คิมหันต์นั่งฟังที่เด็กสาวทั้งสองคุยกัน ตาของเขาเล่นเกมในโทรศัพท์ ทว่าหูของเขาก็แอบฟัง พอรู้ว่ากลุ่มของเธอยังไม่ครบคนก็คิดว่า พอดีเลยจะได้ไปขออยู่กลุ่มด้วย เขาวางโทรศัพท์ลงแล้วใช้ไม้บรรทัดสะกิดหลังของนลิน พร้อมทั้งเรียก
“เธอ”
นลินหันไปมอง พลางเลิกคิ้ว
“มีอะไรคะ”
“พวกฉันขออยู่กลุ่มโครงงานกับเธอได้เปล่า พวกฉันมีสามคนพอดี” เขาบอก นลินทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะตอบตกลง
“ตกลง แต่นายต้องไปช่วยฉันกับม่านมุกหาข้อมูลนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่เอาชื่อนายเข้าร่วมในโครงงานแน่ แล้วนายก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย”
“โหดว่ะไอ้คิม สงสัยไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร” ทัพไทพูดขึ้นขณะนั่งฟังนลินพูดจนจบ ก่อนที่เธอจะหันไปสนใจหนังสือตำราตรงหน้า คิมหันต์ไม่ตอบได้แต่ยิ้มมุมปากถูกใจ เธอเป็นคนแรกเลยนะที่กล้าสั่งเขาแบบนี้
นิ่มนวลมองมาทางคิมหันต์ ยิ่งเห็นสายตาที่เขามองไปที่นลินก็ยิ่งทำให้เธอโกรธแค้นมากกว่าเดิม ยัยเด็กใหม่มีดีอะไร ทำไมคิมหันต์ถึงได้สนใจและไปทำโครงงานกลุ่มเดียวกับมันด้วย
“แล้วคืนนี้มึงกลับบ้านหรือเปล่า ไปสนามแข่งกันไหม โรงเรียน A มันท้ามา ของเดิมพันเป็นรถที่มันแต่งเองด้วย” ทัพไทถามคิมหันต์ เขาพยักหน้า
“น่าสนใจดี กี่ทุ่ม”
“ห้าทุ่มที่สนามของเสี่ยไก่ ถ้าไปกูจะได้ตอบตกลง มันส่งไลน์มาเร่งเอาคำตอบอยู่ พรุ่งนี้วันเสาร์”
“ตอบตกลงไปเลย กูเอา”
สิ้นเสียงสนทนา อาจารย์ก็เข้ามาสอนจนถึงเวลาพักเที่ยง จากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันไปโรงอาหาร ม่านมุกถามนลินว่า
“ลิน วันนี้กินอะไรดี”
“ฉันเอาข้าวมาจากบ้านน่ะ เธอไปเถอะ เจอกันคาบบ่ายนะ” นลินบอก วันนี้เธอทำข้าวกล่องมากินเองเพราะอยากช่วยลุงประหยัด เธอเดินไปหาที่นั่งตรงม้าหินอ่อน โดยทุกการเคลื่อนไหวของเธอนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาของคิมหันต์ เขามองตามหลังเธอไปอย่างสนใจ แต่ไม่แสดงอาการออกมามากนัก ได้แต่คอยใช้สายตามองไปทางเธอตลอดเวลา เขาคิดในใจว่า เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แปลกจริง ๆ
คิมหันต์เดินตามกลุ่มเพื่อนไปที่โรงอาหาร พอหาที่นั่งได้เขาก็เหลือบมองไปทางนลิน นิ่มนวลที่เดินมาพอเอ่ยทักเขา
“คิม ขอนิ่มนั่งด้วยได้ไหม”
“ตามใจเธอสินี่มันโรงอาหารนะ”
นิ่มนวลรีบนั่งลงทันทีเพราะกลัวคิมหันต์จะเปลี่ยนใจ ในโรงเรียนนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้จักเขา พ่อเขาเป็นถึงผู้สนับสนุนรายใหญ่ของโรงเรียน แม้แต่ผู้อำนวยการเองยังต้องพินอบพิเทาให้เขาเลย
คิมหันต์นั้นโด่งดังในทางที่ไม่ดีแต่เป็นคนหัวดีจึงได้อยู่ห้อง 1 ตลอด ทว่าเขาก็ยังมีเรื่องชกต่อยกับนักเรียนคนอื่นเป็นประจำ แถมกลุ่มเขายังชอบแข่งรถจนโดนจับไปหลายรอบด้วย แต่เพราะอิทธิพลของครอบครัวจึงไม่มีใครทำอะไรเขาได้
“คิม วันอาทิตย์นี้เห็นคุณพ่อบอกจะเข้าไปหาป๊านายที่บ้าน ฉันเลยขอตามไปด้วย คิมจะอยู่บ้านหรือเปล่า”
“ไม่” คิมหันต์ตอบโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แล้วใจคอนายจะไม่กลับไปนอนบ้านบ้างเลยเหรอ”
“แล้วเธอมายุ่งอะไรกับชีวิตฉันด้วยละ เป็นแม่หรือไง” คิมหันต์ถามตาขวางอย่างไม่ชอบใจ
“หยาบคาย” นิ่มนวลว่า ทำเอาเขาต้องกล่าวรอดไรฟันออกมาด้วยความไม่พอใจ นึกรำคาญเสียงแว้ด ๆ ของเธอเป็นอย่างมาก
“ถ้ารับไม่ได้ก็ไปนั่งที่อื่น รำคาญ”
“ทำไมคิมถึงต้องไปขออยู่กลุ่มกับยัยเด็กใหม่ด้วยล่ะ หรือว่าสนใจมัน” นิ่มนวลถามขึ้นมาหลังจากคิดได้
“อย่าให้มันมากนักนะ ถ้าฉันหมดความอดทนเมื่อไหร่เธอได้เห็นดีกับฉันแน่ คิดว่าเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อแล้วฉันจะเกรงใจอย่างนั้นเหรอ”
ได้ยินเขาพูดขนาดนั้นแล้ว นิ่มนวลจึงจำต้องนั่งเงียบเพราะรู้จักนิสัยของเขาดี เขาเป็นคนที่ชอบทำตัวมีปัญหา และก้าวร้าวเสมอ เนื่องด้วยขาดแม่มาตั้งแต่เด็ก