“ช่วงนี้อากาศแปรปรวนฮูหยินน้อยควรดูแลสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอนะเจ้าคะ” ซุนหยากระแอมเบา ๆ รู้สึกขัดเขินที่ต้องแสดงความห่วงใยต่อภรรยาคนใหม่ของนายท่านอยู่พอสมควร
“ท่านป้าพูดถูก คืนนี้ข้าจะพยายามไม่คิดมากและเข้านอนเร็วขึ้นสักหน่อย” เสวียนหนิงอันรับคำอย่างว่าง่าย แม้สนทนาแล้วไม่ได้ประโยชน์อันใดมาก แต่การได้ระบายความอึดอัดออกมาบ้างก็ทำให้นางรู้สึกดีไม่น้อย
“เรื่องความรู้สึกล้วนเข้าใจยาก เอาไว้ข้าจะแจ้งต่อนายท่านว่าฮูหยินน้อยยังมิพร้อมสนทนา มีเรื่องเร่งด่วนอันใดก็ให้รอไปก่อน แต่เรื่องนอนไม่หลับนั้นต้องแก้ไขเป็นการด่วน”
ซุนหยาตัดสินใจแล้วว่าจะยอมเดินไกลอีกสักหลายรอบ ไม่บังคับใจฮูหยินน้อยให้ไปพบหน้าสามีอีก “เจียอีเจ้าไปที่ครัวกับข้า จัดเครื่องดื่มรสหวานให้กับฮูหยินน้อยได้ดื่มให้สดชื่นสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ ท่านป้า”
“ยามใกล้ค่ำให้ฮูหยินน้อยดื่มชาดอกหอมหมื่นลี้ ชาชนิดนี้มีกลิ่นหอมและช่วยให้หลับสนิทดียิ่ง...หากไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ข้าขอตัวไปแจ้งนายท่านก่อนนะเจ้าคะ” ซุนหยาขยับตัวจะลุกขึ้น เสวียนหนิงอันเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้าไปประคองทันที
“ขอบคุณท่านป้ามาก เสวียนหนิงอันติดค้างท่านแล้ว”
เจ็ดวันแล้วที่ซุนหยาแจ้งว่าฮูหยินน้อยมิต้องการพบหน้า
นับตั้งแต่แต่งสาวงามในวัยสิบหกปีเข้ามาเป็นภรรยาลับ หลี่จินหมิงก็ทำใจไว้แล้วว่าชีวิตของตนคงไม่เหมือนเดิม ที่ผ่านมาเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องราวอันใดมาก ออกไปทำงานตั้งแต่เช้า หลังกินมื้อเย็นเรียบร้อยจึงกลับมาพักผ่อนในเรือนใหญ่ ทว่าหลายวันมานี้มีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
หลี่จินหมิงกลับบ้านในต้นยามเซิน[1]ได้หลายวันแล้ว
แม้อยากเข้าไปพูดคุยและขอโทษ แต่ด้วยความที่เขาอายุมากกว่าถึงยี่สิบปี กอปรกับตอนนี้มีฐานะเป็นสามีของนาง การออดอ้อนเอาใจจึงไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ
เสวียนหนิงอันมิใช่เจ้าตัวเล็กที่เขาจำได้ นางไม่เข้าหาเขาเหมือนในวันวาน โกรธแล้วเก็บตัวเงียบไม่ยอมพูดจา ให้ซุนหยาตามตัวหลายครั้งก็ไม่ยอมมาพบ ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้เขาจะทำความเข้าใจกับนางได้อย่างไร
“นายท่านเจ้าคะ ฮูหยินน้อยแจ้งว่าไม่สะดวกมาพบเจ้าค่ะ”
ซุนหยากล่าวเสียงเรียบ นางแจ้งเรื่องนี้เป็นครั้งที่สองของวัน แต่โชคดีที่ไม่ต้องเดินไกลเพราะฮูหยินน้อยให้ตอบได้เลยว่าไม่ต้องการพบ หรือหากต้องการถามจริง ๆ ก็มิต้องเดินไกล เพราะฮูหยินน้อยมิได้กักขังตนเองอยู่ในเรือนเล็กหรือนั่งเล่นอยู่ในสวนดังที่ผ่านมาแล้ว
“ตามใจนาง! ไม่อยากพบก็ไม่ต้องมา!” หลี่จินหมิงตะคอกเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนโบกมือไล่ซุนหยา แต่นางกลับยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ปรากฏว่านางต้องการให้เขาสั่งชาจากร้านค้าสกุลหลี่
“หลายวันก่อนข้าเห็นฮูหยินน้อยร่างกายอ่อนล้า สอบถามจากเจียอีพบว่านางมีอาการนอนไม่หลับ จึงแนะนำให้ดื่มชาดอกหอมหมื่นลี้เจ้าค่ะ”
ซุนหยาเล่าต่อว่าชาใกล้หมดแล้ว จึงต้องรบกวนนายท่านสั่งจากร้านค้าเพิ่มเติม
“แล้วตอนนี้นางเป็นเช่นใดบ้าง”
“ฮูหยินน้อยไม่ได้ใช้กำยานตามที่นายท่านสั่ง ทั้งยังไม่ได้รบกวนสาวใช้ให้มานอนด้วย ทำเพียงดื่มชาก่อนเข้านอน ช่วงแรกยังปรับตัวไม่ได้ แต่สามวันที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเรื่องการนอนแล้วเจ้าค่ะ”
“นางมีนิสัยนอนยาก กินยากตั้งแต่เด็ก ให้ดื่มชานับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแล้ว”
“ฟังดูแล้วนายท่านรู้จักฮูหยินน้อยมานาน ย่อมทราบดีว่าต้องจัดการเช่นใดมิใช่หรือเจ้าคะ” ซุนหยาแสร้งถาม
“ไม่ถูกต้องนัก ข้าเคยดูแลนางเพียงสามปีกว่า หลังจากนั้นก็แทบมิได้พบหน้า” หลี่จินหมิงหลับตาคำนวณอย่างละเอียด “หากไม่นับงานปักปิ่นเมื่อปีก่อนก็พูดได้เต็มปากว่าข้าไม่เจอนางกว่าหกปี ระยะเวลานานเช่นนั้นคงเรียกว่ารู้จักกันมิได้แล้ว”
“ฮูหยินน้อยก็กล่าวเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ”
“นางพูดว่าอย่างไรเล่า”
“พูดว่า...นายท่านไม่ใช่ท่านอาหลี่ของนางแล้วเจ้าค่ะ”
“นางพูดเช่นนั้นจริงหรือ” หลี่จินหมิงถามต่อ
“ฮูหยินน้อยพูดด้วยว่าหากย้อนเวลาได้จะแต่งงานกับผู้อื่น ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับนายท่านเจ้าค่ะ” ซุนหยากล่าวจบก็ขอตัวทันที
หลี่จินหมิงอยากปิดตาอุดหู ไม่รับรู้เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับงาน แต่คำของซุนหยาทำให้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ดังปรารถนา หัวใจที่เคยด้านชานี่ก็น่ารำคาญเหลือเกิน อยู่ ๆ ก็เต้นไม่เป็นจังหวะเพราะคำพูดไม่รู้จักคิดของเจ้าตัวเล็กแท้ ๆ
‘หึ หากย้อนเวลาได้จะไม่แต่งกับข้า?! แล้วผู้ใดเล่าที่วางแผนรวบรัดข้าไปเป็นสามี!’
หลี่จินหมิงโกรธจนหน้าแดงอยู่พักใหญ่ ก่อนค่อย ๆ คิดได้ว่าที่นางรู้สึกว่าตนเองตัดสินใจผิดนั้นเป็นเรื่องสมควรแล้ว ในเมื่อแผนการของเขาคือทำให้ภรรยาลับลำบากใจจนทนอยู่ด้วยไม่ได้ นางเสียใจถึงขั้นอยากย้อนเวลาก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วมิใช่หรือ
เหตุใดเขาจึงไม่รู้สึกยินดีกับมันเล่า!
‘ไม่ได้ เจ้าจะใจอ่อนเพราะนางไม่ได้ ตกลงกับตวนอ๋องไว้แล้วจะผิดสัญญาไม่ได้เด็ดขาด!’
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หลี่จินหมิงก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องตีเหล็กตอนร้อน ในเมื่อนางไม่อยากยุ่งเกี่ยว เขาก็จะไปให้เห็นหน้า พูดจาไม่น่าฟังอีกสักสองสามประโยค ตอกย้ำให้ชัดเจนว่าการแต่งงานกับเขานั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างแท้จริง
หลี่จินหมิงบอกตนเองว่าให้ใจเย็นระหว่างเดินไปยังเรือนเล็ก แต่ยังมิทันไปถึงครึ่งทางก็พบสาวใช้เจียอีถือกล่องใบหนึ่ง เดินกึ่งวิ่งอย่างรีบร้อนตรงไปยังโรงครัว
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดจึงรีบร้อนนัก”
“ฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ! ฮูหยินน้อยถูกสะเก็ดไฟ ท่านป้าซุนหยาจึงให้ข้ามาเอากล่องยาเจ้าค่ะ!”
“เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน!”
“เมื่อครู่อยู่ ๆ ก็มีลมแรงพัดมา ฮูหยินน้อยกำลังตรวจดูอาหารอยู่หน้าเตาจึงมิทันระวังเจ้าค่ะ”
“ฉิบหายแล้ว!”
หลี่จินหมิงวิ่งไปยังโรงครัวทันที
[1] ยามเซิน = ๑๕.๐๐ – ๑๖.๕๙ น.