ISSARA ROYAL BANGKOK HOTEL. ชั้น 6 Club & Lounge
เธอก็มาที่นี่จนได้หลังจากที่คิดทบทวนมาหลายตลบสุดท้ายความอยากรู้ก็ทำให้เธอดั้นด้นกลับมาที่โรงแรมนี้อีกครั้ง เธอแค่อยากแวะมาถามบาร์เทนเดอร์หนุ่มเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะมาเที่ยวหรือว่าอะไร หญิงสาวเดินตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์บาร์ทันที เสียงเพลงจากการเปิดแผ่นของดีเจดังกระหึ่มซึ่งไม่แตกต่างจากคืนนั้นเท่าไหร่รวมถึงขาแดนซ์ทั้งหลายที่วาดลวดลายอยู่บนแดนซ์ฟลอร์
สายตาคู่สวยจับจ้องไปที่บาร์เทนเดอร์ที่กำลังชงค็อกเทลให้ลูกค้าอยู่ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่คนที่เธอตามหา ร่างบางในชุดเสื้อคอปาดสีดำและกางเกงยีนรัดรูปสีเดียวกันเดินเข้าไปหาบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นทันที
“ ขอโทษค่ะ ขอรบกวนถามอะไรหน่อยนะคะ ”
“ ได้ครับ ”
“ คืนวันเสาร์ที่ผ่านมามีงานปาร์ตี้ของบริษัทจัดที่นี่ค่ะ บาร์เทนเดอร์ที่ทำงานคืนนั้น วันนี้เขามาทำงานหรือเปล่าคะ ”
“ พอจะทราบชื่อไหมครับ วันนั้นมีบาร์เทนเดอร์หลายคน ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงหมายถึงคนไหนครับ ”
“ ผู้ชายคนตัวสูงๆ หน้าออกลูกครึ่งค่ะ”
ชายหนุ่มชะงักนิ่งครู่หนึ่งขณะที่กำลังใช้ความคิด สายตามองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ อ้อ.. มาเฉพาะช่วงคืนวันเสาร์กับวันอาทิตย์ครับ ”
“ เหรอคะ เค้าชื่ออะไรคะ พอจะมีเบอร์ติดต่อหรือเปล่า ”
“ เอ่อ..ชื่อคริสครับ ส่วนเบอร์ติดต่อคงให้ไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย
“ ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณนะคะ ” เมย์ยิ้มตอบเขา ใบหน้าสวยขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างผิดหวัง
อุตส่าห์มาถึงที่นี่เพราะหวังว่าจะได้เจอบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นแต่กลับต้องมาเสียเที่ยว เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งสายตามองเครื่องดื่มอย่างชั่งใจ ไหนๆ เธอก็มาถึงที่นี่แล้วนั่งดื่มสักแก้วก่อนกลับก็คงดี ถือว่าแก้เซ็งที่มาไม่เจอเขา หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะสั่งมาร์การิต้ามาดื่ม
บลูมาร์การิต้าสีสวยวางลงตรงหน้าเธอ หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาจิบขณะที่นั่งปลดปล่อยอารมณ์ให้เพลินเพลินไปกับเสียงเพลงอยู่ครู่หนึ่ง พอหมดแก้วหญิงสาวก็จ่ายเงินและเดินออกจากไนต์คลับไป
เมื่อร่างของหญิงสาวเดินลับสายตาไปแล้ว บาร์เทนเดอร์หนุ่มก็รีบกดมือถือโทรออกทันที
“ มีผู้หญิงมาถามหาครับ ใช่ครับ แต่เธอกลับไปแล้ว ผมบอกไปตามที่สั่งแล้วนะครับ โอเคครับ ”
บริษัทISSARA INC.
