จอมพลกำหมัดแน่น ขณะถอนหายใจออกมา ดวงตาคู่คมกล้ามองสบตามารดาบุญธรรมของอรพิมลอย่างรังเกียจ ก่อนตัดสินใจถามคำถาม ที่ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุ้ง รู้สึกเสียวสันหลังวาบโดยไม่รู้ตัว
“คุณอยากเป็นศัตรูกับผมใช่ไหม ถึงได้พูดจาดูถูกผมแบบนี้”
“…” คุณนงนุชถึงกับพูดไม่ออก หน้าตาเริ่มซีดเผือด เพราะนางสัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวกราดจากคำพูดที่ชายหนุ่มแปลกหน้า ก่อนจะตัดสินใจหันไปหาสามี ซึ่งยืนมองนางด้วยสายตาเรียบเฉย
“คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยรึคุณสน...”
“แล้วคุณจะให้ผมพูดอะไร” คุณสนธยาถามกลับภรรยาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย แล้วหันไปมองชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างกายลูกสาวบุญธรรม จึงถามออกไปเพื่อต้องการคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง
“คุณต้องการตัวยัยพิมลไปอยู่ด้วยจริงๆ ใช่ไหม” นั่นเพราะภาพที่เห็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้เขารู้สึกและสัมผัสได้ถึงการดูจะเอาใจใส่ลูกสาวบุญธรรมจากชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างมากทีเดียว ถึงเขาสงสัยในความคำพูดของภรรยาอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ตัดสินใจเชื่อในสิ่งที่ภรรยาพูดออกมาทั้งหมด
“ผมก็บอกคุณไปแล้ว ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทนายความกับตำรวจคงมาถึงที่นี่ ผมว่าพวกคุณไปปรึกษากันดีกว่า ว่าจะให้ผมพาอรพิมลไปหรือพวกคุณจะยอมให้ลูกชายของพวกคุณเข้าคุก ข้อหาพยายามข่มขืน” จอมพลตัดบทระหว่างเขากับบิดามารดาบุญธรรมของอรพิมล จากนั้นก็หันมาสนใจรอยฟกซ้ำตามแขนเรียวเล็กอย่างสงสาร นี่ยังไม่นับรอยนิ้วบนแก้มนวลอีก ก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า แล้วเช็ดรอยเปื้อนและคราบน้ำตาของสาวน้อยอรพิมลอย่างอ่อนโยน
คุณสนธยาได้แต่อึ้งกับพฤติกรรมระหว่างชายหนุ่มแปลกหน้ากับลูกสาวบุญธรรม จู่ๆ คำพูดของภรรยาก็ผุดขึ้นในหัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาก็พยายามปฏิเสธคำพูดดังกล่าว บางทีชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้คิดช่วยเหลือลูกสาวบุญธรรมของเขาจริงๆ ก็ได้
‘ขออย่าให้เป็นอย่างที่เธอพูดเลยนะนงนุช’
///////////
สองชั่วโมงต่อมา วายุภัทรกับนางอุษาก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านโชคทวี และเมื่อมาถึงพวกเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นไตรภพนั่งอยู่ในห้องรับแขกภายในบ้านของบิดามารดาบุญธรรมของอรพิมล
“ไอ้จอมโทร.ตามแกมาด้วยเหรอไอ้ไตร” วายุภัทรถามไตรภพทันที เพราะตอนนั่งรถมาแม่บ้านใหญ่ของคฤหาสน์วรานนท์ ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เขาฟังจนหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาคงต้องคาดคั้นเอาคำตอบจากจอมพลอีกที
“แกก็ถูกไอ้จอม โทร.ตามมาด้วยเหรอไอ้ลม”
“ใช่” วายุภัทรตอบ
“สวัสดีครับป้าอุษา” ไตรภพทักแม่บ้านใหญ่ของคฤหาสน์วรานนท์ พร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะหันไปมองหน้าจอมพล ซึ่งนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าเขา โดยข้างกายมีสาวน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้นั่งก้มหน้าหลบสายตาเกรี้ยวกราดของหญิงวัยกลางคน ซึ่งจอมพลบอกเขาว่านางคือแม่บุญธรรมของสาวน้อยอรพิมล และชายวัยกลางคน ท่าทางภูมิฐานก็เป็นพ่อบุญธรรม
“สวัสดีค่ะคุณไตร” นางอุษารับไหว้เพื่อนสนิทของเจ้านายหนุ่ม ก่อนหันไปมองสาวน้อยอรพิมลอย่างเป็นห่วง คงต้องเกิดเรื่องกับสาวน้อยคนนี้แน่นอน ไม่อย่างนั้นเจ้านายหนุ่มคงไม่เรียกเพื่อนสนิทที่เป็นทั้งตำรวจและทนายความมาที่นี่
“คุณจอมให้ป้ามาทำอะไรที่นี่หรือคะ”
“ผมจะให้ป้าไปช่วยหนูอรเก็บของ เอาแต่ของที่สำคัญก็พอนะครับ ที่เหลือค่อยไปหาซื้อใหม่เอาก็ได้” จอมพลสั่งแม่บ้านใหญ่ทันที
“ได้ค่ะคุณจอม” นางอุษารับคำเจ้านายหนุ่ม
“หนูอร” จอมพลหันมาเรียกสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างกายอย่างอ่อนโยน
“ค่ะคุณจอม” อรพิมลตอบเสียงเบาหวิว เพราะเธอรู้สึกแปลกใจกับสรรพนามใหม่ที่ผู้มีพระคุณใช้เรียกเธอตอนนี้
“หนูอรพาป้าอุษาไปชวนเก็บของที่ห้อง เก็บแต่เอกสารที่สำคัญๆ ไปก็พอ อย่าลืมหนังสือเรียนและชุดนักเรียนด้วยนะ”
“ค่ะคุณจอม” อรพิมลตอบแล้วลุกเดินออกมาจากห้องรับแขกพร้อมกับแม่บ้านใหญ่ของคฤหาสน์วรานนท์
จอมพลรอจนนางอุษาและอรพิมลเดินหายออกไปจากห้องรับแขก จากนั้นก็หันมาสนใจบิดามารดาบุญธรรมของอรพิมลอีกครั้ง แล้วจึงถามคำตอบจากทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจังมากกว่าเดิม
“พวกคุณคงตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม”
“ฉันจะพูดอะไรได้ ในเมื่อคุณสั่งให้นังพิมลไปเก็บของแล้ว” คุณนงนุชเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจนักกับสิ่งที่ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ทำลงไป ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้กล้ามากที่ตามตำรวจและทนายความมาเป็นพยานในครั้งนี้ นางอยากรู้เหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน
“คุณจะพาลูกสาวผมไปอยู่ด้วย ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใคร” คุณสนธยาพูดขึ้นอย่างคนปลงตก เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว ยังไงเขาก็ต้องยอมปล่อยให้ลูกสาวบุญธรรมไปอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ เพราะถ้าให้เลือกระหว่างลูกชายกับลูกสาวบุญธรรม เขาก็ต้องเลือกลูกชายของตัวเองอยู่แล้ว อีกอย่างข้อหาพยายามข่มขืน ก็หนักหนาใช่เล่น
“ผมนึกว่าคุณจะไม่ถามผมเสียอีก”
“คุณจะอยากรู้ไปทำไมว่ามันเป็นใคร แค่มันพานังพิมลออกไปจากของเราก็พอแล้ว” คุณนงนุชตำหนิสามีอย่างฉุนเฉียว สำหรับนางแล้วใครจะพาลูกสาวบุญธรรมออกไปจากชีวิตนางและลูกจะเป็นใครก็ช่าง ขอแค่ให้พานังตัวซวยคนนี้ออกไปจากครอบครัวนางก็พ
“พวกนายได้ยินที่ผู้หญิงคนนี้พูดแล้วใช่ไหม” จอมพลหันมาถามสองเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย หลังจากฟังคำพูดของมารดาบุญธรรมของสาวน้อยอรพิมล
“เออ...ฉันได้ยินเต็มสองหูเลย” วายุภัทรตอบหลังจากที่เขานั่งเงียบอยู่นาน ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกสงสัยอยู่ว่าเพราะอะไรจอมพลถึงต้องการช่วยเหลือสาวน้อยอรพิมลมากนัก ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เพราะหญิงแก่ปากจัดคนนี้นี่เองเป็นตัวการ
“แล้วเรื่องจับคนเข้าคุก ข้อหาพยายามข่มขืนล่ะ แกจะเอายังไง เรียกฉันมาแล้ว แกก็ต้องให้ฉันได้ผลงานกลับไปบ้างนะเว้ยไอ้จอม”
ไตรภพเริ่มโวยขึ้นอีกคน เมื่อเขานั่งฟังบทสนทนาระหว่างสามีภรรยาคู่นี้กับเพื่อนสนิท ตอนนี้เขาไม่สงสัยและแปลกใจแล้วกับเรื่องที่จอมพลตัดสินใจพาสาวน้อยอรพิมลออกไปจากบ้านหลังนี้ถึงฝ่ายภรรยาจะอยากไล่ลูกบุญธรรมออกไปจากชีวิตมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนฝ่ายสามียังคัดค้านอยู่บ้างเล็กน้อย บางทีการข่มขวัญสองสามีภรรยาคู่นี้อีกนิดหน่อย อาจทำให้จอมพลสามารถพาสาวน้อยอรพิมลออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วขึ้นก็ได้
“ผมให้ยัยพิมลไปอยู่กับคุณก็ได้”
คุณสนธยาตอบตกลงออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เขาไม่ชอบเลยที่ถูกผู้ชายกลุ่มนี้ข่มขู่ด้วยวิธีนี้ แต่ก็นั่นแหละ! ถ้าให้เขาเลือกระหว่างลูกชายกับลูกสาวบุญธรรม เขาก็ต้องเลือกลูกชายของเขาเอาไว้ก่อน ที่สำคัญหากปล่อยให้ลูกบุญธรรมอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้จะปลอดภัยจากลูกชายของเขาหรือเปล่า บางทีบ้านหลังใหม่ที่ลูกสาวบุญธรรมไปอยู่ด้วย คงจะดีกว่าที่บ้านหลังนี้ก็ได้
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...