เรือนกายสูงใหญ่แบบหนุ่มตะวันตกของชาริลล์ คาร์ตันก้าวเดินลงมาตามขั้นบันไดที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างวิจิตรตระการตาพร้อมๆ กับรอยยิ้มที่บอกให้รู้ว่าเจ้าของนั้นกำลังอารมณ์ดีมากแค่ไหน เสียงผิวปากดังแผ่วเบาออกมาจากลำคอแกร่งสีแทน นัยน์ตาสีเขียวมรกตฉายแววความสุขเอาไว้มากมายจนผู้เป็นน้องชายอย่างบรูซที่เดินสวนทางมาอดที่จะเอ่ยแซวไม่ได้
“เย็นนี้พี่ชาร์ลแต่งตัวหล่อมากเลยนะครับ มีนัดกับสาวหรือครับ”
รอยยิ้มที่ริมฝีปากสวยจัดของชาริลล์กว้างขึ้น ขณะมองใบหน้าหล่อเข้มราวกับเทพบุตรของน้องชายคนสุดท้องของคาร์ตัน
“พี่จะไป คาร์ตัน มิวเซียม น่ะ”
นัยน์ตาทรงพลังสีน้ำเงินของบรูซหรี่มองหน้าพี่ชายน้อยๆ บอกให้รู้ว่าไม่เชื่อถือนัก
“จริงหรือครับ แต่ท่าทางของพี่ชาร์ล เหมือนกำลังจะออกไปเดทกับสาวเลยนะครับ”
“เดทอะไรกัน ไม่มีหรอก พี่ก็แค่...”
ใบหน้ารูปหัวใจของโรสิตาผุดขึ้นมาในสมอง รอยยิ้มจากกลีบปากสีเชอรี่สดของหล่อนทำให้เขาไม่อาจจะละความคิดถึงได้เลย
เพราะอะไร...?
ชาริลล์เลือกที่จะไม่คิดหาคำตอบกับคำถามค้างคาใจนั้น เขาเลือกที่จะโต้ตอบกับบรูซแทน
“ไม่มีอะไรหรอกบรูซ พี่ก็แค่รู้สึกดีเวลาได้ไป คาร์ตัน มิวเซียม เท่านั้นเอง”
บรูซกอดอกเดินวนรอบกายสูงใหญ่ของพี่ชายอย่างใช้ความคิด
“บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ผู้หญิงของพี่ชาร์ลจะออกมาจากรูปภาพ ไม่งั้นก็ไหโบราณ”
ทันทีที่คำพูดของน้องชายจบ เสียงหัวเราะของชาริลล์ก็ดังขึ้นทันที เขาหัวเราะจนน้ำตาไหล พลางส่ายหน้าน้อยๆ
“ถ้าไหวิเศษขนาดนั้นพี่จะเอามาให้นายยืม โอเคไหม บรูซ”
ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบไม่ต่างจากพี่ชายอย่างบรูซ คาร์ตันยิ้มเยาะมุมปาก
“ถ้าได้ก็ดีสิครับ ผมจะได้จับยายซันนี่ยัดลงไปในไห และเอาไปถ่วงน้ำเลย ตอนนี้ผมทั้งเบื่อ ทั้งรำคาญยายนี่สุดๆ ดูสิครับตอนนี้ผมผอมแค่ไหน ต้องฝืนใจกินอาหารจากฝีมืออ่อนหัดของยายเด็กบ้านั่นทุกมื้อกลางวัน”
แทนที่ชาริลล์จะสงสารน้องชายกลับหัวเราะด้วยความขบขัน
“ก็นายดันโชคดีถูกยายซันนี่เลือกเอาไว้ตั้งแต่เด็กนี่ ยังไงซะนายก็เป็นเจ้าบ่าวของเด็กนั่น ไม่มีทางเลี่ยงได้หรอก”
“นั่นแหละครับ นรกดีๆ นี่เอง สักวันถ้าผมทนไม่ได้ ยายซันนี่แหลกแน่”
“อืมม์... นายจะจัดการยังไงกับยายซันนี่ก็ตามสบายเถอะ พี่คนนอกไม่อยากจะยุ่งด้วย”
ชาริลล์พูดไปหัวเราะไป ในขณะที่บรูซยืนถอนใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
“พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวจะสาย”
“เฮ้... เดี๋ยวก่อนสิครับพี่ชาร์ล...”
แผ่นหลังบึกบึนทรงพลังของชาริลล์หายไปในที่สุด บรูซถอนใจออกมาเบาๆ กำลังจะหมุนตัวขึ้นไปชั้นบน เพราะต้องการพักผ่อน แต่เสียงสาวใช้ที่กระหืดกระหอบวิ่งมาหยุดด้านหลังก็หยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้เสียก่อน
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมา พร้อมกับเอียงหน้าไปมอง
“มีอะไร”
“คุณซันนี่โทรมาหาคุณบรูซค่ะ”
บรูซหรี่ตามองหน้าสาวใช้ ก่อนจะเลื่อนไปจับจ้องที่โทรศัพท์ไร้สายสีดำในมือเล็ก
“บอกว่าฉันกำลังอาบน้ำอยู่”
สาวใช้รีบทำตาม ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู แต่เพียงไม่นานก็ต้องหน้าเสียและรีบบอกเขา
“คุณซันนี่บอกว่าคุณบรูซโกหก ถ้าไม่ยอมคุยกับเธอเดี๋ยวนี้ เธอจะมาหาคุณบรูซถึงบ้านเลยค่ะ”
บรูซกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ในโลกนี้ไม่เคยมีอะไรน่าเบื่อเท่ากับยายเด็กทานตะวันมาก่อนเลย นี่ถ้าเขาไม่เกรงใจคุณอาทั้งสองล่ะก็ เขาจับยายเด็กนรกนี่เหวี่ยงออกนอกโลกไปนานแล้ว เด็กบ้าอะไรตามทุกฝีก้าวเลย
“ส่งมา”
สาวใช้รีบยื่นโทรศัพท์ไร้สายให้กับเจ้านายหนุ่มที่หน้าบูดบึ้ง จากนั้นก็รีบถอยออกไปยืนห่างๆ เพราะเกรงกลัวโทสะ
บรูซยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู พร้อมกับกรอกเสียงกระด้างออกไป
“วันนี้เฝ้าพี่ทั้งวันยังไม่พอใจหรือไง หรือว่าจะต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย”
เขาประชดออกไป แต่เจ้าหล่อนหาได้สะทกสะท้านไม่
“ไปได้จริงเหรอ งั้นซันนี่ขอพ่อกับแม่ก่อนนะ พรุ่งนี้จะรีบขนเสื้อขนผ้าเข้าไปอยู่ด้วยแต่เช้าเลยค่ะ พี่บรูซของซันนี่ใจดีที่สุดเลย”
คนปลายสายกระโดดโลดเต้น แต่คนต้นสายกลับยืนกัดฟันจนกรามปวดหนึบ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กบ้านี่จะมีสมองน้อยนิดขนาดนี้
“พี่ประชดไม่รู้เลยหรือไง”
“อ้าว... ใครจะไปรู้ล่ะคะ ว่าแต่ให้ซันนี่ไปอยู่ด้วยจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่ต้องมา... ห้ามมาเชียวนะ ถ้ามาพี่จะบินหนีไปอยู่ที่อื่น”
สาวน้อยปลายสายตกใจ รีบละล่ำละลักออกมา ในขณะที่บรูซยืนถอนใจระรัว
“โอ๋ โอ๋... อย่าไปไหนนะพี่บรูซ ซันนี่ล้อเล่น ซันนี่ไม่ไปอยู่กับพี่บรูซหรอกค่ะ เพราะถึงแม้ว่าตอนกลางคืนเราจะอยู่ไกลกัน แต่ในฝันของซันนี่มีพี่บรูซทุกคืนเลยนะคะ”
“เด็กประสาท”
เขาต่อว่าอย่างอารมณ์เสีย และพยายามจะหาทางวางสายให้เร็วที่สุด
“โทรมาหาพี่มีอะไร ถ้าไม่มีพี่จะไปอาบน้ำแล้ว”
“อาบน้ำ...”
เสียงที่ขาดหายไปของซันนี่ทำให้ บรูซอดที่จะนึกไปถึงครั้งนั้นไม่ได้ ครั้งที่ซันนี่ได้เห็นเรือนร่างของเขาแบบทั้งเนื้อทั้งตัว เจ้าหล่อนมองด้วยดวงตากลมโต มองอย่างประหลาดใจ มองอย่างตื่นเต้น ในขณะที่เขาเต็มไปด้วยความร้อนผ่าวจนแทบจะซ่อนไม่มิด
บ้าชิบ!
บรูซรีบเปลี่ยนเกียร์ในใจอย่างด่วนจี๋ สลัดภาพดวงหน้าไร้เดียงสาของทานตะวันออกไปอย่างรวดเร็ว และรีบเค้นเสียงเข้มออกไป
“ใช่ จะไปอาบน้ำ พี่เหนื่อยมาก รบกับเธอมาทั้งวัน”
“ให้ซันนี่... ไปช่วยถูหลังให้ไหมคะ ซันนี่เก่งนะคะ พึ่งหัดนวดตามในยูทูปมาเมื่อสองวันก่อน”
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมา และรีบเบรกความซุกซนของคู่สนทนาทันควัน
“พี่ไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อแตะตัว พูดมาว่ามีธุระอะไร ถ้าไม่มี... พี่จะวางแล้ว”
“อย่า... อย่าพึ่งสิพี่บรูซ... ซันนี่ก็แค่...”
ทานตะวันห้ามเสียงหลง ก่อนจะอึกอัก
“แค่อะไร พูดมา พี่จะรีบไปอาบน้ำ”
บรูซคาดคั้นเสียงรำคาญ ทานตะวันได้ยินแต่ทำเป็นไม่สนใจ
“แค่... แค่อยากจะโทรมาบอกฝันดีน่ะค่ะ”
เขาทำเหมือนกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ลึกๆ แล้วภายในหัวใจกระด้างกลับหวั่นไหวไม่น้อย รอยยิ้มเผลอตัวผุดขึ้นที่มุมปาก แต่พอเจ้าตัวได้สติก็ขจัดมันออกไปจนหมดสิ้น
“โอเค บอกแล้ว งั้นก็หมดเรื่องแล้วนะ พี่ไปอาบน้ำล่ะ”
“เดี๋ยว... เดี๋ยวก่อนสิคะ”
“อะไรอีกล่ะ”
แม้อีกฝ่ายจะแสดงน้ำเสียงรำคาญแค่ไหน แต่ทานตะวันก็ยังคงมองข้ามไป ก็หล่อนรักเขานี่ รักมากๆ ด้วย สักวันบรูซจะต้องใจอ่อนกับหล่อนแน่
“พี่บรูซจะไม่พูดอะไรกับซันนี่บ้างเหรอคะ”
ชายหนุ่มรู้ดีว่าคู่สนทนาต้องการอะไร เขาระบายลมหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับลูกตื้อของเด็กผู้หญิงคนนี้
“รีบไปนอนซะ เป็นเด็กเป็นเล็กนอนดึกไม่ดี... ฝันดี”
เขาวางสายไปแล้ว... แต่ทานตะวันก็ยังคงยืนยิ้มกำโทรศัพท์ในมือนิ่ง แก้มขาวผ่องแดงปลั่ง นัยน์ตาสีดำขลับทอประกายระยิบระยับ
“ซันนี่รักพี่บรูซจังเลยค่ะ”
กำลังจะหมุนตัวเดินไปยังห้องนอน แต่ผู้เป็นแม่ก็ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อนพร้อมๆ กับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู
“ตามทุกฝีก้าวแบบนี้ พี่บรูซเขาไม่รำคาญแย่หรือซันนี่”
เด็กสาวยิ้มเอียงอาย ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดมารดาด้วยกิริยาประจบประแจง
“พี่บรูซไม่รำคาญซันนี่หรอกค่ะ คนรักกันจะรำคาญกันได้ยังไงจริงไหมคะคุณแม่”
คนพูดยิ้มแก้มระเรื่อ มีความสุขยิ่งนักยามที่นึกถึงบรูซ คาร์ตัน
“พี่บรูซเขาบอกรักลูกสาวของแม่แล้วหรือ”
ศีรษะทุยสวยของทานตะวันส่ายน้อยๆ เงยหน้ามองมารดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
“ถึงพี่บรูซไม่บอก ซันนี่ก็รู้ค่ะว่าเราสองคนใจตรงกัน”
ผู้เป็นมารดายิ้มบางๆ ไม่อยากจะพูดให้ลูกสาวต้องเสียใจ แต่ด้วยความที่อาบน้ำร้อนมาก่อนก็อดที่จะตักเตือนไม่ได้
“พี่บรูซ หล่อ รวย และเก่งมาก สาวๆ มีแต่วิ่งเข้าใส่ ลูกสาวของแม่ควรจะเผื่อใจเอาไว้บ้างนะ ที่แม่พูดนี่ไม่มีอะไรนะ แค่เตือนเฉยๆ”
หัวใจของทานตะวันไหววูบ แต่ก็ยังคงยิ้มกลบเกลื่อน
“พี่บรูซรักซันนี่ค่ะ พี่บรูซไม่มีทางมองผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว”
ผู้เป็นมารดาได้แต่ยิ้มตอบ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพราะรู้ดีไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป ทานตะวันที่รักบรูซ คาร์ตันเต็มหัวใจก็คงไม่มีทางยอมฟัง หญิงสาวมั่นใจมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าตัวเองจะเป็นผู้หญิงคนเดียวของบรูซ คาร์ตัน และถึงตอนนี้เวลาจะผ่านมานานเป็นสิบปีแล้ว หัวใจของทานตะวันก็ยังคงมั่นคงอยู่กับบรูซ คาร์ตันเหมือนเดิม
หล่อนก็ขอให้บรูซ คาร์ตันรู้สึกแบบเดียวกันกับที่ทานตะวันรู้สึก เพราะถ้าไม่ใช่ ทานตะวันคงจะแดดิ้นเพราะความผิดหวังเป็นแน่แท้