บทที่2/2
หมิงอิงไล่ขีดชื่อแต่ละคนที่นางคาดเดาเอาไว้ว่าอาจจะต้องได้แต่งด้วยทิ้งไปเรื่อย
องค์ชายรองมีพระชายาอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นปัญหา นางยังอาจถูกแต่งให้เป็นพระชายารองได้ มือเรียวยกขึ้นมากุมขมับเมื่อรายชื่อยังมีอีกมากมาย ไม่เท่านั้นต่อให้ตัดไปแล้วก็ใช้ว่าเรื่องจะจบ
“ไม่มีประโยชน์”
หมิงอิงถอนหายใจหนัก ไม่ว่านางจะกำลังพยายามทำอะไรอยู่ สิ่งนั้นล้วนไม่มีประโยชน์ นั่นเพราะต่อให้คนเหล่านั้นจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับนางมากแค่ไหน ถ้าฮ่องเต้ต้องการทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น
“แกล้งตายหรือจะแกล้งบ้าดีนะ” คุณหนูตระกูลฉู่เอ่ยกับตนเองเบา ๆ
“คุณหนู วันนี้มีงิ้วคณะใหม่มาแสดงคุณหนูจะไปหรือไม่เจ้าคะ”
ชีวิตก่อนหน้านี้ของหมิงอิงในชาตินี้ล้วนสบายไร้ซึ่งกังวล แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พายุเริ่มก่อตัว จะเที่ยวเล่นไปวัน ๆ ดั่งเช่นก่อนหน้าได้อย่างไรกัน
“ไม่ไปหรอกเสี่ยวอี้ ข้ามีเรื่องต้องคิด” หมิงอิงบอกสาวใช้คนสนิทไปพลางถอนหายใจหนักจนคนสนิทของนางต้องเดินเข้ามาถามไถ่ว่าคุณหนูของนางยังคงปกติดีหรือไม่
ปกติหากชวนไปเที่ยวเล่นไม่มีทางเสียหรอกที่คุณหนูจะปฏิเสธ มีแต่ไปแล้วเรียกกลับไม่ยอมกลับเสียมากกว่า เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของเจ้านายตนจึงเอ่ยออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
“ยิ่งคิดมากก็ยิ่งต้องเที่ยวเล่นสิเจ้าคะ จะได้มีความสุขและคิดออกว่าควรทำเช่นไร”
หมิงอิงคิดตามอย่างที่ว่าก็เห็นว่าจริง อีกอย่างนางจะได้ออกไปเจอกับคนอื่น ๆ อีกด้วย หรือบางทีอาจจะเจอคุณชายสักคนและจับอีกฝ่ายตบแต่งไปเสียพรุ่งนี้เลยก็ดี
การแสดงที่สวยงามและชุดงดงามอลังการไม่ได้ทำให้หมิงอิงรู้สึกเข้าถึงเรื่องราวที่แสดงได้มากเท่ากับบทพูดที่นางเอกของคณะงิ้วพูดออกมาในตอนท้ายเลยแม้แต่น้อย
“สวรรค์เหตุใดส่งข้ามาเกิดแล้วต้องส่งนางมาด้วย คนที่มีดวงชะตาหงส์เช่นนั้นข้าจะสู้ได้อย่างไร ต่อให้ข้าเกิดแล้วตายร้อยครั้งก็คงไม่อาจจะชนะนางได้ ข้าผิดหรือมากหรือไรที่รักฮ่องเต้”
หมิงอิงถอนหายใจหนักขึ้นอีกครา นางเศร้ากับฉากนี้จริง ๆ ขนาดหนีออกมาเช่นนี้แล้วก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องที่ยังต้องคิดวนเวียน มือขาวเนียนยกน้ำชาขึ้นจิบ
ฉากงิ้วตรงหน้าคือสนมนางหนึ่งซึ่งถูกใส่ร้ายจากฮองเฮาจนถูกจองจำในตำหนักเย็นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร อีกทั้งก่อนตายยังใช้เลือดของตนเขียนจดหมายถึงฮ่องเต้ เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นเรื่องชาชินของผู้คนในวังหลัง
รัก
อิจฉา
โลภ
แล้วก็จบลงด้วยความเศร้าโศกและตายจากไป ไม่มีสตรีผู้ใดในวังหลวงหนีพ้น ไม่มีเลยจริง ๆ
“ต่อให้มีชะตาหงส์จุดจบก็ไม่ต่างกับสตรีอย่างพวกเจ้านักหรอก”
หมิงอิงคิดอย่างเศร้าสร้อย นางตัดสินใจอย่างหนักแน่แล้ว ไม่ใช่ผู้ใด ไม่ใช่ลำดับที่เท่าใด แต่สิ่งที่นางต้องการจริง ๆ คือหนึ่งเดียวต่างหาก และนางจะไม่ช่วยใครให้ได้ดีอีกแล้ว อยากเดินซ้ายนางก็จะปล่อยให้เดิน อยากเดินขวาก็ตามนั้นนางจะเป็นเพียงภรรยาไม่เล่นบทหงส์ที่สวรรค์ลิขิตมาอีกต่อไป หากชะตาบังคับนางจะฝืนมันเอง
“เสี่ยวอี้มีบุรุษผู้ใดบ้างไหมที่มีภรรยาเพียงผู้เดียว”
หมิงอิงเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างของโรงงิ้ว ผู้คนมากมายที่เดินกันกวักไขว้ มีกี่คนกันที่มีความสุขจากใจจริง
มีกี่คนที่สวรรค์ลิขิตให้คนเหล่านั้นได้พบและเจอกับความสุขที่ต้องการ และข้านั้นชาตินี้เป็นไปได้หรือไม่ที่จะขอให้สวรรค์ปล่อยข้าไป ข้าไม่อยากเล่นตามบทที่ขีดเขียนเอาไว้อีกแล้ว ไม่ว่าบทบาทนั้นจะเป็นเช่นไรก็ตาม
เพราะต่อให้เป็นฮองเฮาที่นางเอกงิ้วต้องการจะครอบครอง สุดท้ายแล้วก็เจ็บปวดและเศร้าใจไม่ต่างจากนางสนมนักหรอก เพราะสุดท้ายก็ถูกทิ้งเช่นเดียวกันอยู่ดี บุรุษที่อยู่สูงไม่เคยหยุดที่สตรีคนใดเพียงนางหนึ่ง
หมิงอิงตัดสินใจแล้วหากจะหนีชะตานี้ก็ต้องหนีจากคนที่จะกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ด้วย ฮ่องเต้ชราแล้วไม่น่าสนใจนาง องค์ชายแค่ทำตัวให้ไม่เหมาะสมก็คงพอจะทำให้ไม่สามารถเป็นพระชายาได้ เช่นเดียวกับอ๋องทั้งหลายคงไม่มองแม่นางที่ไม่เพียบพร้อม
ตระกูลแม่ทัพยิ่งแล้วใหญ่นางรังเกียจเป็นที่สุดจิตใจไม่มั่นคงห่างไกลกัน เจอใครก็ไหวเอนไปตามแรงลม โชคดีที่ท่านพ่อไม่ชอบคนเหล่านั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อให้ฮ่องเต้จะอยากจับคู่ให้เช่นไรก็คงไม่ฝืนใจบังคับพ่อของนางจนเกินไป พวกบัณฑิตก็เชื่อไม่ได้เคยดูงิ้วว่าจอหงวนทิ้งภรรยาเก่าเอาไว้ เข้าไปรับลาภยศในเมืองหลวงไม่นึกว่าจะเจอเข้าเองกับตัว นางเพิ่งจะเจอกับตนเองชาติที่ผ่านมานี่เอง ความทรงจำยังคงสดใหม่
หากหลีกเลี่ยงก็ต้องเลี่ยงชายผู้มีชะตามังกร เช่นนั้นคนค้าขาย ชาวบ้านธรรมดานี่แหละที่นางต้องการ
‘คนธรรมดาคนหนึ่งคงกลายเป็นคนยิ่งใหญ่ไม่ได้หรอก’
หมิงอิงคิดก่อนหยิบเงินเพื่อตบรางวัลให้นางเอกงิ้ว
“อารมณ์ดีแล้วใช่ไหมเจ้าคะคุณหนู”
“ใช่อารมณ์ดีแล้ว เอาไปให้นางเอกงิ้วบอกนางว่าเล่นได้สมบทบาทมาก“
แต่หมิงอิงไม่มีทางเลือกบทเช่นนั้นแน่ ๆ ครั้งนี้นางจะไม่จบลงอย่างเดิมอีกแล้ว หมิงอิงคิดก่อนจะวางแผนการขั้นถัดไป