ตอนที่ 13

1294 Words
บทที่ 13 แข้งขาของหล่อนสั่นเทา ไร้เรี่ยวแรงจนเจียนจะล้ม ร้อนถึงกฤติชัยต้องรีบหันมาประคอง เมื่อสบประสานตากับดวงตากังขาสีสนิมของแซคคารีย์ที่จ้องมองมาเขม็ง “ไม่เป็นอะไรนะครับคุณอลินดา” “มะ... ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะคุณกฤติชัย” เจ้าของชื่อระบายยิ้มให้กับหล่อนอีกแล้ว ก่อนจะเดินประคองหล่อนเข้าไปที่โต๊ะที่มีแซคคารีย์นั่งกัดฟันรออยู่ เขามองหล่อนด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ “เชิญครับคุณอลินดา” กฤติชัยเลื่อนเก้าอี้ให้กับหล่อนด้วยความสุภาพ ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และหันไปทักทายแซคคารีย์ที่กัดฟัน ขบกรามไม่หยุด “ขอโทษที่มาช้าไปสิบห้านาทีนะครับคุณแซค” กฤติชัยขอโทษขอโพย “พอดีผมกับคุณอลินดาคุยกันถูกคอไปหน่อย ก็เลยมัวแต่คุยกันมาตลอดทาง จนลืมเวลาน่ะครับ” หล่อนทำได้แค่เพียงระบายยิ้มแห้งๆ และก้มหน้าหลบสายตา แซคคารีย์ มือไม้ของหล่อนชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ “ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่คุณกฤติชัยจะพามาด้วยจะเป็นพนักงานบัญชีที่โรงแรมของผม” น้ำเสียงของแซคคารีย์เยาะหยันอยู่ในที “แต่ความจริงผมว่าระดับคุณกฤษชัยแล้ว น่าจะมีผู้หญิงระดับที่สูงกว่านี้ให้เลือกเยอะแยะนะครับ ไม่น่า...” ถึงแซคคารีย์จะหยุดพูดเอาไว้เพียงเท่านั้น แต่หล่อนก็รู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร หล่อนเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงด้วยความเจ็บปวดและอับอาย “แต่ถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิด คุณอลินดาเป็นน้องภรรยาของคุณแซคไม่ใช่เหรอครับ” “ครับ” “ดังนั้นคุณอลินดาก็ไม่ได้อยู่คนละระดับกับผมนี่ครับ เพราะคุณแซค ร่ำรวย น้องภรรยาอย่างคุณอลินดาก็ต้องร่ำรวยด้วย ผมพูดไม่ผิดใช่ไหมครับ” แซคคารีย์กัดฟันแน่น และก็มองหน้าอลินดาอย่างคาดโทษเอาไว้ในใจ “ที่คุณกฤติชัยพูดก็ไม่ผิดหรอกครับ” แซคคารีย์ตอบรับออกไปอย่างไม่มีทางเลือก “งั้นเรามาสั่งอาหารกันเถอะครับ กินเสร็จแล้วเราจะได้พูดถึงงานของเรา” กฤติชัยตัดบท ก่อนจะหันไปถามอลินดา “คุณอลินดาอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะสั่งให้” “เอ่อ... อะไรก็ได้ค่ะ ลินดากินได้หมดค่ะ” “คุณอลินดากินง่ายจังนะครับ แบบนี้ผู้ชายคนไหนได้คุณอลินดาไปเป็นภรรยาน่าจะมีความสุขน่าดูนะครับ” คำพูดของกฤติชัย ทำให้หล่อนเหลือบตาไปสบประสานกับดวงตาสีสนิมของแซคคารีย์โดยบังเอิญ และก็ได้เห็นสายตาเหยียดหยามดูแคลนของเขาชัดเจน “เอ่อ... ขอบคุณค่ะ” แล้วกฤติชัยก็สั่งอาหารให้กับหล่อน และเขาก็คุยตกลงธุรกิจกับ แซคคารีย์หลังจากนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งมื้อค่ำจบสิ้นลง พร้อมๆ กับการเจรจาธุรกิจที่สร้างความพึงพอใจให้กันทั้งสองฝ่าย “ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมขอฝากคุณอลินดากลับพร้อมกับคุณแซคได้ไหมครับ พอดีลูกน้องที่บ้านส่งข้อความมาให้รีบกลับน่ะครับ” “เอ่อ... ลินดากลับแท็กซี่เองได้ค่ะ ขอบคุณคุณกฤติชัยมากนะคะที่อุตส่าห์พามาเลี้ยงข้าวเย็น” หล่อนยกมือไหว้กฤติชัยอย่างขอบคุณ ก่อนจะกระชับกระเป๋าสะพายบ่าแน่น “นี่มันมืดค่ำแล้ว ผมปล่อยให้คุณลินดานั่งรถแท็กซี่กลับคนเดียวไม่ได้หรอกครับ อย่าทำให้ผมเป็นห่วงเลยนะครับ” กฤติชัยหยิบยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง และก็ทำให้หล่อนต้องปรายตามองหน้าเรียบเฉยของแซคคารีย์อย่างไม่สบายใจ “คุณกฤติชัยไม่ต้องกังวลครับ เดี๋ยวผมไปส่งอลินดาเองครับ” “ขอบคุณมากครับคุณแซค งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” หล่อนเดินตามกฤติชัยและแซคคารีย์ออกมาจากผับกึ่งภัตตาคาร และก็ยืนโบกมือให้กับกฤติชัยจนท้ายรถคันงามของเขาหายไปในความมืด จึงลดมือลงทิ้งไว้ข้างตัว และหันไปหาแซคคารีย์ที่ยืนทำหน้าดุดันอยู่ไม่ไกล “คุณแซคกลับเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองค่ะ” คนตัวโตมองหล่อนเขม็ง และก้าวเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคามเอาเรื่อง “เธอก็ได้ยินคุณกฤติชัยบอกแล้วนี่ว่าให้เธอกลับบ้านกับฉัน” “ค่ะ ฉันทราบค่ะ แต่นี่คุณกฤติชัยก็กลับไปแล้วนี่คะ เขาไม่มีทางรู้หรอกค่ะว่าฉันนั่งรถกลับบ้านกับคุณแซคหรือเปล่า” หล่อนจะเดินหนีแต่แขนเรียวถูกกระชากเอาไว้ “ปล่อยแขนฉันเถอะค่ะ” แซคคารีย์ไม่ปล่อย แถมยังเพิ่มแรงกดของนิ้วมือแรงขึ้น จนกระดูกแขนของอลินดาแทบแหลกละเอียด “ฉันเจ็บนะคะ” “อย่าดื้อกับฉัน ไปขึ้นรถ” “ก็บอกแล้วไงคะว่ากลับเองได้ และที่สำคัญคุณแซคก็จะได้ไม่เหม็นกลิ่นความร่านของฉันด้วยยังไงล่ะคะ” หล่อนประชดประชันอย่างน้อยใจ “ดึกๆ แบบนี้ ปล่อยเธอออกไปร่านโดยไม่ใส่ปลอกคอ มีหวังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเปล่าๆ ไปขึ้นรถ เราต้องกลับบ้านด้วยกัน เดี๋ยวนี้” เขาใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็ลากหล่อนไปถึงรถสปอร์ตคันงามได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าหล่อนจะขัดขืนมาตลอดทางก็ตาม “และอย่าลงมาเชียว เพราะฉันฆ่าเธอแน่” เขาชี้หน้าข่มขู่หล่อน ก่อนจะเดินอ้อมรถมาก้าวขึ้นนั่งหน้าพวงมาลัยรถอย่างรวดเร็ว อลินดากัดปากแน่นด้วยความน้อยใจระคนโมโห “คนที่คุณแซคต้องเสียเวลาด้วยคือพี่นารี ไม่ใช่ฉันค่ะ” “กับนารีน่ะฉันให้เวลาทั้งชีวิตของฉันนั่นแหละ แต่สำหรับเธอ ฉันจำเป็นต้องลากกลับไปล่ามโซ่เอาไว้ ก่อนที่เธอจะออกมาเพ่นพ่านไล่ผสมพันธุ์ไปทั่ว” ทำไมเขาด่าว่าหล่อนแรงขนาดนี้ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินออกมาเป็นทาง และเขาก็ยังไม่คิดจะหยุดวาจาที่ทำให้หล่อนเสียใจแม้แต่น้อย “ขนาดคุณกฤติชัยเป็นถึงลูกค้าของฉัน เธอยังตามอ่อยจนได้ติดรถมากินข้าวด้วยได้ เธอนี่มันเก่งเรื่องคาวๆ จริงๆ เลยนะ อลินดา และถ้าเมื่อกี้นี้ฉันไม่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เธอก็คงจะใช้มารยาหญิงสารเลวที่ตัวเองมีลากลูกค้ารายใหญ่ของฉันไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วใช่ไหม” “คุณแซค!” หล่อนเค้นเสียงออกมาด้วยความโมโห “คุณดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะคะ ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดสักนิด” “ไม่มีโจรที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเลวหรอก ซึ่งเธอก็เช่นกัน จริงไหม อลินดา” ทุกถ้อยคำของเขาช่างทำร้ายจิตใจของหล่อนอย่างเลือดเย็นเป็นที่สุด และไม่ว่าหล่อนจะปฏิเสธแค่ไหน แต่คนที่มองว่าหล่อนเลวสำส่อนไปแล้วอย่างแซคคารีย์ก็ยังคงเกลียดชังหล่อนไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี “ค่ะ เชิญคิดตามที่คุณแซคต้องการเถอะค่ะ” หล่อนโต้ตอบเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหน้าหนีมองออกไปนอกกระจกรถ และไม่ว่าเขาจะพูดจะตำหนิอะไรออกมาอีก หล่อนก็ตอบโต้ด้วยการนิ่งเงียบ จนแซคคารีย์หงุดหงิด และหยุดด่าทอหล่อนไปเสียเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD