EP.6 งานประมูลเครื่องเพชร
ณ งานประมูลเครื่องเพชร
งานประมูลเครื่องเพชรในครั้งนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพราะเป็นงานฉลองครบรอบ35ปีของแบรนด์แถมวันนี้เหมือนจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่น่าจะเป็นหลานชายของเพื่อนอากงที่จะมาเป็นคนดูแลกิจการต่อ ผู้คนมากมายที่เข้ามาร่วมงานทั้งเศรษฐีเก่าและเศรษฐีใหม่ ดารา นางแบบ เซเลบมากมาย เป้าหมายที่แท้จริงของเหล่าบรรดาผู้ร่วมงานก็เพื่อจะมาเลือกคู่ให้กับลูกหลานของตัวเองและนั้นก็รวมถึงอากงและป๊าของฉันด้วย
ฉันมาร่วมงานด้วยชุดราตรีสายเดี่ยวสีดำยาวแหวกข้าง ชุดรัดรูปอวดเอวคอดกิ่ว ด้านหน้าเว้าลึกอวดอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นชุดออกอย่างพอดี ด้านหลังเว้าลึกเกือบถึงเอวอวดผิวเนียนขาวออร่าและปล่อยผมยาวสลวยสีน้ำตาลดัดลอนตรงปลายเพิ่มความเซ็กซี่ที่เย้ายวน เครื่องประดับก็เป็นของแบรนด์เจ้าของงานที่อากงประมูลไว้ครั้งก่อนมอบให้ฉันและยัยวาคนละชุด
ส่วนยัยวามาด้วยชุดเดรสสั้นเกาะอกสีขาวอวดเรียวขายาวและหน้าอกเกินตัวได้กลิ่นอายของความเซ็กซี่น่ารัก รถของตระกูลอุดมเดชธิวัฒน์แล่นมาจอดที่หน้างานพอประตูรถเปิดคนแรกที่ก้าวเท้าลงจากรถก็คืออากงตามด้วยป๊า ยัยวาและฉัน เสียงกดชัตเตอร์ของช่างภาพและนักข่าวรัวๆเรียกเสียงฮือฮาจากคนที่มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี ตระกูลอุดมเดชธิวัฒน์ถือว่าเป็นตระกูลดังที่มีชายหนุ่มมากมายต่างหมายป้องที่จะมาสานสัมพันธ์
“หลานคุณทัตเทพสวยทั้งคู่เลย”
“อีกคนหลานสาวคนเล็กที่มีข่าวว่าพึ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”
“คนเล็กเหมือนนางแบบเลย”
"คนโตก็น่ารักมาก สวยหวาน"
เสียงซุบซิบมีไปตลอดทางที่เดินผ่าน พอเข้ามาภายในงานอากงและป๊าก็แยกตัวออกไปหากลุ่มเพื่อนและกลุ่มนักธุรกิจที่คุ้นเคยกัน ส่วนยัยวาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกงานสังคมก็พาฉันแยกออกมาอีกด้านที่มีอาหารและเครื่องดื่มเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับพวกลูกท่านหลานเธอทั้งหลาย แต่ละครั้งที่ยัยวามาออกงานก็มีชายหนุ่มเข้าหาเธอมากมายสร้างความรำคาญใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก
ฉันและยัยวาหลบอยู่ที่มุมของโซนเครื่องดื่ม หยิบเครื่องดื่มและพูดคุยกันอยู่สองคนไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาทักทาย
“มากันสองคนมันดีแบบนี้นี่เองนะญ่า”
"แล้วตอนไม่มีญ่าวาทำยังไง"
"วาก็ต้องฉีกยิ้ม คุยกับคนนั้นทีคนนี้ที โคตรจะเบื่อเลย"
"แล้วเมื่อไหร่งานจะเริ่ม อีกนานไหม"
"ก็น่าจะนานนะ ต้องรอกล่าวเปิดงาน แล้วก็โชว์ของเครื่องเพชรจากเหล่านางแบบอีก"
"เราดื่มอยู่แบบนี้เราจะเมาก่อนงานเริ่มไหมวา" พูดไปหัวเราะไปตอนนี้ก็เริ่มจะรู้สึกมึนนิดๆ คงต้องหยุดดื่มก่อน
“เตอร์ เตอร์” ยัยวาโบกมือเรียกเพื่อนหนุ่ม
“ยัยวาจะไปเรียกเขาทำไม เขายืนอยู่กับแฟนเขานั่น”
"ไม่เป็นไรหรอกญ่า ไอ้เตอร์มันไม่ค่อยสนใจยัยน้ำค้างนั่นหรอก" เตอร์เมื่อเห็นยัยวาก็รีบแยกตัวออกมาหาเพื่อน
“มาถึงกันนานรึยัง” ผมหันไปดูร่างบางทั้งสองคนที่วันนี้แต่งตัวได้โดดเด่นอีกคนหวาน อีกคนเซ็กซี่ยั่วยวน
“มานานจนจะเมาอยู่แล้ว งานแม่งไม่เริ่มสักที”
“เตอร์มึงอยู่เป็นเพื่อนญ่าก่อนนะ กูไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“ไม่เป็นไรเราอยู่ได้”
“ไม่ได้หรอกญ่า ดูผู้ชายกลุ่มนั่นดิ วาเห็นมันมองทางญ่านานแล้วถ้ายื่นอยู่คนเดียวพวกมันเข้ามาคุยแน่” จากนั้นวาก็เดินตรงไปยังห้องน้ำ ปล่อยให้ฉันและเตอร์ยืนอยู่ด้วยกันด้วยความเงียบ
“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนเราก็ได้นะ”
“ทำไม? อยากให้พวกผู้ชายกลุ่มนั้นเข้ามาหารึไง” เขาหันไปพูดกับร่างบางด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“แน่ใจนะว่าปากที่พูด” ร่างบางกระแทกเสียงตอบกลับเขาด้วยท่าทีหงุดหงิด
“จะลองพิสูจน์ดูไหมหละ” เตอร์พูดแล้วยังหันไปแสยะยิ้มที่มุมปากให้กับร่างบางอย่างท้าทาย
“พิสูจน์ได้เหรอแน่ใจว่าไม่มีใครว่า?” ไม่พูดเปล่าร่างบางก็โน้มใบหน้าสวยเข้าไปใกล้ๆ ใจดวงน้อยก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ถึงแม้จะแอบหวั่นๆ แต่มีหรือเธอจะยอมแพ้ให้กับท่าทางท้าทายของเขา
“ทำอะไรกัน!” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ร่างบางยกยิ้มอย่างพอใจเพราะพอจะเดาได้จากน้ำเสียงที่ไม่พอใจนี้ว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของเตอร์นั้นเอง
“สงสัยจะไม่ได้พิสูจน์ งั้นญ่าขอตัวก่อนนะ” ร่างบางโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเตอร์ใกล้ๆก่อนที่จะเดินออกไปปล่อยให้เตอร์ต้องอยู่รับหน้ากับน้ำเพียงลำพัง
“ทำอะไรกันค่ะเตอร์” น้ำถามเตอร์ออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แล้วน้ำเห็นว่าผมทำอะไรครับ” เขาหันไปตอบน้ำด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างเขาหงุดหงิดที่น้ำเข้ามาขัดจังหวะระหว่างเขากับญ่า
“ไปหาคุณพ่อตรงโน้นกันไหมค่ะ” น้ำต้องรีบเปลี่ยนเรื่องและน้ำเสียงให้อ่อนลงเพราะเธอรู้ว่าเตอร์เริ่มไม่พอใจกับการกระทำของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามเข้าหาเตอร์และแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเขากับเตอร์มีความสัมพันธ์กันแต่ท่าทีของเตอร์นั่นกลับแสดงตรงกันข้ามกับเธอ
“ผมขอออกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่ น้ำเข้าไปหาคุณพ่อก่อนได้เลยครับ” น้ำที่ไม่กล้าจะรบเร้าก็ได้แต่เดินกลับไปหาพ่อย่างขัดไม่ได้
หลังจากวาเข้าห้องน้ำเสร็จก็รีบเดินออกมาหาญ่าที่โต๊ะแต่กลับไม่เจอทั้งญ่าและเตอร์แล้วนี่งานก็กำลังจะเริ่มเธอเดินเข้าไปตามหาตรงที่ป๊ากับอากงอยู่ก็ไม่เจอ
“ ยัยวา มาทางนี้หน่อย” เสียงเรียกจากป๊าให้วาเข้าไปหา
“แล้วญ่าหายไปไหน งานจะเริ่มแล้วนะ”
“ญ่าไปเข้าห้องน้ำค่ะ เดี๋ยววาไปตามญ่าเองค่ะ” วาจำเป็นต้องพูดโกหกป๊าเพราะไม่รู้ว่าญ่าหายไปไหนแล้วรีบเดินออกมาเพื่อตามหา เอวาที่เดินหาจนทั่วงานก็ไม่เจอทั้งเตอร์และญ่าไม่รู้สองคนนั้นหายไปไหนกัน