บทที่ 2 การมาถึงของเสี่ยวเสวี่ย 1

1123 Words
บทที่ 2 การมาถึงของเสี่ยวเสวี่ย หลังจากกราบไหว้สักการบูชาเทวรูปที่ประดิษฐานอยู่ในเทวาลัยบนเขาในเมืองอี๋เสร็จเรียบร้อย บรรดาสตรีจวนตระกูลจ้าวก็พากันลงจากเขา พวกนางพากันออกเดินทางกลับเมืองหลวงทันทีโดยไม่ได้อยู่พักค้างคืนต่อ ด้วยเพราะต้องเดินทางอีกราวสามวันกว่าที่พวกนางจะพากันถึงเมืองหลวง โชคดีที่ตลอดระยะเวลาที่พวกนางพากันไปสักการะเทวรูปที่เมืองอี๋นั้น จ้าวเสวี่ยไม่อยู่ที่เมืองหลวง เนื่องด้วยอีกฝ่ายตามเสด็จฮ่องเต้ไปยังแดนใต้ของแคว้นอันเพื่อออกเยี่ยมราษฎร ทำให้เป็นโอกาสดีที่พวกนางจะพากันออกจากจวนกันได้ทุกคน ทั้งยังไม่ต้องพากันห่วงหน้าพะวงหลังอีกด้วย “โชคดีที่ท่านพี่ยังไม่กลับมา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้พากันถูกตำหนิอีกเป็นแน่ ที่ยกโขยงกันไปโดยไม่มีใครเฝ้าจวนสักคน” หม่าชิงจูเอ่ยขึ้นอย่างโล่งอก อู๋เยว่ฉินไม่ได้เอ่ยอะไรตอบอีกฝ่าย แต่สั่งการให้อนุทุกนางกลับไปพักผ่อนยังเรือนของตนเอง รวมไปถึงหม่าชิงจูด้วย “เจ้าค่ะ ฮูหยินก็พักผ่อนดีๆ นะเจ้าคะ ข้าขอตัวก่อน” “อืม...ไปเถอะ” คล้อยหลังเมื่ออีกฝ่ายจากไป อู๋เยว่ฉินก็เดินเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของตนเองภายในเรือนหลังใหญ่ทางปีกซ้ายของจวน ร่างงามนั่งลงหน้าที่กระจกก่อนหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเบาๆ ที่นิ้วมือของตนเองตรงรอยแผลที่ได้มาเมื่อสามวันก่อน ไม่น่าเชื่อเลยว่าลำพังแค่ก้านธูปบาดจะทำให้เกิดแผลลึกได้ถึงเพียงนี้ “ฮูหยิน กลับมาแล้วเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เป็นแม่นมโม่ที่เอ่ยถามขึ้น อีกฝ่ายเป็นคนเก่าคนแก่ที่ติดตามอู๋เยว่ฉินมาจากตระกูลเดิม “ก็ดี...ลำบากดี เดินขึ้นเขาจนนับก้าวได้ไม่ถ้วนเชียวล่ะ” อู๋เยว่ฉินเอ่ยตอบโดยไม่ได้เงยหน้ามองผู้เป็นแม่นม ความลำบากนี้ของนางหากจะโทษก็ต้องโทษที่จ้าวเสวี่ยไร้น้ำยาทำให้ไร้บุตร เดือดร้อนนางต้องเที่ยววิ่งหากราบไหว้รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากจะสาวความขึ้นไปอีกก็ต้องโทษที่สกุลอู๋ต้องการอำนาจของสกุลจ้าวเพื่อผลักดันพี่ชายของนางจนทำให้นางต้องแต่งให้กับบุรุษไร้น้ำยาผู้นั้น และถ้าจะสาวหาต้นตอขึ้นไปอีกนิดก็คงต้องโทษที่นางเกิดมาเป็นสตรีหาใช่บุรุษ “เช่นนั้นบ่าวจะให้สาวใช้นำน้ำอุ่นมาให้แช่เท้านะเจ้าคะ” “อืม” อู๋เยว่ฉินตอบสั้นๆ และไม่ได้เอ่ยอะไรมากไปกว่านั้น จนเมื่อสาวใช้สองนางนำน้ำอุ่นมาให้แช่เท้าพร้อมๆ กับการมาขอพบนางของพ่อบ้านจาง พ่อบ้านจางเป็นพ่อบ้านของตระกูลจ้าว หน้าที่ทำบัญชีของร้านค้าต่างๆ ของตระกูลรวมไปถึงบัญชีของจวน นอกจากนางแล้วก็มีพ่อบ้านจางช่วยดูแล “ขออภัยที่ข้ามารบกวนเวลาพักผ่อนของฮูหยิน” “ไม่เป็นไร พ่อบ้านจางเชิญว่าธุระมาเถิด” อู๋เยว่ฉินเอ่ยบอกก่อนนั่งลงตรงเก้าอี้ภายในโถงรับรองของเรือนหลัก “ขอรับ” จากนั้นพ่อบ้านจางก็เอ่ยพูดคุยกับจ้าวฮูหยินเกี่ยวกับเรื่องบัญชีต่างๆ ก่อนจะตบท้ายด้วยการแจ้งข่าวให้ทราบว่าอีกประมาณสี่วันขบวนเสด็จของฮ่องเต้ก็จะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว นั่นก็หมายความว่าจ้าวเสวี่ยก็จะเดินทางกลับมาแล้วเช่นกัน “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณพ่อบ้านจางที่แจ้งข่าว” “เป็นหน้าที่ของข้าน้อยขอรับ” คนเป็นพ่อบ้านรับคำ “เช่นนั้นหากฮูหยินไม่มีอะไรจะสั่งงาน ข้าน้อยขอตัวก่อน” “ไปเถอะ” อู๋เยว่ฉินลอบถอนหายใจออกเบาๆ การได้ยินว่าสามีผู้แก่กว่านางถึงยี่สิบสามปีผู้นั้นกำลังจะกลับมาเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสร้างความรื่นรมย์ให้กับนางเท่าไหร่นัก สาบานต่อสวรรค์ นางไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์ที่ได้สามีแก่กว่าตนเองถึงยี่สิบสามปี สำหรับนางอายุเป็นเพียงตัวเลขที่บ่งบอกว่าคนเราผ่านร้อนผ่านหนาวมานานแค่ไหนแล้วเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของความรู้สึกเลยสักนิด คนเราหากรักใคร่กันจริงแท้ ไฉนเลยจะสนใจเรื่องอายุ แต่นรกมันเถอะ! การที่นางแต่งให้จ้าวเสวี่ยนั้นเป็นเพราะความต้องการของบิดาเท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นความต้องการของคนผู้นั้นด้วย และถึงแม้ว่าเขาจะทำดีต่อนางสมฐานะฮูหยินเอกของจวน แต่หากเมื่อใดที่เขาหงุดหงิดใจเรื่องบุตรขึ้นมา เขาก็สามารถด่าทอหยาบคายได้อย่างไม่เลือกหน้าเช่นกัน นี่นับว่าเป็นข้อเสียเดียวของจ้าวเสวี่ยที่อู๋เยว่ฉินนั้นรับไม่ได้ นางไม่มีลูกหาใช่ความผิดของนางคนเดียวเมื่อไหร่กัน? “ฮูหยิน กลับเรือนเถอะเจ้าค่ะ สำรับมื้อเย็นพร้อมแล้ว” อู๋เยว่ฉินพยักหน้ารับเบาๆ พร้อมกับคิดเรื่อยเปื่อยในหัว คงจะดีไม่น้อยหามีหนทางให้สามีผู้นั้นของนางลดความปากร้ายและขี้หงุดหงิดเป็นตาแก่ลงเสียหน่อย... แม้จะเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วตั้งแต่เมื่อสองชั่วยามก่อน แต่เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายต่างก็ต้องรอส่งเสด็จฮ่องเต้กลับเข้าวังก่อนที่จะแยกย้ายพากันกลับบ้านช่อง นั่นจึงทำให้จ้าวเสวี่ยกลับไปถึงบ้านในตอนต้นยามซวี (19.00-20.59น.) ทั้งๆ ที่เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงตั้งแต่ยามบ่ายของวัน “คารวะ ท่านพี่” อู๋เยว่ฉินเดินออกมารับผู้เป็นสามีถึงหน้าจวน ทว่าสิ่งที่นางและบรรดาอนุคนอื่นๆ ได้รับกลับเป็นใบหน้าบึ้งตึงทั้งยังชักสีหน้าใส่ “กลับเข้าจวนเถอะ ข้าเหนื่อยเกินกว่าจะให้พวกเจ้ามาวุ่นวายมากมายพิธีรีตอง” พูดจบร่างสูงที่เริ่มท้วมด้วยเพราะอายุที่เริ่มมากขึ้นก็เดินดุ่มๆ เข้าเรือนไป อู๋เยว่ฉินลอบถอนหายใจเหนื่อยหน่าย สามีของนางเจ้าอารมณ์อีกทั้งยังเอาใจยากทุกเรื่องเช่นนี้จะให้นางมีอารมณ์ออดอ้อนเอาใจเขาได้อย่างไร และทั้งๆ ที่ตนเองอยากจะมีลูกจนแทบแดดิ้น...แต่เรื่องบนเตียงกลับไม่เรื่องได้ราวอะไรเสียนี่! แล้วที่อย่างนี้กลับมากล่าวโทษแต่พวกนาง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD