ตอนที่ 1

1710 Words
1 มาคัสยิ้มมุมปาก นัยน์ตาแวววาวกวาดสายตามองสาวน้อยร่างเล็กตั้งแต่ใบหน้าสวยลงไปตามลำตัวอวบอิ่มด้วยวัยสาวแล้วย้อนกลับขึ้นมาใหม่ กลิ่นกายหอมกรุ่นยามเธอเดินผ่านไปมาเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้ลูกค้า ปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกายหนุ่มของเขาให้ลุกโพรงจนหน้าแปลกใจ แม้จะอยู่ในความมืดปนสว่างสลับกันไปมา แต่เหมือนกับว่าเขาเห็นใบหน้าเนียนสวยนั้นได้ติดตาและบันทึกไว้ในใจและอยากจะรู้ว่าถ้าร่างเล็กบอบบางนั้นมาอยู่ใต้ร่างของเขา เสียงครางของเธอจะเป็นอย่างไร ผิวเนื้อเธอจะเนียนและหวานนุ่มดุจไวน์ชั้นดีหรือเปล่า แล้วจะกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาในกายเขาให้ลุกโชติช่วงไปตลอดทั้งคืนหรือเปล่า มาคัสแปลกใจ...เขาก็ใช่ว่าจะไร้คนเคียงกายเสียเมื่อไหร่ มีหญิงมากมายหลายคนต่างแวะเวียนมาให้ความสำราญ แต่ทำไมเขาต้องไปสนใจกับสาวน้อยที่หน้าตาเหมือนเด็กนักเรียนคนนี้ด้วย รูปร่างก็เล็กบอบบางความสูงน่าจะประมาณอกเขาเสียด้วยซ้ำ ดูๆ ไปอายุก็ไม่น่าจะห่างกับธนัญญาน้องสาวบุญธรรมของเขาเท่าไหร่เลย แต่ทำไมถึง...? ชายหนุ่มยิ้ม ตอนนี้หญิงสาวยืนหอบอยู่หน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่ม ใบหน้าสวยมีเหงื่อซึมตามขมับ แต่ทว่าดวงตากลมโตยังเปล่งประกายสดชื่นและแจ่มใส เสียงเพลงในไนต์คลับดังสนั่น พนักงานเสิร์ฟแต่ละคนต่างก็ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น วันนี้แขกในร้านเยอะเป็นพิเศษเพราะวันนี้เป็นวันเงินเดือนออกและพรุ่งนี้เป็นวันหยุดอีกด้วย มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้ารูปไข่พร้อมกับยื่นมือไปรับแก้วเครื่องดื่ม “เหนื่อยหน่อยนะมะลิวันนี้ลูกค้าก็เยอะเป็นพิเศษเสียด้วย” คนพูดเป็นชายร่างใหญ่ผิวสองสี ผมหยักศก ดวงตาเป็นประกายใจดีและอบอุ่น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาและแดงอย่างคนมีสุขภาพดีแม้ว่าจะทำงานกลางคืนอยู่ตลอด แม้ปากจะพูดกับหญิงสาว แต่มือก็จัดการผสมเครื่องดื่มเตรียมไว้ใหักับพนักงานเสิร์ฟคนอื่นต่อไปอย่างไม่ยอมหยุด “จริงด้วยพี่กานต์ วันนี้คนเยอะมากเป็นพิเศษจริงๆ” มะลิวัลย์ตอบชายหนุ่มไปใบหน้าสวยเปื้อนรอยยิ้มจางๆ “แต่แค่นี้มันแค่เด็กๆ พี่กานต์ก็รู้ว่าเราทำนากันเหนื่อยกว่านี้อีก” หญิงสาวตอบกลับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นคนดูแลเธอตลอดการเดินทางมาทำงานที่กรุงเทพฯ เมืองใหญ่ แต่จะว่าไปเธอก็โชคดีกว่าใครหลายๆ คนที่มาจากต่างจังหวัด เพราะเธอมาที่นี่เพียงแค่อาทิตย์เดียวก็ได้งานแล้ว คงจะต้องขอบคุณกานต์เขตด้วยเหมือนกันที่พาเธอมาสมัครงานที่นี่ มะลิวัลย์ยิ้มให้กานต์เขตถ้าพี่ชายไม่ช่วยพูดให้ เธอคงจะไม่ได้ทำงานที่นี่หรอก เพราะวุฒิการศึกษาที่เธอมีคือมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการเรียนก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ค่อนไปทางอ่อนด้วยซ้ำ และยังมีปัญหาสำคัญอีกอย่างก็คือรูปร่างหน้าตาของเธอที่เหมือนกับเด็กที่กำลังเรียนอยู่ในช่วงชั้นมัธยมต้น สูงเพียงแค่ 155 ซม. ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตขนตายาวงอน จมูกไม่ถึงกับโด่งมากแต่ก็ไม่หัก แก้มเนียนใสราวกับแก้มเด็ก ริมฝีปากอิ่มเต็มเป็นสีชมพูระเรื่อ เวลาไปสมัครงานที่ไหนจึงทำให้คนที่รับสมัครมองว่ายังเด็กเกินไป จนบางครั้งแทบจะไม่กล้าเลยด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าเธอจะโดนเธอหลอกเรื่องอายุเอา หญิงสาวยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าผู้จัดการวัยกลางคนตอนที่เห็นเธอเดินเข้ามายื่นใบสมัคร ก่อนจะทำอย่างอื่น อรุณดูใบหน้าเธอและบัตรประชาชนก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจว่าเธออายุยี่สิบปีแน่หรือ นี่จึงทำให้การหางานของเธอมีความยากยิ่งและตอนนี้เธอเองก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำด้วย แต่เธอเชื่อว่าถ้าขยันสักหน่อยไม่นานผู้จัดการจะต้องเห็นถึงความพยายามและบรรจุให้เธอเป็นพนักงานประจำที่นี่แน่นอน และมันก็จะทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงได้ หญิงสาวยิ้มวาดฝันไว้ในหัวใจและสมองว่าเธอจะมีเงินสักก้อนไว้เปิดร้านขายของชำเล็กๆ เพื่อเลี้ยงดูแม่และตัวเธอเอง แต่ก่อนนั้นเธอจะต้องเรียนให้จบปริญญาตรีเสียก่อน อีกไม่นานมะลิวัลย์เชื่อว่าความฝันของเธอจะเป็นความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลสองข้อนี้เธอคงจะไม่เลือกมาทำงานในเมืองใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายนี้หรอก เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ไม่เคยมีความจริงใจให้แก่กัน หรือถ้าจะมีมันก็หาได้น้อยมาก ภาพใบหน้าเหี่ยวย่นแต่กลับมีรอยยิ้มอันแสนจะอบอุ่นคอยวนเวียนมาหาเธอเสมอ มือเล็กและเหี่ยวย่นที่คอยลูบผมบนศีรษะให้ ยามที่เธอท้อแท้และต้องการกำลังใจ เธอรู้ว่าแม่ไม่ได้อยากให้เธอมาทำงานที่นี่เลยสักนิด แต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อตอนนี้ที่บ้านฝนแล้งทิ้งช่วงเป็นเวลานานแรมเดือนจนทำนาไม่ได้ อีกทั้งนาที่มีอยู่ก็หาใช่ที่นาของตัวเองไม่ กลับเป็นเพียงแค่นาที่ปลูกข้าวแบ่งกับคนอื่นที่ถึงแม้จะใจดีแต่ทว่าเขาก็ต้องการผลผลิตเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนกัน มือเล็กเรียวยกขึ้นจับสร้อยคอที่เธอห้อยติดตัวไว้ตั้งแต่เด็กๆ มันอาจจะเป็นความเชื่อของคนบ้านนอกอย่างเธอก็เป็นได้ว่าถ้าหากมีฟันของพ่อกับแม่ห้อยไว้จะไม่มีภัยภัยใดๆ จะกล้ำกลายหรือทำอันตรายแก่เธอได้ และสร้อยคอนี้คือกำลังใจที่ดีที่สุด ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็เหมือนกับว่าเธอมีแม่อยู่ใกล้ๆ มะลิวัลย์น้ำตาคลอเมื่อนึกมารดา ป่านนี้ไม่รู้ว่าแม่กำลังทำอะไรอยู่ จะทานข้าวหรือยัง หรือว่าจะนอนแล้วเพราะนี้มันก็เลยสามทุ่มไปแล้ว         ปกติถ้ามีเธออยู่ด้วยถึงตอนนี้เธอก็จะนอนกอดแม่ คิดแล้วก็อยากจะกลับไปบ้านเร็วๆ แต่ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็สำคัญ เพราะถ้าเธอได้ทำงานที่นี่อย่างถาวรอย่างน้อยมันก็จะเป็นทุนก้อนแรกที่จะทำให้เธอไปถึงฝั่งฝัน ตอนที่เธอจะมาทำงานที่นี่กานต์เขตก็บอกแล้วว่าที่นี่งานหนักแต่เงินที่ได้รับก็คุ้มค่า เงินเดือนแม้ไม่สูงมากนักแต่ก็มีอาหารฟรีสองมื้อ อีกทั้งยังได้ทิปดีอีกด้วย และเท่าที่เธอได้มาทำวันนี้ก็เป็นจริงอย่างที่ชายหนุ่มบอก ในกระเป๋าเธอตอนนี้เต็มไปด้วยทิปแบงค์ร้อยหลายใบแล้ว และไหนจะยังมีทิปรวมที่มีการแบ่งกันทุกคืนหลังเลิกงานอีกล่ะ มะลิวัลย์บอกตัวเองว่าถ้าเธออดออมและประหยัดสักหน่อย อีกไม่นานเธอก็จะมีเงินก้อนนำกลับบ้านไปเปิดร้านขายของชำจำพวกของใช้จำเป็นในบ้าน แค่คิดหญิงสาวก็มีความสุขมาก ดวงตากลมโตเป็นประกายราวกับมีดวงดาวนับร้อยดวงมาบรรจุอยู่ภายใน ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มมือเล็กรับเอากระดาษทิชชูที่กานต์เขตยื่นมาให้เช็ดใบหน้า “ขอบใจจ๊ะพี่กาน” มะลิวัลย์บอกพร้อมกับเหลียวมองไปด้านหลังของตัวเองเมื่อรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากทานอาหารในห้องครัวจนถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปนานนับชั่วโมงแต่ความรู้สึกนั้นก็ยังไม่ได้หายไปจากความคิดของเธอ หญิงสาวค่อยๆ เหลียวมองไปช้าๆ เหมือนว่าเสียงเพลงที่ดังอึกกระทึกครึกโครมอยู่ รวมถึงผู้คนมากหนาหลายตาที่มาท่องเที่ยวในคืนนี้เป็นเพียงแค่ธาตุอาการเมื่อดวงตากลมโตสบกับดวงตาคมดุเป็นประกายของชายคนหนึ่ง หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านอากาศตรงมาที่เธอ สายตาคมดุจ้องมองราวกับกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายบอบบางทีละชิ้นๆ จนหมด แล้วโลมไล้ไปตามอกอวบเต่งตึงด้วยวัยสาวที่นูนเด่นดันเสื้อพนักงานสีขาวตัวเล็ก ค่อยๆ กวาดมองลงไปตามร่างกายและย้อนกลับมาใหม่อีกครั้งก่อนจะหยุดนิ่งที่หน้าอกหน้าใจ ดวงตากลมโตสบกับดวงตาคมดุ มะลิวัลย์ร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าตลอดจนถึงลำตัว คิดว่าตอนนี้ทั้งหน้าและลำคอของเธอคงจะแดงเป็นกุ้งต้มสุก  หัวใจเต้นแรงเร็วเหมือนกับว่ามีใครมาตีกลองใบใหญ่อยู่ภายในใจ ปลายมือปลายเท้าเย็นเฉียบ ร้อนรุ่มภายในเรือนกายจนเธอแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ท้องน้อยป่วนปั่น ฟันขาวขบกับริมฝีปากจนเจ็บ ดวงตากลมโตไม่อาจดึงสายตาออกจากดวงตาคมดุนั้นได้เลย แม้จะอยู่ในความมืดแต่มะลิวัลย์กลับรู้สึกเหมือนว่าเธอได้เห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจน เค้าโครงหน้าของเขาไม่ถึงกับเป็นรูปสี่เหลี่ยมแข็งกระด้าง คิ้วเข้มสีดำสนิทเหมือนกับเส้นผม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนามีสีชมพูอมแดงอย่างคนสุขภาพดี และที่สำคัญที่สุดคือ...ดวงตาที่จ้องมองเหมือนกับจะทะลุเข้าไปถึงหัวใจที่กำลังเต้นเหมือนได้ไปวิ่งระยะทางไกลมา  เหมือนมีแรงดึงดูดที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร รู้เพียงแค่ว่าเธอทั้งกลัวและเกรงสายตาคู่นั้นแล้วอยากที่จะหลีกหนีไปให้ไกลๆ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD