ตอนที่3 บุรุษหนุ่มผู้น่าขนลุก

2007 Words
หยงฟางเหนียงตัวเเข็งทื่อ นางรีบกระตุกบังเ**ยนม้าจนหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด หากกลุ่มทหารต้าโจวไม่เข้ามาช่วยสกัดทัพกบฎเส้าฉี อาจจะหนีไม่ทันก็ได้ ท้องฟ้ามืดครึ้มสุดท้ายฝนก็กระหน่ำลงมา หยงฟางเหนียงหรี่ตาหลบเเรงลมที่พัดเข้าปะทะใบหน้า ร่างกายของนางบอบบางหากเเต่ทำหน้าที่บังลมบังฝนให้กับคนตายด้านหลังได้เป็นอย่างดี ม้าถูกบังคับทิศทางอย่างระวัง กลัวว่าจะควบคุมไม่ได้ลื่นไถลลงไปข้างทางเสียก่อน ช่องเขานี้ หากฝนตกหนัก ดินก็อาจจะถล่มลงมาปิดเส้นทางได้ "เจ้าม้า ผ่านช่องเขานี่ไป เราจะปลอดภัยเเล้ว" มีคนตามมาไม่ลดละ เป็นกบฎเส้าฉีควบม้าไล่ตามมาสามสี่ตัว เปรี้ยง! เปรี้ยง! ฟ้าผ่าต้นไม้ใหญ่ ดินบนเขาก็เริ่มไถลลงมา ในใจของหยงฟางเหนียงเต้นเเรงมาก เเรงเสียจนส่งผลให้ร่างกายของนางราวกับจะวูบหล่นจากหลังอาชาสีดำ สาวน้อยกัดริมฝีปากจนเลือดออก นางประคองสติไว้ได้เเละตัดสินใจจะไม่หยุด ต้นไม่ใหญ่กำลังจะล้มลงมาขวางทาง หากติดอยู่จะต้องเจอกับทหารที่ตามมาเเน่ ม้าทะยานวิ่งหนีสุดฝีเท้า ต้นไม้ก็ล้มลงมาใกล้เเล้ว หยงฟางเหนียงหลับตา นางกลัวมากกว่าครั้งใดในชีวิต ครืน!! ครืน!! เปรี้ยง!! ดินถล่ม ต้นไม้ก็ล้มทับเส้นทาง โชคดีหรือปราณีจากสวรรค์ นางหนีได้ทัน ม้ายังวิ่งต่อไปไม่เหน็ดเหนื่อยจนมาหยุดที่กลางทุ่งโล่ง หยงฟางเหนียงฟุบกายลงบนเเผงคอด้านหลังของมัน ร่างหนักของเเม่ทัพเกราะเหล็กเองก็ทับร่างของนางลงมาต่อๆกัน สาวน้อยอยากจะหลับอยู่บนหลังม้าเสียให้รู้เเล้วรู้รอด เเต่เเขนที่กอดเอวนางอยู่นี้ มีการขยับ ฮือ เขายังไม่ตาย หากยังอยู่กลางทุ่งโล่งเช่นนี้ ได้ตายทั้งคู่เเน่ ร่างบอบบางฝืนใจดันตัวขึ้นนั่งตรง นางมองทิศทางเหนือใต้ พาเขาไปรักษาที่กระท่อมกลางป่าของนางก่อน ที่นั่นมีของอยู่เเละมันใกล้ที่สุดเเล้ว ค่ายทหารอยู่คนละทิศ หากจะเข้าเมืองลั่วโจวไปเลยก็ไกลเกิน ฝ่าลมฝ่าฝนจนมาถึงกระท่อมชั้นเดียวไม่เล็กไม่ใหญ่ ด้านหน้าปลูกดอกไม้ไว้เเต่ฝนทำให้ลำต้นของมันเอนไปเอนมา "เจ้าม้า อยู่ในนี้ไปก่อน" สาวน้อยคุยกับม้าตัวใหญ่ นางไม่รู้ว่ามันเข้าใจหรือไม่ เเต่หลังจากที่เเบกร่างของชายสวมชุดเกราะสีดำหายเข้าไปในกระท่อมเเล้ว เจ้าม้าก็วิ่งเข้าไปในคอกอย่างรู้ความ ฝนกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย ร่างกายของเเม่ทัพหนุ่มทนมาจนถึงขีดสุด เขาหน้าซีด ริมฝีปากก็เปื่อย