป็นจุกเล็กๆ ที่ท้ายทอย ทำให้เขาแลดูเด็กลงมาก ถ้าไม่มีใครถามว่าเขาอายุเท่าไหร่ ร่างหนาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด จำต้องทำตามที่แม่เขาบอก เลยเลือกที่จะกลับไปที่คอนโดของตัวเองและแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเทา ตืดๆ... เสียงมือถือสุดหรูดังขึ้นทำให้ร่างหนาหยิบขึ้นมาดูก็ผุดยิ้มขึ้นมานิดหน่อย “ว่า?” (“ทำห่าไรอยู่?”) “มึงอยากจะรู้ทำไมไอ้โช มึงไปเที่ยวยุโรป แต่โทรทางไกลมาหากูเพื่อ...?” (“มึงนี่นะ กวนจริงๆ กูก็แค่จะถามเรื่องการส่งอาวุธ กูไม่อยู่ไม่ใช่มึงปากหมาจนลูกค้าเราหายหมดล่ะ”) “มึงไม่ต้องห่วง กูรู้แล้วน่าว่าอะไรเป็นอะไร? มึงอ่ะไปเที่ยวกับเพให้สนุกเหอะ เอาหลานมาฝากกูด้วย” อิฐมองกระจกแล้วจัดทรงผมตัวเองทันที ฟังปลายสายที่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด (“คงจะยาก เพอยากเรียนต่อ... กูไม่ขัดหรอก ตามใจทุกอย่าง”) “เออดีแล้วล่ะ เพยังอายุน้อยเรียนก่อนนะดีแล้ว” (“เออ งั้นแค่นี้ล่ะ... ได้ข่าวจะไปงานกับแม่มึงเหรอ? ระวังได้เมียมีตออีกนะ 5555”) “ไอ้โช!!” ปลายวางลงไปทำให้อิฐถึงกับอารมณ์เสียทันที ยิ่งโชพูดแบบนี้เขาก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่... เขาไม่สามารถขัดแม่เขาได้เลยแม้แต่นิด เพราะถึงท่านจะไม่ห้ามเรื่องที่เขาไม่ยอมสานต่อกิจการของตระกูล แต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่เรื่องแต่งงานที่แม่ของเขาคอยแต่จะจับเขาคลุมถุงชนตลอดเวลา อิฐโยนมือถือไปที่เตียงและแต่งตัวให้ดูดี... เดี๋ยวนะที่ไอ้โชพูดก็มีเหตุผลนะเนี้ย เออกันไว้ดีก่อนดีกว่า... ว่าแล้วร่างหนาก็หยิบมือถือโทรหาลูกน้องตัวเองทันที หึ แม่นะแม่คิดจะหลอกผมงั้นเหรอ? เดี๋ยวได้เห็นดีกัน กีวี่ที่เพิ่งลงเครื่องมาก็จัดห้องนอนของตัวเองและเผลอหลับไปจนตอนนี้เวลาก็ค่ำแล้ว ร่างบางเดินลงมาที่ร้านและจัดการเสื้อผ้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเองอย่างนิ่งๆ เธออยากให้เขามาเห็นความสำเร็จของเธอจริงๆ ความสำเร็จที่เธออยากให้เขาอยู่ข้างๆ แฟนซี... ร่างบางมองไปที่ฝาผนังที่เธอส่งรูปมาให้ช่างเอารูปของเธอกับเขามาติดไว้ เพื่อย้ำเตือนว่าเขายังอยู่กับเธอ และเธอก็รักเขามากแค่ไหน... ผู้ชายที่รักเธอ ผู้ชายที่ดีและจริงใจกับเธอ แต่มีเหตุบางอย่างที่ทำให้เราสองคนต้องพรากจากกันไปชั่วชีวิต ว่าแล้วน้ำตาของกีวี่ก็ไหลออกมาอีกครั้ง เธอได้แต่บอกตัวเองให้เข้มแข็งแต่ไม่เคยสักครั้งที่เธอจะเข้มแข็ง เวลามองเขาจากรูปภาพ มองวีดีโอที่เขาอัดไว้แล้วมันก็พาให้เธอน้ำตาไหลออกมาทุกที ร่างบางรู้สึกหิวเลยเลือกที่จะออกจากร้านไปหาอะไรกิน ถึงแม้เธอจะเพิ่งกลับมาแต่ก็ยังพอจำได้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน กีวี่เดินไปตามอย่างคนไม่มีหัวใจ ทุกครั้งจะมีแฟนซีอยู่ข้างกายเธอตลอดเวลาแต่ตอนนี้ มันไม่มีอีกแล้ว... หมับ!! “อ่ะ... เจ็บ!!” “เจ็บเหรอ?” “คุณ...!!” ดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจกับชายคนนี้ที่จับแขนเธอบีบอย่างแรง ใบหน้าหล่อคมบูดเบี้ยวไปด้วยความโกรธ กรามถูกกัดเป็นสันนูน... ดวงตาแดงกร่ำจนเธอน้ำตาคลอทันที ใบหน้าที่คล้ายกับแฟนซี แต่คนๆ นี้ไม่เหมือน... แฟนซีมีความอ่อนโยนและเป็นคนดี แต่เขา... ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ใบหน้าที่เข้ม ผมสีดำไฮไลท์สีแดงทำให้เหมาะสมกับชื่อของเขาที่คล้องจองกับแฟนซี... “คะ คุณ... ไฟนอล” “จำฉันได้ด้วยเหรอ? ยัยผู้หญิงสารเลว!!” “!!!” “หึฉันตามหาเธอแทบพลิกแผ่นดิน แต่จู่ๆ เธอก็โผล่หัวมาให้ฉันเจอเองนะกีวี่... สะใจไหมล่ะ? ที่ทำให้พี่แฟนต้องตายลงเพราะความสารเลวของเธอ!!” “ไม่ใช่นะคุณไฟนอล ฉันไม่ได้...” “หุบปาก!! คนอย่างเธอจะมาแก้ตัวอะไรตอนนี้... จะมาแก้ตัวอะไรในวันที่พี่แฟนตายไปแล้วตั้งหกปี เพราะเธอ” “มันไม่ใช่นะคุณไฟนอล คุณฟังฉัน...” กีวี่พยายามบิดแขนออกจากมือใหญ่ที่จับกุมเธออยู่ด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด ไฟนอลคือน้องชายของแฟนซีที่มีหน้าตาละหม้ายคล้ายกันจนกีวี่รู้สึกว่าแฟนซีไม่ได้หายไปไหนเลย เขาสองคนมีหน้าตาคล้ายกันและมีอายุห่างกันแค่สามปี ไฟนอลอายุยี่สิบปีและใช่... เขามีแค่แฟนซีเป็นพี่ชายแค่คนเดียวเท่านั้น และตอนนี้แฟนซีได้ตายลงไปเพราะเธอ... “ไม่ฟัง จะให้ฉันฟังอะไรจากปากผู้หญิงสารเลวอย่างเธอไม่ทราบ!!” “ฉันเองก็เสียใจไม่แพ้คุณที่คนที่ฉันรักต้องตายไป... คุณปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม?” “ปล่อย? ทำไมฉันต้องปล่อย ในเมื่อสิ่งที่ฉันต้องการคือการทำให้เธอทรมานที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่แฟนต้องตาย มานี่!!” ไฟนอลลากร่างบางให้ตามไปที่รถลีมูซีพร้อมกับลูกน้องของเขาที่ยืนรออยู่ กีวี่บิดแขนตัวเองไปมาก่อนจะได้จังหวะสะบัดแขนตัวเองอย่างแรงและวิ่งหนีไฟนอลอย่างไม่คิดชีวิต “โธ่เว้ย พวกมึงตามไปจับตัวมาให้ได้ ไป!!” ร่างหนาหัวเสียทันทีก่อนจะหยิบปืนที่อยู่ด้านหลังมาถือและตามร่างบางไปทันทีอย่างเร่งรีบ ฉันไม่ปล่อยเธอแน่ยัยสารเลว!! กีวี่ที่หลุดจากไฟนอลก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังวิ่งมาที่ไหน แต่ถ้าหนีเขาได้เท่านั้นเธอก็โอเคแล้วจริงๆ ร่างบางวิ่งมาถึงโกดังแห่งหนึ่งก่อนจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่หลังลังไม้ใหญ่ๆ พลางหอบหายใจหนักทันที ไฟนอลเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาตั้งแต่สมัยที่เธอคบกับแฟนซีแล้ว เขาไม่ชอบหน้าเธอเท่าไหร่... เธอรู้ดี ร่างบางมองออกไปที่ช่องของลังไม้ก็เห็นว่ามีชายสามคนกำลังกวาดตามองหาเธออยู่ พร้อมกับร่างของไฟนอลที่วิ่งตรงมาพร้อมกับปืนที่ถืออยู่ในมือ หมับ!! “กะ กรี๊ด อื้อ!!” มือใหญ่ของใครบางคนกำลังปิดปากเธออยู่ ทำให้กีวี่ตกใจดิ้นไปมาทันทีก่อนจะหันไปมองใบหน้าของใครบางที่มองเธออยู่ เขาขมวดคิ้วทันทีและยกมือขึ้นแตะปากตัวเองไม่ให้เธอส่งเสียงดัง “กีวี่... คุณมาทำอะไรตรงนี้?” “คุณ? คุณเป็นใคร?” กีวี่มองชายตรงหน้าที่มีใบหน้าหล่อนิ่ง และดูจากลักษณะการแต่งตัวของเขา เหมือนกำลังจะไปงานอะไรมาสักอย่างแต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลามานั่งพิจารณาหน้าตาของเขา และถามว่าเขาคือใครถึงได้รู้จักชื่อของเธอ? ตอนนี้เธอต้องหนีเขาคนนั้นก่อน ผู้ชายคนนั้นที่ตามล่าเธออยู่ “ว่าไงกีวี่ คุณหนีอะไรมา?” “คือฉันตอบไม่ได้ ฉันต้องรีบไปแล้ว... คุณปล่อยฉันด้วย” “งั้นคุณไปกับผมแล้วกัน ตามมา!!” “อะ เอ๊ะ? คุณ...” “ผมชื่อ อิฐ แล้วผมจะเล่าให้ฟังว่าผมเป็นใคร” อิฐจูงมือร่างบางให้ลงไปที่เรือที่เขาจอดเทียบท่าไว้ กีวี่ที่ไม่มีทางเลือกจำต้องขึ้นเรือไปกับเขา โดยมองขึ้นไปบนฝั่งก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ถือปืนอยู่ในมือ ใบหน้าหล่อกำลังโมโหกับสิ่งที่เขาตามล่ามาแทบพลิกแผ่นดิน มือหนากำปืนแน่นมองลูกน้องที่หอบหายใจหนักกับการตามล่าผู้หญิงคนนั้น มือหนาเสยผมขึ้นไปทันทีอย่างโกรธแค้น “คนอย่าง ไฟนอล... ไม่หยุดแค่นี้แน่ เธอเตรียมตัวเจ็บปวดได้เลย กีวี่!!” เรือแล่นไปมาบนผิวน้ำทำให้อิฐหันไปมองร่างเล็กที่เขาจำได้ว่าเธอคือใคร? ใช่เธอคือกีวี่ ผู้หญิงที่เคยเป็นแฟนของโชเพื่อนของเขา และแน่นอนที่เธอจะไม่รู้จักเขาเพราะว่ามีแต่เขาที่รู้จักเธอ... เคยเห็นรูปของเธอกับโชถ่ายด้วยกัน ว่าแต่เธอหนีคนพวกนั้นทำไมกัน? แถมยังถือปืนด้วย กีวี่ที่นั่งมองออกไปที่ผิวน้ำก็หันมามองอิฐที่จ้องเธออยู่ก่อนแล้ว “คุณ... อิฐ? คุณคือใคร ทำไมรู้จักชื่อฉันด้วยล่ะ” “ครับ ผมชื่ออิฐเป็นเพื่อนสนิทกับโช” “เพื่อนของ... โชเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยรู้จัก” “งั้นก็รู้จักกันแล้วไงครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” อิฐยิ้มให้ร่างบางที่มีสีหน้าเรียบเฉยแต่ก็พยักหน้ารับแล้วหันไปมองแม่น้ำตามเดิม ความจริงแล้วที่เขามาอยู่ที่ท่าเรือได้ก็เพราะว่าสิ่งที่โชพูดมันถูกไง... แม่ของเขาพาเขาไปเจอกับลูกสาวของตระกูลอะไรก็ไม่รู้ เขาเลยเลือกที่จะหนีออกมาทันทีและใช่มีของที่ต้องดูที่โกดังเลยทำให้เขาเจอกับเธอ เรือมาจอดเทียบท่าอีกฝั่ง กีวี่เงยหน้ามองมือหนาตรงหน้าที่ยื่นมาเพื่อพยุงให้เธอขึ้นจากเรือ แต่ก็เลือกที่จะไม่จับและขึ้นมาบนฝั่งเอง “ขอบคุณที่คุณช่วยฉันไว้ ถ้าไงฉันขอตัว...” กีวี่ก้มหัวให้ร่างหนาแล้วเดินหันไปทันทีแต่เพราะเธอไม่เคยรู้จักที่นี่เลยหยุดเดินและมองไปรอบๆ อย่างมึนงงจนอิฐถอนหายใจออกมาเดินไปหาร่างบาง “ผมไปส่ง ผมรู้ว่าคุณไม่เคยมาที่นี่...” “แต่ว่า...” “ไว้ใจผมเถอะ ถ้าผมไม่น่าไว้ใจก็โทรไปถามไอ้โชได้เลย... ว่ามีเพื่อนชื่ออิฐหรือเปล่า?” ร่างหนายิ้มให้กีวี่ที่นิ่งเฉย ก่อนจะมองเขาที่เดินตรงไปที่รถปอร์เช่สุดหรูสีขาว กีวี่มองเขาที่หันมายิ้มให้ก็เลยเลือกที่จะเดินขึ้นรถไป... อิฐขับรถไปทันทีท่ามกลางความมืดที่เข้ามาเยือน อีกอย่างตอนที่นั่งเรือมาก็ใช่เวลานานพอควร ทำให้ตอนนี้กีวี่ที่จะออกมาหาอะไรกินก็ต้อง... จ๊อก!! “หือ? เสียงอะไร” อิฐหันไปมองร่างบางที่มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ยอมพูดอะไร จนเขายิ้มมุมปากทันทีเพราะเสียงนี้จะเป็นอะไรไม่ได้ถ้าไม่ใช่เสียงท้องร้องเพราะหิว กีวี่หันหน้าออกไปทางกระจกด้านข้างหลับตาลงกับความรู้สึกอับอายตัวเองจริงๆ ที่มาท้องร้องอะไรให้เขาได้ยิน มันน่าเกลียดมากเลยนะ... อีกอย่างเขาเป็นเพื่อนของโชด้วย แถมยังไม่รู้จักกันดีอีกต่างหาก!! อิฐหันไปมองกีวี่ที่สะท้อนกระจกก็พบว่าใบหน้าสวยหวานกำลังบิดหน้าไปมา อาจจะอายกับสิ่งที่ตัวไม่ได้ตั้งใจก็ได้... รถปอร์เช่เลี้ยวเข้าปั๊มทันทีก่อนจะหันไปมองกีวี่ที่หันมามองเขา “คุณจะเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้... กว่าจะถึงตัวเมืองคงอีกนาน” “อะ อืม” กีวี่มองอิฐที่ลงไปจากรถและตรงเข้าห้องน้ำทันที ก่อนที่ร่างบางจะเข้าห้องน้ำบ้าง... หยิบมือถือมากดโทรหาโชทันทีเพื่อความแน่ใจ (“ครับวี่ มีอะไรเหรอ”) “โช คือวี่มีเรื่องจะถาม... โชมีเพื่อนผู้ชายที่อิฐไหม?” (“มีสิ เพื่อนสนิทผมเอง วี่มีอะไรหรือเปล่า?”) “อะ เออเปล่าๆ แค่วี่เจอเขาและเขาบอกว่าเป็นเพื่อนของโช... วี่ก็เลยอยากถามโชให้แน่ใจ” (“อ๋อครับ ไม่ต้องห่วงนะ ไอ้อิฐมันเป็นคนดีครับ... มันเคยเห็นวี่ในรูปถ่ายของเรา ก็เลยจำคุณได้ วี่ไม่ต้องกลัวหรอก ว่าแต่ไปเจอกันตอนไหนครับเนี้ย?”) “อ่อพอดีเขา... มาช่วยวี่ขนของ และเขาก็ทักวี่” (“ครับ”) “งั้นแค่นี้นะ เที่ยวให้สนุกนะโช... ฝากบอกเพด้วย” ปลายสายตอบตกลงและกีวี่ก็วางสายทันที พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย เพื่อนของโช... งั้นก็ไม่ต้องกลัวสินะวี่ สบายใจได้... ร่างบางเดินออกจากห้องน้ำก็ยังไม่เห็นเขามาที่รถเลยเลือกที่จะนั่งอยู่ที่ม้านั่งที่ถัดจากรถและห้องน้ำมาไม่ไกลเท่าไหร่ ใบหน้าสวยมองตรงออกไปมองแขนตัวเองที่ตอนนี้เป็นรอยแดงที่ไฟนอลบีบแขนเธอ ก่อนจะสะดุ้งที่จู่ๆ ก็มีถ้วยมาม่ามาอยู่ตรงหน้า กีวี่เงยหน้ามองอิฐที่ยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เธอ “มาม่าครับ ทานลองท้องก่อนแล้วกัน... ผมเห็นท้องคุณร้องคงจะหิวแย่” “เออ... เปล่าสักหน่อย” “เอาไปเถอะครับ ทานก่อนนะ...” กีวี่มองอิฐที่ยิ้มให้ก่อนจะตักมาม่าในมือตัวเองกิน เพราะเขาเองก็หิวไงถึงได้ซื้อมาฝากคนตัวเล็กด้วย กีวี่เองก็พยักหน้ารับและตักมาม่ากินอย่างนิ่งๆ ทั้งสองคนนั่งกินมาม่ากันสักพักก็ปล่อยให้ตัวเองนั่งรับลมสักพัก อิฐหันไปมองร่างบางที่นั่งนิ่งอยู่แบบนั้นก่อนจะมองแขนซ้ายที่เป็นรอยเขียวแดงก็ลุกขึ้นเดินไปที่รถหยิบยาทาที่เขาชอบพกติดรถออกมา “แขนคุณเขียว... นี่ยาครับ” “อืม ขอบคุณนะ” อิฐมองกีวี่ที่รับยามาก่อนจะค่อยๆ เปิดฝายาและทาไปที่บริเวณแขนของตัวเอง แต่อิฐที่เห็นว่าเธอทายาไม่ถนัดก็ส่ายหน้าไปมา หยิบยาทาจากมือเธอมาจนกีวี่งง “ขออนุญาตนะครับ...” ร่างบางมองอิฐที่ค่อยๆ ทายาที่แขนให้เธออย่างอ่อนโยน จนเธอถึงกับอึ้งไปทันทีพลางนึกถึงแฟนซี... ใช่จู่ๆ ใบหน้าของแฟนซีก็ผุดขึ้นมาทำให้กีวี่ถึงกับน้ำตาคลอทันที จนอิฐที่เห็นว่าร่างบางเงียบไปเลยเงยหน้ามองเธอก็พบว่าเธอน้ำตาคลออยู่แบบนั้น “เฮ้กีวี่... คุณเจ็บเหรอ?” “...” “กีวี่ครับ เฮ้คุณร้องไห้เหรอ?” “ฟะ แฟน...” “ห๊ะ!!” กีวี่สะดุ้งกับเสียงของอิฐเลยกระพริบตาหลายรอบและมองคนตรงหน้าที่ไม่ใช่แฟนซีก็รีบหันหน้าหนีใบหน้าหล่อทันที มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง... บ้าจริงกีวี่ เธอเป็นอะไรกัน!! อิฐที่เห็นแบบนี้ก็งงเข้าไปใหญ่กับอาการของกีวี่ที่อยู่ๆ มองหน้าเขาก็ร้องไห้ออกมา ทั้งที่เขาเองก็เบามือในการทายาแล้ว “กีวี่... คุณร้องไห้?” “ฉัน... อยากกลับแล้ว ถ้าคุณจะช่วยไปส่งฉันที่ร้าน ก็ขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะคะ” “เออ” อิฐมองกีวี่ที่ลุกขึ้นเดินขึ้นรถเขาไปทันที จนเขาได้แต่มึนงง... ผู้หญิงคนนี้มีอะไรในใจแน่ๆ แต่มันเป็นเรื่องอะไรกันล่ะ? อีกอย่างเรื่องที่เธอถูกชายคนหนึ่งตามล่า มันคืออะไรกัน? แต่เขาเองก็ก้าวก่ายเธอมากไม่ได้ด้วย เพราะเราสองคนยังไม่รู้จักกันเลยนี่น่า... เอาเป็นว่าคุณกำลังทำให้ผมสงสัยในตัวคุณจริงๆ นะกีวี่ เหตุผลนี่หรือเปล่า? ที่คุณไม่สามารถรักโชได้ เหตุผลอะไรไม่สำคัญ แต่เขาต้องรู้ให้ได้... เพราะถ้าเธอโดนตามล่าด้วยอะไรก็ตาม เขาเองก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้แน่ ถึงยังไงกีวี่ก็เป็นเพื่อนของโช... อีกอย่างเธอเป็นคนที่น่าสงสาร ถ้าจะมาโดนใครไม่รู้มาทำร้ายและเขาเห็นๆ อยู่ คงจะปล่อยให้เธอเผชิญมันแค่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD