ตั้งแต่ใบหน้าสี่เหลี่ยมแสนสมบูรณ์ที่อยู่ในกรอบเส้นผมสีเข้มที่ได้รับการดูแลอย่างดีเลิศ คิ้วสีเข้มดกดำยาวพาดผ่านนัยน์ตาคมดุดันหวานซึ้งไม่ต่างจากอิสตรีแม้แต่น้อย และเมื่อหล่อนประสานสายตากับดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ร่างกายของหล่อนก็เหมือนจะแข็งเป็นศิลา หัวใจเต้นแรงเร็ว กล้ามเนื้อภายในร่างกายตึงเครียด บีบรัดอัดแน่นอยู่ที่ช่องท้อง มันร้อนผ่าวราวกับมีกองไฟอยู่ในนั้น
หญิงสาวรู้สึกคล้ายกับกำลังจะหายใจไม่ออก อากาศบริสุทธิ์เหือดแห้งลงไปทุกขณะ เมื่อสายตาเลื่อนต่ำจากจมูกโด่งเป็นสันงามที่ตรงส่วนปลายงุ้มเล็กน้อย ลงไปยังริมฝีปากบางเฉียบ หยักพองามสีสด น้ำลายในลำคอเหนียวเป็นยางขึ้นมาทันที
สัญชาติญาณบางอย่างตอกย้ำอยู่ในอกว่าหล่อนกำลังจะเล่นกับไฟ ใช่... ผู้ชายคนนี้ร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ เพราะเพียงแค่เห็นหน้า เพียงแค่ได้มองในระยะสามเมตรแบบนี้ ร่างกายของหล่อนก็ขานรับเสน่ห์แห่งบุรุษผู้อำมหิตได้รุนแรงน่าอัศจรรย์
ร่างบางสั่นระริก ไม่สามารถถอดสายตาจากความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของคาร์โลสได้เลย เขามีอิทธิพลต่อร่างกายของหล่อนได้อย่างมหาศาล เขาปลุกความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในกายให้ลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง ผู้ชายตรงหน้าช่างหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ
ลำคอสาวแห้งผากเมื่อสายตาเลื่อนต่ำลงมาตามลำคอแกร่งและไหล่กว้างทรงพละอย่างสำรวจตรวจตรา หน้าอกกว้างใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลไหม้เนื้อดีแนบชิดลำตัว ทำให้หญิงสาวมองเห็นลอนกล้ามเนื้อแน่นหนั่นได้ชัดเจนเต็มสองตา และมันก็มีผลทำให้ซอกขาปวดร้าวอย่างรุนแรง อกสาวอวบใหญ่ใต้บราเซียเบ่งบานชูชันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
อันตราย...! ผู้ชายคนนี้แสนจะอันตราย เขากำลังเขย่าเอาส่วนที่หล่อนพยายามซ่อนเอาไว้ให้ไหลทะลักออกมา และหล่อนก็คงไม่สามารถต้านทานอำนาจอำมหิตแห่งความปรารถนาที่เกิดจากผู้ชายคนนี้ได้เลย
กัญญิกาพยายามบังคับตัวเอง บังคับสายตาไม่รักดีที่เอาแต่จ้องสำรวจผู้ชายตรงหน้าให้หันไปทางอื่น... ให้มองทางอื่นแทน มองอะไรที่มันไม่มีผลต่อระบบควบคุมของตัวเอง แต่มันก็ทำไม่ได้... หล่อนทำไม่ได้เลย สายตายังเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องเรียบไร้ไขมันของคนตัวโต และต่ำลงไปกว่านั้น...
หญิงสาวห่อปาก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง แก้มสาวแดงก่ำมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นหลักฐานที่แสดงถึงความต้องการที่ไม่ต่างกันเลยระหว่างเขากับหล่อน ที่มันดุนดันเป็นร่องรอยอยู่ที่ซิปกางเกงของคาร์โลส
ชายหนุ่มมองตามดวงตาตื่นตระหนกแกมอยากรู้ของกัญญิกาลงไปที่เป้ากางเกงของตัวเอง และก็ต้องสบถอย่างเดือดดาลในลำคอ เมื่อเห็นมันคึกคักบวมเป่งจนซิปกางเกงแทบแตก
คาร์โลสขบกรามจนเป็นสันนูน ขณะหมุนตัวเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างรวดเร็ว พลางก่นด่าตัวอยู่ในใจไม่หยุดหย่อน ที่ทำตัวเป็นหนุ่มวัยกระทงที่มีอารมณ์ทางเพศได้เพียงแค่เห็นผู้หญิงถูกใจได้ยังไงกัน
ให้ตายเถอะ... ไอ้ส่วนที่ไม่มีสมองนี้ไม่เคยทำงานนอกลู่นอกทางมาก่อนเลยนี่น่า เขาสั่งยังไงมันก็ทำตามตลอด จะว่าเขาปล่อยให้อดอยากก็ไม่ใช่ เพราะเมื่อวันก่อนก็พึ่งจะสุขสมกับนางงามจักรวาลมาหลายชั่วโมง
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ... ทำไมทั้งสมองและร่างกายถึงได้ปั่นป่วนแบบนี้ ชายหนุ่มลอบถอนใจออกมา รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเข้าใกล้กับความหายนะเข้าไปทุกขณะ
“เธอคงเป็นลูกสาวของคุณ... ออกไปให้พ้นทั้งพ่อทั้งลูก...!”
คาร์โลสสะกดกลั้นความต้องการทางเพศ หันไปคำรามใส่นายอนิรุจเสียงกระด้าง จนชายชราต้องรีบเข้าไปจับแขนบุตรสาวเอาไว้ และพยายามจะพาออกนอกห้อง แต่สาวน้อยไม่ยอม หล่อนพยายามรวบรวมสติสตังใหม่อีกครั้ง หลังจากกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง เมื่อสบตากับผู้ชายตรงหน้า
“ฉันอยากคุยกับคุณ...”
กัญญิกาพยายามจะขอเจรจาใหม่อีกครั้ง แต่คาร์โลสไม่เล่นด้วย แถมยังไล่ราวกับหล่อนและพ่อเป็นเจ้าหนูสกปรกอีกต่างหาก
“ฉันตกลงกับพ่อของเธอไปหมดแล้ว... ออกไปซะ ก่อนที่ฉันจะเรียกคนมาลากออกไป...”
คำรามเล็ดลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา ราวกับต้องการบอก ให้คู่สนทนาระลึกไว้ว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว และก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจซะด้วย
“เลือดเย็น คุณมันเลือดเย็นที่สุด...!”
“ไม่เอาน่าญิกา... พอเถอะลูก...” นายอนิรุจปรามบุตรสาวเสียงน่าสงสาร
“นั่นสิ... เชื่อพ่อของเธอเถอะ ออกไปซะ ก่อนที่เธอจะเดือดร้อน...”
กัญญิกากัดฟันแน่น มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความเจ็บช้ำ ก่อนจะประคองร่างของบิดาให้ออกไปจากห้องทำงานที่เคยเป็นของท่านด้วยความผิดหวัง
แต่หล่อนไม่มีทางยอมแพ้หรอก... วันนี้เขาไม่ตกลง พรุ่งนี้หล่อนก็จะพยายามทำให้ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้ใจอ่อนให้ได้ แม้จะต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
สายตาคมจับจ้องร่างงามที่เดินลับจากสายตาไปแล้วนิ่งนาน ก่อนจะร้องก่นด่าตัวเองอยู่ภายในใจอย่างเดือดดาล ที่อยากได้แม่ผู้หญิงคนนั้นจนตัวสั่น ร่างกายเรียกร้องอยากจะฝากฝังความใหญ่โตของตัวเองให้หายเข้าไปในส่วนนั้นของเจ้าหล่อนจนชายหนุ่มแทบคลั่ง...
ให้ตายเถอะ... นี้เขาเป็นมากถึงขนาดนี้เลยหรือ ได้... ได้สิ เอาเลย... ในเมื่ออยากได้เจ้าหล่อนนัก เขาจะจัดให้ และก็หวังเป็นอย่างยิ่งกว่าความคลุ้มคลั่งมันจะหายไปสักที...
มือใหญ่กดอินเตอร์คอมถึงเลขาที่ทำงานหน้าห้องทันที ก่อนจะกรอกเสียงกระด้างไปตามสาย “ตามคุณอนิรุจกลับขึ้นมาพบผมด่วน... คุณอนิรุจคนเดียวเท่านั้น...”
ย้ำเสียงห้วน ก่อนจะหันหมุนปากกาให้มือฆ่าเวลา และเพียงไม่นานร่างพ่ายผอมที่คงจะตรอมใจของผู้ชายที่เขารอพบอยู่ก็ก้าวเข้ามาในห้องอีกครั้งหนึ่ง
“ผมมีเรื่องจะตกลงกับคุณ... อีกครั้ง นั่งก่อนสิ...”
คาร์โลสผายมือเชิญให้นั่ง และนายอนิรุจก็ไม่ขัดข้องเขานั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าคาร์โลสแต่โดยดี
“คุณคาร์โลสต้องการจะตกลงอะไรกับผมหรือครับ เมื่อกี้นี้เราก็...”
ริมฝีปากบางได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ แต่ดวงตาคมกลับไม่ได้มีร่องรอยแห่งความปรีดาเลย อนิรุจตัวสั่น ความอำมหิตที่สะท้อนออกมาจากสายตาคู่นั้นกำลังทำให้เขาหายใจไม่ออก
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว... บางทีผมอาจจะทำตามที่คุณต้องการก็ได้...”
นายอนิรุจยิ้มอย่างดีใจ แต่ก็เพียงไม่นานเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคาร์โลส
“แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน...”
สัญญาณอันตรายที่ส่งมาจากสายตาคมกล้าของหนุ่มสแปนิซตรงหน้าทำให้อนิรุจหน้าซีดเผือด สมแล้วที่เป็นนักธุรกิจมือหนึ่งของโลก เพราะคาร์โลสไม่เคยยอมเสียเปรียบเลยแม้แต่เหรียญเดียว
“เอ่อ... คุณคาร์โลสต้องการ... อะไรแลกเปลี่ยนครับ... ผมไม่มีของมีค่าอีกแล้ว นอกจากบริษัทแห่งนี้ ก็เหลือแต่บ้านที่อาศัยอยู่...”
คาร์โลสหัวเราะเสียงกระด้าง จ้องมองชายชราตรงหน้าเขม็ง “ผมไม่ได้หมายถึงบ้านของคุณ...”
อนิรุจเงยหน้าจ้องมองผู้ชายรุ่นลูกตรงหน้าด้วยความกังขา “แล้ว... คุณคาร์โลสต้องการอะไรครับ... ผม...ไม่...”