ใบข้าวยิ้มแหยๆ ส่งให้ เธอพยายามไม่มองเลยไปด้านหลัง เพราะตรงจุดนั้น ใครบางคนที่เคยเป็นคนพิเศษสำหรับเธอยืนอยู่ ‘ภาม’ พี่ชายที่เธอรู้สึกพิเศษกับเขา แต่เพราะระยะทางทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นเริ่มขยับห่างกัน
“ข้าวเอาขนมไปส่งมาค่ะ” ใบข้าวตอบเสียงเรียบ เธอโฟกัสสายตาอยู่แค่พี่สาวเท่านั้น
“แม่ละ แต่...ช่างเถอะ มาใกล้ๆ พี่สิ โตเป็นสาวแล้วนี่ เรียนจบหรือยัง ทำงานอะไรหรือเปล่า?” ใบบัวถามเป็นชุดและไม่เว้นจังหวะให้ใบข้าวตอบ “อ้อ...นี่คุณภามแฟนพี่เอง เราสองคนเจอกันที่นั่น ถ้าเขาไม่รีบกลับ พี่คงอยู่ที่นั่นอีกนาน” ใบข้าวไม่รู้ว่าตนเองตอบกลับแบบไหน เธอรู้สึกเหมือนสติเธอหลุดลอยไป กว่าจะรู้สึกก็ตอนที่ใบบัวเขย่าเธอแรงๆ นั่นเอง
“เป็นอะไรยัยข้าว ทำไมหน้าซีดแบบนี้!!”
ตอนที่ 2.เมื่อมีบางคนเปลี่ยนไป แต่อีกคนยังเหมือนเดิม
“พี่บัวหิวค่ะ ป้าพอมีของสดทำกับข้าวให้พี่บัวบ้างไหมคะ?” ใบข้าวสลัดความคิดในใจทิ้ง ในเมื่อภามตั้งใจไม่พูดถึงเธอ กับความสัมพันธ์ครั้งก่อน เธอก็จะไม่พูดถึงให้ใบบัวระแวง
“โชคดีนะคะ วันนี้ป้าไปจ่ายตลาดมา ไม่อย่างนั้นคงมีแค่น้ำพริกกับไข่เจียวเท่านั้นแหละค่ะที่พอให้คุณบัวเธอกินยาไส้ได้”
แย้มแค่นยิ้ม มีสีหน้าชนิดที่หากส่งศรีหรือใบบัวเห็นคงได้กรี๊ดบ้านแตก
“ไม่รู้ว่าพี่บัวจะเปลี่ยนรสนิยมการกินหรือเปล่า ลองทำแบบจืดๆ ไว้ก่อนก็ดีค่ะ” ใบข้าวแนะนำ แล้วลงมือช่วยแย้มทำอาหารมื้อนั้น เธอต้องเร่งมืออีกหน่อย ไม่อย่างนั้นกว่าจะได้นอนคงหลังเที่ยงคืนเหมือนทุกวัน
“คุณนายละคะ?” แย้มถามระหว่างที่สาละวนทำอาหารง่ายๆ
ใบข้าวชะงัก “ข้าวบอกคุณแม่แล้วค่ะ อีกสักพักคงมา”
“อย่าลืมบอกคุณนายด้วยนะคะคุณข้าว ไอ้เสี่ยห้าวมันมาทวงค่าดอกเบี้ย ถ้าคุณนายไม่จ่าย พรุ่งนี้เจ็บตัวแน่ๆ” ส่งศรียืมเงินคนอื่นไปทั่ว และไม่ค่อยอยู่รับหน้าเจ้าหนี้ คนที่รับหน้าก็ไม่พ้นตนเองกับใบข้าว
“ค่ะ” ใบข้าวเม้มปาก ถอนใจแรงๆ
“คุณข้าวเรียนจบแล้วใช่ไหมคะ?” แย้มถามเสียงขึงขัง
“จบแล้วค่ะ รอได้เอกสาร ข้าวจะออกไปหางานทำ ข้าวสัญญาค่ะป้า ข้าวจะจ่ายเงินเดือนให้ป้าทุกบาททุกสตางค์”
“โอ้ย!! เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ ป้าไม่ได้หวังมานานแล้ว ป้าแค่รอให้คุณข้าวมีงานมีการทำ ป้าจะได้ลาออกสักที เบื่อคนไร้ความรับผิดชอบที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ค่ะ” แย้มกระแทกเสียงตอบ การที่แย้มยังไม่ไปจากบ้านหลังนี้เพราะห่วงใบข้าว อย่างน้อยมีนางอยู่ส่งศรีก็ทำอะไรใบข้าวได้ไม่มาก
“ป้าจะไม่อยู่ที่นี่แล้วเหรอคะ?” ใบข้าวถามเสียงสั่น
แย้มมองสบตาใบข้าว “คุณเอง ก็ไม่ควรอยู่ที่นี่นะคะ” เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แย้มรู้ดีว่าทำไมส่งศรีถึงชิงชังใบข้าวนัก เด็กกำพร้าที่น่าสงสารตรงหน้า ขาดแม่ตอนที่เกิด แถมร่มโพธิ์ที่เคยปกป้องได้ก็หนีตายจากไปเสียอีก
ส่งศรีอยากอับเปหิใบข้าวออกไปไกลๆ ตาจะแย่
ที่เก็บใบข้าวไว้ก็เพราะตอนนี้ใบข้าวยังพอมีประโยชน์ แย้มกลัวว่าสักวันหนึ่ง ส่งศรีนี่แหละจะทำร้ายใบข้าว แววตาของส่งศรีบางครั้ง แย้มไว้ใจไม่ลง
“ข้าวไม่มีที่ไปค่ะ” ใบข้าวตอบเสียงแหบแห้ง
นอกจากบ้านหลังนี้ ใบข้าวไม่มีที่ไปที่อื่นเลย
“ป้าถึงยังไม่ไปไหนไงคะ ป้ารอให้คุณข้าวเรียนจบมีงานทำ จำไว้นะคะ คนบางคนไว้ใจไม่ได้เลย อย่าให้เขาเอาคำว่าบุญคุณมากดหัวแล้วบังคับให้คุณข้าวทำอะไรที่ผิดศีลธรรม” แย้มพยายามเตือน ตอนนี้ใบข้าวอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ในอนาคตใบข้าวจะเข้าใจเอง
“ค่ะป้า” ใบข้าวฝืนยิ้ม
เธอเข้าใจเจตนาของแย้มดี ใครบางคนที่แย้มพูดถึงคือใคร ใบข้าวเองก็รู้อยู่แก่ใจ ส่งศรีพยายามหลอกล่อเธอหลายครั้งแล้ว เธอรอดมาหวุดหวิดเกือบทุกครั้ง ใบข้าวไม่แน่ใจ หลังจากนี้ไป เธอจะยังสามารถรักษาตัวเองไว้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
“นังข้าว!! ไหนละลูกสาวฉัน” ส่งศรีโผล่หน้ามาตวาดแว๊ดๆ
แย้มชักสีหน้าใส่ สวนกลับทันควัน “คุณนายก็ไปควานหานางฟ้าบนวิมานของคุณนายดูสิคะ ขี้ข้าอย่างอีแย้ม กำลังทำกับข้าวให้นางฟ้านางสวรรค์กินไงคะ”
“อย่าปากดีให้มากนักนะนังแย้ม อย่าลืมสิว่าแกน่ะกินนอนอยู่ในบ้านฉันอยู่” ส่งศรีตวาด
แย้มยิ้มมุมปาก ยกมือเท้าเอว “คุณนายเองก็น่าจะลืมนะคะ อีแย้มคนนี้น่ะ กำลังทำมาหากินเลี้ยงคุณนายอยู่ ค่าไฟค่าน้ำอีแก่คนนี้ค่ะที่เป็นคนไปเสีย ไม่อย่างนั้นไฟฟ้าเข้ามายกหม้อไปตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อนแล้ว”
“โธ่!! เศษเงินแค่นั้นเอง อย่าเอามาอ้างเป็นบุญคุณหน่อยเลย” ส่งศรีตวาดกลับ
“เศษเงินเหรอคะ งั้นก็เอาเศษเงินของอิฉันคืนมาค่ะ จะได้ส่งให้ผัวอิฉันซื้อควายมาเลี้ยง”
“หุบปากพล่อยๆ ของแกเลยนะนังแย้ม”
“อีแย้มพูดผิดตรงไหนคะคุณนาย เงินเดือนอิฉันไม่จ่ายมาเป็นปี แถมยังกินข้าวที่ฉันซื้อ เสวยสุขอยู่บนความเหนื่อยยากของอิฉันด้วย” แย้มฉะแบบไม่ไว้หน้า
ส่งศรีกัดฟันกรอดๆ ตวัดตามองลูกเลี้ยงที่นั่งก้มหน้าไม่ได้พูดอะไรตาขวาง
“ตามฉันมานี่นังข้าว”
“ไม่ต้องไปค่ะคุณข้าว งานตรงนี้มีอีกเยอะ คุณนายไม่ได้เรียกคุณไปชมหรอกค่ะ นอกจากจ้องจะหาเรื่องก็มีแค่อยากด่าเพื่อระบายอารมณ์เพราะเสียไพ่เท่านั้นแหละ เสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ” แย้มปราม แถมยังจ้องหน้าส่งศรีแบบไม่คิดจะหลบตาด้วย
ส่งศรีสะบัดหน้าใส่ เดินกระแทกเท้าจากไป
“ป้าบอกไว้ก่อนนะคะคุณข้าว คุณมีงานทำเมื่อไหร่ ป้าจะไม่ทนอีกแล้ว คนอะไรโคตรเห็นแก่ตัวเลย”
“คุณแม่แค่เหงาค่ะ” ใบข้าวพยายามหาข้อแก้ตัวแทนส่งศรี
“มีแต่คนโง่นั่นแหละค่ะ ที่หันหน้าหาอบายมุขเพื่อให้ตัวเองหายเหงา” แย้มกระแทกเสียงตอบ “แล้วข้าวเนี้ยก็ไม่ต้องยกไปประเคนนะคะ หากหิวก็ให้ลงมายกไปเอง คนบ้านนี้นิสัยเสียเหมือนกันหมด”
ใบข้าวเลยพยายามนั่งนิ่งๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองไปกระตุ้นต่อมโมโหของแย้มอีก
ปึกๆ...
เสียงกระแทกเท้านำมาก่อนที่เสียงแหลมปรี๊ดของใบบัวจะดังตามมาติดๆ
“นี่ป้า ป้าเป็นแค่คนใช้ ทำไมถึงใช้น้ำเสียงแบบนี้กับแม่ของบัวคะ” สีหน้าใบบัวถมึงทึง
แย้มวางมือ เงยหน้าสบตาบุตรสาวคนโตของเจ้าของบ้าน ที่ถอดเค้ามารดามาทุกกระเบียดนิ้ว
“ทำไมฉันจะพูดแบบนั้นกับคุณนายไม่ได้คะ?”
ใบบัวชักสีหน้าเชิดปลายคางขึ้น “แม่บัวเป็นเจ้าของบ้าน ส่วนป้าเป็นแค่คนใช้ไงคะ”
แย้มเงยหน้าหัวเราะร่วน “กลับไปถามคุณนายใหม่นะคะคุณบัว ฉันไม่อยากให้คุณบัวเข้าใจอะไรผิดๆ อีก ฉันไม่ใช่คนใช้ที่นี่มาครึ่งปีแล้วค่ะ”
ใบบัวขมวดคิ้ว มองสบตาใบข้าว “พี่ไม่เข้าใจ?”
“พี่บัวใจเย็นๆ นะคะ พี่บัวหิวไม่ใช่เหรอคะ ไปคะ ข้าวยกถาดไปให้เอง พี่บัวกลับมาเหนื่อยๆ อย่าเพิ่งคิดมากค่ะ” ใบข้าวพยายามช่วยปรามเพื่อลดแรงปะทะ ใบบัวที่ใจร้อนอยู่แล้ว ไม่น่าจะยอมฟังเหตุผล หากตอนนี้ไม่มีแย้ม คนที่บ้านหลังนี้คงลำบาก
“ไม่ พี่จะ...”
ใบข้าวยกถาดและจับข้อมือของใบบัวกระตุกแรงๆ “ไปก่อนค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน”
“รีบกลับมานะคุณข้าว งานยังทำไม่ถึงครึ่ง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าไฟ”
แย้มตะโกนตามหลัง ใบบัวหันไปมองแต่ต้านแรงดึงของน้องสาวไม่ได้ เลยข่มใจเดินตามไป
“อธิบายมาสิ พี่ไม่เข้าใจ ทำไมคุณแม่กับแกถึงยอมให้คนอย่างนังแย้มมันขู่ใส่” ใบบัวทรุดนั่งยกมือกอดอกหน้าบึ้ง
ใบข้าวก้มหน้าไม่กล้าตอบ “ยังมีอีกหลายเรื่องที่ลูกต้องรู้นะใบบัว” ส่งศรีเปรยเสียงเคร่ง
“เรื่องอะไรบ้างคะคุณแม่” ใบบัวหันไปสนใจมารดา
“พี่บัวกินก่อนดีไหมคะ” ใบข้าวพูดแทรก
เพราะหากใบบัวรู้เรื่องราวหลายๆ เรื่องเธอเกรงว่าใบบัวจะกลืนอะไรไม่ลง