บทที่ ๖ ทางเลือก

1039 Words
บทที่ ๖ ทางเลือก เพียงออตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะรู้ว่าเมื่อคืนพีรดาเมามากเช้านี้อาจจะตื่นสายไม่ได้ลงไปดูแม่ครัวจัดอาหารเช้าเช่นวันอื่นๆ แต่หล่อนรู้ดีว่ารายการอาหารนั้นพีรดาสั่งไว้ล่วงหน้าเป็นวันๆ ไป แม่ครัวจึงซื้อของมาเตรียมไว้ได้อย่างถูกต้องตามที่พีรดาต้องการ ทันทีที่หญิงสาวก้าวลงจากเตียงสามีที่ตะแคงหันหลังให้ก็พลิกมาคว้าเอวเอาไว้ “ไปไหน” “ไปดูอาหารเช้าค่ะ พี่รดาน่าจะเมาแล้วตื่นสาย”เพียงออหันมาบอก “อ๋อ วันนี้ขออาหารหนักๆ ให้อยู่ท้องหน่อยนะ ฉันต้องไปติดต่องานในเมืองแต่เช้าไม่รู้จะเสร็จตอนไหน” “เรื่องน้ำตาลก้อนหรือคะ” “หลายเรื่องรวมถึงน้ำตาลตัวนี้ด้วย ดูเราจะสนใจสินค้าตัวนี้จังนะตั้งแต่รู้ว่าพี่พงศ์เป็นคนนำเสนอ” พีรวัสมองอย่างค้นหา เพียงอออยากพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายแต่รู้ว่าทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ไม่อาจเปลี่ยนอคติในใจพีรวัสเรื่องมองความสนิทสนมของตนกับพีรพงศ์ไปในทางเสื่อมเสียได้ หล่อนปลดมือเขาออกจากเอวแล้วลุกจากเตียงโดยไม่โต้เถียงใดๆ เพราะรู้ว่าป่วยการ แต่เป็นพีรวัสที่ไม่ยอมจบ “พูดแทงใจดำหรือยังไงถึงกับต้องเดินหนี” เขาลุกตามไปดันประตูห้องน้ำไว้ “เปล่าค่ะ แค่ปวดท้องอยากนั่งส้วม” เพียงออว่าแล้วปิดประตูโดยพีรวัสยอมรามือแต่โดยดีทำเอาอดยิ้มไม่ได้ ก่อนรีบจัดการธุระส่วนตัวทันที แต่พอหล่อนออกจากห้องน้ำกลับเห็นพีวัสเพิ่งกลับเข้าห้องในชุดที่พร้อมสำหรับออกกำลังกายคาดว่าเขาคงออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอกมา “ไปวิ่งหรือคะ” หล่อนอดถามไม่ได้ “แต่งตัวอย่างนี้จะให้ไปไหนละ” เขาย้อน “ก็ถามดีๆ ทำไมต้องย้อน” เพียงออบ่นพึมพำพร้อมค้อนส่ง แล้วเดินผ่านหน้าเขาออกจากห้องทันทีแต่พอลงไปถึงครัวกลับเห็นพีรดามาทำหน้าที่ตามปกติแล้ว เพียงออจึงกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายแล้วตามพีรวัสไปทันที เวลาอาหารของบ้านซึ่งไม่ตายตัวนักแล้วแต่สมาชิกจะสะดวกตอนไหน เพราะแต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเองบางทีนอนดึกอาจตื่นสาย บางทีตื่นเร็วแต่ไม่หิว จึงแล้วแต่ว่าใครจะกินตอนไหน ทว่าที่ผ่านๆ มาก็แทบจะกินพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ดี “ยังไม่มีใครตื่นหรือ” สุภาที่เข้ามานั่งคนแรกถามสำลีเด็กรับใช้ที่ยกอาหารเช้ามาให้ “คุณรดากลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนคุณพีกับคุณเพี้ยงออกไปวิ่งค่ะ” “ออกไปพร้อมกันหรือ” สุภาถามรอยยิ้มพึงใจเต็มใบหน้า “เปล่าค่ะ คุณพีไปก่อนคุณเพี้ยงตามไปทีหลัง” “อืม ไหนวันนี้รดาจัดอะไรให้กินเอามาดูสิ” สุภาตัดบทมาที่อาหารเช้า “วันนี้รดาให้ทำโจ๊กปลาขึ้นโต๊ะค่ะ พอดีว่าแม่ครัวได้ปลาสดๆ มานึกอยากทานพอดี” พีรดาที่เดินมาร่วมโต๊ะบอก แล้วช่วยสำลีตักโจ๊กในโถใส่ชามให้สุภา “คุณเพี้ยงลงมาสั่งข้าวกะเพราทะเลไข่เจียวหมูสับต้มจืดเต้าหู้หมูสับให้คุณพีค่ะ” สำลีบอก สองนายจ้างรีบหันมองเหมือนไม่เชื่อ และเป็นพีรดาคนรับหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารเป็นคนถาม “เพี้ยงสั่งตอนไหน แล้วเป็นบ้าอะไรสั่งข้าวแกงให้น้องชายฉันแต่เช้า” “ลงมาสั่งก่อนออกไปวิ่งค่ะ” “ตาพีอาจต้องการแบบนั้นนะรดา เพี้ยงมันไม่เคยยุ่งเรื่องอาหารขึ้นโต๊ะอยู่แล้ว ยกเว้นเมื่อคืน” สุภาว่าทำให้พีรดารีบหลุบตาหนีแอบกลืนน้ำลายฝืดคอ ใช่ว่าหล่อนจะจำไม่ได้ว่าสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้ แต่ยังอดสงสัยไม่ได้จึงถามสำลีต่อ “บอกหรือเปล่าว่าทำไมคุณพีถึงสั่งของหนักแต่เช้า” “คุณพีต้องไปทำธุระในเมืองค่ะ” สำลีบอกตามที่เพียงออบอกแม่ครัว “เห็นไหมละ น้องมันกลัวไม่อยู่ท้องเลยกินข้าว แล้วคุณเพี้ยงจะกินด้วยหรือเปล่า” สุภาหันไปถามสำลี เด็กสาวผิวเข้มส่ายหน้าก่อนบอก “ไม่กินค่ะ แต่ขอใส่ปิ่นโตไปกินมื้อเที่ยงแทน” “อือ ไปช่วยป้าแดงเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเอง” พีรดาไล่เพราะอยากคุยกับสุภาตามลำพัง เพราะไหนๆ สุภาก็พาดพิงเรื่องเมื่อคืนมาแล้ว “ป้าคะ เรื่องเมื่อคืน” “แค่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นอีกก็พอแล้ว ไม่ต้องพูดมาก” “นี่แหละที่รดาอยากรู้ว่าทำไมต้องห้ามติดต่อคนทำธุรกิจเหมือนกัน บางทีอาจได้พึ่งพากัน”สิ้นเสียงพีรดาสุภาตบลงบนโต๊ะดังปัง “พึ่งพากันหรือ แกลืมหรือยังไงว่ามันคือคู่แข่งไม่ใช่คู่ค้าทางธุรกิจ” “ป้าคะ ทำการค้ามันต้องมีคู่แข่งเป็นเรื่องปกตินะคะ ทีคู่แข่งรายอื่นทำไมป้าไม่ห้าม” “รดา แกลืมแล้วหรือพ่อแม่แก ลุงแก ตายยังไง” สุภาพูดรอดไรฟัน สะเทือนใจเมื่อนึกถึงเรื่องดังกล่าว “ป้า แค่มือปืนซัดทอดแต่ไม่จริงเสียหน่อย ถ้ากำนันทรงยศทำจริงตำรวจก็จับไปลงโทษนานแล้ว แต่นี่ไม่มีหลักฐานเลย แค่ลมปากคนเมายา ไม่มีใครเขาเชื่อกัน ทำไมป้ายังปักใจอีกละคะ” “เรื่องอย่างนี้มันรู้อยู่แก่ใจนะรดา แกพูดเหมือนไม่โกรธแค้นคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองเลย” “ทำไมจะไม่โกรธละคะ แต่มือปืนมันก็ตายไปแล้ว เราจะเก็บความแค้นไว้ทำไมอีก” “แต่คนบงการมันยังอยู่ จนตายฉันก็ไม่ให้อภัยพวกมัน” สุภาตบโต๊ะอีกครั้ง แล้วลุกเดินจากไปโดยยังไม่ได้แตะต้องอาหารแม้แต่น้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD