“ฉันไม่เคยคิดว่าการดูแลเธอมันเป็นความสิ้นเปลืองนะนลิน ไปห้างกัน ไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน เดี๋ยวซื้อนิยายเล่มใหม่ให้ด้วยเลยสองเล่ม”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ เธอไปแต่งตัวไป เธอทำงานให้ฉันตั้งเยอะแค่นี้ฉันให้เธอได้ ไม่ต้องมาปฏิเสธ”
นลินรู้ว่าคงจะเถียงหรือต่อรองอะไรกับคิมหันต์ไม่ได้อีก จึงเข้าห้องไปแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปห้างสรรพสินค้ากับเขา เธอเลือกสวมเดรสแขนสั้นสีขาว ดูน่ารักเหมาะกับเธอเป็นอย่างมาก
“วันนี้แต่งตัวน่ารักดีนะ” คิมหันต์เอ่ยทัก “ไม่สิ เธอก็น่ารักทุกวันนั่นแหละนลิน”
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ยคิมหันต์ จะไปห้างไหม ไม่ต้องมาพูดมาก ไปได้แล้ว !” เป็นอีกครั้งที่นลินได้แต่โมโหกลบเกลื่อนอาการเขินเมื่อคิมหันต์เอ่ยชมเธอ จริง ๆ แล้วตอนนี้เธอเองก็สับสนในใจไม่น้อย เพราะรู้สึกดีกับเขามาก ๆ ความใกล้ชิดในทุก ๆ วัน ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เป็นตัวของตัวเองแบบเต็มที่ทุกครั้งที่อยู่กับเขา จนไม่รู้แล้วว่านี่เป็นความรู้สึกที่เรียกว่าชอบหรือรักได้หรือยัง
นลินนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของคิมหันต์มาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางจังหวัดขอนแก่น เธอกอดเอวเขาแน่นในขณะที่กำลังนั่งอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าคนที่เธอสวมกอดอยู่จะรู้สึกถึงจังหวะหัวใจของเธอที่เต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมาหรือเปล่า
คงเป็นอาการเขินจริง ๆ นั่นแหละ ถึงแม้ว่านลินจะไม่อยากยอมรับความจริงสักเท่าไหร่นักที่ตนเองเริ่มรู้สึกชอบเขาเข้าจริง ๆ แล้ว
เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้า คิมหันต์ก็จับมือของนลินไว้แล้วเดินเข้าไปในห้าง
“นายจะมาจับมือฉันทำไมเนี่ย” นลินกล่าวพร้อมใบหน้าที่แดงขึ้นสีด้วยความเขิน
“ก็ฉันกลัวเธอหลงทางนี่ เธอยิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่นะ”
“ฉันเดินเองได้น่า คิมหันต์อย่ามาโอเวอร์ได้ไหม คนเยอะแยะ”
“ฉันไม่ได้เวอร์นะลิน คนมันเยอะ จับไว้อะดีแล้วเดี๋ยวหลงกัน”
“ถ้าหลงเดี๋ยวโทรหาก็ได้ โทรศัพท์มือถือก็มี อะไรของนาย”
“จับไว้อะดีแล้ว ไม่ต้องมาหาทีหลัง มานี่มา” พูดจบคิมหันต์ก็จูงมือนลินมายังร้านหนังสือในตัวห้าง พลันดวงตาของเธอดูเป็นประกายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้อยู่กับกองหนังสือมากมาย เธอค่อย ๆ เปิดดูทีละเล่มและเลือกดูอย่างพิถีพิถัน คิมหันต์เองก็มองนลินอยู่ในสายตาตลอด เขายิ้มออกมาจาง ๆ เมื่อเห็นเธอกำลังมีความสุขกับการเลือกหนังสือนวนิยายที่ชอบอ่านนักหนา
“เธอเลือกได้หรือยังว่าจะเอาเล่มไหน” เขาถาม
“ยังเลย ฉันอยากได้สามเล่มนี้ แต่ฉันไม่มีเงิน ไม่อยากรบกวนนายด้วย”
“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าไม่ต้องเกรงใจ ฉันบอกว่าฉันจะซื้อให้ไง สามเล่มนี้ใช่ไหม เอามานี่” พูดจบคิมหันต์ก็หยิบหนังสือทั้งสามเล่มมาจากมือนลินก่อนจะเดินไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์
“มาซื้อหนังสือกับแฟนเหรอคะ” พี่พนักงานเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูทั้งสองคน
“ครับ แฟนผมชอบอ่านหนังสือนิยายน่ะ เลยพามาซื้อ”
คำตอบของคิมหันต์ทำให้นลินตกใจเป็นอย่างมาก เธอเบิกตากว้างขณะมองเขา
“นี่ ! คิมหันต์ นายตอบแบบนั้นไปได้ยังไง เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ก็ตอบให้มันจบ ๆ ไป ไม่เห็นต้องคิดมากเลย” ชายหนุ่มไหวไหล่
“แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ นะ คิมหันต์ !”
“ถ้าอย่างนั้นเธอจะมาเป็นแฟนฉันจริง ๆ ไหมล่ะ นลิน” พูดจบคิมหันต์ก็ยักคิ้วทำหน้ายียวนใส่นลินไปเสียหน่อย เธอถึงกับคิดคำพูดมาต่อกรกับคนตรงหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว คิดจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้นสินะ
“ไม่คุยกับนายแล้ว !”
“เอ้า เธอมางอนอะไรฉันเนี่ยนลิน งอนเป็นเด็กน้อยเลย”
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ !”
“ก็เนี่ย เธอกำลังงอน ทำตัวเป็นเด็กเลย” คิมหันต์เย้าไม่เลิก
“ฉันไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กนะ ฮึ่ย”
“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกงอน เดี๋ยวพาไปกินไอศกรีม เดี๋ยวเลี้ยงลูกใหญ่สองลูกเลย !”
“นายคิดว่าจะเอาของกินมาล่อกันเหรอคิมหันต์”
“แล้วสำเร็จไหมล่ะ” เขาเลิกคิ้ว
“เออ ก็สำเร็จนั่นแหละ ไปเลย อยากกินไอศกรีมช็อกมิ้นต์จะแย่อยู่แล้ว”
หลังจากนั้นนลินกับคิมหันต์ก็ไปซื้อไอศกรีมมานั่งรับประทานกันภายในร้าน วันนี้ที่ร้านมีคนเยอะเป็นพิเศษ แต่พวกเขาก็ยังโชคดีที่มีที่นั่งเหลือให้นั่งได้
“ทำไมเธอถึงชอบไอศกรีมรสช็อกมิ้นต์นักหนา ฉันลองกินแล้วไม่เห็นอร่อย” คิมหันต์บ่น
“นี่นายบังอาจว่าไอติมช็อคโกแลตมิ้นต์ของฉันเหรอ”
“ก็มันไม่อร่อยนี่ มันเหมือนกินยาสีฟันเข้าไปเลย เธอกินเข้าไปได้ยังไง”
“มันเหมือนยาสีฟันตรงไหน !! ออกจะอร่อย ทำไมนายบูลลี่ไอติมฉันอะ” ไม่ทันได้พูดจบประโยคดีฝ่ามือเล็ก ๆ ของนลินก็ฟาดไปที่ไหล่ของคิมหันต์เต็มแรง บังอาจมากมาว่าไอศกรีมรสโปรดของเธอเหมือนยาสีฟันได้ยังไง ออกจะอร่อยขนาดนี้
“โอ๊ย ๆ ขอโทษฉันผิดไปแล้ว”
“ห้ามว่าน้องช็อกโกแลตมิ้นต์อีก เข้าใจไหมนายคิมหันต์”
“โอเค ๆ ไม่ว่าแล้ว แต่มันเหมือนจริง ๆ นี่นา”
“นี่ ! เดี๋ยวจะโดนอีกรอบหรอก” ไม่ทันไรนลินก็ยกมือขึ้นมาขู่ ทำท่าจะฟาดคนตัวสูงข้าง ๆ ที่พูดจาใส่ร้ายไอติมรสโปรดของเธออีกสักรอบ น้องช็อกโกแลตมิ้นต์เหมือนยาสีฟันตรงไหน เอาปากกามาวงเลย
“นลิน มันเปื้อนปากเธอน่ะ” คิมหันต์ชี้ไปที่คราบไอติมที่เปื้อนอยู่บริเวณริมฝีปากของคนตัวเล็ก นลินที่กำลังอร่อยอยู่กับการกินไอติมจึงยกมือขึ้นมาเช็ด ๆ รอบขอบปาก แต่ดันไม่โดนตรงที่เปื้อนอยู่เสียที
คิมหันต์หงุดหงิดที่นลินเช็ดคราบไอศกรีมไม่ถูกสักที จึงตัดสินใจหยิบทิชชูมาเช็ดบริเวณรอบ ๆ ปากที่เปื้อนให้เสียเอง เห็นแล้วมันหงุดหงิดใจ แต่ลึก ๆ เขาก็รู้สึกเอ็นดูกับทุก ๆ การกระทำของผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว
“ยัยหมูน้อยเอ๊ย ยังไงเธอก็ยังเป็นยัยหมูน้อยอยู่ดีสินะ”
“นี่ ! เรียกฉันยัยหมูน้อยอยู่ได้ ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
“ฉันไม่เคยเบื่อเธอนี่”
“โอ๊ยคิมหันต์ ตาบ้านี่ นายเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ !”
“ฉันพูดจริง ๆ ฉันไม่ได้เพี้ยน ฉันไม่เคยเบื่อเธอ แล้วก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเธอทุกวันด้วย”
“นายพูดบ้าอะไร ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นฟังคงเข้าใจว่านายมีใจให้แหง ๆ” นลินบ่นอุบ
‘ก็ฉันมีใจให้เธอน่ะสิ เธอเข้าใจถูกแล้วยัยหมูน้อย...’ คิมหันต์เพียงคิดตอบประโยคเมื่อสักครู่นี้ภายในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมาจริง ๆ เพราะเขากลัวว่านลินจะตกใจ และอาจจะรับไม่ได้ที่เขารู้สึกกับเธอมากกว่าเพื่อน ทุกวันนี้เธอเองก็เอาแต่เกรงใจเขา ปฏิเสธน้ำใจ และความหวังดีของเขาต่าง ๆ เพียงเพราะกลัวคนจะเข้าใจผิดและเกรงใจจะแย่แล้ว เธอไม่อยากให้เขาฟุ่มเฟือยหรือสิ้นเปลืองเงินไปกับค่าใช้จ่ายของเธอ