ตื่นขึ้น

950 Words
    “อวี้โยวลูกรักตื่นเถิด จะทำให้แม่ปวดใจตายอยู่แล้วนะ” เสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งทำให้อวี้โยว ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวรุนแรง      นางลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบาก ปวดจนสมอง ตา และหูอื้อจนทำงานไม่ได้ กว่าจะตั้งสติมองตามเสียงไปได้ก็ใช้ความพยายามไปไม่น้อย นางเห็นหญิงสาววัยรุ่นงดงามเหมือนดาราคนหนึ่ง ร้องไห้กุมมือนางอยู่ข้างเตียง ดวงตาดอกท้อนั้นบวมแดงจากการร้องไห้เป็นเวลานาน ท่าทางสะอื้นไห้นั้นกลับชวนปวดใจ ช่างอ่อนแอเปราะบางคล้ายดอกลี่ต้องสายฝนผู้หนึ่งดั่งคำโบราณจริงๆ      หญิงสาวคนนั้นใส่ชุดจีนโบราณสีฟ้าอมเขียว ชุดหลวมแต่กลับไม่อาจปิดร่างสมส่วนและผิวขาวนวลไว้ได้ แม้ชุดไม่ได้งดงามที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้นางอดแปลกใจไม่ได้ กลับเป็นสงสัยว่าสมัยนี้มีคนใส่ชุดโบราณเช่นนี้ด้วยหรือ แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร     “โอ้ย” นางร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อสมองถูกกระตุ้นอีกครั้ง เหมือนบางอย่างเจาะเข้ามาในหัวโดยไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บปวดนั้นทำให้ร่างกายแข็งเกร็งโดยอัตโนมัติ หัวนางเจ็บปวดอย่างมากราวกับมีมือยักษ์มาบีบเค้นสมอง คิ้วน้อยขมวดเป็นปม เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาอย่างไม่อาจห้าม     หญิงสาวนางนั้นเข้ามากอดปลอบนางด้วยความห่วงใย ไม่ได้ห่วงสภาพที่อ่อนล้าของตนเลย อวี้โยวถูกความทรงจำของเด็กน้อยวัยแปดขวบคนหนึ่งวิ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว      เด็กหญิงคนนี้ชื่อเหมือนกับนาง แต่เกิดในอดีตมากกว่าสองพันปีจากยุคของนาง ยามนั้นนางจึงได้สังเกตว่าร่างของตนมีขนาดเล็กลง ห้องและเตียงที่นางอยู่ก็ไม่คุ้นตา ดูคล้ายห้องโบราณที่ทำจากไม้และหิน อวี้โยวไม่คุ้นกับชื่อราชวงศ์หรือชื่อแคว้นนี้เลย อาจจะเป็นโลกคู่ขนานตามแบบนิยายสักแห่ง หรือนี่จะเป็นการย้อนเวลาเหมือนพวกนิยายที่กำลังได้รับความนิยมในสมัยที่นางจากมา     ยิ่งคิดก็ยิ่งใช่ ความทรงจำที่อยู่ในหัวช่างเหมือนจริง อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่ต่างไป ทำให้นางมั่นใจ แต่ทำไมนางถึงมาที่นี่ได้ นางตายแล้วหรือ?      นางแค่เครียดจากการเขียนวิจัยเรียนจบเท่านั้น ด้วยแรงกดดันเพราะเป็นประธานเยาวชน ทำให้นางเป็นที่คาดหวังของอาจารย์และเพื่อน ความกดดันที่ได้รับ ทำให้นางมีความคิดอยากหนีความจริงบ้าง แต่ไม่ได้อยากย้อนเวลามาที่ลำบากเช่นนี้สักหน่อย     อวี้โยวเป็นนักศึกษาภาควิชาฟู้ดไซน์ชั้นปีสุดท้ายด้วยทุนยากจน ด้วยความขยันจึงฝ่าฟันขึ้นเป็นผู้ช่วยอาจารย์ได้สำเร็จ จุดแข็งของอวี้โยวที่ใช้ได้คือการปรับตัวและการแก้ปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินได้เร็ว      แม้ตอนนี้นางยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก แต่นางคิดว่าตอนนี้ต้องเอาตัวรอดไปก่อน จากความทรงจำสาวสวยตรงหน้าเป็นมารดาของเด็กหญิงคนนี้      ร่างเล็กโถมเข้าสู่อ้อมกอดของมารดาสาว ที่ดูอายุไม่ต่างจากนางในยุคที่จากมาเลย      “ท่านแม่ ข้าปวดหัวมาก ข้าฝันว่าข้าล่องลอยไปไกล ได้ไปเจอโลกอื่นที่มีอาหาร วัฒนธรรม และสิ่งประดิษฐ์แปลกตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ท่านไม่ต้องห่วงข้านะ ตอนนี้ร่างกายไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แค่ปวดหัวมากเท่านั้น ข้าขอนอนพักก่อนได้หรือไม่”     หญิงสาวนางนี้คือหงหย่ง นางมองบุตรสาวในอ้อมกอดด้วยความกังวลและห่วงใย “ได้ เจ้านอนพักก่อน ท่านป้าหนิงไปตามท่านหมอแล้ว อีกไม่นานคงกลับมาถึง แม่จะไปให้คนต้มน้ำอุ่นรอ”นางมองบุตรสาวที่หลับตานอนลงอย่างสงบ เมื่อเห็นใบหน้าน้อยผ่อนคลายขึ้น จึงทำให้นางวางใจไปที่ครัวได้     หลังได้ยินเสียงปิดประตู  เด็กน้อยบนเตียงนอนก็ลืมตาขึ้น นางประมวลความทรงจำในสมองอย่างรวดเร็ว เดิมนางเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่กำลังจะเขียนวิจัยเรียนจบ นางไม่มีพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กก็อาศัยอยู่กับย่าที่เก็บชาบนภูเขาขาย      แต่เพราะเป็นชาราคาแพงทำให้มีรายได้เพียงพอจะส่งนางมาเรียนในเมือง พวกเขาไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ขัดสน อาศัยหา   ของป่าข้างหมู่บ้านกินบ้างก็มีความสุขไปเรื่อยๆ จนย่าจากไปตอนนางจบมัธยม ด้วยผลการเรียนที่ดีนางเลยใช้เงินเก็บส่งเสียตัวเองเรียนที่เมืองหลวง ปล่อยเช่าไร่ชาไม่กี่ไร่ของบ้าน และด้วยความชอบทำอาหาร จึงได้เป็นผู้คนงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง     นางอาศัยความฉลาดและความมุมานะฝ่าฟัน จนขึ้นเป็นหัวหน้าชั้นปีของภาคในมหาวิทยาลัยได้ ถึงตอนนี้นางจะไม่มีญาติพี่น้องเหลืออยู่ แต่นางก็อดเสียดายที่ไม่สามารถคว้าใบปริญญาอย่างที่คุณย่าฝันไว้มาได้ นางไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร  และไม่รู้จะกลับอย่างไร คงต้องอาศัยอยู่ในร่างน้อยนี้ต่อไปก่อน เมื่อคิดได้ร่างกายก็สงบลง      ไม่นานก็มีชายชราถือล่วมยาเข้ามา หมอตรวจอาการไม่นานก็แจ้งแก่มารดาว่าเด็กหญิงปลอดภัยดี ไม่มีอาการน่าเป็นห่วง มีความอ่อนล้าเท่านั้น เพียงบำรุงให้ดีก็กลับมาเป็นปกติได้       

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD