bc

ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่

book_age16+
254
FOLLOW
1K
READ
billionaire
HE
love after marriage
opposites attract
billionairess
blue collar
sweet
bxg
brilliant
like
intro-logo
Blurb

“หากรักแล้วต้องถูกเอาเปรียบมากมายถึงเพียงนี้

ข้าควรจะยังรักท่านต่อไปอยู่อีกหรือ...”

**************

เสวียนหนิงอันเป็นถึงบุตรสาวของตวนอ๋องเลื่องชื่อ แต่กลับลดตัวมอบความรักให้กับพ่อค้าอายุมากแทนการคบหาชายหนุ่มอนาคตไกล มีสิ่งเดียวที่เขามอบให้ได้คือการทำให้นางมีความสุขอย่างที่ภรรยาสมควรได้รับจากสามี ทว่าร่วมเรียงเคียงหมอนมิทันข้ามวัน เขาก็หักหลังนางด้วยการมอบน้ำแกงเลี่ยงบุตรให้เสียแล้ว

“เหตุใดจึงไม่ดื่มน้ำแกงบำรุง”

“หมอหวงให้ข้ากินสมุนไพรบำรุงร่างกายมาตั้งแต่เริ่มมีระดู ร่างกายแข็งแรงดี ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำแกงบำรุงเพื่อช่วยตั้งครรภ์เจ้าค่ะ”

“ที่แท้เจ้าไม่อยากตั้งครรภ์” หลี่จินหมิงชิงชังตนเองนักที่ต้องเล่นละครฉากใหญ่ โกหกภรรยาคนงามอย่างหน้าไม่อายที่สุด “น้ำแกงนี้สตรีที่แต่งเข้าสกุลหลี่ดื่มทุกราย หากเจ้าไม่ต้องการมีลูกกับพี่ก็มิเป็นไร ค่อยบอกซุนหยาว่ามิต้องนำมาให้แล้ว”

“ท่านพี่อย่าเข้าใจผิดไป” เสวียนหนิงอันไม่กล้าดื่มก่อนหน้าเพราะเกรงว่าในน้ำแกงจะมีส่วนผสมขัดกับสมุนไพรที่กินอยู่เป็นประจำ แต่ในเมื่อเขากล่าวถึงขั้นนี้แล้ว “หนิงเอ๋อร์จะดื่มเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ วันต่อไปก็จะดื่มไม่ให้ขาด ท่านพี่อย่าโกรธเลยนะเจ้าคะ”

เสวียนหนิงอันยกน้ำแกงเจ้าปัญหาดื่มรวดเดียวหมดในชั่วพริบตา!

“เจ้าตามใจพี่อีกแล้ว ไม่กลัวว่าวันหน้าจะถูกเอาเปรียบหรืออย่างไร”

“ไม่กลัวเจ้าค่ะ” เสวียนหนิงอันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อนั่งบนตักแกร่ง ใบหน้าเล็กซบลงบ่ากว้างอย่างเอาใจ “รักท่านหมดหัวใจ อยากเอาเปรียบมากเพียงใดก็ทำตามใจเถิดเจ้าค่ะ”

หลี่จินหมิงเกลียดชังตนเองจนมิรู้จะใช้คำพูดใดมาบรรยาย หลอกลวงภรรยาเช่นนี้ยังสมควรได้รับความรักจากนางอยู่หรือ

chap-preview
Free preview
บทนำ คืนวิวาห์
ลมร้อนพัดเอื่อยพากลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้นานาพรรณ ลอยฟุ้งผ่านเรือนใหญ่และเรือนเล็กในเขตรั้วบ้านพ่อค้าชื่อดังแห่งเมืองหลวง กลิ่นบุปผาใกล้โรยราอ่อนกว่าแรกผลิบานอยู่หลายส่วน ทว่ายังสามารถปลอบประโลมหัวใจของคนที่กำลังเฝ้ารออย่างกระวนกระวายให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง หากพิจารณาให้ดีจะได้กลิ่นดอกเหมยกุ้ย[๑]โดดเด่นที่สุด ความหอมเย้ายวนแทรกมาตามสายลมทำให้เจ้าของเรือนร่างบอบบางดุจต้นหลิวเผลอสูดลมหายใจลึก พลางภาวนาให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปด้วยดี เทียนจะดับแล้ว… บนโต๊ะกลางห้องมีเทียนมงคลสีแดงส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด ส่วนที่สัมผัสกับความร้อนค่อย ๆ ละลายอย่างเชื่องช้า น้ำตาเทียนทุกหยาดหยดล้วนมิหลุดพ้นจากการสังเกตของดวงตาหวานเศร้า นางเฝ้ามองเปลวเทียนสีสวยสลับกับประตูบานเล็กอย่างมีความหวัง สุดท้ายจึงตระหนักได้ว่าอีกไม่นานแสงสว่างในห้องคงหมดไป บุรุษที่นางรอยังไม่เข้ามาในเรือน... มีความเป็นไปได้ถึงเก้าส่วนว่าเขาจะไม่มา เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วมือเรียวเล็กก็พลันขยุ้มอาภรณ์สีแดงสดที่สวมอยู่อย่างไม่พอใจนัก นางยอมลดเกียรติตนเอง กระทั่งชุดเจ้าสาวสวยสมฐานะก็มิได้สวมใส่ มีเพียงชุดธรรมดาสีแดงทดแทน ทุกอย่างผิดไปจากที่คุณหนูผู้สูงศักดิ์คาดหวัง ไม่มีการเข้าพิธีอย่างครบถ้วนถูกต้องตามประเพณีเพราะเหตุผลประหลาดที่เขาอ้าง แต่ในเมื่อเลือกแล้วนางจึงไม่มีสิทธิ์โอดครวญ รักหมดหัวใจ...ต่อรองอันใดไม่ได้อีก เสวียนหนิงอัน กวาดตามองรอบห้องนอน เครื่องเรือนทุกอย่างสะอาดสะอ้าน ทว่าเก่าคร่ำคร่าไม่น่ามอง ลึกเข้าไปด้านในมีห้องสำหรับอาบน้ำ แต่กลับไม่มีสาวใช้เตรียมน้ำร้อนให้อาบ จริง ๆ แล้วไม่มีสิ่งมีชีวิตใดออกมาต้อนรับนาง นอกจากหญิงสูงวัยที่เปิดประตูเล็กหลังบ้านให้ในราวต้นยามโฉ่ว[๒] นางนิ่วหน้าไม่พอใจ ชุดเจ้าสาวที่สวมอยู่แทบไม่นับว่าเป็นชุดเจ้าสาว หากไร้ผ้าคลุมหน้าสีแดงคงยากจะบอกได้ว่าหญิงงามในวัยสิบหกปีมาที่บ้านหลังนี้ในฐานะใด ไหนจะเรื่องที่เดินเข้าทางประตูเล็ก ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ไม่มีขบวนนำทางอันสมเกียรตินั่นอีก แต่ในเมื่อเขาแจ้งชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องต้องเป็นเช่นนี้ นางจึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับชะตากรรม “อย่างน้อยก็ควรอนุญาตให้นำสาวใช้มาด้วยสักสองคน...” นางพึมพำอย่างเบื่อหน่าย หลังจากมั่นใจแล้วว่าค่ำคืนนี้ต้องอยู่ตามลำพัง เสวียนหนิงอันจึงตัดใจไม่รั้งรอเพราะไม่อยากรู้สึกผิดหวังไปมากกว่าที่เป็นอยู่ นางถอดผ้าคลุมหน้าวางไว้บนโต๊ะกลางห้อง เปลี่ยนเทียนเล่มใหม่เพื่อให้ยังพอมีแสงสว่างสำหรับทำธุระส่วนตัว แต่หลังจากเปิดหีบเล็ก ๆ ที่วางอยู่ถัดจากเตียง นางก็อารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง เสื้อผ้าในหีบล้วนเป็นชุดที่นางเคยใส่เมื่อสองปีก่อน เสวียนหนิงอันคว้าผ้าผืนเล็กตรงไปยังห้องอาบน้ำ ก่อนค่อย ๆ ล้างเครื่องประทินโฉมและทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำเย็น โชคดีที่ช่วงนี้อากาศไม่หนาวมาก กอปรกับร่างกายของนางทนต่อความหนาวได้เป็นอย่างดี ต่างจากเมื่อครั้งยังเยาว์ที่ต้องปกปิดเนื้อหนังด้วยอาภรณ์หนานุ่มอยู่เสมอ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เสวียนหนิงอันจึงเตรียมดับเทียนเพื่อเข้านอน ทว่าเสียงกุกกักด้านนอกกลับทำให้นางต้องรีบคว้าผ้าสีแดงมาคลุมศีรษะ พลางย้ายร่างไปนั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว นางลอบมองผ่านผ้าผืนบาง พบว่าผู้มาเยือนคือเจ้าของร่างสูงโปร่งในชุดสีขาวสะอาดตา ปักลวดลายสีทองวิจิตรงดงาม มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นของมีราคา ทว่าเสวียนหนิงอันมิได้ยินดีกับความหรูหราเหล่านั้น นางผิดหวังที่เขาไม่สวมชุดเจ้าบ่าวสีแดง “เหตุใดจึงไม่พักผ่อน” น้ำเสียงเย็นชาทำเสวียนหนิงอันปวดใจยิ่งนัก “รอท่านพี่เจ้าค่ะ” “หึ! ใครอนุญาตให้เรียกข้าว่าท่านพี่!” “เราสองคนแต่งงานกันแล้ว มิให้ข้าเรียกท่านพี่แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร” เสวียนหนิงอันถามเสียงสั่นสะท้าน ทราบดีว่าการแต่งงานในครั้งนี้ช่างไร้เกียรติ ไม่มีสิ่งใดถูกต้อง ไม่มีการคำนับบิดามารดาหรือฟ้าดิน เรื่องคำนับกันและกันยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเขาไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งกับนาง เขาถูกบังคับให้แสดงความรับผิดชอบ “เสวียนหนิงอัน เจ้าย่อมรู้ดีที่สุดว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นเจ้าที่วางแผนชั่วร้าย เอาแต่ใจตนเองไม่แปรเปลี่ยน นิสัยช่างเหมือน...” เขากลืนคำพูดของตนเอง ข่มใจให้สงบก่อนกล่าวประโยคที่ทำให้คนฟังปวดร้าวเสียยิ่งกว่าเก่า “ในเมื่อการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความลับ ยังเปิดเผยไม่ได้ เจ้าจึงเป็นได้เพียงภรรยาลับของข้า และในเมื่อข้าไม่เคยปรารถนาที่จะแต่งเจ้ามาเป็นภรรยา เรื่องอันใดที่ยังไม่ควรเกิดขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน...คำว่าท่านพี่เองก็เช่นกัน” “เจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์จะเชื่อฟัง” “บ่าวในบ้านเหลือเพียงคนที่ไว้ใจได้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังสถานะของเจ้ากับข้ายามอยู่ที่นี่ หากอยู่นอกบ้านและมีผู้ใดตั้งข้อสงสัย ให้บอกว่าเจ้าคือหลานที่มาจากต่างเมือง...” เขาหยุดคิดครู่หนึ่ง “ความจริงแล้วไม่ออกไปข้างนอกจึงจะดี” “ท่านคิดกักขังข้า?” เสวียนหนิงอันถามด้วยเสียงที่ไม่อ่อนน้อมนัก “หากไม่เชื่อฟัง การแต่งงานครั้งนี้คงต้องยกเลิก...” “เจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์จะเชื่อฟัง อยู่ในบ้านเป็นภรรยา อยู่นอกบ้านเป็นเพียงหลานสาว ห้ามมิให้ใครอื่นล่วงรู้สถานะเพื่อรักษาเกียรติของท่าน ส่วนเกียรติของข้า ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ” “เสวียนหนิงอัน! เจ้าวางแผนต่ำช้าเพื่อครอบครองข้า ยังต้องพูดถึงเรื่องใส่ใจเกียรติอันใดอยู่อีกหรือ!” เสียงตวาดทำให้เสวียนหนิงอันสะดุ้งตัวโยน ตั้งแต่เกิดมาจนอายุได้ สิบหกปี นี่นับเป็นครั้งแรกที่นางถูกตวาดโดยบุรุษที่มิใช่บิดา ความจริงแล้วกระทั่งบิดาก็ทำเพียงเอ่ยตักเตือนเท่านั้น มิใช่ตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้นางเผลอกำมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีดน่าสงสาร แต่กระนั้นนางก็ยังอดทน “หนิงเอ๋อร์ผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” ใบหน้าสวยหวานยังคงซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมสีแดง นางข่มความน้อยใจ สาบานกับตนเองว่าจะมิยอมให้น้ำตาไหลโดยง่าย ถึงอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของตวนอ๋องสูงศักดิ์ ไม่สมควรแสดงความอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น แม้ว่าคนผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางแล้วก็ตาม “มิแน่ใจว่าคำพูดของเจ้าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด” เสียงแข็งกร้าวไม่น่าฟังอ่อนลงมากแล้ว “เสวียนหนิงอัน หากเปิดผ้าคลุมหน้าแล้ว ข้าคือเจ้าของชีวิตของเจ้า หากสั่งอันใดก็ต้องทำตาม เอาแต่ใจตนเองเช่นที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว เข้าใจหรือไม่” “เจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์จะทำหน้าที่ภรรยามิให้บกพร่อง ดูแลบ้าน...ดูแลท่าน” นางเอ่ยเสียงหวานใส ทว่าแฝงความเศร้าเล็กน้อย ทราบดีว่าใช้น้ำเสียงเช่นนี้แล้วไม่ว่าบุรุษหรือสตรีที่ได้ฟังล้วนใจอ่อน อยากได้สิ่งใดก็มิเคยพลาด แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะใจแข็งกว่าที่คาดไว้มาก “คิดว่าทำเสียงออดอ้อนเช่นนี้แล้วข้าจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้หรือ เสวียนหนิงอัน จำไว้ว่าข้ามีสิทธิ์ในตัวเจ้า แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอันใดจากข้า นอกจากทำหน้าที่ภรรยาในส่วนที่ข้าอนุญาตเท่านั้น เสวียนหนิงอัน เจ้ายังต้องการเป็นภรรยาข้าอยู่หรือไม่” “รักแรกฝังใจไม่ลืมเลือน หนิงเอ๋อร์ไม่มีวันเปลี่ยนใจเจ้าค่ะ” เสวียนหนิงอันมองเจ้าของร่างสูงที่ขยับเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาเปลี่ยนจังหวะเล็กน้อยราวกับกำลังตื่นเต้น ทว่านางกะพริบตาครั้งหนึ่งก็สัมผัสได้ว่าทุกอย่างยังคงสงบนิ่งดังเดิม เป็นนางที่เข้าใจผิดไป “เจ้าแค่ลุ่มหลงและต้องการเอาชนะ ความรู้สึกเช่นนี้ย่อมเรียกว่าความรักไม่ได้” เสวียนหนิงอันไม่เถียง ทว่าจ้องมองฝ่ามือใหญ่ที่ค่อย ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าสีแดงอย่างเชื่องช้า แม้เขาไม่อยากมองนางก็จำต้องมอง ทันทีที่ดวงตาของทั้งคู่ประสานกัน ดวงตาสีเข้มก็ทอประกายที่สื่อความหมายไม่แน่ชัด เสวียนหนิงอันไม่ทราบว่าเขาปรารถนาสิ่งใด หากต้องการร่วมเตียงตาม ธรรมเนียมนางก็ยินดี แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นจนร่างกายสั่นสะท้าน มิได้พร้อมทำหน้าที่ภรรยาอย่างที่พร่ำบอกตนเองเลยสักนิด “ท่านอาจะนอนที่นี่หรือไม่” นางรีบร้อนถาม ‘ท่านอา’ เพราะยังไม่พร้อม แต่เขากลับตีความหมายผิดไป “หึ! ไม่นึกว่าเจ้าโตมาจะเป็นสตรีเช่นนี้ สวรรค์กลั่นแกล้งข้าแล้วจริง ๆ” สิ้นวาจาร้ายกาจ บุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเสวียนหนิงอันก็จากไป ทิ้ง ‘ภรรยาลับ’ ไว้ในห้องหอตามลำพัง ใบหน้างดงามของเสวียนหนิงอันปราศจากน้ำตา ทว่าหัวใจดวงน้อยกลับปวดร้าวราวกับถูกเข็มเล็ก ๆ นับร้อยนับพันทิ่มแทง ทั้งยังรู้สึกหนาวเหน็บมิต่างจากถูกน้ำเย็นจัดราดศีรษะในยามเหมันตฤดู หลังจากใช้เวลาเกือบสองเค่อ[๓] ข่มความผิดหวังและความน้อยใจที่ประดังเข้ามาได้แล้ว เสวียนหนิงอันก็เผยรอยยิ้มเด็ดเดี่ยว กระซิบกับตนเองด้วยน้ำเสียงที่หมายมาดอย่างยิ่ง “สักวันท่านจะต้องรักข้า หากข้าทำให้ท่านกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ท่านจะทนใจแข็งไม่รักข้าได้อยู่อีกหรือ...” [๑] ดอกกุหลาบ [๒] ยามโฉ่ว = ๐๑.๐๐ – ๐๒.๕๙ น. [๓] ๑ เค่อ = ๑๕ นาที

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook