คาร์โลสนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่กลางเพ้นเฮาส์สุดหล่อของตัวเอง หลังจากผ่านกิจกรรมสวาทยาวนานมาเกือบสามชั่วโมงกับแม่ มิเกล ร่างกายของเขาผ่อนคลายและอิ่มแปล้ และก็สุดสิ้นความต้องการลงในทันที
“คาร์โลสคะ...”
มิเกลอ้อนเสียงหวาน ก่อนจะวาดแขนโอบกอดร่างกำยำสมบูรณ์แบบของผู้ชายหล่อติดอันดับโลกอย่างคาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส ใบหน้าสวยคมยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น อัศจรรย์ใจกับลีลารักแสนช่ำชองของผู้ชายที่นอนข้างๆ ยิ่งนัก
“คุณยอดที่สุดเลยค่ะ เยี่ยมมาก...”
คำชมของหญิงสาวไม่ได้ทำให้คาร์โลสรู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มยังนอนนิ่ง ใบหน้ายังเย็นชาดั่งเดิม จนมิเกลรู้สึกหวาดหวั่นใจว่าเขาจะหมดความสนใจในตัวของหล่อนแล้ว เพราะกิตติศัพท์ความขี้เบื่อของคาร์โลสดังยิ่งกว่าเสียงของระเบิดปรมาณูเสียอีก
“คาร์โลสคะ คุณคงไม่เบื่อ...”
ยังพูดไม่ทันจบประโยค เสียงกระด้างแสนห้วนก็เล็ดลอดจากริมฝีปากหยักหนาออกมาทันที และนั่นมันก็ทำให้มิเกลถอนใจออกมาอย่างเสียดาย หล่อนนึกว่าตัวเองจะทำสถิติได้มากว่าคืนเดียว ครั้งเดียว แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทุกอย่างจบลงแล้ว พร้อมๆ กับความเสียดายที่อัดแน่นอยู่เต็มอก
“ผมอยากอยู่บนเตียง...คนเดียว!”
“ค่ะ...”
มิเกลก้าวลงจากเตียงโดยดุษณี ก้มหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่จนเรียบร้อย จึงหันไปปลายตามองผู้ชายหุ่นทรมานใจสาวที่นอนหลับตาทั้งๆ ที่ยังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่บนเตียงด้วยความเสียดาย
หล่อนยังอยากให้คาร์โลสทำกับร่างกายของหล่อนอีก ทำให้หล่อนครางด้วยความเสียวซ่านอีกครั้ง แต่ก็รู้ดีว่าคาร์โลสไม่มีวันเปลี่ยนใจ เขาใจแข็ง แถมยังเลือดเย็น ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้นอนกับเขาเป็นครั้งที่สอง ไม่ว่าจะในคืนเดียวกัน หรือหลังจากนั้น ยังไม่มีใครทำได้ และมันก็น่าเสียดายที่หล่อนก็ทำไม่ได้เช่นกัน
“เช็คเงินสดห้าหมื่นยูโรอยู่บนโต๊ะด้านหน้าในห้องรับแขก หยิบไปได้เลย แล้วหากคิดว่ามันไม่พอก็โทรหาผม... ผมจะเพิ่มให้อีก... ไปได้แล้ว”
“ลาก่อนค่ะ คาร์โลส”
หญิงสาวมองตาเชื่อม ทำเสียงระห้อยน่าสงสาร หวังว่าชายหนุ่มจะเห็นใจ แต่เปล่าเลย คาร์โลสไม่ได้มีท่าทางสะทกสะท้าน ใส่ใจกับอากัปกิริยาของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
มิเกลถอนใจออกมาแรงๆ อย่างหมดหวัง ก่อนจะก้มหน้าเดินคอตกออกไป ทิ้งให้ร่างกำยำของคาร์โลสนอนนิ่งอยู่บนเตียงตามลำพัง
เสียงประตูปิดลงแผ่วเบาทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าแม่สาวที่พึ่งจะดีดดิ้นสุดเหวี่ยงกับเขาบนเตียงเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ไปแล้ว ชายหนุ่มลืมตา ลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง
“ผู้หญิงก็แค่นี้... ไม่เคยปฏิเสธเงิน”
ผู้หญิงก็มีความสำคัญแค่นี้เอง...
แค่ทำให้เขาปลดปล่อยความใคร่ จากนั้นก็ฟาดหัวพวกหล่อนด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย รอยยิ้มหยันผุดที่บนใบหน้าหล่อคมคาย นัยน์ตาคมกล้าทอแสงความชิงชัง พวกหล่อนก็แค่ขยะ ขยะสวยงามที่เขาจำเป็นต้องมีไว้เพื่อบำบัดความกระหายก็แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ...
บ่ายแก่ๆ ของวันถัดมา คาร์โลสนั่งเซ็นเอกสารสำคัญอยู่ในห้อง
ทำงานของตัวเองในตึกอาวิลล่า เขาจำเป็นต้องรีบเคลียงานให้จบ เพราะพรุ่งนี้เขาจะเดินทางไปเมืองไทย เพื่อไปจัดการกับซันกรุ๊ป อีกหนึ่งบริษัทที่ตกมาอยู่ในกำมือของเขาอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มเห็นทางเจริญก้าวหน้าของมันได้อย่างทะลุปรุโปร่งจากการอ่านรายงานสำคัญของซันกรุ๊ปที่เจ้าหนี้รายใหญ่ยอมยกมันให้กับเขาในราคาสูงกว่าจำนวนหนี้ที่ติดไว้ถึงสิบล้าน รวมเป็นเงินที่เขาจ่ายไปเพื่อให้ได้ครอบครองซันกรุ๊ปถึงห้าสิบล้านบาททีเดียว
แม้มันจะเป็นการลงทุนที่สูง แต่เขามั่นใจว่ามันจะให้ผลคุ้มค่ากับการลงทุนในครั้งนี้อย่างแน่นอน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจผุดขึ้นช้าๆ ริมฝีปากหยักบางคลี่ยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะก้าวยาวๆ ออกจากห้องทำงานของตัวเองไปทันที
แพทริเซีย อะลอนโซ ลิซเต สาวน้อยวัยยี่สิบปีเศษ หล่อนเป็นลูกสาวอีกคนของ เอ็ดสัน อะลอนโซ โดนาส กับ เรน่า ลิซเต อิเนียสต้า ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้องสาวต่างมารดาของ คาร์โลส อะลอนโซ อิเกลเซียส นั่นเอง ถึงแม้ว่ามารดาของหญิงสาวจะเป็นแค่สาวใช้ที่หวังจะจับเอ็ดสันเท่านั้น แต่คาร์โลสก็ยินดีให้ความช่วยเหลือตามเห็นสมควร
หญิงสาวจบมหาวิทยาลัยและเข้าทำงานในบริษัทของพี่ชายตัวเอง ในฐานะพนักงานธุรการธรรมดาคนหนึ่ง แม้คาร์โลสจะเคยเสนอตำแหน่งสูงกว่านี้ให้ แต่แพทริเซียก็ปฎิเสธ เพราะสำนึกในบุญคุณของคาร์โลสมาตลอดเวลา เพราะหากเขาจะฆ่าจะแกงหล่อนกับแม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องลำบากเลย แต่ชายหนุ่มกลับหาที่พักให้ แม้มันจะไม่สะดวกสบายเหมือนในคฤหาสน์อะลอนโซ แต่มันก็ช่วยให้หญิงสาวรู้สึกมีศักดิ์ศรีขึ้นมามากมาย
แพทริเซียนึกย้อนไปถึงวันที่แม่ทะเลาะกับนายหญิงของบ้าน ซึ่งก็คือคุณแม่ของคาร์โลสอย่างรุนแรง เรื่องที่ขอให้หล่อนมีส่วนร่วมในสมบัติครึ่งหนึ่ง แต่มารีอาไม่ตกลง ดังนั้นจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และเมื่อคุณพ่อของหล่อนกลับมาถึงก็ไล่หล่อนกับแม่ออกจากบ้าน
หล่อนไม่เคยโกรธพ่อ ไม่เคยโกรธมารีอา ไม่เคยโกรธแม่ แต่หญิงสาวรู้สึกโกรธตัวเองยิ่งนัก เกลียดที่หล่อนเป็นตัวปัญหาของทุกคน ทุกคนต้องมาปวดหัวกับคนไร้ค่าอย่างหล่อนเพียงคนเดียว
มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง ความเจ็บช้ำยังเกาะกินแน่นอก ขณะหันไปมองที่นอนข้างๆ ที่ตอนนี้ไม่ร่องรอยของคนๆ นั้นอีกแล้ว
แม่ตายแล้ว... ตายจากไปเมื่อสองปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนน มีคนขับรถชนท่าน ตอนนั้นหล่อนยังไม่ได้กลับจากที่ทำงาน มารู้อีกทีก็ตอนที่ตำรวจโทรแจ้งว่าให้ไปรับศพของมารดา
หัวใจแทบขาด... เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของแม่ และความโดดเดี่ยว อ้างว้างกระแทกเข้าใส่หน้าอย่างไม่ปรานีเมื่อต่อจากวินาทีนี้ไปหล่อนจะไม่มีโอกาสได้เห็นแม่อีกแล้ว
แพทริเซียจำไม่ได้ว่าตัวเองเริ่มต้นอยู่มาได้เพียงลำพังโดยไม่มีมารดาข้างกายได้อย่างไร แต่ที่จำได้ไม่เคยลืมเลยก็คือ คำปลอบโยนและการช่วยเหลือด้วยความเต็มใจของคาร์โลส พี่ชายและญาติสนิทเพียงคนเดียวที่หล่อนเหลืออยู่ในโลกใบนี้