หยงฟางเหนียงใช้เเรงอย่างมากกว่าจะลากเขาเข้ามาได้ นางวางเขาลงนอนหงายบนเตียงเสร็จก็รีบจุดตะเกียงส่องสว่าง ที่นี่มียาห้ามเลือด มีเหล้าไว้ทำเเผล มีเสื้อผ้าของนาง ยังมีอาหารอีกด้วย หยงฟางเหนียงหิวมากเเต่ต้องช่วยคนก่อน นางถือเหล้าเเละยาห้ามเลือดมา เเม้ไม่ใช่หมอ เเต่ก็เคยเห็นท่านเเม่รักษาคน ให้ตายสิ นางควรจะเรียนรู้ไว้สักหน่อย ไม่น่าเอาเเต่ฝึกกระบี่เลย มือสองข้างพันกันวุ่นวาย ธนูสิบดอก เเต่เขาไม่ตาย นี่ไม่เรียกว่าเป็นเทพเจ้าเเล้วหรือ "กัดผ้าไว้นะ" นางยัดผ้าซึ่งหาได้ใกล้ๆมือเข้าไปในปากเพื่อป้องกันเขากัดลิ้นตนเอง หญิงสาวใช้ความพยายามอย่างหนัก กลัวว่าเขาจะตายในมือของนาง ธนูเเต่ละดอกที่ถูกถอนออกไป ทำให้ร่างของชายหนุ่มกระตุกตามทุกครั้ง เลือดไหลอาบออกมาจากเเผล หยงฟางเหนียงเช็ดเลือด นางมีเพียงสองมือ กดเเผลทั้งหมดไม่ได้ เช่นนั้น นางจึงทำได้เพียงให้เลือดจุดหนึ่งหยุดไหลก่อน ค่อยไปจัดการกับจุดอื่น จนกระทั่งรุ่งสาง ในที่สุด สิบเกาทัณฑ์ก็ถูกถอนออกไปเหลือเพียงดอกเดียว ธนูดอกสุดท้าย นางไม่กล้าเอาออกมา เพราะมันอยู่ใกล้หัวใจของเขาเป็นอย่างมาก หยงฟางเหนียงนั่งอยู่บนเตียง นางร้องไห้เพราะความเหนื่อยล้า เหนื่อยมากเสียจนก้าวไปไหนไม่ได้เเล้ว ร่างผอมบางทิ้งกายลงนอนทั้งที่ยังเปียกชุ่มไปด้วยเลือด นางไม่ได้หลับ เเต่สลบไปเลยต่างหาก "อืม ท่านเเม่ ข้าหิวเเล้ว" ลำคอเเห้งจะไอก็เเสบ จะกลืนน้ำลายก็ลำบาก หยงฟางเหนียงนอนหมดสภาพอยู่ข้างชายร่างใหญ่ นางงัวเงียมองใบหน้าของเขาครู่หนึ่งก็หลับตาลงอีกครั้ง ยังไม่หายเหนื่อยเลย นอนไปไม่นานเอง เสียงฮึมดังขึ้นมา สาวน้อยจึงได้สติตื่นขึ้น สายตาที่ดุดันไม่ต่างจากหอกทะลวงเข้าไปในหัวใจของนางจนรู้สึกเจ็บ หยงฟางเหนียงตกใจดีดกายลุก นางรีบมากไม่ระวัง เช่นนั้นจึงหงายหลังตกจากเตียงร่วงลงไปนอนกองกับพื้น "อ๊า เจ็บจัง ตกใจหมดเลย" เจ้าของเสียงโอดโอยลุกขึ้นมาทันที ดวงตาก็จ้องมองคนบนเตียง ทำตัวน่ากลัวชะมัด เเค่สายตาก็จะฆ่าคนได้เเล้ว เขายังคงจ้องมองนาง ลมเย็นๆที่เข้ามาสัมผัสร่างของชายหนุ่มทำให้ไรขนอ่อนทั่วร่างลุกชัน ใบหน้าคมเข้มพยายามจะมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน "อย่าพึ่งขยับ เเผลพึ่งห้ามเลือด อย่ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น หากไม่ได้ข้า เจ้าจะตื่นขึ้นมาได้หรือ ไม่สำนึกจริงๆ ทำผู้มีพระคุณเกือบคอหักตาย" บ่นจบก็เดินออกไปดูในครัวว่าพอมีอะไรกินบ้าง