ตอนที่ 15 แผนกำจัดเอวา

1420 Words
ห้องทำงานของเอริคที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเวสต์ฟิลด์ กรุ๊ป ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มที่ให้ความรู้สึกหรูหราและมั่นคง โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องเต็มไปด้วยเอกสารที่กองพะเนิน ทั้งรายงานการประชุม, แผนการตลาด, และแฟ้มโครงการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ด้านหลังโต๊ะทำงานของเอริคเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดเผยให้เห็นทัศนียภาพของกรุงเทพฯ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยแสงไฟจากอาคารสูงและการจราจรที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ภายในห้องทำงานของเขา เงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เอริค เวสต์ฟิลด์ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา สีหน้าครุ่นคิด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ทัศนียภาพนอกหน้าต่าง ราวกับกำลังมองหาคำตอบจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล ทันใดนั้น ความคิดที่เฉียบคมและแฝงด้วยเจตนาร้ายก็ผุดขึ้นมาในใจเขา ใบหน้าของเขาแข็งกร้าวและเย็นชา เอริคหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ภายใน "ลูคัส เข้ามาหากูหน่อย" เขาพูดเสียงทุ้มต่ำและเย็นชา น้ำเสียงของเขาเป็นสัญญาณที่บอกว่าเขามีแผนการบางอย่างในใจ ไม่กี่นาทีต่อมา ลูคัสเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของเอริค “มีอะไรเหรอวะ เอริค?” เขาถามด้วยท่าทีสบายๆ แต่ในสายตาก็มีแววสงสัย เขารู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเขามักจะมีแผนการที่ไม่ธรรมดาเสมอ ความสนใจในท่าทางของเอริคที่ดูเคร่งเครียดทำให้ลูคัสรู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เอริควางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะและเงยหน้ามองลูคัส “กูมีแผน” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ความเคร่งขรึมในดวงตาของเขาส่งสัญญาณชัดเจนถึงเจตนาที่ไม่หวังดี “กูอยากให้นังเด็กนั่นมาเป็นเลขากู ทำให้มันทำพลาด ให้คนทั้งบริษัทเห็นว่ามันไม่มีสมองพอจะทำงานได้” เอริคพูดออกมาด้วยความตั้งใจแน่วแน่ ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ท่าทีสงสัย “มึงจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอวะ?มันจะดีเหรอ?” เขาถามเสียงเบา แม้ว่าเขาจะชอบแซวเอริคอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็รู้ดีว่าแผนของเอริคมักจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงและบางครั้งก็นำมาซึ่งปัญหาที่ไม่คาดคิด เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เอริคกำลังคิดอยู่นั้นจะเป็นผลดีกับใคร เอริคกลับไม่ใส่ใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “กูไม่สน กูแค่อยากให้ทุกคนเห็นว่านังเด็กนั่นไม่ควรอยู่ในครอบครัวเวสต์ฟิลด์ มึงคิดดูสิ ถ้ายัยนั่นทำพลาดครั้งใหญ่ พวกผู้บริหารจะต้องเห็นชัดๆ ว่าเธอไร้ประโยชน์ขนาดไหน” ดวงตาของเอริคแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่นที่เย็นชา เขาเชื่อว่าการเปิดเผยความผิดพลาดของเอวาจะเป็นวิธีที่ทำให้ทุกคนเห็นสิ่งที่เขาเห็นในตัวเธอ ลูคัสถอนหายใจและส่ายหัวเล็กน้อย “มึงนี่มันจริงจังจริงๆ ว่ะ แต่มึงก็รู้ใช่ไหมว่าทำแบบนี้แม่มึงคงไม่ปลื้มเอามากๆ แถมเอวาอาจจะเสียใจหนักเลยนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง เขาเข้าใจว่าความเกลียดชังของเอริคที่มีต่อเอวานั้นลึกซึ้ง แต่เขาก็ยังคงไม่อยากเห็นความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของเพื่อน เอริคหันไปมองลูคัสด้วยสายตาเฉียบคม “แม่รักยัยนั่นมากเกินไปแล้ว แต่กูไม่สนใจ กูต้องทำให้เธอออกไปจากชีวิตของกูซะที” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและหนักแน่น ความมุ่งมั่นของเขาชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการให้เอวามีที่ยืนในชีวิตของเขาอีกต่อไป ลูคัสฟังด้วยความเป็นห่วงและเห็นใจ แต่ก็รู้ว่าเอริคคงไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ “แล้วมึงคิดว่าจะเริ่มยังไงล่ะ?” ลูคัสถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะของเอริค เขาไม่สามารถหยุดยั้งเพื่อนของเขาได้ แต่เขาก็ต้องการเข้าใจแผนการนี้ให้มากขึ้น เอริคยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “กูจะให้เธอเข้ามาทำงานเป็นเลขากู เราจะเริ่มจากงานง่ายๆ ก่อน แต่จะเพิ่มความซับซ้อนและความกดดันให้มากขึ้นเรื่อยๆ ดูสิว่าเด็กที่ไม่มีสมองแบบนั้นจะทนได้ถึงเมื่อไหร่” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและความพอใจในแผนการที่จะทำให้เอวาทำพลาด ลูคัสฟังแล้วหัวเราะเบาๆ “มึงนี่แม่งจริงๆ เลย เอริค เอาน้องมาเล่นแบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกันนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กึ่งล้อเลียนกึ่งจริงจัง เขารู้สึกว่าการกระทำนี้อาจทำให้เกิดความบาดหมางที่ลึกซึ้งขึ้นในครอบครัว เอริคไม่สนใจคำพูดของลูคัส เขายังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง “ถ้าเธอทำพลาดครั้งใหญ่ ก็จะไม่มีใครอยากให้เธออยู่ในบริษัทอีกต่อไป ทุกคนจะเห็นเองว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเรา” เขาพูดด้วยความแน่วแน่และความมั่นใจในแผนการของเขา ลูคัสพยายามทำตัวให้สบายๆ แม้ในใจจะรู้สึกไม่สบายใจ “มึงแน่ใจเหรอว่าแผนนี้จะได้ผล?บางทีเอวาอาจจะไม่โง่เหมือนที่มึงคิดก็ได้” เขาเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี แต่ก็รู้ว่าเอริคไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจง่ายๆ เอริคหันมามองลูคัสด้วยสายตาเย็นชา “มึงคิดว่าดูไม่ออก?กูรู้ดีว่าเธอไม่มีความสามารถอะไรทั้งนั้น กูแค่ต้องการให้ทุกคนเห็นเหมือนที่กูเห็น” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ลูคัสส่ายหน้า “เออๆ มึงก็ลองทำตามที่มึงคิดดู แต่ขอกูเตือนไว้เลยนะว่ามึงต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเอริคไม่เคยยอมรับผิดง่ายๆ เอริคยิ้มเยือกเย็น “กูรับผิดชอบได้อยู่แล้ว มึงไม่ต้องห่วง กูแค่อยากให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีที่ยืนในชีวิตกูและในบริษัทนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่น ลูคัสถอนหายใจ “ก็ได้ๆ เอาที่มึงสบายใจ มึงอยากทำอะไรก็ทำไป แต่ขอกูบอกเลยนะว่าแม่งไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อย เอริคไม่ตอบอะไร เขาหันไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ราวกับกำลังคิดคำนวณถึงสิ่งที่เขาจะทำต่อไป ความคิดในใจของเขาเต็มไปด้วยแผนการที่ซับซ้อน และความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเอวาไม่สมควรอยู่ในครอบครัวเวสต์ฟิลด์ ลูคัสยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู “กูไปแล้ว ถ้ามึงต้องการความช่วยเหลืออะไร บอกกูได้เลย แต่ขอกูบอกไว้นะว่ากูไม่สนับสนุนแผนของมึงหรอกนะเว้ย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงและเตือนเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย เอริคพยักหน้า “กูรู้ ขอบใจที่เตือน แต่กูจะทำตามที่กูเห็นว่าถูกต้อง” เขาพูดด้วยความมั่นใจที่ไม่หวั่นไหว ลูคัสส่ายหัวและออกจากห้องไป ทิ้งให้เอริคนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงานของเขา เอริคนั่งเงียบๆ จ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ เขามั่นใจว่าแผนของเขาจะทำให้เอวาเห็นว่าที่ของเธอไม่ควรจะอยู่ที่นี่ ความตั้งใจและความมุ่งมั่นของเขาแน่วแน่ที่จะทำให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา และจากครอบครัวเวสต์ฟิลด์ เอริคหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง โทรไปหาฝ่ายบุคคล “นี่ เอริค เวสต์ฟิลด์นะ จัดการเปลี่ยนตำแหน่งให้เอวา เวสต์ฟิลด์เป็นเลขาฉัน… ใช่ พรุ่งนี้เริ่มงานเลย” เขาวางสายด้วยความพอใจในแผนการของตัวเอง รอยยิ้มเย็นชาแสดงออกมาบนใบหน้าของเขา แผนการนี้จะเป็นการทดสอบที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเอวาไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในชีวิตของเขา เขายิ้มให้กับความคิดของตัวเอง แล้วหันไปมองเอกสารบนโต๊ะ รู้สึกพอใจกับแผนการที่วางไว้ ขณะที่เขาเริ่มกลับมาทำงานต่อ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยความเครียดของห้องทำงานนี้ เอริครู้ว่าเกมเพิ่งจะเริ่มขึ้น และเขาจะเป็นผู้ชนะในที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD