หนุ่มเจ้าอารมณ์

1343 Words
“อ่ะ ชีทสรุป” ฉันยื่นชีทสรุปให้ยัยสองคนเพื่อนฉันที่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ เพราะอีก 2 วันจะมีสอบ “อีเอย เป็นพระคุณอย่างสูง ถ้าไม่มีมึงพวกกูจะทำยังไงวะ” มีนยกมือขึ้นเหนือหัวกับคำพูดเว่อร์วังของมัน “เออ 4 ปีมาแล้วที่พวกกูพึ่งชีทจากมึง บางทีพวกกูก็รู้สึกผิดนะ” ชมพู่พูดหน้านิ่งๆ แต่กวนตีน “รู้สึกผิดก็เอาคืนมา” ฉันเอื้อมมือไปคว้าชีทจากมือไอ้มีน แต่มันยกขึ้นหนี “ได้ไงอ่ะ ให้แล้วให้เลยสิ” มันโวยวาย “ว่าแต่มึงโอเคมั้ยอีเอย หน้าดูเหนื่อยๆ” พวกมันถามด้วยความสงสัยกับใบหน้าอิดโรยของฉัน “อืม โอเคอยู่ แต่แทบไม่ค่อยได้นอนเลย ไอ้เด็กเวรนั่นชอบมาค้า” ง ฉันตอบเหนื่อยๆ แล้วทำสีหน้าเหนื่อยคูณสองกับเพื่อน “แหม เด็กน้อยมันคึกทั้งคืนมึงจะบอกว่างั้น” ภายในใจอยากจะบอกว่า เออ ยาวไปถึงร้อยเอ็ด แต่ก็ทำได้แค่หลบตาพวกมัน ช่วงนี้เจ้าหมอนั่นมานอนห้องฉันทุกคืนเลย แถมยังไม่พอเหมือนแทบจะมาสิงอยู่กับฉัน ขนาดในมหาลัย หันไปทางไหนหมอนี่ก็มองฉันอยู่ตลอด แล้วก็นะออร่าเรียกร้องความสนใจของเด็กน้อยนั่น ฉันหยิบโทรศัพท์แล้วไลน์หา ⇠ ช่วยทำอะไรกับออร่าเรียกร้องความสนใจนั่นหน่อยเถอะ จ้องขนาดนี้เข้ามากินเลยมั้ย ⇒ กินได้ด้วยหรอ งั้นไม่เกรงในนะครับ ⇠ บ้า พูดเล่นมั้ย ⇒ ห้ามพูดเล่นนะ แค่พี่พูดไอ้หนูของเหมก็แข็งรอแล้ว ⇠ บ้า ทะลึ่ง ⇒ เย็นนี้เจอกันครับ ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่ส่งสติ๊กเกอร์กลับไป . . ตอนเย็น ฉันกำลังเดินเพื่อที่จะออกไปลานจอดรถของคณะ แต่มือใหญ่ก็คว้าข้อมือของฉันไว้ก่อน “เอย” สีหน้าราบเรียบและแววตาแน่วแน่ “อาจารย์ตะวัน อยู่ที่มหาลัยไม่ควรเรียกกันแบบนี้นะคะ วางตัวให้สมกับเป็นอาจารย์หน่อยค่ะ” “พี่ไม่ได้สนใจ” เขายังทำท่าทีนิ่งเฉยเหมือนเดิม “เออไม่ได้สนใจแล้วมาเป็นอาจารย์ทำไมว่ะ” ฉันเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางกวนโมโหนั่น “ให้พูดหรอว่าที่มาอยู่ตรงนี้เพราะใคร” เขายักคิ้วข้างเดียวกวนๆ “เหอะ ไอ้คนเห็นแก่ตัว คิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มา เห็นเอยเป็นของเล่นตลอด” “เอย มาคุยกันดีๆ สักครั้งเถอะนะ ไปเดทกัน” เขายังไม่หยุดความกระตือรือร้นทั้งๆ ที่เจอคำพูดแรงๆ ต้องแรงกว่านี้ “ไปตายซะพี่ซัน” ประมาณนี้แหละดี “อ๊าวซ์ เจ็บจี๊ด” ไอ้ท่ากุมหัวใจ เล่นหน้าตาทะเล้นนั่นอย่าจะกระชากเนกไทลงมาแล้วเขกหัวแรงๆ “คำตอบเอยยังเหมือนเดิมค่ะพี่ซัน พี่ไม่ได้อยู่ในใจเอยแล้ว” “งั้นพี่จะยัดตัวเองลงไปใหม่” เขายักคิ้วกวนโอ๊ยปั่นประสาทมากๆ เฮ้อออ ฉันถอนหายใจมองหน้าเขาอย่างเอือมระอา “คืนนี้เอยทำงานมั้ย” อยู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา “พี่รู้เรื่องงานของเอยได้ไง” ฉันตามอย่างตื่นตระหนก “พี่ก็แอบสืบมาสิ คนที่พี่รักทำอะไรถ้าพี่จะอยากรู้มันก็ไม่ผิดมั้ย” เขายังทำหน้าตายตอบแบบไม่รู้สึกรู้สา . ฉันก็เผลอลืมตัวไปต่อปากต่อคำเขาตั้งนาน จนร่างบางหน้าตาคุ้นหน้ากับเพื่อนเธอ 2-3 คนเดินมา “อุ้ยตายแล้ว รุ่นพี่เอิงเอย มาสวีตพลอดรักกับอาจารย์ของคณะ” นี่มันยัยน้ำหวานแฟนของเจ้าสี่ตานี่ แฟนเก่ามั้งนะ “ตายแล้วมึง ที่เขาลือกันว่ากร้านโลก เจนสนามนี่คงจะจริง ขนาดอาจารย์ใหม่ยังไม่เว้น” เพื่อนหนึ่งคนของเธอพูดขึ้น “อาจารย์ตะวันคะ ระวังเจอปากถ้ำกลวงโบ๋แบบรถสิบล้อเข้าไปกลับลำได้นะคะ” เพื่อนอีกคนเธอก็ค่อนขอดมาไม่หยุด แล้วพวกมันก็ยืนหัวเราะกันเหมือนนางร้ายในละคร บัดซบชะมัด เจ็บจี๊ดเลยแฮะ ถึงแม้จะชินกับคำพูดนินทาลับหลังแต่เจอต่อหน้าแบบนี้ แถมไม่พอยังเป็นแฟนเก่าหมอนั่นเจ็บจี๊ดคูณสองเลย อึก… ต้องตอบกลับแรงๆ ให้สมกับเป็นไอ้เอย ตอนนี้ฉันกำลังสั่นมาก และคิดหาคำพูดตอบกลับคนพวกนี้ ฉันกำลังจะอ้าปาก “อาจารย์ว่า จะกลวงหรือไม่กลวงมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าตัวเขานะครับ ถ้าเขาไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน อาจารย์ว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” “แต่ว่า…จะว่ายังไงดีล่ะ จะให้พูดก็จะดูไม่ดีมั้ย” เอาทำท่าลูบคางตัวเองแล้วเพ่งมองพวกนั้นอย่างพิจารณา “แต่ไหนๆ พวกคุณก็เปิดประเด็นมาแล้ว เอางี้นะครับ อาจารย์ว่า จะกลวงหรือจะไม่กลวงเขาก็ไม่ได้ไปกลวงบนหม้อหุงข้าวบ้านคุณ เพราะงั้นกินเผือกแต่พอประมาณนะครับ กินมากมันจะติดคอเอา” เขาพูดได้หน้าตายสุดๆ หลังจากหน้าตายนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้ามายกยิ้มให้คนพวกนั้น ร้ายกาจมาก เด็กพวกนั้นได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วเดินออกไปเลย “คิกๆ สกิวปากร้ายกาจมากเลยนะคะ นี่ไปเรียน ป.โทเมืองนอก หรือไปเรียนส่งเสริมการพูดมาคะ ตลกชิบ” ฉันขำจนท้องแข็งเมื่อเห็นพี่ซันตอกกลับยัยพวกนั้นแบบเจ็บจี๊ด ปกติหมอนี่ไม่ใช่คนฝีปากกล้านะ “อยากมาว่าเอยก่อนทำไมล่ะ” หมอนี่ทำท่าทางแบบนี้เป็นด้วยแฮะ “แล้วพี่คิดว่าเอยเป็นอย่างที่เขาว่ามั้ย” ฉันถามเขาออกมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่แค่อยากถาม “เอย พี่รู้จักเอยดีมากพอ เพราะฉะนั้น…” เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาลูบที่แก้มฉันแล้วค่อยๆ ใช้นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ยาวถึงเอวขึ้นไปทัดไว้ที่หลังใบหู “เอย…คืนนี้” ฉันช้อนสายตาแหงนมองหน้าเขาแล้วกะพริบตาถี่ๆ เขายังพูดไม่จบ ร่างใหญ่ผู้เป็นเจ้าของความสูงกว่า 185 ซม.เดินเข้ามาหาฉันอย่างเกรี้ยวกราดหลังจากที่เขาเห็นฉากนี้ “พี่เอย เหมรอพี่อยู่ที่รถตั้งนาน ก็คิดว่าทำไมไม่มา ที่แท้ก็มาทำแบบนี้หรอ” หมอนี่สีหน้าตอนโกรธน่ากลัวพอดูแฮะ “เหม ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ฉันพยายามอธิบายให้คนตัวโตขี้โมโหฟัง ตอนนี้เขาจับแขนฉันแล้วบีบแน่นมาก คิกๆ พี่ซันแค่นขำออกมาซะงั้น “ขำอะไรวะไอ้อาจารย์” เหมันต์โมโหจนเก็บอาการไม่อยู่ฟาดงวงฟาดงาใส่ทุกคนไปทั่ว “ขำเด็กน้อยอ่ะ นี่เอย สเป็กเธอเป็นหนุ่มเจ้าอารมณ์แบบนี้หรอ นี่จะได้แฟนหรือได้ลูกละนั่น” “พี่ซัน แรงเกินไปนะคะ ตรงนี้เอยว่าไม่เหมาะ” ฉันดุเขาที่กำลังมองพวกเราด้วยสายตาเหยียด “พี่จะคอยดูว่าเอยจะทนอารมณ์เด็กน้อยของหมอนี่ได้นานเท่าไหร่” เขาพูดแล้วยิ้มเยาะให้เหมันต์ “ไอ้…” เหมันต์ที่อารมณ์ขึ้นสุดกำลังจะเอ่ยคำพูด “เออแล้วก็นะ กาแฟที่เอยชอบกินจริงๆ มันเป็นกาแฟลาเต้ไม่ใช่อเมริกาโน่อย่างที่นายซื้อมาให้ทุกวัน ถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่รู้นายก็มาเป็นคู่แข่งของผมไม่ได้หรอกไอ้เด็กน้อย” พระเจ้า ก่อนไปหมอนี่ยังทิ้งบอมบ์ไว้อีก เหมันต์มองมาที่ฉันอย่างคาดคั้นแล้วลากมาแขนฉันขึ้นรถ ฉันได้แต่ถอนหายใจรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า . . งื้ออ ไอ้ต้าววว พี่ซันก็กวนโอ๊ยไปอีก ไอ้ต้าวแว่นก็หึงไปอีก . . ไว้มาต่อให้นะคะ คอมเม้นมาได้นะคะเราไม่กัด ซาชิกิวาราชิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD