แต่แพรพลอยไม่ใช่ ครอบครัวเธอทำธุรกิจ เกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ กิจการมั่นคงมาก ฐานะร่ำรวยติดอันดับของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แพรพลอยกับเจรามี่เลยไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ก็เรื่อยๆ ในฐานะคนสนิท รู้จักกันมานานเท่านั้น เจรามี่รู้ดีว่าแพรพลอยนั้นแอบคิดมากกว่าเพื่อน แต่ชายหนุ่มไม่ยี่หระ เขาวางแพรพลอยไว้ในตำแหน่งเพื่อนสนิท ไมมีทางเปลี่ยนสถานะเป็นอื่น จึงไม่ใส่ใจมากนักถ้าแพรพลอยจะมีทีท่าหวงออกหน้า เพราะเจรามี่ถือว่าเขาชัดเจนพอ
แพรพลอยอมยิ้มๆ ผู้ชายมักอีโก้สูงไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ จึงเป็นโอกาสให้เธอได้สร้างกระแสข่าวบ่อยๆ คนทั่วไปต่างภายนอกต่างก็คิดว่าเธอและเจรามี่มีความรู้สึกพิเศษต่อกัน ภาพข่าวที่หลุดออกไปเป็นการสร้างข่าวของตัวแพรพลอยเอง แพรพลอยคิดว่าจะใช้กระแสข่าวเป็นตัวผูกมัดให้เจรามี่ต้องยินยอมทำตามความต้องการของตัวเอง
เจรามี่ไม่นิยมอ่านหนังสือหรือดูทีวี เขาจึงไม่รับรู้ว่าเธอปล่อยข่าวไปไกลแค่ไหน เพียงแค่ถึงจุดๆ หนึ่ง เธอก็แค่ฟูมฟายน้ำตา คร่ำครวญให้เจรามี่สงสารก็พอ
เพียงเท่านั้นเรื่องก็จะเป็นไปตามความต้องการของเธอความสัมพันธ์ชั่วคืนที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวที่แพรพลอยจำขึ้นใจ เจรามี่เร่าร้อนดุดัน เขาดุเดือดเลือดพล่าน ร้อนแรงเสียจนเธอลืมผู้ชายที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยหมดทุกคน ตั้งแต่โตเป็นสาวและเริ่มรู้จัก SEX เจรามี่มาวิน เขากินตำแหน่งเบอร์หนึ่งเลย
แต่นั่นก็คือครั้งเดียวที่ชายตรงหน้าลืมตัว
หลังจากค่ำคืนหวามๆ เจรามี่ระวังตัวจัด เขาไม่เคยเพลี่ยงพล้ำอีกเลย
“เจ อยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่ค่ะ?”
“อืม... ว่าไงนะผมกำลังนึกอะไรเพลินๆ ไม่ทันฟัง”
“แหม... ตัวอยู่กับแพรแต่กับใจลอยไปหาคนอื่น น่าน้อยใจเสียจริงเชียว” แพรพลอยส่งค้อนให้เจรามี่อย่างมีจริต
“ผมไม่ได้คิดถึงใครเลยครับ กำลังเพลินกับกาแฟต่างหาก” เจรามี่ตอบยิ้มๆ
“แพรถามว่าเจอยู่เมืองไทยอีกนานไหม แพรจะต้องเดินทางไปยุโรปพรุ่งนี้ตอนเที่ยงคืน เกรงว่าจะไม่มีเวลาเทคแคร์เจน่ะค่ะ”
“เชิญแพรตามสบายเลยครับ ผมมาพักผ่อนนะไม่ได้มาแข่งรถ แพรไม่ต้องตามเทคแคร์เหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ได้ แพรก็น่าจะรู้ว่าผมหยุดพักการแข่งไว้จนกว่าจะจัดตารางงานให้ลงตัวได้”
“เจก็พูดเหมือนกับว่าเราสองคนเป็นคนอื่นคนไกล เจมาเที่ยวเมืองไทยทั้งที แพรก็อยากจะพาเที่ยว ในฐานะเจ้าของบ้านค่ะ”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ งานแพรยุ่งจนแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้ ผมไปเที่ยวเงียบๆ คนเดียวก็ได้ไม่เป็นไรหรอก”
“อย่างเจนี่นะคะ จะไปเที่ยวคนเดียวโดยไม่มีสาวๆ ติดไปด้วย”
“ตั้งแต่เลิกแข่งไม่ค่อยมีสาวๆ ตามกรี๊ดผมแล้วล่ะ”
“แต่ก็ยังเหลือแพรอยู่ทั้งคนนะคะ แพรพร้อมจะบริการเจเสมอถ้าเจต้องการ” แพรพลอยพูดยิ้มๆ ส่งสายตาหวานฉ่ำแฝงความต้องการล้นปริ่ม
“ขอบคุณแพรมากครับ ผมอยากพักผ่อนเงียบๆ แค่นั้น”
“เพื่อเจ... แพรว่างตลอด ขอแค่เจเอ่ยปากมาแค่นั้นค่ะ” แพรพลอยมองเจรามี่อย่างมีความหมาย
“ผมเกรงใจครับ เดี๋ยวบรรดาแฟนคลับแพรมารุมอัดผมเละ ใครจะมาช่วยผมล่ะ มาครั้งนี้ไม่ได้เอาบอดี้การ์ดติดมาด้วยสิ”
“เจก็พูดเกินไป แฟนคงแฟนคลับอะไร แพรไม่เคยมีเสียหน่อย”
“ผมพูดจริงต่างหาก... เห็นมีหนุ่มๆ คอยเดินตามเทคแคร์แพรตลอด”
“เพื่อนร่วมงานค่ะ หรือไม่ก็เพื่อนปะป๊าค่ะ”
“ครับ... เพื่อนก็เพื่อน”
“คืนนี้เจว่างรึเปล่าล่ะคะ มีปาร์ตี้... ถ้าเจสนใจลองแวะไปก็ได้ค่ะ โทร.หาแพรก่อนก็แล้วกัน” แพรพลอยเอ่ยชวนชายหนุ่ม เธอหวังใช้ปาร์ตี้สานสัมพันธ์กับเจรามี่อีกครั้ง
“ขอคิดดูก่อนนะครับ... เพราะมาครั้งนี้ผมอยากพักสบายๆ มากกว่า”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ครับแพร” ชายหนุ่มเอ่ยตอบเสียงเข้ม แพรพลอยจึงเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อไม่ให้เจรามี่รู้สึกไม่พอใจ
“งั้นแพรขอตัวนะคะ มีประชุมผู้ถือหุ้นตอนบ่าย แพรต้องเตรียมเอกสารอีกมาก แต่อยากทานเค้กเจ้าประจำ เลขาฯ แพรก็งานยุ่งแพรก็เลยแวะมาเอง อย่าลืมนะคะเจ ถ้าจะไปปาร์ตี้โทร. หาแพรๆ จะออกมารับ งานนี้จัดเต็มสนุกแน่ๆ ค่ะ” แพรพลอยเกริ่นให้ฟัง เพื่อกระตุ้นเจรามี่ งานสนุกๆ จัดเต็ม เฉพาะคนมีเครดิตเท่านั้น คนนอกจะไม่มีวันได้เข้าไป เมื่อเป็นที่เฉพาะ สำหรับคนคอเดียวกันแค่นั้น
“ครับ...”
เจรามี่นึกถึงปาร์ตี้ของแพรพลอยครั้งก่อน เหล่าคุณหนูไฮโซลูกหลานคนมีสตางค์ ที่ไม่อยากเปิดเผยเรื่องลับๆ ต่ำตมของตัวเองให้บุคคลภายนอกรับรู้ เป็นแหล่งส่องสุ่มกับความมัวเมา แลกเปลี่ยนคู่กันเป็นว่าเล่น และปกปิดเป็นความลับตามข้อตกลง เจรามี่เคยแวะเข้าไปหลายๆ ครั้ง ทุกๆ ครั้งเขาดื่มเหล้าเคล้าผู้หญิงที่มีมากมาย พวกหล่อนพร้อมจะมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้ชายทุกคน โดยไม่เรียกร้องผลประโยชน์อะไรเลย มันเป็นสถานที่ส่วนตัวมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ มั่วสุมกันได้เต็มที่โดยไม่ต้องอายสายตาใคร
ครั้งแรกที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับแพรพลอยก็คืองานเลี้ยงแบบนั้นแหละ เจรามี่สนุกสุดเหวี่ยงจนลืมโลก แต่มันก็เป็นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเองที่เขาลืมตัว หลังจากครั้งนั้นเจรามี่ก็ระวังตัว ไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรที่แพรพลอยส่งให้ เขากลัวว่าแพรพลอยจะแอบใส่ ‘ยา’ ให้เขากิน ครั้งนั้นเขาขาดสติและหมดสภาพความเป็นคน สามารถเกลือกกลั้วกับผู้หญิงทุกคนได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ความสัมพันธ์แบบนั้นเจรามี่นึกรังเกียจ มันไม่ใช่สิ่งสวยงาม แต่มันคือความใคร่ ต่างจากสัตว์ตรงที่เขาพูดได้
นอกนั้นอเน็จอนาจและน่ารังเกียจเกินจะบรรยาย มันไม่ใช่สิ่งสวยงาม มันเป็นความจอมปลอมที่ชายหนุ่มอยากจะลืม เขาถูกวางยาครั้งนั้น เจรามี่ถูกรุมล้อมจากผู้หญิงมากมาย และปลดปล่อยอารมณ์โลดโผนจนชื่อเขาดังกระฉ่อน มีคนเรียกร้องให้เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มปฏิเสธไป เขาไม่ได้มัวเมา หลงระเริงไปกับคำเยินยอ
เขารู้สึกสังเวชมากกว่า หลังแพรพลอยพยายามย้อนความหลังให้ฟัง
นิสาเก็บของกลับบ้านเมื่อถึงเวลาเลิกงานด้วยความรู้สึกเซ็งๆ เจรามี่หายหน้าไปตั้งแต่โดนสาวไฮโซชื่อกระฉ่อนคนนั้นลากตัวไป นิสายกนาฬิกาขอมือขึ้นมองดูเวลา มีเวลาเตรียมตัวอีกนิดหน่อยก่อนจะถึงเวลานัดหมายกับหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น ก่อนอื่นเธอคงต้องกลับบ้านไปหาบิดา มารดาก่อน พวกเขาเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด
แล้วค่อยแต่งตัวออกไปตามนัดของลูกค้า เธอถอนหายใจแรงๆ วันนี้รู้สึกเนือยๆ และแอบตำหนิตัวเองในใจ เธอคงไม่ได้เสียเชลฟ์เพียงเพราะชายผู้นั้นไปกับหญิงอื่นหรอกนะ
“ไฮโซชอบมั่วนั่นมีอะไรดีนะ?”
บ้านสฤษเดชา...
“แม่จ๋ามีของกินอะไรมาฝากนิสาบ้างคะ?”
นิสาตะโกนถามมารดา เธอรีบถอดรองเท้าวางไว้ยังที่เก็บ
เพียงใจชะโงกหน้ามองบุตรสาวผ่านหน้าต่างห้องครัว นางส่ายหน้าเบาๆ ค่อนว่านิสาในใจ ท่านอบรมสองสาวมาพร้อมกัน วราพิชชามีกริยาเรียบร้อย ผิดกับบุตรสาวของท่าน นิสาแก่นแก้วผิดกับเพื่อนของเธอเหลือเกิน เพียงใจและสามารถเป็นเพียงครูชั้นประถม สอนอยู่ในโรงเรียนประถมเล็กๆ ในย่านนี้ ทั้งคู่จึงได้มีโอกาสรู้จักและสนิทสนมกับ ผอ.ชลธิชาเป็นอย่างดี จึงไม่นึกห้ามเมื่อวราพิชชากับนิสาจะสนิทสนมเป็นเพื่อนกัน เพราะไม่ได้นึกรังเกียจเด็กกำพร้าที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ ขอเพียงแค่เป็นคนดีในสังคมก็พอ เด็กสองคนจึงเติบโตขึ้นมาภายในรั้วโรงเรียนเดียวกัน ก่อนจะแยกย้ายไปเรียนเมื่อจบมัธยมปลาย และต่อในมหาวิทยาลัยตามที่ตัวเองถนัด แต่ก็ยังเป็นเพื่อนรักกันจวบจนถึงทุกวันนี้
“เบาๆ ลูกจะตะโกนทำไมแม่อยู่ตรงนี้เอง กระโดกกระแดกแบบนี้ไงถึงหาแฟนไม่ได้ซักที” เพียงใจบ่นนิสาพร้อมกับยิ้ม
“ที่นิสาไม่มีแฟน เพราะนิสาอยากจะอยู่กับพ่อ แม่นานหรอกค่ะ”
“ขอให้มันจริงเถอะจ้า แม่กับพ่อไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน ได้ข่าวว่าพาเพื่อน ‘ผู้ชาย’ มาเที่ยวบ้านรึไงจ้ะลูก”
“แม่เพิ่งมาถึงเองนะคะ สายข่าวแม่นี่หูตาไวมากเลยค่ะ”
“ไม่ต้องมาโยกโย้ ตอบแม่มาก่อน เพื่อนที่มาน่ะสนิทกันขนาดไหน ถึงขนาดต้องปีนรั้วเข้ามาหาเราเลยนะ”