หลงรักเมียแต่ง #3 ปากแข็ง เอาแต่ใจ

1715 Words
โรงพยาบาล ภาวินขับรถพาผู้ป่วยมาส่งที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้ยินเสียงส้มโอร้อง ไฟก็มาพอดี ทำให้เห็นว่าเธอได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษแก้วบาดที่เท้า หญิงสาวหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะกลัวการถูกฉีดยาจนน้ำตาไหลอาบแก้ม เอาแต่ร้องไม่ยอมท่าเดียว พยาบาลจึงต้องไปเรียกภาวินเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมเพราะไม่ฉีดยาไม่ได้ เดี๋ยวแผลจะอักเสบ “ฉีดยาเถอะน่า เจ็บนิดเดียวเอง” “ไม่เอา” “ฉีดยาเหอะ ผมมีวิธีที่ทำให้คุณไม่เห็นเข็มฉีดยา” “แน่นะคะ” “อืม คุณพยาบาลครับ ฉีดยาได้เลยครับ” ชายหนุ่มหันไปบอกพยาบาลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็คว้าหญิงสาวเข้ามากอดแล้วกดหัวเธอให้แนบกับแผ่นอกของตน คนป่วยจึงเกิดอาการตกใจลืมเรื่องเข็มฉีดยาไปสนิท มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พยาบาลแจ้งว่าฉีดยาเสร็จแล้ว ให้ไปรอรับยาที่หมอสั่งเพิ่มเติมได้ที่หน้าห้องจ่ายยา “ขะ... ขอบคุณนะคะคุณวิน” เธอพูดติด ๆ ขัด ๆ เพราะยังเขินกับความใกล้ชิดเมื่อสักครู่ แก้มก็แดงเปล่งราวกับเป็นไข้ “ไม่เป็นไร ว่าแต่ คุณไม่ลองนอนโรงพยาบาลสักคืนเหรอ รอดูอาการหน่อย เผื่อไม่สบาย” เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่เขิน แต่พยายามทำเป็นไม่เขินมากกว่า เพราะตอนที่ดึงส้มโอมากอด หัวใจก็เกิดเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และแอบกลัวว่าคนในอ้อมกอดจะได้ยินอีกด้วย “ไม่เอาค่ะ ค่าใช้จ่ายเยอะ อีกอย่าง หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แผลก็ไม่ลึกด้วย” “อืม ถ้าอย่างนั้นก็ไปพักกับผมดีกว่า อยู่คนเดียวตอนป่วยแบบนี้มันไม่ดี” “แต่ส้มโออยู่ที่ห้องคนเดียวได้ค่ะ ไม่ต้องไปอยู่กับคุณวินหรอก แค่นี้สบายมาก” “ผมไม่ได้ขอร้อง แต่ผมสั่งและบังคับ คุณมีหน้าที่แค่ทำตามก็พอ โอเคนะ เดี๋ยวผมไปเอายาให้ รออยู่ตรงนี้ ห้ามดื้อ ห้ามเถียง ห้ามไม่เชื่อฟัง” ภาวินออกคำสั่งเสร็จก็เดินไปรับยา ปล่อยให้ลูกน้องสาวอ้าปากค้างมองเจ้านายหนุ่มตาปริบ ๆ ด้วยความไม่พอใจที่ถูกเขามัดมือชก “คนเอาแต่ใจ” นั่นคือคำพูดที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อภาวินรับยาและเดินกลับมาหาตนเอง แต่เขากลับยิ้มรับ ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาถึงโรงแรม ชายหนุ่มเอารถเข้ามาจอดเสร็จก็หันมาปลุกคนป่วยที่หลับตั้งแต่รถเคลื่อนออกจากโรงพยาบาล เขาไม่เคยสังเกตใบหน้าของส้มโอในระยะใกล้ขนาดนี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่าหญิงสาวหน้าตาน่ารักใช้ได้ ปากนิด จมูกหน่อย ผิวพรรณก็ดี รูปร่างก็น่ากอด ไม่ผอมเกินไปและไม่อ้วนเกินไป “หลับไม่รู้เรื่องเลยแม่คุณ หึ ๆ” เขายิ้มด้วยความเอ็นดู กำลังจะลงจากรถ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี “อือ... ถึงแล้วเหรอคะคุณวิน” “ครับ คุณเดินไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมอุ้มเอง” “ไหว ๆ คุณวินแค่ช่วยพยุงก็พอ ไม่ต้องอุ้มหรอกค่ะ” “ก็ได้” ที่เขายอมเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธออีก จากนั้นก็เดินลงจากรถ อ้อมไปอีกฝั่งแล้วช่วยพยุงหญิงสาวออกมา ก่อนจะพาเข้าไปในโรงแรมและขึ้นไปยังชั้นที่ตนเองอาศัยอยู่ ซึ่งมีแค่ห้องพักของคนในครอบครัวเท่านั้น เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนเรียบร้อย เจ้าของห้องก็ให้คนเจ็บไปนอนในห้องนอน ส่วนเขาจะไปนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่น แต่ส้มโอไม่ยอม จึงเกิดการโต้เถียงขึ้นมาอีกรอบ สุดท้ายคนที่ชนะก็คือภาวิน เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพราะหลับไม่สนิท เขาทุบหลังตัวเองเบา ๆ ด้วยความเมื่อยขบ ปวดไปทั้งตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่คนเจ็บเปิดประตูออกมาจากห้องนอน จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงและเดินขากะเผลกไปนั่งข้าง ๆ เจ้านายหนุ่ม “คุณวินโอเคไหมคะ” “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ เท้าคุณเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” “ไม่แล้วค่ะ ว่าแต่คุณวินเถอะ ปวดหลังใช่ไหม” “อืม ปวดนิดหน่อย” “ส้มโอนวดให้เอง รับรองแป๊บเดียวก็หาย” “คุณทำได้แน่นะ” “ได้ นอนลงเลยค่ะ” เมื่อเจ้านายหนุ่มนอนคว่ำหน้าลงบนโซฟา หญิงสาวก็เริ่มนวดตามแบบที่เคยทำให้มารดาตอนที่ท่านยังมีชีวิต ฝีมือการบีบนวดของเธอทำเอาภาวินเคลิ้มกันเลยทีเดียว ไม่นาน อาการเมื่อยขบต่าง ๆ ก็หายไปหมด “ขอบใจนะ ไม่คิดเลยว่าคุณจะนวดเก่งแบบนี้” “ขอบคุณที่ชม ถือว่าหายกันที่คุณวินให้ส้มโอมานอนที่นี่” “วันนี้คุณไม่ต้องไปทำงานหรอก ผมแจ้งเรื่องลาป่วยกับฝ่ายบุคคลแล้ว” “ขอบคุณค่ะ แต่ส้มโอรบกวนให้คุณวินไปส่งส้มโอหน่อยได้ไหม ตอนนี้เท้าไม่ค่อยเจ็บ ส้มโออยากกลับไปพักที่ห้องตัวเองมากกว่า” “แน่ใจนะว่าโอเค อยู่คนเดียวได้” “ได้ค่ะ เรื่องแค่นี้สบายมาก” “งั้นรอแป๊บ ผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ส่วนคุณก็ใส่ชุดผมนี่แหละ” “ค่ะ เจ้านาย” เสียงใสเอ่ยแบบประชด เพราะเขาเอาแต่สั่ง ๆ ไม่ทันให้เธอได้พูดแทรกสักคำ หลังจากที่ชายหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ขับรถมาส่งหญิงสาวที่อพาร์ตเมนต์ของเธอและไม่ยอมกลับง่าย ๆ ขอขึ้นไปบนห้องด้วยคน มีหรือส้มโอจะห้ามได้ เธอจึงพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงอนุญาต ภายในห้องของส้มโอ ภาวินกำลังเก็บกวาดเศษแก้วตามคำสั่งคนเจ็บ เพราะเขาอาสาทำเอง เธอจึงสนองด้วยการออกคำสั่ง ชายหนุ่มค่อย ๆ เก็บค่อย ๆ กวาดด้วยความทุลักทุเล กว่าจะเสร็จเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่เป็นงานง่าย ๆ แต่เขากลับทำให้มันเป็นเรื่องยาก ทำให้โดนส้มโอบ่น “กว่าจะเสร็จนี่นานมาก ถามจริง ๆ เถอะ คุณวินไม่เคยทำงานบ้านเลยเหรอ” “อืม ไม่เคย ที่บ้านมีคนใช้ แค่สั่งพวกเขาก็ทำ ไม่จำเป็นต้องทำเอง” “เฮ้อ ลูกคนรวยก็งี้แหละ ว่าแต่ จะไปทำงานตอนไหน นี่มันสายแล้วนะคะ” “ส่งคุณเสร็จก็จะไป ไม่ต้องมาไล่หรอก” “ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ก็แค่ถาม” “งั้นผมไปเลยดีกว่า ถ้ามีอะไรก็โทรมานะ” เขาพูดจบก็สะบัดตูดเดินออกจากห้องของเธอด้วยอาการงอน ๆ แบบผู้หญิง แต่ยังไม่ลืมล็อกห้องให้คนเจ็บ ส้มโอเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมระอา ไม่เข้าใจชายหนุ่มจริง ๆ ว่าทำไมถึงเอาแต่ใจนัก ต่างจากภาคินและพี่สาวฝาแฝดของเขาเหลือเกิน เพราะสามคนนั้นค่อนข้างมีเหตุผลกว่าน้องชาย เมื่อภาวินกลับมาถึงโรงแรมก็เข้าไปเคลียร์งานทันทีด้วยหน้าตาบูดบึ้งจนบรรดาลูกน้องเข้าหน้าไม่ติดสักคน แม้กระทั่งเลขาคนสนิท เขาทำงานไปได้ชั่วโมงเดียวก็ลุกออกจากเก้าอี้แล้วก้าวเท้าฉับ ๆ ไปที่ประตู ขณะกำลังจะเปิดก็เกิดอาการลังเล จึงเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้ทำงานอีกครั้ง ซึ่งเป็นแบบนี้ประมาณสามครั้ง สุดท้ายก็เดินออกจากห้อง “คุณวินจะไปไหนครับ” เสียงของเลขาเอ่ยถามเจ้านาย “ไปทำธุระ ไม่เข้าบริษัท มีอะไรสำคัญก็ส่งมาทางอีเมลแล้วกัน” “ครับคุณวิน” เขาสั่งเลขาเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อไปยังลานจอดรถ จากนั้นก็สตาร์ตรถ มุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ของส้มโอ แต่ก่อนจะไปถึง ชายหนุ่มแวะซื้อของกินหลากหลายจนเต็มไม้เต็มมือเพื่อเอาไปบำรุงคนเจ็บ ภาวินขับรถมาถึงก็เกิดอาการลังเลว่าจะลงไปหาส้มโอดีไหม แล้วถ้าเธอถามว่ามาทำไมจะตอบยังไง แต่เพราะอะไรไม่รู้ สุดท้ายเขาก็มาอยู่ตรงหน้าห้องหญิงสาวจนได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “อ้าว คุณวิน” “อืม ผมเอง ผมผ่านมาทางนี้ ก็เลยแวะเอาอาหารเที่ยงกับของบำรุงต่าง ๆ มาให้ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของไออุ่นกับพี่คินแล้ว ผมไม่อยากเห็นเพื่อนเจ้าสาวเดินขากะเผลกเข้างาน” เขาอ้างงานแต่งของพี่ชายเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะสงสัย และมันก็ได้ผล ส้มโอไม่สงสัยพฤติกรรมของเจ้านายหนุ่มที่พักหลังมานี้ดูจะไม่เหมือนเดิม “อีกหลายวัน รับรองหายแน่นอน คุณวินมีแค่นี้ใช่ไหมคะ” “มีอีก วันนี้ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน เลยจะมาทำงานที่ห้องคุณ” “หมายความว่าไง” “ก็หมายความว่าผมจะมาอยู่กับคุณทั้งวันไง ไม่ต้องถามเยอะ ผมแค่เบื่อบรรยากาศห้องทำงานที่โรงแรมก็เลยมาหาที่ทำงานใหม่ และผมก็คิดว่าห้องของคุณวิวสวยดี เหมาะกับการนั่งทำงาน หลีกหน่อย จะเข้าห้อง” เขาพูดจุดประสงค์ที่เพิ่งคิดได้สด ๆ เสร็จแล้วก็เดินเข้ามาในห้องของเธอ จากนั้นก็เอาโน้ตบุ๊คที่ถือมาด้วยขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่มีหนังสือนิยายของส้มโอวางอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่บนพื้นเรียบร้อย ส้มโอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองภาวินด้วยความไม่เข้าใจก่อนปิดประตูดัง ปัง เสียงดังจนชายหนุ่มสะดุ้งตกใจแต่ก็ทำเป็นไม่แคร์ มองแต่หน้าจอคอมพ์อย่างเดียว “ตามสบายนะคะ คิดซะว่าห้องนี้เป็นห้องตัวเอง” “ขอบใจ” “คุณวิน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD