ตอนที่ 4 ตีตราจอง

2259 Words
7 โมงเช้าวันต่อมา เช้านี้ประทานพรลงมาข้างล่างด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจากเมื่อคืน เพราะร่องรอยที่นภพงศ์ทำเอาไว้ มันทำให้เธอไม่สามารถใส่บิกินี่ได้ ถึงเธอจะไม่ชอบแต่งตัวเท่าไหร่นัก แต่ไปทะเลทั้งที จะให้มาใส่เสื้อผ้าเหมือนเวลาปกติก็ใช่เรื่อง หญิงสาวกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด “เป็นอะไรแก” ดาราภัสที่ตามหลังประทานพรมาเพียงเล็กน้อยถามขึ้น เมื่อเธอเห็นเพื่อนรักของเธออารมณ์ไม่ดีแต่เช้า “อยากยิงคน” เสียงหวานตอบออกไปเรียบๆ แต่ใบหน้าหงิกงอ “ห๊ะ…” “เอาล่ะ รอทุกคนมาครบ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะยัยเพลง” ลลัลนาออกมาจากห้องทานอาหารพร้อมกับนัทธี เดินมาทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามประทานพร “ไม่ค่ะ เพลงไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุยนี่คะ” “งั้นเหรอ แต่สิ่งที่แม่เห็นกับตา แม่ว่ามันมีนะ” “มีอะไรกันเหรอคะแม่ลัล” ดาราภัสมองลลัลนาสลับกับประทานพร ที่กำลังเถียงกันในหน้าเคร่งเครียด โดย ที่เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพียงไม่นาน ณดลกับฟางข้าวก็เดินออกมาจากห้องทานอาหารมานั่งลงข้างนัทธีกับลลัลนา รวมทั้งกันชนกกับนภพงศ์ก็เดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งในห้องนั่งเล่น โดยที่นภพงศ์มานั่งลงข้างประทานพร ส่วนกันชนกนั่งข้างนภพงศ์อีกที “ไปนั่งไกลๆเพลงหน่อยค่ะ เดี๋ยวเพลงโมโหจะยิงเอา” “ยัยเพลง!!!” ประทานพรหน้ามุ่ย เมื่อโดนมารดาส่งเสียงดุ นภพงศ์นั่งเงียบไม่พูดอะไร ปรายตามองคนตัวเล็กข้างๆอย่างพอใจ “เอาล่ะ มาพร้อมแล้วนะ เพลงอธิบายกับแม่หน่อย ว่าสิ่งที่แม่เห็นมันหมายความว่ายังไง” “จะให้เพลงอธิบายอะไรล่ะคะ ก็มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนี่คะ” “แม่เห็นกับตานะเพลง” “ถามพี่ฟ้าเถอะค่ะ เพลงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพี่ฟ้าเป็นบ้าอะไร” สิ้นเสียงของประทานพร ทุกคนหันไปมองนภพงศ์เป็นตาเดียว “ฟ้ามีอะไรจะบอกแม่ไหม” ลลัลนาถามพลางสบตากับนภพงศ์ด้วยสายตาแปลกๆ สายตาที่ประทานพรและดาราภัสไม่ทันได้สังเกต “ผมไม่มีอะไรแก้ตัวครับ” “พี่ฟ้า!!! มันไม่ตลกนะ ทำไมพูดแบบนี้ ในเมื่อมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เพราะประทานพรมัวโวยวายใส่คนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำให้เธอไม่ทันได้เห็นว่าบิดามารดาของเธอ กับบิดามารดาของนภพงศ์ แอบสบตากันพร้อมกับรอยยิ้มพอใจที่ผุดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่มันจะหายไป และใบหน้าเคร่งขรึมก็กลับมาตามเดิม “เอาล่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ เดี๋ยวเราค่อยกลับมาคุยกันก็แล้วกันนะ” นัทธีตัดบทลงก่อนที่ลลัลนากับฟางข้าวจะแสดงพิรุธออกมา “เดี๋ยวผมกับข้าวจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดครับพี่นัท” “อืม งั้นเราออกเดินทางกันเลยดีกว่า จะได้ไปถึงก่อนเที่ยง” “ฟ้าขับรถไปเองใช่ไหม อย่าขับเร็วมากนะ ตากันย์ เราด้วย อย่าขับเร็ว” “ครับๆ” หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อย ทุกคนทยอยเดินออกจากห้องเล่นเพื่อไปยังรถที่มาจอดรออยู่ นัทธี ลลัลนา ณดล และฟางข้าว ขึ้นรถของที่บ้านไป ประทานพรเองก็เดินตามหลังออกมาตั้งใจจะเดินไปที่รถของตัวเองคันอื่นที่จอดอยู่ที่บ้าน แต่ก็ปลิวตามแรงดึงของมือใหญ่ ที่ดึงแขนเธอให้เดินตามตัวเองไปที่รถ ดาราภัสเดินออกมาทันเห็นการกระทำของพี่ชายก็เหวอ “อ้าว แล้วพลอยล่ะ พลอยกับเพลงคุยกันว่าจะนั่งไปด้วยกันนะ” “ไปกับพี่ก็ได้พลอย ไม่งั้นพลอยคงได้ขับรถไปเองคนเดียว” กันชนกที่เดินออกมาเป็นคนสุดท้าย ส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของเพื่อน ก่อนจะบอกคนตัวเล็กอย่างดาราภัสให้ไปกับเขา “ค่ะ พี่กันย์รู้เรื่องที่พ่อกับแม่คุยกันไหม พลอยตามไม่ทัน เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอ” “ไม่มีอะไรหรอก เรายังเด็ก ไม่รู้น่ะดีแล้ว” “เด็กตรงไหน พลอยอายุ 21 ปีแล้วนะคะ พลอยอายุเท่าเพลงนะ” “ก็นั่นแหละ เด็กอยู่ ไปๆ ไปขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวตามคนอื่นไม่ทัน” ดาราภัสเบะปากใส่กันชนก ก่อนจะเดินตรงไปที่รถของเขาแล้วขึ้นไปนั่งตามความเคยชิน มีบางครั้งที่กันชนกมารับเธอกับประทานพรไปไหนมาไหน อีกทั้งพวกเธอ 4 คนโตมาด้วยกัน เลยทำให้เธอไม่คิดอะไรมาก รวมทั้งกันชนกก็ใจดีกับเธอมาก ราวกับว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของเขา เธอจึงไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาแม้แต่น้อย กันชนกมองตามคนตัวเล็กที่เดินไปขึ้นรถของเขาเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะตรงไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็แตะคันเร่งออกตัวตามคนอื่นๆไป อันที่จริงนภพงศ์กับกันชนกรู้เรื่องที่บิดามารดาของพวกเขาจับคู่น้องๆให้กับพวกเขาตั้งนานแล้ว เขากับนภพงศ์บังเอิญไปได้ยินบิดามารดาคุยกันตั้งแต่ยังวัยรุ่น แต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกอะไรกับทั้ง 2 สาว เพราะกลัวพวกเธออึดอัด พวกเขาทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง อีกทั้งตัวกันชนกเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับดาราภัสด้วย เขาเห็นเธอเป็นน้องสาวมาตลอด ต่างกับนภพงศ์ หลังจากวันนั้น เขาก็ทำตัวแปลกไป คอยตามเฝ้าตามหวงประทานพรมาตลอด แต่ก็เป็นในฐานะพี่ชาย จนเรียนจบและเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวเต็มตัว ทำให้เขาต้องห่างกับประทานพรไปพักใหญ่ เพราะอยู่ในช่วงเวลาปรับตัว และพิสูจน์ฝีมือให้ได้รับการยอมรับ เขาต้องเข้ามาดูแลทุกอย่างตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งโรงแรมในเครือทั้งหมด อีกทั้งบริษัทเครื่องสำอางของมารดาอีก มันเลยทำให้เขาต้องพิสูจน์ฝีมือตัวเองอยู่หลายปี แต่เขารับรู้ข่าวของประทานพรตลอด เขาส่งลูกน้องคอยตามดูแลและส่งข่าวของประทานพรให้เขา ทำแบบนี้มาตลอด 5 ปี จนในวันนี้ ที่ประทานพรกับดาราภัสอายุ 21 ปี มันถึงเวลาที่เขาต้องเริ่มเดินหน้าเสียที นภพงศ์ปรายตามองคนตัวเล็ก ที่นั่งบ่นพึมพำมาตลอดทาง ตั้งแต่ที่เขาลากเธอมาขึ้นรถวันนี้คนตัวเล็กใส่เสื้อคอกว้างสีขาว เปิดหัวไหล่มนสวย ผูกชายเสื้อเหนือเอวเล็กน้อย กับกางเกงยีนขาสั้นโชว์เรียวขายาวสวย ปิดท้ายด้วยรองเท้ารัดส้นสีขาว “เก่งนี่ ปิดรอยได้เกือบหมด” “มีหน้ามาพูดนะคะ กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วเนี่ย” “ก็ดีแล้ว” “ดีอะไรล่ะคะ พี่ฟ้าลวนลามเพลงนะ!!!” “หึ” ประทานพรมองคนตัวใหญ่ที่กำลังขับรถอยู่อย่างคาดโทษ ก่อนจะเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาครุ่นคิด หลังจากเดินทางกันมาหลายชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงที่หมาย หลังจากคุยกัน ทุกคนเลือกที่จะพักที่บ้านพักตากอากาศแห่งนี้ หลังจากณดลกับฟางข้าวแต่งงานกันไปไม่นาน ก็ได้ชวนลลัลนากับนัทธีมาเที่ยวที่นี่ และออกความเห็นร่วมกันว่าจะรื้อรั้วออกและสร้างบ้านขึ้นอีกหลังข้างๆกัน เผื่อวันข้างหน้า ที่ลูกๆของพวกเขาโตขึ้น พวกเขาจะพากันมาที่นี่ และหลังจากนั้น พวกเขาก็พากันมาที่นี่อีกหลายครั้ง ตามความตั้งใจของฟางข้าวกับลลัลนา รถหรูของนภพงศ์ ตามมาจอดข้างๆรถของกันชนก เขามาถึงเป็นคันสุดท้าย ร่างสูงถือกระเป๋าของคนตัวเล็กกับของตัวเอง ตรงไปวางรวมกับของทุกคน ที่พากันเอาข้าวของมาวางเอาไว้ “มาช้าจังล่ะลูก” ฟางข้าวกำลังเช็กข้าวของหันมาเห็นนภพงศ์เดินเข้ามาพร้อมกับประทานพรที่เดินตามหลัง เธอถามขึ้นแววตาเป็นประกาย “ไม่อยากขับเร็วมากน่ะครับแม่” “เดี๋ยวมื้อเที่ยงเราจะออกไปทานกันข้างนอก แล้วจะแวะซื้อของมาทำปิ้งย่างกันเป็นมื้อเย็น จะไปกับแม่ด้วยไหม หรือจะรออยู่ที่นี่” “เพลงไปด้วยนะคะแม่ข้าว เพลงจะไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มค่ะ” “โอเคจ้ะ งั้นหนูเตรียมตัวนะ เดี๋ยวรอคนอื่นลงมาก็ไปกันเลย” ประทานพรยิ้มให้ผู้หญิงที่เธอรักราวกับแม่อีกคน ก่อนจะเดินไปเปิดรั้วฝั่งริมทะเล แล้วเดินออกไป โดยมีสายตาคมมองตาม “มองขนาดนั้นก็ตามไปสิ” “ไม่ล่ะครับ ให้เขามีเวลาส่วนตัวบ้าง” “แม่เตือนไว้ก่อนนะ อย่าทำให้น้องท้องก่อนเรียนจบล่ะ” “…..” นภพงศ์มองสบตามารดาเพียงแวบเดียว และพากันเงียบเสียงลง เมื่อหญิงสาวเดินกลับเข้ามา พร้อมกับที่คนอื่นๆก็มารวมกันพอดี “ไปหามื้อเที่ยงทานกันดีกว่าครับ ไปที่โรงแรมหรือจะไปริมหาดฝั่งนู้นดี” “พลอยอยากไปริมหาดค่ะ” กันชนกยิ้มให้ดาราภัส ใบหน้าหวานชะงักไปเล็กน้อย “งั้นก็ไปริมหาดกันก็ได้เนอะ นานๆมาที จะมัวมานั่งทานในโรงแรมทำไม” นัทธีเองก็เห็นด้วย ทุกคนจึงตกลงไปนั่งทานมื้อเที่ยงที่ริมชายหาด จึงจะพากันขึ้นรถและขับตามกันไป เมื่อมาถึงที่ริมหาด หนุ่มสาวพากันเลือกเตียงผ้าใบและสั่งอาหารกันอย่างสนุกสนาน โดยมีสายตาคมของนภพงศ์คอยมองขู่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วมองเรียวขาสวยของประทานพร “ลุก” ฟ้าครามสั่งคนตัวเล็กที่นั่งริมนอกเสียงแข็ง หญิงสาวลุกขึ้นสีหน้างงๆ “ไปนั่งข้างใน” ประทานพรขยับย้ายที่นั่งตามที่คนตัวสูงบอก สีหน้าไม่เข้าใจ กันชนกเบะปากหมั่นไส้เพื่อนสุดตัว อะไรจะขี้หวงขนาดนั้น แม้แต่ณดลยังแทบจะกุมขมับกับลูกชาย ฟางข้าวกับลลัลนาหัวเราะชอบใจ “เออ ฉันว่าจะถามแกตั้งแต่เมื่อเช้าละ คอแกไปโดนอะไรมา” ดาราภัสถามประทานพร สีหน้าสงสัย “หมากัด” “แค่ก แค่ก” กันชนกกับนัทธีได้ยินที่ประทานพรตอบถึงกับสำลัก นภพงศ์เหล่มองคนข้างตัวอย่างคาดโทษ “เอ่อ พลอยถามอะไรผิดหรือถามคะ” “ไม่ผิดหรอกจ้ะ อาหารมาละ ลงมือกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะได้ไปตลาด หาซื้อของทำมื้อเย็น” ลลัลนาตัดบท ทุกคนลงมือทานอาหารที่ทยอยมาเสิร์ฟ นภพงศ์คอยดูแลคนตัวเล็กกับน้องสาว โดยมีกันชนกคอยเบะปากล้อเพื่อนอย่างหมั่นไส้ หลังจบมื้ออาหาร ดาราภัสกับประทานพรส่งสายตากัน โดยที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต “พี่ฟ้าคะ ยืมรถหน่อยค่ะ” คนตัวใหญ่ไม่ได้ถามอะไร หยิบกุญแจรถส่งให้คนตัวเล็ก จนแม้แต่กันชนกยังมองหน้า เพราะเขาเคยยืมรถเพื่อนรักหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้เลย นภพงศ์บอกเหตุผลเพียงเพราะว่ารถเขาก็มีหลายคัน “งั้นเพลงไปก่อนนะคะ จะไปหาซื้อเสื้อผ้ากันค่ะ” “พลอยด้วยค่ะ” สองสาวพากันลุกออกไปโดยมีสายตาคมดุมองตาม “ทีนี้ มึงก็ต้องไปกับกู” “มึงขับ” นภพงศ์ยักไหล่ไม่สนใจ รู้ทันว่ากันชนกจะให้ตัวเองขับ จึงรีบพูดดักเอาไว้ “รู้ทัน ไอ้ห่า” “เอาล่ะๆ เดี๋ยวแม่ๆจะไปหาซื้อของทำมื้อเย็นนะ 2 หนุ่มจะกลับบ้านก่อนไหม หรือไปด้วยกัน” ฟางข้าวหันมามองชายหนุ่มสองคนขณะลุกขึ้น “เดี๋ยวผมกับฟ้าไปซื้อเครื่องดื่มครับ แล้วจะกลับเลย” “โอเค งั้นเจอกันที่บ้านนะ” หลังจากบิดามารดาพากันเดินออกไป กันชนกยังนั่งเอนตัวมองนภพงศ์ที่นั่งสบายใจอยู่ “อะไร” “มึงไปทำรอยยัยเพลงตอนไหน” “เมื่อคืน” “ไอ้…” “แค่ทำรอย” “เออ กูไม่ได้ว่า แต่อย่าทำน้องกูท้องก่อนเรียนจบก็แล้วกัน” นภพงศ์ไม่ได้ตอบอะไร เขาทำเพียงมองไปยังผืนทะเล ทอดสายตาออกไปนิ่งๆ โดยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถรับปากกับใครได้ในเรื่องนี้ นภพงศ์กับกันชนกนั่งรับลมอีกครู่ใหญ่ ถึงจะพากันออกจากหาด แวะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ห้างใกล้ๆ และพากันกลับไปรอทุกคนที่บ้านพัก หลังจากมาถึงบ้าน ทั้งสองหนุ่มพากันไปนั่งสูบบุหรี่ที่ม้านั่งที่ตั้งอยู่นอกรั้วฝั่งทางลงหาด ก่อนที่นภพงศ์จะแยกตัวเข้าบ้านก่อน และกว่าชั่วโมง กันชนกถึงจะตามเข้าบ้านไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD