แคสงาน #1

1227 Words
สตูดิโอ XXX “ไม่คิดว่ามึงจะมาแคสตงานจริง ๆ นะเนี่ยคิมหันต์ พี่เอกโคตรดีใจเลยที่มึงตกลงมาลองแคส” เมื่อคิมหันต์ขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มาจอดและก้าวเข้าสตูดิโอมา ทัพไทก็เอ่ยปากขึ้นและเดินมารับเขาที่ทางเข้าพร้อมกับสิงหา แน่นอนว่าเพื่อนสนิททั้งสองของคิมหันต์รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่เขาเลือกจะมาแคสงานนักแสดงซีรีส์และตกลงเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัดของพี่เอกรุ่นพี่ที่สนิท “เออ ก็ลองมาดู เห็นเขาเปิดแคสที่ขอนแก่นก็เลยมาเล่น ๆ” คิมหันต์ตอบแบบขอไปที เขาแค่มาลองทดสอบความสามารถของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคัดเลือกงานนี้เลย เพราะงานนี้เป็นงานใหญ่มากสำหรับวงการบันเทิง เป็นซีรีส์ช่องดังในทีวี ซึ่งเปิดแคสติงนักแสดงพระเอกนางเอกหน้าใหม่จากทั่วทุกภาค ตั้งแต่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และขอนแก่น “แล้วเมียมึงไม่มาด้วยเหรอวะ” สิงหาถามขึ้น และแน่นอนว่าหมายถึงนลิน ทุกคนเข้าใจตรงกันแบบนั้นมาโดยตลอด รวมถึงตัวคิมหันต์เองก็เข้าใจความหมายของเพื่อนเป็นอย่างดีเช่นกัน “กูจะเอาเขามาทำไมล่ะ เขาไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้นี่ อีกอย่างกูไม่ได้บอกเขาด้วยว่าจะมาแคสงาน” “เอ้า แล้วทำไมมึงไม่บอกลินอะ” “กูไม่คิดว่ากูจะได้ไง ถ้ากูผ่านก็ค่อยบอกเขา” “มึงอาจจะติดก็ได้นะ พี่เอกโคตรดันมึงเลย แถมมึงก็หล่อแบบสมัยนิยม ใคร ๆ ก็ชอบปะวะ” สิงหาว่า “กูก็คนปกติไหม พวกมึงก็เวอร์ไป” “มึงเชื่อกูดิ มึงผ่านคัดเลือกแน่นอน ไปเอาป้ายลำดับก่อนไป พี่เอกรอมึงอยู่ข้างในแล้ว” พูดจบคิมหันต์ก็เดินเข้าสตูดิโอไปพร้อมเพื่อน ๆ ของเขา วันนี้มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาคัดเลือกบทละครต่าง ๆ มากมายหลายบทบาท ทั้งพระเอก พระรอง นายเอก นางเอก ตัวร้าย รวมถึงตัวประกอบอีกด้วย มีแต่คนหน้าตาดีเดินเต็มสตูดิโอไปหมด ถึงแม้คิมหันต์จะไม่ได้คิดว่าตัวเองหล่อจนโดดเด่นอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็ถูกมองและเป็นจุดสนใจอยู่พอสมควร หน้าตาของเขามีความคล้ายคลึงกับตัวละครพระเอกในบทที่เขียนออกมาเป็นอย่างมาก “น้องคิม พร้อมใช่ไหม อีกไม่กี่คิวก็จะถึงแล้ว ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับ” พี่เอก หรือโมเดลลิ่งที่เป็นผู้จัดการประจำตัวของคิมหันต์มากล่าวให้กำลังใจเขาก่อนที่จะเข้าห้องคัดเลือก ซึ่งจริง ๆ คิมหันต์ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนัก มีแต่ทุกคนนี่แหละที่ตื่นเต้นแทนเขาไปเสียหมด ภายในห้องคัดเลือกนักแสดงมีกรรมการอยู่ทั้งหมดสามท่าน ได้แก่ผู้กำกับ ผู้จัดซีรีส์ และครูสอนแอ็กติงชื่อดังในประเทศ คิมหันต์เดินเข้าห้องด้วยสีหน้านิ่ง ๆ โดยกรรมการทั้งสามก็ทำหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร ไม่มีอะไรน่ากังวลนัก “สวัสดีครับ ไหนแนะนำตัวหน่อย” ตัวผู้จัดซีรีส์เป็นคนยกไมโครโฟนเอ่ยทักคิมหันต์เป็นคนแรก “สวัสดีครับ ผมคิมหันต์ อายุสิบแปดปี กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ไม่เคยมีผลงานการแสดงมาก่อนครับ นี่เป็นการแคสติงบทครั้งแรกของผม ขอฝากตัวด้วยนะครับ” คิมหันต์พูดอย่างนอบน้อม “พร้อมแล้วเนอะ ถ้าอย่างนั้นช่วยแสดงบทที่แจกไปให้หน่อยค่ะ บทพระเอกสารภาพความในใจกับนางเอกที่เป็นเพื่อนกันมาห้าปี แต่เก็บความรู้สึกในใจไว้ไม่อยู่” คุณครูสอนแอ็กติงหยิบใบสมัครของคิมหันต์ขึ้นมาอ่านก่อนจะเลือกบทให้เขาแสดง เขาพยักหน้าก่อนจะเริ่มการแสดงบทออกมา ในหัวเขาคิดเพียงแค่ว่ากำลังสารภาพความรู้สึกกับนลินออกมา และกลายเป็นว่าสีหน้าของเขาสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี ทั้งอึดอัดและสับสน กลัวว่าจะเสียเพื่อนไป “ฉันชอบเธอ ! ฉันขอโทษที่ฉันไปชอบเธอ คิดกับเธอมากกว่าเพื่อน… แต่เพราะเธอทำให้ฉันอยากจะเป็นคนที่ดี คอยดูแลเอาใจใส่เธอ ทำให้เธอมีความสุข ฉันชอบเธอจริง ๆ นะ เธอรู้สึกกับฉันยังไงกันแน่ บอกฉันหน่อยได้ไหม” คิมหันต์แสดงออกมาอย่างสมจริง อีกทั้งยังทำท่าทางประกอบเหมือนกับว่าจับที่ไหล่ของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้แล้วเขย่าเบา ๆ ให้รู้ว่าเขากำลังจริงจังกับสิ่งที่พูด เขาอึดอัดจนทนไม่ไหวต้องพูดมันออกมา “คัต ! แสดงได้ดีมากครับคิมหันต์” ผู้กำกับถึงกับต้องหยิบไมโครโฟนขึ้นมาเอ่ยชมคิมหันต์ที่แสดงบทนี้ออกมาได้อย่างเพอร์เฟกต์ ทว่าความจริงแล้ว เขาเพียงแค่แสดงความรู้สึกและปลดปล่อยในสิ่งที่เขาคิดและอยากพูดกับนลินที่สุดออกมาก็แค่นั้น “ขอบคุณครับ” “ผมคิดว่าเราจะได้เจอกันในรอบถัดไป โชคดีครับคุณคิมหันต์” คุณผู้จัดซีรีส์เอ่ย ก่อนที่คิมหันต์จะออกจากห้องคัดเลือกไป “เป็นยังไงบ้างมึง เขาพูดว่ายังไงบ้าง” ทัพไทตื่นเต้นกว่าตัวคิมหันต์เองอีกด้วยซ้ำ ถึงกับวิ่งเข้ามาถามด้วยความอยากรู้ “เขาบอกว่ากูแสดงได้ดีมาก แล้วก็หวังว่าจะได้เจอกันในรอบถัดไป” “มึงต้องเข้ารอบแน่เลยว่ะ” สิงหามั่นใจ “เออจริงไอ้สิง กูก็ว่ามันจะเข้ารอบเหมือนกัน” ทัพไทเห็นด้วย “มึงเชื่อกู เผลอ ๆ กูว่ามันนี่แหละได้บทพระเอก มาซะขนาดนี้” “พวกมึงก็เวอร์อะไรขนาดนั้นวะ” คิมหันต์ส่ายหน้า “กูกลับละ จะพาลินไปหาไรกินตอนบ่าย ไว้เจอกันมึง” พูดจบคิมหันต์ก็โบกมือสองสามทีเป็นการลาเพื่อนสนิทของตนและฝากทัพไทกับสิงหาลาพี่เอกแทนเขาด้วย ตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้ว เขาไม่อยากให้นลินต้องเหงาอยู่ห้องคนเดียว กะว่าจะพาออกไปหาอะไรทานสักหน่อย เขาเร่งบิดบิ๊กไบค์คู่ใจจนมาถึงคอนโด เมื่อเปิดห้องมาก็พบว่านลินกำลังนั่งอ่านหนังสือนวนิยายอีกแล้ว ดูท่าทางยัยหมูน้อยจะชอบอ่านหนังสือนิยายจริง ๆ สินะ ว่างเป็นต้องอ่านตลอดเลย “ลิน ฉันกลับมาแล้ว ไปกินข้าวที่ห้างกันไหมวันนี้” นลินส่ายหน้า ละสายตาขึ้นจากหนังสือ “ไม่เอาอะคิม ฉันว่าเปลืองเงิน ของสดยังเหลือ เราทำกินเองดีกว่าไหม” “เธอทำกินเองทุกวันไม่เบื่อหรือไง หนังสือก็เหมือนกัน เล่มหนึ่งอ่านเป็นสิบครั้ง ทำไมไม่ซื้อเล่มใหม่มาอ่านบ้าง” “ก็มันประหยัดนี่ หนังสือนิยายเล่มหนึ่งหลายร้อยนะคิม ฉันว่าเอาเงินไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ” “เธอคิดว่าฉันจะจ่ายให้เธอไม่ได้หรือไง” คิมหันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิด ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาจะดูแลเธอให้สบายไม่ได้ “ไม่ แต่มันเปลือง ฉันไม่อยากให้นายมาสิ้นเปลืองกับฉันไง” นลินอธิบาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD