ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
"คุณหนูขอรับ"
จื่อรั่วอิงมองไปตามเสียง เห็นว่าเป็นเจ้าอ้วนเป่าที่อยู่ในชุดบ่าวรับใช้เช่นเดิมแล้วจึงยิ้มด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่ง เจ้าอ้วนเป่ามาได้จังหวะเหมือนนัดเอาไว้
"เจ้าไม่เป็นพระแล้วหรือจึงมาอยู่ที่นี่ได้"
"ขอรับ ข้าน้อยสึกออกมารับใช้คุณหนูแล้ว หลังจากวันนั้นที่เกิดเรื่องพระพวกนั้นก็ไม่ไว้ใจบ่าวอีกขอรับ"
"อ้วนเป่าเจ้ารีบเข้ามาแล้วปิดประตูเร็วเข้า เราต้องระดมสมองคิดหาวิธีโดยด่วน"
หนึ่งชั่วยามต่อมา รายชื่อบุรุษหนุ่มในแคว้นที่ก่อนหน้านี้จื่อรั่วอิงให้อ้วนเป่าทำรายชื่อเอาไว้ก็ถูกกางออกมาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกครอบครัวกีดกันอย่างหนักนางจึงคิดถอดใจจากอ๋องตาบอดผู้เย็นชาโหดเหี้ยมยังเข้าถึงยากผู้นั้นแล้ว
จื่อรั่วอิงค่อย ๆ ขีดรายชื่อออกทีละคนกระทั่งรายชื่อคนสุดท้ายที่อยู่ในมือ น้ำตานางก็ไหลพรากคนทั้งเมืองที่พอจะพึ่งพาได้มีแค่คนพิการสองคนนี้เท่านั้น นี่มันวาสนาชะตาหงส์อะไรกันโกหกสิ้นดี
"คนที่ข้าต้องการ ต้องร่ำรวยและมีความสามารถหยุดการแต่งงานของข้ากับถังซื่อจื่อได้ อีกทั้งต้องไร้ภรรยาและบุตรกวนใจในเมืองนี้นอกจากจวิ้นอ๋องที่ป่วยติดเตียงแล้วก็มีเพียงลี่หมิงอ๋องที่ตาบอด เจ้าอ้วนหรือว่าข้าจะเลือกคนป่วยติดเตียงที่ถูกเมียทิ้งผู้นั้นดี"
"จวิ้นอ๋องผู้นี้ป่วยหนัก ยังถูกพระชายา รวมทั้งอนุทอดทิ้งเพราะได้ข่าวว่าพวกนางทนเวลาที่ท่านอ๋องถ่ายหนักไม่ไหว พวกนางเป็นภรรยาแท้ ๆ ยังทนไม่ได้ คุณหนูของบ่าวเองก็ไม่เคยปรนนิบัติผู้ใดจะทนได้หรือขอรับ สภาพของคนผู้นั้นย่ำแย่กว่าลี่หมิงอ๋องยิ่งนัก ที่ตอนแรกคุณหนูไม่เลือกเขาเพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือขอรับ"
"ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้วอ๋องตาบอดนั่นเข้าถึงยากมาก ครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วยแต่ก่อนข้าไม่คิดว่าแผนของเราจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นนี้ ข้าคิดดีแล้วเปลี่ยนแผนเลือกคนป่วยติดเตียงยังจะดีกว่า จวิ้นอ๋องป่วยเช่นนั้นโอกาสตายมีสูง เจ้าคิดดูสิหากข้าเป็นภรรยาจวิ้นอ๋องถ้าเขาตายเร็วข้าจะมีความสุขเพียงใด อ้วนเป่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือข้าต้องหาทางใกล้ชิดและขอจวิ้นอ๋องแต่งงานให้ได้ เจ้าบอกข้าเองว่าจวิ้นอ๋องเป็นคนดีมีน้ำใจกว้างขวาง ชอบช่วยเหลือผู้คนไม่ใช่หรือ เขาต้องฟังคำข้าเป็นแน่"
เจ้าอ้วนเป่าได้ยินดังนั้นก็ชื่นชมคุณหนูของตนเป็นอย่างยิ่ง
"แผนการของคุณหนูช่างล้ำลึกโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนักไม่รู้คิดได้อย่างไรว่าจะเอาคนพิการมาเป็นโล่กำบังยังแช่งให้เขาตายไวตั้งแต่ยังไม่พบหน้า สุดยอดขอรับบ่าวขอยกนิ้วให้แต่คุณหนู แต่คุณหนูขอรับบ่าวไม่เข้าใจบางเรื่อง ไหนคุณหนูบอกว่าตกหลุมรักลี่หมิงอ๋องแล้วไม่ใช่หรือขอรับ เมื่อรักลี่หมิงอ๋องไปแล้วจะแต่งกับคนอื่นได้อย่างไร"
จื่อรั่วอิงที่ยืดอกรับคำชมของอ้วนเป่าด้วยความสุขบัดนี้ส่ายหน้าไปมาให้กับความไร้เดียงสาของเจ้าอ้วนเป่า
"เจ้าจะบ้าหรือ ข้าก็พูดไปเช่นนั้น จะรักได้อย่างไรเขาน่ากลัวเพียงนั้น ไม่ใช่หนุ่มหล่อในฝันเลยสักนิดหนวดเคราเฟิ้มเหมือนโจรราคะแบบนั้นใครจะรักลง ก็แค่พูดขำ ๆ ให้คนคิดจริงจังก็เท่านั้นเผื่อพวกเขาจะเห็นใจข้าบ้าง"
"อ้อ คุณหนูยอดเยี่ยมอีกแล้ว แต่คุณหนูขอรับท่านอ๋องล่วงเกินคุณหนูเพียงนั้นแล้วนะขอรับ จะแต่งได้อย่างไร"
เจ้าอ้วนเป่าไม่พูดเปล่า เขายังยกมือจับหน้าอกตัวเองเลียนแบบท่าทางของลี่หมิงอ๋องในวันนั้น จื่อรั่วอิงเองคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วถึงกับหน้าแดง นางส่ายหน้าสลัดความรู้สึกประหลาดออกไปแล้วเอ่ยว่า
"จับแล้วอย่างไร เอาไปไม่ได้สักหน่อย ข้าจะคิดเป็นกุศลถือว่าทำทานให้หมามันกินก็ได้ ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไปสืบความมาทำอย่างไรถึงจะเข้าจวนจวิ้นอ๋องได้"
"คุณหนูตัดสินใจแน่แล้วหรือขอรับ"
"ใช่ เจ้ารีบไปเถิดกำหนดวันแต่งงานของข้าจะมีขึ้นในอีกไม่ช้า เราไม่มีเวลามาก"
อ้วนเป่ารับคำ รีบวิ่งออกไปจากเรือนของจื่อรั่วอิงตามคำสั่ง จื่อรั่วอิงเดินวนไปวนมาในเรือนของตนไม่อาจออกไปที่ใดได้เพราะว่าถูกกักบริเวณ กระทั่งหลายชั่วยามต่อมาเจ้าอ้วนเป่าก็วิ่งกลับเข้ามาด้วยเหงื่อที่โทรมกาย
"สำเร็จแล้วหรือ ทำไมไวยิ่งนัก"
อ้วนเป่าส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า "ข่าวร้ายขอรับจวิ้นอ๋องสิ้นใจไปเสียแล้วที่จวนกำลังวุ่นวายขอรับ ได้ข่าวว่าฮ่องเต้เพิ่งเสด็จมาด้วยตนเอง"
จื่อรั่วอิงดวงตาเบิกค้าง "อะไรนะ เจ้าว่าเขาตายแล้วหรือ"
"ขอรับ ข่าวว่าจวิ้นอ๋องอาการป่วยหนักมาหลายวันแล้วขอรับ"
จื่อรั่วอิงรู้สึกหมดแรงได้แต่ก่นด่าสวรรค์ออกมา
"นี่จวิ้นอ๋องหวาดกลัวข้าจนกระทั่งชิงตายไปเสียแล้วหรือ ทำไมสวรรค์ใจร้ายกับข้าเช่นนี้ ท่านเทพท่านได้ยินข้าหรือไม่ ท่านกำลังบีบให้ข้าให้จมมุมใช่หรือไม่"
อ้วนเป่าหอบหายใจแรงทั้งเอ่ยถาม
"แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อขอรับ"
จื่อรั่วอิงนั่งลงเอามือเท้าคางบนโต๊ะ เคาะนิ้วเรียวอย่างใช้ความคิด นางนิ่งไปสักครู่ก่อนจะเอ่ยว่า
"ไม่มีทางเลือกแล้ว พรุ่งนี้เจ้ากับข้าจะบุกจวนลี่หมิงอ๋อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะถือว่าเป็นเพราะสวรรค์ลิขิต ข้าจะไม่มีทางให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ลี่หมิงอ๋องในเมื่อเจ้าหลบเก่งนักข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่านักล่าตัวจริงเป็นเช่นใด"
เชิงอรรถ
1. ^ ยามซวี ประมาณ 3 ทุ่ม