เช้านี้ที่บริษัทดูวุ่นวายพอสมควรและหัวข้อประเด็นที่พนักงานทุกคนกล่าวถึงคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนตัวผู้บริหารคนใหม่ของบริษัทซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะคนที่เข้ามารับตำแหน่งก็เป็นลูกชายของเจ้าของบริษัทเองและข่าวลือนี้มีมาสักพักใหญ่ๆตั้งแต่ก่อนสิ้นปี แต่ทุกคนก็ยังรู้สึกเซอร์ไพร์และตื่นเต้นกับข่าวนี้อยู่ดี
อันโดรเมดานั่งมองงานที่กองอยู่บนโต๊ะพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ สายตาชำเลืองมองดูรอบๆห้องที่เพื่อนร่วมงานแต่ละคนกำลังตั้งใจทำงานอยู่
“ เมย์! พี่อลิชาบอกให้เธอไปหาที่ห้องหน่อยนะ ” เมเปิ้ลเดินเข้ามาบอกเธอ
“ อืม ” เมย์พยักหน้าพลางยิ้มตอบ
เธอละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตรงไปที่หน้าห้องกระจกใสที่มีหัวหน้าแผนกสาวมั่นสุดเปรี้ยวนั่งทำงานอยู่ อลิชาตวัดสายตาขึ้นมามองดูหญิงสาวที่เคาะประตูห้องอยู่ หล่อนพยักหน้าให้เธอเดินเข้ามาในห้อง
“ นั่งก่อนสิ ”
“ค่ะ ”
“ เมื่อเช้ามีคำสั่งด่วนลงมาให้เธอย้ายไปช่วยงานแผนกอื่นชั่วคราวนะ”
“ อะไรนะคะ ทำไมต้องให้หนูย้ายแผนกด้วยคะ หนูไม่เข้าใจค่ะ”
“ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มีคำสั่งมาเมื่อเช้านี้เอง ”
อลิชามองหน้างุนงงสงสัยของเด็กสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน เพราะมันเป็นคำสั่งเฉพาะเจาะจงเกินไปและก็ไม่เคยเกิดเรื่องทำนองนี้ในบริษัทมาก่อน ยิ่งกับเด็กสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานก็ดูเป็นเรื่องแปลกประหลาดและดูมีลับลมคมในชอบกลในความรู้สึกของเธอ ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานก็ตามแต่อันโดรเมดาก็ถือเป็นพนักงานที่ฝีมือดี ขยันและกระตือรือร้นในการทำงาน การเสียลูกน้องฝีมือดีไปมันก็เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับหล่อนเหมือนกัน
“ เอ่อ.. ให้หนูไปช่วยงานอะไรคะ ถ้าให้ไปทำงานในสายงานที่ไม่ถนัดหนูกลัวจะมีผลกระทบกับงานที่ทำค่ะ ขอปฏิเสธจะได้ไหมคะ ” เมย์พูดออกไปตามตรง เธอสมัครเข้ามาทำงานตำแหน่งนี้เพราะเป็นงานที่ตรงสายกับที่เรียนมาและคิดว่าจะได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองทำงานอย่างเต็มที่แต่ทำไมกลายมาเป็นแบบนี้ได้
“ ไม่ได้บอกแต่คงปฎิเสธไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะเป็นคำสั่งโดยตรงจากCEOของบริษัท แล้วจะให้เธอเริ่มงานช่วงสิ้นเดือนนี้ส่วนเรื่องรายละเอียดงานจะแจ้งให้เธอทราบอีกที ”
“ พี่ก็เสียดายเธอนะ แต่เห็นบอกว่าชั่วคราวถ้าช่วยงานเสร็จแล้วคงได้ย้ายกลับมาทำงานแผนกเราเหมือนเดิม มีอะไรจะถามอีกไหมจ๊ะ”
“ ไม่มีค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”
“ โอเคจ้ะ ”
ความรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ฉันจบด้านไอทีมาแล้วจะให้ย้ายไปทำงานแผนกอื่นแล้วแผนกที่ให้ไปทำก็เกี่ยวกับอะไรไม่รู้อีก ฉันก็อยากจะมองโลกในแง่ดีอยู่หรอกแต่มันก็ออกจะรู้สึกแย่สำหรับฉันอยู่ดี
ฉันมองหน้าหัวหน้าแผนกที่ตอนนี้ก็มีสีหน้าสงสัยไม่แตกต่างกับฉันนัก ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยนะ เพิ่งจะได้เข้ามาทำงานบริษัทในฝันได้ไม่ถึงห้าเดือน อะไรก็ดีหมดทุกอย่างจะหาบริษัทดีๆแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก ถึงมันจะฝืนใจอยู่มากแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาวะ..ทำงานไม่ตรงสายก็ทำๆไปก่อนถ้ามันไม่ไหวหรือทำไม่ได้จริงๆค่อยขอย้ายกลับมาทำที่แผนกเดิมคงจะได้ คำสั่งก็บอกว่าแค่ชั่วคราวไม่ใช่ตลอดไปซะหน่อย
หญิงสาวเดินคอตกออกมาจากห้องหัวหน้าแผนกด้วยอาการเคร่งเครียด เธอเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานอย่างคนหมดแรง รู้สึกหัวใจห่อเหี่ยวขณะที่ในใจท่องคำว่า “แค่ชั่วคราว ” เป็นรอบที่ร้อยแล้ว
ตอนนี้ทุกคนในแผนกต่างก็รู้เรื่องที่ฉันจะต้องย้ายไปช่วยงานแผนกอื่น อย่าว่าฉันแปลกใจคำสั่งประหลาดนี้เลย แม้แต่พนักงานที่ทำงานที่นี่มานานหลายปียังพากันสงสัยกับคำสั่งนี้กันทั้งนั้น รวมถึงสองเพื่อนสาวในแผนกที่ฉันสนิทมากกว่าคนอื่นๆ
“ มันแปลกๆ พวกเธอไม่คิดว่ามันดูเจาะจงเกินไปหรือเปล่า แล้วฉันก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปทำงานอะไรเลยอะ โอ๊ย!เครียดเจงๆ” เมย์บ่นออกมาเบาๆขณะนั่งมองหน้าเมเปิ้ลและพิมพ์ดาวสลับกัน
“ นั่นสิ ขนาดพี่เชนที่ทำงานแผนกนี้มานานหลายปียังงงๆเลยเพราะไม่เคยมีกรณีแบบนี้มาก่อนอะ” พิมพ์ดาวเอ่ยพูดออกมาเมื่อนึกถึงคำพูดของรุ่นพี่ในแผนก
“ ฉันก็คิดว่ามันน่าแปลกแถมยังน่าสงสัยด้วย ให้ไปทำงานอะไรแผนกไหนก็ไม่บอกอีกนะ เอ่อ..แต่มันก็แค่ชั่วคราวเองน่าเมย์ เดี๋ยวก็ย้ายกลับมาทำงานแผนกเดิม ” เมเปิ้ลพยายามพูดปลอบใจเพื่อนสาวที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดและมีสีหน้าราวกับคนอมทุกข์
“ จะบอกว่าไม่เครียดก็คงไม่ใช่ แต่ช่างมันเถอะ ก็ยังดีกว่าถูกให้ออกจากงานอะนะ ฉันคงคิดถึงเธอสองคนมากอะ ”
“ คิดถึงก็มาหาสิอยู่บริษัทเดียวกันจะเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้ไหม ” พิมพ์ดาวหลุดยิ้มทันทีเมื่อเห็นแววตาราวกับเด็กน้อยของอันโดรเมดา พอเธอทำแล้วช่างไม่เข้ากับหน้าตาและบุคลิกภายนอกของเพื่อนสาวเลย
ฉันสนิทกับทั้งสองคนมากที่สุดในแผนกเพราะเข้ามาทำงานพร้อมกันแถมนิสัยและความคิดก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี พอเริ่มมีเพื่อนร่วมงานดีๆในที่ทำงานก็มีอันต้องได้ย้ายไปทำงานแผนกอื่น และต้องไปเริ่มปรับตัวใหม่อีกซึ่งคำว่าชั่วคราวนี่มันกี่สัปดาห์หรือจะนานเป็นเดือน ฉันก็ยังไม่รู้เลยแล้วจะไม่ให้รู้สึกเครียดได้ยังไงกัน