Chapter 3 เวรกรรม

1501 Words
เดิมทีเขาไม่คิดว่านางจะเป็นสตรี ที่นี่คือวัดเชิงเขาและสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางแล้วนางหลุดเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และที่สำคัญของขนาดใหญ่เท่าหัวเด็กนั่นจะกลายเป็น....ของสตรีไปได้อย่างไร ว่าแล้วโทสะของเขาก็พุ่งขึ้นสูง คนที่เข้ามาที่นี่ย่อมต้องเป็นมือสังหาร เขาขยับร่างว่องไวแม้ตาจะมองไม่เห็นทว่าเพียงพริบตาก็คว้าลำคอของนางมาไว้ในอุ้งมือแล้วบีบอย่างแรง "สารภาพมา ผู้ใดส่งเจ้ามาสังหารข้า" จื่อรั่วอิงถูกบีบคอจนรู้สึกเจ็บ นางทั้งไอทั้งสำลักทั้งดิ้นรนหนีจากมือเหล็กนี้ นางอยากขอร้องให้เขาปล่อยทว่าเสียงกลับหายเข้าไปในลำคอแล้ว และบัดนี้นางกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะขาดใจตาย ให้ตายเถอะ ไม่คิดว่าการหาสามีสักคนมันยากลำบากจนกระทั่งต้องเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้ เพราะเสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่วเขา จึงทำให้ทหารและบรรดาไต้ซือที่รออยู่ด้านนอกกรูกันเข้ามาราวกับกองทัพมด และเมื่อเข้ามาแล้วทุกคนยังอ้าปากค้าง ไต้ซือหลายคนถึงกับหันหลังหนีภาพนั้นด้วยเสื้อผ้าของจื่อรั่วอิงบางจนเห็นเนื้อด้านใน แน่นอนว่าบัดนี้ทุกคนล้วนเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์ที่จื่อรั่วอิงถูกลี่อ๋องลวนลามจับเข้าไปที่ตรงนั้นก่อนที่ท่านอ๋องจะคิดสังหารนาง ในที่สุดก็มีคนจำจื่อรั่วอิงได้ ไต้ซือผู้หนึ่งจึงร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ ที่แท้คือท่านเจ้าอาวาสนั่นเอง "ท่านอ๋อง ได้โปรดปล่อยนาง นางคือคุณหนูสามแห่งจวนสกุลจื่อ ท่านไม่อาจสังหารนางได้!" แผนการที่นางได้วางเอาไว้บัดนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทว่าเกือบแลกด้วยชีวิตของนางเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงบวกลบในใจนับว่าคุ้มนักที่มีคนมาพบเห็นนางอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าคนทั้งหมดจะเป็นคนของลี่หมิงก็ตาม คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าเท่านั้นที่แฝงมาเป็นพระและเป็นพยานของนางเพียงหนึ่งเดียว จื่อรั่วอิงมั่นใจว่าภิกษุย่อมไม่พูดเท็จ อย่างน้อยหากต้องการพยานจริง ๆ นางก็ยังสามารถคาดคั้นและเค้นออกมาจากพระพวกนี้ได้ จื่อรั่วอิงแสร้งร้องไห้อย่างหนัก โกหกพกลมด้วยคำพูดที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี "ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านอ๋องที่อยู่ที่นี่จริง ๆ ความจริงเพราะร่างกายคล้ายจะไม่สบาย รู้มาว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดแอบมาแช่ตัว แต่บัดนี้กลับถูกล่วงเกินเสียแล้ว ท่านอ๋องเป็นท่านที่ล่วงเกินข้านะเพคะ" จื่อรั่วอิงบัดนี้มีผ้าผืนหนึ่งคลุมร่างกายปกปิดความขาวเนียนต่อหน้าบุรุษเหล่านี้เอาไว้ นางยังตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุกเข่าตรงหน้าเขาผู้นั้นที่นั่งนิ่งประดุจศิลาไร้ชีวิตก้อนหนึ่ง ร่างสูงสง่าดุดันแผ่ไอสังหารรอบกายชวนให้ขวัญผวายิ่งกว่าผีร้าย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจึงอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวยิ่งส่งให้เขาดูคล้ายพญามัจจุราชที่สามารถคร่าชีวิตคนโดยไม่ลังเล ถึงแม้เขาจะตาบอดนางเองก็ไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ ด้วยคิดว่าน่ากลัวนักไม่ใช่ว่านางกำลังจะตายอีกรอบหรอกนะ "ท่านอ๋องจะให้ลงโทษนางเช่นใดพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ซีห่าวไม่คิดรอสอบสวนคำพูดของนาง ทั้งเขาเองก็ไม่สนใจฐานะของนางแม้แต่น้อย ลี่หมิงอ๋องเอ่ยคล้ายรำคาญ "สังหารทิ้งเสีย สตรีที่กล้าลองดีเช่นนี้ยังคิดจะเก็บไว้ทำสิ่งใดอีก" เข่าที่คุกอยู่บนพื้นของจื่อรั่วอิงถึงกับทรุดลงทันใด ในขณะที่ท่านเจ้าอาวาสและเจ้าอ้วนเป่าถึงกับร้องออกมาพร้อม ๆ กัน "ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิต" จื่อรั่วอิงน้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว แต่นางยังคงกล้าหาญที่จะรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ "ท่านอ๋อง ท่านจะฆ่าข้าด้วยเหตุใดเพคะ" ลี่หมิงอ๋องได้ยินเสียงของสตรีนางนั้น แน่นอนว่าเขาไม่เห็นใบหน้าของนางทว่าน้ำเสียงนี้ทำให้เขาบังเกิดความรู้สึกว่าน่าสนใจอยู่บ้าง ถึงนางจะถามอ๋องผู้นั้นทว่าคนที่ตอบกลับเป็นซีห่าว "เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกหรือ บังอาจรบกวนท่านอ๋องเพียงเท่านี้ก็สมควรตายแล้ว" จื่อรั่วอิงร้อง เห๊อะ ออกมาคำหนึ่ง แล้วข่มความกลัวพร้อมกับกล่าวว่า "ถ้าจะฆ่าก็ต้องฆ่าพวกเจ้าด้วย อารักขาท่านอ๋องอย่างไรให้ข้าเข้าไปได้ ข้าเป็นเพียงสตรีผู้หนึ่งตอนเข้าไปไม่มีใครขัดขวาง พวกเจ้าปล่อยข้าเข้าไปเอง ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องยังจะโยนความผิดให้คนอื่น นี่หรือหน่วยองครักษ์ที่ขึ้นชื่อว่ามีเกียรติที่สุดในหนิงเทียน ทุเรศชะมัด ไปหากระโปรงมาสวมเถอะถ้าจะทำตัวน่าอายโยนความผิดให้ผู้หญิงเช่นนี้ อ้อ ข้ายังเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่งดงามไร้วรยุทธ์คนหนึ่งอีกด้วยมีสิ่งใดให้พวกเจ้ากลัวกัน" คำพูดที่กล้าหาญของนางทำเอาบุรุษทั้งหลายเงียบงัน กระทั่งซีห่าวเอ่ยว่า "แต่เจ้าบังอาจแตะต้องร่างกายท่านอ๋อง เพียงเท่านี้ก็สมควรตายแล้ว" คราวนี้จื่อรั่วอิงถึงกับหน้าแดง เข่าที่อ่อนพับลงไปเมื่อสักครู่ถึงกับมีแรงขึ้นมา "ใครล่วงเกินใครกันแน่ มิใช่ท่านอ๋องของพวกเจ้าหรือที่เป็นฝ่ายล่วงเกินข้า เขายังบีบนมข้าไม่เห็นหรือ เจ็บจะตายอยู่แล้ว สวรรค์ได้โปรดเถิดแม้แต่ในวัดพวกเจ้ายังกล้ากลับดำเป็นขาว คนพวกนี้แท้จริงเลวมีจิตใจเลวทรามต่ำช้า รังแกสาวน้อยที่อ่อนแอเช่นข้าได้อย่างไร" ว่าแล้วก็แสร้งร้องไห้โฮ จนอ้วนเป่าต้องยกมือขึ้นมาอุดหูด้วยรู้สึกคล้ายแก้วหูอันละเอียดอ่อนของตนกำลังจะแตกแล้ว จื่อรั่วอิงร้องไห้จนเจ็บตา เอาเถอะถึงแม้ว่าในชาตินี้จะเกิดมาอยู่ในตระกูลดี แต่ชาติก่อนนางเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับคณะกายกรรมที่มีเพื่อนผู้ชายเป็นโขยงมาตั้งแต่เด็ก คำว่ากุลสตรีกับนางจึงห่างไกลกันนัก ทว่าคนพวกนี้ย่อมไม่คุ้นเคยกับการเห็นสตรีใจกล้าหน้าด้าน กระทั่งวาจาหยาบโลนยังกล้าเอ่ยออกมาอย่างไม่อายปากเช่นนี้ กล่าวหาคนจบก็ยังร้องไห้ราวกับว่ามีใครแตะต้องนางจนเจ็บปวดกระนั้น เพราะท่าทางของนางเช่นนี้จึงทำให้พวกเขารู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูก คงมีเพียงเจ้าอ้วนเป่าที่คุ้นเคยกับคุณหนูของตนเป็นอย่างดีกล้าที่จะเอ่ยขึ้น "ใช่ ข้าก็เห็นชัดว่าเป็นท่านอ๋องที่ล่วงเกินคุณหนู ยังบีบนมนางอีก บีบแรงด้วย" เมื่อมีพวกเข้าข้าง จื่อรั่วอิงจึงพยักหน้าทันใด "ใช่ บีบแรงจนนมแทบแตก" "ใช่ บีบนมคุณหนูแรงจนนมแทบแตก" “ใช่ข้าเจ็บจนร้องไห้ไม่เห็นหรือ” “ใช่คุณหนูเจ็บจนร้องไห้จนหู้ข้าแทบแตกไม่เห็นหรือ” บ่าวผู้โง่งมกับคุณหนูไร้ยางอายช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทหารหลายคนถึงกับใบหูแดงก่ำ คำพูดของนางทำให้ทุกคนล้วนไม่กล้าเอ่ยคำใด กระทั่งลี่หมิงอ๋องยังอดฟังด้วยความสนใจไม่ได้ สตรีนางนี้หยาบคาย ไร้ยางอาย ทว่ากลับกล้าหาญที่จะปกป้องตนเองยิ่งนัก อีกทั้งที่นางกล่าวมาไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย นางเป็นสตรีที่ไร้วรยุทธ์นางหนึ่ง เหตุใดจึงสามารถเข้าไปในนั้นได้หากไม่ใช่เพราะการอารักขาที่หละหลวมแล้วย่อมไม่มีสาเหตุอื่นได้อีก ยิ่งหากคนผู้นั้นไม่ใช่นางแต่เป็นมือสังหารเขามิได้ตายไปแล้วหรือ ลี่หมิงอ๋องกระแอมแล้วเอ่ยเสียงเย็น "ซีห่าว สั่งโบยคนของเราโทษฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่งไปช่วยชาวบ้านทำไร่ทำสวนสองเดือนเป็นการลงโทษ" "พ่ะย่ะค่ะ" ซีห่าวย่อมเข้าใจท่านอ๋องของตนเองเขารับคำสั่งทันใด แล้วเอ่ยว่า "แล้วคุณหนูผู้นี้ท่านอ๋องจะทำโทษนางอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ" "ไว้ชีวิตนาง ทว่าลิ้นของนางสมควรตัดทิ้งไม่ให้นางเอ่ยเรื่องนี้ได้อีกต่อไป"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD