“ทำไมพี่เอยไม่บอกเหมเรื่องกาแฟ”
ชายหนุ่มมองมาอย่างคาดคั้นในขณะที่เขากำลังขับรถโดยมีสาวร่างบาง นมบึ้มนั่งมาข้างๆ
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่กินได้ จะกาแฟอะไรพี่ก็กินได้หมด”
เอาจริงๆ คือไม่อยากจะให้เขาเสียน้ำใจก็อย่างที่บอกชีวิตฉันไม่ค่อยมาใครมาทำเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ให้ แค่เขาซื้อมาให้ก็ดีแล้ว ฉันเลยไม่อยากเรื่องมาก
สีหน้าเจ็บใจและเจ็บปวดของเขามองแล้วก็จี๊ดในอกเหมือนกันแฮะ แล้วทำไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วยแค่เรื่องกาแฟ
“เหม อย่าคิดมากสิ มันก็แค่กาแฟมั้ย” ฉันเริ่มปลอบใจเขา
“มันก็แค่กาแฟแต่มันทำให้เหมรู้สึกว่าเหมไม่รู้เรื่องอะไรของพี่เลย กลายเป็นเหมเป็นคนไม่ใส่ใจ” เขาเริ่มมีท่าทีกระเง้ากระงอดงอแงกลับมาเป็นเด็กเหมือนเดิม
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่งอนนะคะ ต่อไปถ้าพี่ชอบหรือไม่ชอบอะไรพี่จะบอกนะคะ หายงอนนะเด็กดี” พระเจ้าหวานเลี่ยนจนตัวเอง งง แต่ก็ต้องง้อเพราะเด็กนี่ดูงอนมากๆ
เขาผละมือจากพวงมาลัยรถแล้วคว้ามือฉันไปทาบที่แก้มขาวๆ ของเขา
“พี่เอยจะทำให้เหมเป็นบ้าแล้วนะรู้มั้ย” ท่าทีกระเง้ากระงอดออดอ้อน แต่สายตาจริงจังมองมาแวบหนึ่งก่อนที่จะกลับไปมองถนน
เหมก็ทำให้พี่เป็นบ้าเหมือนกันนั่นแหละ ฉันได้แต่คิดในใจแล้วหอมไปที่แก้มเขาฟอดใหญ่เพื่อปลอบประโลม
“คอยดูนะ เย็นนี้จะเอาจนไม่ให้กินข้าวเย็นเลย” เขาพูดด้วยท่าทีหายงอนและเริ่มใจเย็นลง
“เหม!!” ฉันดุเขาเพราะความอาย
เป็นการปรับความเข้าใจแบบโดนขู่
.
.
ที่ผับ
วันนี้เหมันต์ไม่ได้มาเฝ้าเพราะติดธุระที่บ้าน แต่บอกว่าจะมารับตอนกลับ ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนทุกครั้งถ้าไม่ใช่เพราะหมอนี่ เขามากับเพื่อน 2-3 คนเพื่อแล้วยืนอยู่ที่โต๊ะทางลงเวทีของฉัน
“เอย” เขาเรียกฉันแล้วยิ้ม
“พี่ซันมาได้ไง” ฉันสงสัยจริงๆ นะ เขาไม่ใช่คนที่จะมาอยู่สถานที่แบบนี้ ตอนนี้เห็นหน้าเขาแล้วฉันรู้สึกลำบากใจซะแล้วสิ
“ทำไม มาไม่ได้หรอ ไม่ได้มีป้ายห้ามคนชื่อซันเข้าสักหน่อย” หมอนี่เมาแล้วอารมณ์ขันงั้นหรอ ดูหน้าแดงๆ
“ค่ะ งั้นขอให้มีความสุขในราตรีนี้นะคะ เอยขอตัวก่อน” ฉันเหนื่อยและอยากพัก อยากสูบบุหรี่ด้วยสิ
“แหม ใจร้ายกับแขกจังเลยนะครับคุณดีเจสาวหุ่นยั่ว” หมอนี่เมาแล้วปากมากจริงๆ ด้วย
“พี่ซันเมามากแล้วเอยว่า…” แต่มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของฉันช่างเถอะ ฉันพูดยังไม่ทันจบแล้วกำลังจะเดินหนี
“เอย” เขาดึงแขนฉันจนเซเข้าไปอยู่ที่แผงอกเขา ฉันช้อนตาขึ้นมองแล้วกะพริบตา 2-3 ครั้ง
เมื่อฉันรู้ว่าต่อไปเขาจะทำอะไรต่อฉันก็รีบผละออกทันที
“เอยต้องไปเคลียร์ชั่วโมงค่ะ ขอตัวนะคะ” ไม่ได้นะเอิงเอย เธอไม่ควรเปิดช่องว่างแบบนี้
ต้องขีดเส้นชัดๆ ฉันคิดในใจแล้วเดินจากมา
.
.
ควันบุหรี่ลอยอึ้งอยู่บนอากาศยามค่ำคืนที่โซนสูบบุหรี่นอกผับ หนุ่มๆ ที่มาสูบบุหรี่ยังจ้องฉันตาเป็นมันเป็นเรื่องปกติ การแต่งการยั่วยวนของฉันยั่วน้ำลายหนุ่มน้อยใหญ่ไม่น้อย
แถมลีลาที่โยกส่ายบนเวทีก็ถึงอกถึงใจ ฉันชินกับสายตาแทะโลมพวกนี้หมดแล้ว กว่า 3 ปีที่ทำงานมา ฉันรอดมาได้ทุกคืนก็ถือว่าโคตรเก่ง หลักๆ คือห้ามเมา ที่สำคัญคือต้องรีบกลับคอนโดเพื่อไปพักผ่อน จึงไม่สามารถอยู่คุยกับใครหน้าไหนได้เลย
ร่างใหญ่ที่ท่าทางเมามายในดวงตาชั้นเดียวเดินมาหาฉันขณะที่ฉันกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ และนิ้วก็คีบบุหรี่อยู่ เขามองมาแบบตกใจเล็กน้อย เหมือนเขาจะไม่รู้ว่าฉันสูบ
“เอยสูบบุหรี่ด้วยหรอ เมื่อไหร่” อยู่ดีๆ เขาก็ถามขึ้นมาเมื่อมาถึงระยะที่พวกเราได้ยินเสียงกัน
“อืม ตอนปี 1 อ่ะ” ฉันตอบเขาไปแบบไม่คิดอะไร ก็ตอบความจริงอ่ะ
“เป็นเพราะพี่ใช่มั้ย รอยสักพวกนี้ก็ด้วย” ไอ้หมอนี่เกลียดขี้หน้าชิบมาสำคัญตัวอะไรเวลานี้ แต่ก็ไม่ผิดจากที่เขาพูด เพราะฉันอกหักจากเขาก็เลยหลุดโลกไปอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ดึงสติตัวเองกลับมาได้
“ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วค่ะ อย่างที่บอก เอยไม่ได้มีความ… อุ๊บ อื้อ” หมอนี่ไม่รอให้ฉันพูดจบแล้วเข้ามาจูบปากฉันซะดื้อๆ
“เฮ้ย ทำไรวะ” ร่างใหญ่อีกคนกระชากไหล่เขาออกไปทำให้ปากเราผละออกจากกันทั้งอย่างนั้น
“เหมันต์” ฉันเรียกเขาด้วยท่าทีตื่นตระหนก มาตอนไหนละนั่นแล้วก็ชอบมาจังหวะแบบนี้ด้วย
“เออ เหมันต์เอง เหมันต์ผัวพี่เอิงไง จำได้หรือยัง” เขาตะคอกใส่หน้าฉันด้วยท่าทีเกรี้ยวกราดและหันไปมองหน้าพี่ซันตาแข็ง
“ใจเย็นไอ้เด็กน้อย พวกเราแค่ทบทวนความหลังกันนิดๆ หน่อยๆ” ไอ้พี่ซันกวนตีนหนักมาก ไม่ใช่นิสัยของเขาเลยทำไมกันนะหรือเพราะเมา
ปั๊ก เสียงหมัดกระทบหน้าขาวๆ ของอาจารย์หนุ่มอย่างจัง
ปึ๊ก เสียงหมัดสวนกลับมารุนแรงพอๆ กับตอนที่ได้รับ
พวกเขาเซกันไปคนละทาง และกำลังจะเดินเข้ามาหากันอีกครั้ง จนฉันต้องใช้ร่างบาง วิ่งเข้าไปอยู่กึ่งกลางระหว่างพวกเขา
“หยุดเลยทั้งคู่เลย” ฉันมองหน้าเหมันต์สลับกับพี่ซัน จนทั้งสองลดราวาศอกลง
“มึงอย่ามายุ่งกับเมียกูไอ้อาจารย์งี่เง่า” เหมันต์ยังไม่หยุดระรานผู้ที่มีอายุมากกว่าและเป็นถึงอาจารย์ประจำคณะของตน
“เหอะ เมียมึงหรอ มึงยังให้สถานะแฟนกับเธอไม่ได้ยังเสือกจะมาเรียกเมีย แค่เอากันเขาไม่เรียกเมียหรอกไอ้เด็กน้อย แล้วถึงเป็นเมียมึงกูก็จะแย่งมา” เขาโมโหเลือดขึ้นหน้าแล้วใช้หลังมือเช็ดมายังปากที่มีเลือดออกซิบๆ
“ไอ้เหี้ย” เหมันต์กำลังจะเดินปรี่เขาไปอีกรอบแต่ฉันดึงแขนเขาไว้ คนเริ่มมองเยอะ ฉันรู้สึกอายมาก
“เหมกลับกันเถอะ ฉันดึงแขนเขาออกมาจากสถารการณืงี่เง่านั่น” ไอ้พวกผู้ชายนี่ทำอะไรตามใจตัวเองจนถึงที่สุดโดยไม่สนสายตาใครเลยจริงๆ สินะ เฮ้อออ
ฉันถอนหายใจใส่เขาเมื่อลากเขามาจนถึงรถของเขาเอง วันนี้ฉันนั่งแท็กซี่มาเพราะรู้ว่าเขาจะมารับ
“ขึ้นรถเถอะ กลับกันเหม” ฉันอยากให้เขาหน้าบึ้งตึงนั่นใจเย็นลงบ้างสักนิดก็ยังดี
เขายอมขึ้นรถแต่โดยดี และขับออกมาด้วยความเร็วแสง
เมื่อถึงข้างทางเปลี่ยว เหมันต์ก็จอดรถแล้วมองหน้าฉัน
“เหมจะทำโทษพี่ ที่พี่ไปจูบกับคนอื่น”
พระเจ้า ฉันมองหน้าเขาแล้วกลืนน้ำลายลงคอ
อึก…เหม
.
.
ฉาก NC ในรถต้องมาแล้วแหละ
ก็ทำให้ไอ้ต้าวหึงซะขนาดนี้พี่เอย
.
.
ซาชิกิวาราชิ
ไรท์โม