ตรงหน้าบ้านพีรวัสวิ่งมาแล้วหยุดกึกทำให้คนวิ่งตามหลังยั้งเท้าไม่ทันชนเข้าอย่างจังจนอดโวยวายไม่ได้
“โอ๊ย! จะหยุดทำไม อื้อๆ” หล่อนพูดไม่ทันจบพีรวัสก็หันมาใช้มือปิดปากแล้วพูดรอดไรฟัน
“เงียบ” ก่อนหันกลับไปมองทางเดิม ที่โต๊ะอาหารเช้าตรงชานหน้าบ้าน เพียงออเองก็มองอย่างใจจดใจจ่ออยากรู้เรื่องราวที่สุภากับพีรดากำลังสนทนากันอยู่ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะสุภาตบโต๊ะแรงๆ จนดังมาถึงหน้าประตูรั้วแล้วเดินกลับเข้าบ้านไป พีรวัสปล่อยหล่อนเป็นอิสระแล้วเดินแกมวิ่งไปหาพี่สาว
“มีอะไรกันพี่รดา ท่าทางป้าจะโกรธ”
“คนแก่ไม่มีเหตุผล เชื่อฝังหัวแบบผิดๆ ทั้งที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง” พีรดาหันมาพูด แล้วมองเลยไปด้านหลังน้องชายแต่ไม่ได้พูดอะไร
เพียงออรู้ว่าการหยุดพูดเพียงเท่านี้ของพีรดาเพราะไม่ต้องการให้ตนร่วมรับรู้ด้วย จึงบอกพีรวัสเบาๆ แล้วเดินผ่านไป
“ฉันไปยกอาหารเช้ามาให้คุณนะ”
“อือ” เขาพูดสั้นๆ แล้วรีบนั่งลงใกล้พี่สาว ถามเรื่องที่ยังคาใจ
“เรื่องพ่อแม่ใช่ไหม”
“จะเรื่องอะไรอีกละ ศาลก็ตัดสินแล้ว คนผิดก็ตายในคุกแล้วแต่ป้ายังปักใจเชื่อว่ากำนันทรงยศบงการ ถึงได้โกรธที่พี่ไปกินข้าวกับคุณเดชดวง”
“กินเหล้า” พีรวัสแย้งเบาๆ
“นั่นละๆ กินทั้งสองอย่างแหละ”
“แล้วพี่ไปนัดพบกับมันได้ยังไง ไม่รู้หรือมันหนีคดีไปเป็นเดือนๆ เพิ่งกลับมานี่”
“แค่ข่าวลือเอง เขาไปติดต่อธุรกิจต่างหาก พอดีเจอกันตอนพี่ออกไปหาอะไรกินเขาเลยชวนนั่งด้วยกัน ก็เมื่อวานเล่นทิ้งพี่กันไปหมด พี่เบื่อจะกินข้าวคนเดียวนะสิ” พีรดาแก้ตัว
“ก็แล้วทำไมพี่รดาไม่ตามไปส่งพี่พงศ์ด้วยละ ยังไงก็ญาติกัน” พีรวัสถาม พี่สาวจึงค้อนให้ทันทีแต่ไม่พูดอะไรต่อ ชายหนุ่มรีบตบหลังมือเบาๆ ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเรื่องหมางเมินของทั้งคู่เริ่มต้นจากที่ใด แต่ไม่อยากเก็บมาคิดมาใส่ใจแล้วโทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“กินๆ พี่ วันนี้ผมสั่งยายเพี้ยงเตรียมของหนักไว้ให้ ต้องเข้าเมืองทำธุระนานจะได้ไม่หิวเสียก่อน”
“จ้ะ สำลีบอกแล้วละ” พีรดายิ้มให้น้องชายแล้วตักโจ๊กในชามตรงหน้ากินต่อจังหวะนั้นสำลีก็ยกถาดอาหารเช้าสำหรับพีรวัสมาพอดี
“คุณเพี้ยงล่ะ”พีรวัสถาม ซึ่งพีรดามองว่าน้องชายเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกเพียงออเช่นนี้เป็นการยกย่องเด็กกำพร้าคนนั้นขึ้นมาเป็นเมียที่แท้จริง จึงไม่พอใจอยู่ลึกๆ
“คุณเพี้ยงกินกับคุณท่านในบ้านค่ะ”
“อ๋อ ไปเถอะ” เขาปัดมือไล่
“เมียแกนี่ช่างประจบเสียจริง แล้วประจบถูกคนเสียด้วย” พีรดาว่า
“กินข้าวๆ” เขาไม่อยากต่อปากต่อคำใดๆ จึงเร่งให้พีรดากินอาหาร แล้วเขาก็ลงมือกินอาหารเช้าซึ่งหน้าตาเหมือนอาหารกลางวันแบบจานเดียวมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าถูกใจและกำลังอยากกิน
ยายหมาเน่ารู้ใจเราจริงๆ พีรวัสอดยิ้มพอใจไม่ได้