ธาวิน Say ::
“คุณวิน ชอบเขาก็ยอมรับมาเถอะหน่า” มาแอบมองคอนโดเขาทำไม
“บ้าบอ ฉันยังโกรธที่ยัยนั่นทิ้งอยู่ ฉันไม่กลับไปเอาหรอก แต่ถ้าจะให้ฉันเอาเล่น ๆ สักทีก็อีกเรื่อง ที่ฉันทำดี เพราะอยากให้ยัยนั่นทำงานแบบถวายหัวต่างหาก คนอย่างมิ้นท์ ไม่ใช่คนที่รับของขวัญแล้วจะยินดี แต่เธอจะยินดีที่มีคนห่วงใย ฉันก็แค่ใช้จุดนั้น ครั้งนี้ฉันจะหักอกเธอบ้าง”
“ชั่วไม่มีใครเกิน จะหลอกเค้า แล้วจะแพ้ภัยตัวเองนะครับ”
“ฉันจะไม่ให้ยัยนั่นมาหลอกซ้ำสองแล้ว”
“นี่สินะเหตุผลของการสร้างฮาเร็มไว้ที่บ้าน เด็กมีปัญหา”
ตอนนั้นผมดีใจมาก ที่หญิงสาวที่ผมตามจีบมาตลอด บอกว่าเราจะลองคบกันก็ได้ ผมตามจีบเธอมา 6 เดือน แต่เธอให้ผมใช้ความรักของผมแค่ 7 วัน!!!!! ผมยอมเลิกกับผู้หญิงทุกคน เปลี่ยนตัวเองทุกอย่างเพื่อให้ดีพอสำหรับเธอ แต่เธอดันมาพูดว่า เราจบกันเถอะ เพราะฉันไม่อยากตาย แล้วหายไปจากชีวิตของผมเลยเป็นปี เรื่องนี้มันทำให้ผมรู้ว่า การจะเปลี่ยนเป็นคนดี มันโคตรไร้ค่าเลย มันก็สมควรแล้วถ้าผมจะหลอกใช้เธอ
“แผนจะเอายังไงต่อครับ”
“ไปรับมิ้นท์ กับ ปังปอนมา” ผมให้ไอ้ตุณไปรับเพราะผมมีแผนแล้ว ผมได้รายละเอียดภายในจากน้องสาวของไอ้คิวมาแล้ว
“เอ่อออ เขาชื่อปิงปอง”
“เออ ทำไมฉันจำชื่อมันไม่เคยได้เลยว่ะ เออ ปิงปอง”
Rrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrrrr [ Home Called ] ที่บ้านโทรมาทำไมอ่า ผมกดสายทิ้งแทบจะทันที ไม่นานบ้านผมก็โทรมาใหม่ และก็โทรแบบนั้นจนผมรำคาญ
สายสนทนา
[ คุณวินคะ ]
“คุณโทรผิดแล้วครับ ผมบริษัทกำจัดปลวก”
[ ฉันคุยเอง เอามา ]
[ วิน วินฟังแม่ พ่อ พ่อเขา รถคว่ำ อยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้แม่ แม่ทำอะไรไม่ถูกแล้ว จะมีการประชุมในอีก 3 วันแล้ว กลับมาหาแม่หน่อยได้ไหมลูก ] เสียงร้องไหนสะอึกสะอื้น มันทำเอาผมตกใจมากนะ พ่อผม รถคว่ำ
“อุบัติเหตุไหมแม่”
[ พวกลุง ๆ เขาบอกว่าไม่ใช่ เพราะมันมีการ ขอซื้อที่ดินของเขาเรา แต่พ่อเขาไม่ขาย พ่อเขาเก็บเรื่องนี้มาตลอด แม่เพิ่งจะรู้ ] แม่ของผมร้องไห้จนจะขาดใจแบบนี้ ไม่ใช่ฝีมือตาแก่จอมชั่วร้ายแน่
“ผมจะกลับไป”
จบการสนทนา
“ออกรถ ฉันจะกลับเชียงใหม่ เดี๋ยวนี้เลย” หวังว่าครั้งนี้ จะไม่ใช่แผนงี่เง่าของพ่อ ที่จะให้ผมยอมกลับไปทำงานที่บ้านหรอกนะ
“แล้วเรื่องของคุณมิ้นท์ล่ะครับ”
“เอาไว้ก่อน ตอนนี้ต้องกลับไปจัดการพวกคนแก่ที่บ้าน ฉันโคตรจะเบื่อเลย เจอแต่คนวัยชรา”
หลายวันต่อมา
Minto Say ::
ทำไมไม่เห็นโทรเรียกไปทำงานเลย หายไปหลายวันแล้ว คนที่อยากให้โทรมา ก็ไม่โทร คนที่ไม่อยากให้โทร ก็โทรมาจัง ไหนบอกว่าหางานเก่งไง เก่งไม่จริงนิหว่า อยากรีบทำงานให้เสร็จ ถ่าย 4 รอบให้จบ แล้วจะได้รับเงิน
“ป้าเจ้าของห้องบอกว่าจะรอแกแค่สิ้นเดือน ฉันไปขอมาให้ละ แล้ววันศุกร์หน้า จะมีถ่ายอีกครั้งนะ” ไอ้ปิงปองบอกถึงสิ่งที่ฉันจะต้องทำ
“อ่า เข้าใจแล้ว อยากรีบจะถ่ายงานให้จบ เบื่อไอ้บีมอะไรนี่เต็มทน โทรหาฉันเหมือนญาติเลย” ฉันก็รับบ้างไม่รับบ้าง อ้างทำงานบ้าง
ในระหว่างที่ฉันกำลังพูดถึงคนที่โทรหาฉันไม่หยุด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ปิงปองเลยอาสาไปดูที่ตาแมว แต่ปิงปองกลับบอกฉันเป็นภาษามือ ว่ามีอะไรสักอย่างโต ๆ มันทำมือเป็นอะไรวะ! ทำมือแบบนั้น คืออะไรวะ คนท้องเหรอ แกไปทำใครท้องไอ้ปิงปอง
“ดอกไม้” ปิงขยับเปิดปากให้มีแค่เสียงลม เป็นคำว่าดอกไม้
ฉันรีบส่ายหน้าทันที เราทำเป็นแกล้งไม่อยู่บ้าน เพื่อที่จะไม่รับของที่มีคนส่งมา แม้คนที่มาส่งจะเป็นนิติบุคคลก็ตาม ฉันโง่เองจริง ๆ ตอนนี้ไอ้พี่บีมอะไรนั่น น่าจะรู้ห้องฉันแล้ว!!!! เราต้องไม่เปิดห้องให้ใครเข้ามา ที่สำคัญตอนนี้ไม่มีอะไรให้กินด้วย เพราะติดอยู่ในห้องเนี่ย
@วันศุกร์
ฉันมาทำงานพร้อมกับปิงปองตามปกติ ช่วงนี้เราขาดการติดต่อกับคุณวิน ไม่รู้เขาหายไปไหน แต่เขาไม่อยู่งานก็ต้องทำต่อ เพื่อเงิน ฉันมาถ่ายธีมภาคเหนือใส่เสื้อผ้าพื้นเมืองสบาย ๆ ตามภาษานักท่องเที่ยวสายชิล แต่ระหว่างที่ฉันกำลังจะเปลี่ยนชุดเตรียมถ่าย พี่บีมก็เดินตามฉันมาถึงห้องเปลี่ยนชุด
“หลบหน้าพี่ทำไมคะ” ไอ้นี่ตื้อไม่เลิก!!!!
“ทำไมต้องหลบคะ แต่ฉันมีงานเล็ก ๆ ให้ทำ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องหลบพี่นี่คะ ฉันทำอะไรผิดฉันถึงต้องหนีพี่ พี่เนี่ย คิดเล็กคิดน้อยจังเลย ถอยหน่อยนะคะ ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ฉันพยายามดันคนที่วุ่นวายเจ๊าะแจ๊ะชีวิต
“ไหนบอกเราจะนัดกันอีกไงคะ พี่ส่งดอกไม้ไปได้รับไหม อย่าเงียบใส่พี่สิคะ เธอกำลังจะทำให้พี่คลั่งแล้ว” ประโยคของคนข้างนอกทำให้ขนลุก มาคลั่งอะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็เริ่มทำงาน เหมือนเดิมไอ้บีมนี่พยายามจะถึงเนื้อถึงตัวฉันอยู่ตลอด จนฉันรู้สึกทนไม่ไหว จับมือปลาหมึกเอาแน่น ทำเอาคนทั้งกองตกใจ ที่ฉันทำนอกบรีฟ มันทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยย ใจเย็นเว้ยมิ้นท์ ใจเย็น ใจเย็น ๆ
“โอเคไหมมินโตะ” พี่ตากล้องเอ่ยถามฉัน
“โอเคค่ะ” ฉันตะโกนกลับไป แม้อยากจะโวยวายแค่ไหน งานก็คืองาน ท่องไว้มันคืองาน
กว่าจะถ่ายกันจบตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยัน 5 ทุ่ม แทบจะไม่ได้พักเพราะต้องทำเวลาให้จบภายในหนึ่งวัน ตอนนี้ฉันทั้งเหนื่อยทั้งล้า กว่าจะเสร็จงานก็เล่นเอาแทบไม่อยากลืมตา ถ้าคิดว่าทำงานในวงการมันง่าย ได้เงินง่าย งานสบายเงินดี คิดผิดมหันต์
“น้องมินจ๋า น้ำค่ะ” ไอ้หมอนี่ไม่เลิกจริงแฮะ พี่บีมส่งขวดน้ำมาให้ฉัน แต่ฉันเคยโดนเขาวางยามาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่กล้าดื่มเลย ฉันได้แต่รับไว้ไม่ให้เสียความตั้งใจ
“คุณบีมครับ ผมต้องพามินกลับแล้ว ถ้ายังไงผมขอตัวนะครับ”
“รีบไปไหนอ่า ให้พี่ไปส่งที่คอนโดเองก็ได้” พี่บีมยังคงตื้อต่อ แต่ฉันไม่เล่นด้วยหรอก เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
“ขอโทษนะคะ พรุ่งนี้ฉันมีงานเช้า” ฉันรีบปฏิเสธแล้วเดินไปกับปิงปองทันที แต่พี่บีมกลับคว้าข้อแขนฉันเอาไว้ แต่เพราะมีคนเดินผ่านมาพี่บีมเลยรีบปล่อย ฉันเลยอาศัยจังหวะนี้หนีไปขึ้นรถทันที ไอ้นี่มันขี้ตื้อจริง ๆ
ฉันกับปิงปองขับรถกลับมาที่คอนโดได้อย่างปลอดภัย โดยไม่แตะน้ำของไอ้พี่บีมเลย ฝาเกียวก็โดนเปิดแล้ว มันจะใส่อะไรมาให้ฉันกินอีกก็ไม่รู้ ปิงปองเลยโยนมันทิ้งขยะทันทีที่ถึงบ้าน
“อย่าแดก ไม่รู้มันใส่อะไรไว้”
“มึงทิ้งทำไม ถ้ามันผสมยาจริง มันอาจจะมีประโยชน์กับคุณวิน เผื่อจะแลกเงินได้สัก 5 หมื่น” ฉันจะทำทุกอย่างให้มันลดหนี้ ให้หมด แล้วฉันจะเป็นไท!!!!!
“ว่าแต่หายไปทั้งคู่เลยนะ มีอะไรรึเปล่า ไม่ติดต่อมาเลย” ไอ้ปิงปองถามขึ้นมา ใช่ หายไปเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า
ฉันเดินเอาน้ำไปใส่ตู้เย็นเอาไว้ โดยแปะโพสอิทเอาไว้ว่าห้ามกินเด็ดขาด ฉันคิดว่า ฉันทำหน้าที่ดีแล้วนะ น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก ต้องการการพักผ่อน แต่พอจะจะถอดเสื้ออาบน้ำ ก็มีสายโทรเข้าจากคนที่หายไปเลย
[ K.Win Called…. ]
สายสนทนา
“ไงคะเจ้านาย ไม่มีงานเหรอคะ หายไปเป็นอาทิตย์เลย”
[ ที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อย ฉันอาจจะต้องสะสางอีกนิดหน่อย แต่ฉันมีงานให้เธอทำ ]
“งานอะไรคะ ได้เงินไหม”
[ หยุดหิวก่อนนังหนู งานนี้สำคัญมาก ทำตามที่ฉันบอก พาปังปอนไปด้วย ]
“มันชื่อปิงปองค่ะ งานอะไรคะ บอกมาได้เลย” เฮ้อเรียกไม่เคยถูก
[ ไปออกกำลังกาย ]
“ฉันอ้วนไปเหรอ ฉันว่าฉันก็หุ่นดีนัมเบอร์วันอยู่น้า”
[ จ้า ดีที่สุด ไอ้คิวจะไปออกกำลังกายทุกวันพุธ วันพุธนี้เตรียมตัวให้ดี แล้วฉันให้ไอ้ตุณบอกสิ่งที่ต้องทำอีกที ครั้งนี้ฉันไปด้วยไม่ได้ ดูแลตัวเองนะ ] เป็นห่วงสินะคะ
“คุณก็เหมือนกันนะ อ้อออ คุณวิน ไอ้ขี้หลีนั่น พยายามจะเอาน้ำมาให้ฉันกิน แต่ฉันไม่ได้กินนะคะ ฉันเก็บกลับมาด้วย เผื่อเจอตัวยาที่ใช้”
[ ขอบใจ ฉลาดมาก ฉันต้องวางแล้ว ]
จบสายสนทนา
ห๊ะ แค่นี้เหรอ ไม่คุยรายละเอียดงานกันหน่อยเหรอ รีบวางจังเลยนะ ทางนั้นยุ่งมากเลยเหรอ งานของคุณวินมันเป็นงานแบบไหนกันนะ ไม่เห็นเขาจะทำงานอะไรเลย
อีกด้าน
ธาวิน Say ::
“ช่วงนี้ฉันเริ่มแก่ คนที่อยากได้ที่ของเรามีมากมาย ฉันไม่รู้หรอกใครมันมาคว่ำรถฉัน ทุกคนก็เกลียดฉันกันทั้งนั้นแหละ อย่าห่วงฉันนักเลย ฉันตาย แกก็ซวย” คนแก่ตัวร้าย ที่ชอบฟังเสียงหัวใจของคนอื่น นิสัยไม่ดีเลย [ ในเรื่องรักวุ่นวาย ยัยซุปตาร์ พ่อของพี่วิน พี่วายุได้ยินเสียงหัวใจของคนที่อยู่รอบข้างค่ะ ]
“ฉันไม่ใช่หมูให้พวกนั้นเคี้ยวหรอกนะ ใครที่จะมาหาเรื่องเรา ฉันจะเป็น ยมทูตไปเอาชีวิตมัน” ผมไม่ได้พูดเล่น ผมทำจริง
“แล้วเรื่องน้องแกล่ะ จะจบได้เมื่อไหร่”
“พ่อเชื่อรึไง ว่าพะพายมันฆ่าตัวตาย!!!!” ผมตะคอกใส่คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
“ไม่เชื่อ พะพายไม่มีทางฆ่าตัวตาย ฉันเชื่อแบบนั้น แต่เราเช็คแล้ว รอยนิ้วมือบนมีดเป็นของน้อง ร่างกายน้องไม่มีการทำร้ายร่างกาย ฉันแก่แล้ว ปีนี้ 60 ขวบแล้วนะโว้ย จะตายห่าแล้ว พอฉันตายคนมันก็จะรุมเข้ามาโถมแก จนเป็นหมา แกต้องรีบกลับมาทำให้พวกมันเห็น ว่าแกสมควร บอกว่า เรื่องน้อง แกจะจบได้เมื่อไหร่” พ่อของผมถามหาคำขาด
“3 เดือน ฉันขอแค่นี้ ฉันจะจัดการพวกมันไปลงหลุมให้หมด ตอนนี้เหมือนจับทางอะไรได้แล้ว” ผมได้กำหมัดแน่น ภาพวันที่น้องสาวผมจมอยู่ในกองเลือดยังฝังอยู่ในหัว ประโยคสุดท้ายที่เธอพูด
“เออ ลองไปสืบจากคนในคลิปสิ น้องแกพูดไว้ก่อนสลบไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงปักเชื่อนักว่าเป็นไอ้คิว ฉันไม่เคยเห็นอะไรผิดปกติ ทำไมไม่ลองไปสืบเอาจากพวกในคลิป น้องแกรักผู้ชายคนนั้นมากนะ เคยขอให้ฉันแบ่งที่ให้มันปลูกบ้านที่นี่ด้านหลังเขาด้วย ฉันยอมให้มันแต่งงานกับพะพาย เพราะมันจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ลูกฉันจะได้ไม่ต้องไปไหนไกล ไม่นึกเลย ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาก่อน” พ่อของผมมีสีหน้าเศร้าลง แต่ผมไม่ไขว้เขวหรอก เพราะมันเพอร์เฟคเกินไปไง ผมเลยเชื่อไม่ลง
“ฉันไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นแหละ รวมถึงตัวพ่อเอง ถ้าเราคิดสวนกันเรื่องนี้ก็อย่าคุยกันให้หมางใจ”
“เฮ้อออออ หัวดื้อเหมือนพ่อมึงเลย เดี๋ยวฉันเรียกไอ้กรกับกัณฑ์มาช่วยงาน ยังไง แกก็อย่าเยอะนะ แกยังดูแลทั้งหมดไม่ได้ เราก็ต้องมีคนที่ไว้ใจให้มากที่สุด ฉันจะให้มาดูเรื่องงานประมูลที่จะมาถึงนี้” พ่อผมพูดถึงบอดี้การ์ดเก่าที่ลาออกไปแต่งงานกับลูกชายที่จะมาช่วยงาน ผมไม่ใช่คนเยอะ ผมเป็นคนง่าย ๆ อยู่แล้ว
ใช่…ที่บ้านผมทำงานประมูลใต้ดินเป็นงานหลัก แล้วงานเก็บกวาดเป็นงานเสริม ส่วนรีสอร์ตนี้นะเหรอ มันคือจุดศูนย์กลางของพวกมาเฟียท้องถิ่น ต่อให้ใครจะมาฆ่ากันตาย ข่มขืน ก็จะไม่ผิดกฏ แต่ห้ามใช้ปืน สิทธิ์ขาดในการถือปืนที่นี่ คือบ้านผมเท่านั้น นี่แหละที่มาของเงินมากมายของผม ความลับอันดำมืด ทำให้ผมไม่อาจจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนได้
“คุณวินครับ ตอนนี้คุณนายยังร้องไห้ไม่หยุดเลยครับ” ตุณรายงานสิ่งที่ผมให้ทำ คือตามดูแม่ผมเอาไว้
“เออ กูจัดการเอง ตอนนี้ไปบอกพ่อมึงหาคนมาเฝ้าหน้าห้องพ่อกูไว้ แล้วไปเร่งหมอด้วย ว่ากูจะเอาพ่อไปดูแลต่อที่บ้าน จะทำยังไงก็ได้ ต่อจะให้จ่ายเงินแค่ไหนกูจะจ่าย เอาตัวพ่อกูกลับบ้านให้ได้ ไม่เกี่ยงวิธี” ตอนนี้ความปลอดภัยของตาแก่มหาภัยของผมสำคัญที่สุด
“ครับ ไหวไหมครับ คุณวินเฝ้าหน้าประตูมา 5 คืนแล้ว กลางวันก็นอนแป๊บเดียว หน้าซีดมากนะครับ”
“ไม่เป็นไร กูไหว” ผมแตะไหล่ของไอ้ตุณ ผมต้องไหว ผมจะต้องไปปลอบแม่ที่ตอนนี้กลัวไปหมดทุกอย่าง แต่พอผมจะก้าวเดิน ภาพตรงหน้ามันก็เบลอ จนผมต้องสลัดหน้าเรียกสติ แล้วก้าวต่อไป แต่ขาที่ก้าวออกไปมันกลับเหมือนตกเหว เพราะมันอ่อนทรุดลงไปพื้น
“คุณวิน!!! พวกมึงมาแบกคุณวินไปที” คนที่วิ่งมารับตัวผมไว้ ทำให้ผมต้องรีบยกมือห้าม
“เงียบ!!! เดี๋ยวแม่มาได้ยิน จะห่วงอีก พอ กูเดินไหว” ผมลุกขึ้นมาแล้วดึงสติ เพื่อจะก้าวเดินต่อไป คนอย่างธาวิน ไม่ต้องมีคนหามหรอก เพราะตอนนี้ผมหามตัวเองได้ เสียฟอร์มตายเลย
อีกด้าน
“นั่นเหรอ ลูกเจ้านายเก่าพ่อ ไม่เห็นลุคคุณชายเจ้าสำราญอย่างที่พ่อบอกเลย ดูเอาเรื่องอยู่นะ” ชายหนุ่มถามคนเป็นพ่อถึงคนที่ตอนนี้กำลังเดินไกลออกไปโดยมีลูกน้องมากมายเดินตาม โดยไม่คำนึงถึงว่ามันเป็นโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
“ก็ประมาณนี้ ลูกไม้หล่นโคนต้นเสมอ ต่อไปแกคงจะได้เจอกับตัวเอง ไปเถอะ ตาแก่เจ้าเล่ห์รอเราอยู่” กรพาลูกเดินเข้าในห้องพักผู้ป่วย
“แม่บอกว่าคนบ้านนี้คบไม่ได้”
“พ่อก็ไม่อยากคบ แต่เชื่อเถอะ ถ้าแกกำลังจะตายต่อให้คนบนโลกใบนี้จะไม่ช่วยแก แต่คนบ้านนี้จะช่วยแก”
====================