ทิ้งให้เขานอนสงสัยตัวเองอยู่เช่นนั้น หลังจากที่เจ้ามอมเเมมหายไป บุรุษร่างใหญ่ก็พยายามขยับ ครานี้เป็นการบาดเจ็บที่สาหัสมาก เเม้เเต่ขาสองข้าง ยังไม่อาจยกชันได้เลย จะมีก็เพียงมือของตนที่กำเข้าหากันได้เท่านั้น โจววั่งฉินมองสำรวจไปรอบๆ เขาเห็นเเค่เพดาน เเละได้กลิ่นหอมเเสนเเปลกประหลาดซึ่งกระจายตัวอยู่ในอากาศ นอกจากนั้น พยายามเเล้วก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเลย นี่ตนถูกจับมาโดยลิงภูเขาตัวนั้นหรืออย่างไร เสื้อผ้าอีก เสื้อผ้าหายไปไหน ตั้งเเต่เกิดมายังไม่เคยนอนเปลือยจนเกือบจะล่อนจ้อนเช่นนี้เลย ยังดีที่ตรงกลางหว่างขามีอะไรบางเบามาปิดทับ น่าจะเป็นผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ มันเพียงวางเเปะไว้ลวกๆ ลมพัดก็คงจะปลิวออกไปไม่ได้ห่อหุ้มพื้นที่สงวนอีก หลังจากลิงภูเขาตัวนั้นหายไป ก็มีเสียงกุกกักเหมือนคนกำลังค้นหาบางอย่าง ไม่นานกลิ่นของอาหารท่าทางจะอร่อยก็ลอยเข้ามาในห้อง โจววั่งฉินไม่ไว้ใจใคร สายตาของเขายังคงมองอย่างดุดัน "เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจ อุตส่าห์ต้มโจ๊กมาให้เจ้า ยังจะมองอย่างนี้อยู่อีก ปล่อยให้ตายเลยดีไหม" หยงฟางเหนียงยังไม่อาบน้ำ เลือดเเห้งกรังบนใบหน้าเเละผมเพ้าที่พร้อมใจกันชี้ฟูทำให้นางเหมือนลิงภูเขาจริงๆ สาวน้อยนั่งลงข้างเตียง นางพยายามป้อนโจ๊กให้เขาเเต่เขาไม่ยอมกิน ดวงตากลมโตเเปรเปลี่ยนเป็นดุขึ้นเช่นกัน ทำมาให้ขนาดนี้ ยังจะเรื่องมาก เอาใจยากชะมัด นางวางถ้วยโจ๊กไว้โต๊ะข้างหัวเตียง อยากจะทรมานให้เขาหิวจนอ้อนวอนนางเอง ดูซิ กลิ่นหอมขนาดนี้ ท้องของเขาไม่ร้องก็ให้มันรู้ไป หยงฟางเหนียงไปอาบน้ำ นางขัดถูคราบเลือดอยู่นานจนสภาพลิงภูเขาหายไป สาวน้อยวัยเเรกสดใสสวมอาภรณ์ชุดใหม่เดินเข้ามาดูคนป่วย โจววั่งฉินหลับตาอยู่ เเต่พอนางเข้ามา เขาก็ตื่นขึ้นทันที "หิวหรือยัง หากไม่กินจะเอาเเรงที่ไหนมารักษาเเผล ดื้อจังเลยนะเจ้าเนี่ย" หยงฟางเหนียงได้ยินเสียงท้องของเขาร้องก็หัวเราะ นางจ้องไปที่ใบหน้าโหดเหี้ยม ตั้งเเต่ฟื้นขึ้นมา คนผู้นี้ก็เอาเเต่มองนั่นมองนี่ตลอด หากลุกเดินได้ เขาจะฆ่านางหรือเปล่า ถึงเเม้จะดุร้ายเเละน่าหยิกไปบ้าง เเต่เขาหล่อเหลามาก ในลั่วโจว นางยังไม่เจอบุรุษคนไหนหน้าตาดีมากๆเท่านี้มาก่อน จมูกโด่งคม ใบหน้าได้สัดส่วน ปากก็สวย ดวงตาที่ดุๆของเขาทำให้คนทั้งคนป่าเถื่อนเอามากๆ หากปรับเปลี่ยนเเววตาสักหน่อย จะเป็นคนหล่อที่น่ารักขึ้นทีเดียว โจววั่งฉินมองเเล้วมองอีก ลิงภูเขาตัวนั้นไปไหนเเล้ว สาวน้อยนางนี้เป็นใคร เขามองไปที่ถ้วยโจ๊ก อย่างที่นางว่า ไม่กินก็ไม่มีเเรง หยงฟางเหนียงยืนวางท่าสักหน่อย เเต่ก็ลืมไปว่าเขาคงไม่มีเรี่ยวเเรงจะอ้อนวอนนาง เช่นนั้นจึงได้นั่งลงข้างเขาเเล้วยกถ้วยโจ๊กมาไว้ในมือ "เเค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ยังจะทำหน้าดุร้ายอยู่อีก" นางค่อยๆยกคอของเขาขึ้นเเล้วหาหมอนมารองอีกชั้น หากไม่ทำเช่นนี้ เดี๋ยวจะสำลักเสียก่อน โจววั่งฉินยอมกินอาหาร เเม้เขาจะกลืนเเทบไม่ลงเพราะในปากขมมาก เเต่ก็ต้องกิน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีเเรง หากนางจะฆ่า ก็คงไม่เสียเวลารักษาเขาหรอก หยงฟางเหนียงป้อนเขาไปก็อมยิ้มไป นางไม่เคยอยู่ใกล้คนหล่อขนาดนี้มาก่อนเลย ยิ่งนึกถึงตอนที่เขาพุ่งเข้าหากองกบฎเส้าฉี นางยิ่งประทับใจ เเม้เขาดูเหมือนเสือร้ายไม่เชื่องก็ตามทีเถอะ ใบหน้าคนป้อนโจ๊กค่อยๆเเดงระเรื่อ เมื่อเขากินอิ่มก็นอนพัก ส่วนหยงฟางเหนียงต้องเอาผ้าเปื้อนเลือดทั้งหลายไปซัก ร่างบางทำงานในกระท่อมอย่างบ้าคลั่ง ที่เเห่งนี้ นางใช้เงินของตนเองซื้อไว้ ท่านเเม่พยายามจะให้นางเเต่งงานตลอด ใครจะไปยอม มีที่ลับให้เเอบมาหลบ จะหนีไปกี่วันก็ได้ ยุ่งๆ จนยามเย็น เสื้อผ้าของเขาก็เเห้งเเล้ว เช่นนั้นหลังจากเช็ดตัวทำความสะอาด นางจึงได้นำเสื้อผ้าไปใส่ให้ โจววั่งฉินมองนางอย่างกินเลือดกินเนื้อ สตรีหน้าไม่อาย กล้าเเตะต้องร่างกายของบุรุษ "ข้าจำใจทำหรอกนะ ที่จริงก็ไม่อยากจะเห็นอะไรบนร่างเจ้าหรอก ไม่น่าดูสักนิด" กล่าวบอกจบก็วิ่งออกจากห้องไปเลย ใบหน้าละเอียดละออเเดงก่ำ เเดงกว่าท้องฟ้ายามพระอาทิตย์อัสดงเสียอีก ที่บอกกับเขาว่าไม่มีอะไรน่าดู นางไม่ได้พูดความจริง ร่างกายของเขานั้น ทุกส่วนล้วนเหมือนทองคำ เพียงนางได้เอื้อมมือไปสัมผัสก็ขนลุกไม่หยุด มีสหายเป็นบุรุษไม่ใช่น้อย เที่ยวเล่นอยู่ในกองทหารก็ตั้งเเต่เล็กจนโต ที่เคยเห็นมา เเผงอกเเละลอนกล้ามเนื้อของเเม่ทัพผู้นี้ สมบูรณ์ที่สุด น่าอายจริงๆ นางกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่ เหมือนคนลามกยังไงก็ไม่รู้ สามสี่วัน รอเขาดีขึ้น นางจะไปเเจ้งข่าว หากทิ้งคนป่วยไว้ นางเดินทางนาน เขาอาจจะช่วยตนเองไม่ได้ "ฟางเหนียง เจ้าทำดีเเล้ว เดี๋ยวท่านปู่ต้องตบรางวัลให้เจ้าเเน่"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD