EP.11 จูบหวานมิรู้เบื่อ
“อยากหายมั้ย” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงมีนัยแฝง ทว่าคนตัวเล็กกลับไม่รู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ เธอเชื่อว่าเขามีวิธีทำให้เธอหายจากอาการอ่อนแรงได้จริง
“ค่ะ” จู่ๆ หญิงสาวก็จิกเล็บลงบนลำคอของชายหนุ่ม เธอหายใจแรงและตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิมจนอัศวินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่าโรส”
“ฉัน...” หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ทว่าจู่ๆ ภาพอดีตก็จู่โจมเข้ามาในห้วงความคิด เธอมึนงงจนแทบแยกไม่ออกว่าผู้ชายที่กอดเธออยู่ตอนนี้คืออัศวินหาใช่เพื่อนของบิดา แล้วจู่ๆ น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาไม่หยุด
อัศวินเห็นท่าไม่ดีจึงค่อยๆ คลายร่างเธอออกจากอ้อมกอด แต่กลายเป็นว่าเธอล้มพับหมดสติลงไปกองกับพื้นทันที
“โรส!” ชายหนุ่มรีบอุ้มหญิงสาวขึ้นนอนบนเตียง จังหวะนั้นเอื้อยกลับเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าพอดี เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มอุ้มร่างหมดสติของเจ้านายสาวเธอก็ยกมือทาบอกด้วยความตกใจ
“ว้าย! นายผู้หญิง เกิดอะไรขึ้นหรือคะ”
“โรสเป็นลม”
นายแพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อตรวจอาการของจอมขวัญเป็นเวลานานเสียจนอัศวินเดินวนไปมาหน้าห้องด้วยความเป็นห่วง อยากจะเปิดประตูเข้าไปเสียก็หลายครั้งแต่ก็ถูกมารดาห้ามเอาไว้
“ลูกชายของฉันท่าทางจะเป็นเอามาก” อรอุมาก้มลงกระซิบกับเอื้อยให้พอได้ยินกันแค่เพียงสองคน
“เอื้อยไม่อยากจะเมาท์เลยค่ะนายแม่” เอื้อยคันปาก ความจริงแล้วเธอจะเข้าไปในห้องนอนเสียนานแล้ว แต่เห็นนายผู้ชายตรงเข้าไปโอบกอดนายผู้หญิงจึงขอแอบดูคู่ข้าวใหม่ปลามันจู๋จี๋กันสักหน่อยให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ ถ้าเจ้านายจะจัดหนักจัดเต็มเธอค่อยหลบออกไป เพราะขืนอยู่ต่อคงได้เป็นตากุ้งยิงแน่ๆ
“มีอะไรก็พูดมาจะอมพะนำไว้ทำไม”
“คือเอื้อยเห็นนายผู้ชายจูบนายผู้หญิงดูดดื่มเลยค่ะ จูบไปจูบมาอีท่าไหนไม่รู้นายผู้หญิงหน้าซีดเป็นลมไปเลยค่ะ”
“โถ น่าสงสารยายหนูโรส” อรอุมาได้ยินดังนั้นก็นึกเอ็นดูลูกสะใภ้ ปกติบุตรชายของเธอควงสาวก๋ากั่นแทบไม่ซ้ำหน้า เรียกได้ว่าแทบจะขึ้นคร่อมบุตรชายของเธอกลางแจ้งอย่างไม่อายผีสางเทวดา แต่บทจะมีภรรยากลับได้สาวน้อยบอบบาง ที่แค่จูบก็ตกใจจนเป็นลม แต่ก็ดีเหมือนกันคนแข็งๆ อย่างอัศวินควรจะได้ผู้หญิงอ่อนหวานนุ่มนิ่มมาเป็นคู่ชีวิต
อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าไอ้ลูกชายของเธอมีความรักจะเป็นยังไง
“นายแม่คะคุณหมอออกมาแล้วค่ะ”
“โรสเป็นยังไงบ้างวะไอ้หมอ” อัศวินซักถามอาการของภรรยาสาวทันที
“จากการพูดคุยซักถามอาการ ภรรยาของนายน่าจะเป็นโรค Aphenphosmphobia หรือที่เรียกกันว่าโรคกลัวการสัมผัสการถูกเนื้อต้องตัว ซึ่งกรณีของคุณโรสน่าจะเป็นกลัวการถูกเนื้อต้องตัวจากเพศตรงข้าม เธอพยายามข่มความกลัวเอาไว้จนทำให้ร่างกายเกิดความเครียด เมื่อเครียดมากๆ ประกอบกับร่างกายอ่อนแอจึงทำให้เธอเป็นลมหมดสติไป”
อัศวินรู้สึกเหมือนถูกหมัดหนักๆ เสยเข้าที่ปลายคาง รู้สึกผิดที่มองหญิงสาวในแง่ร้าย คิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้เขาคิดว่าเธอไร้เดียงสา โดยไม่รู้เลยว่าความจริงเธอป่วยด้วยโรคกลัวการถูกสัมผัส “แล้วแบบนี้โรสจะหายมั้ย” เจ้าของไร่หนุ่มเอ่ยถามเสียงเครียด เพราะมันมีผลต่อข้อตกลงระหว่างเขากับเธอ หากว่าเธอกลัวการสัมผัสเช่นนี้เขาจะมีลูกกับเธอได้อย่างไร
พอคิดว่าต้องหาผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่ภรรยาชั่วคราวแทนเธอ เขาก็รู้สึกราวกับหัวใจถูกกระชากแรงๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
“กรณีของคุณโรสอาการไม่ได้หนักมาก ถ้าได้ทำการพูดคุยทำให้เธอสนิทสนมคุ้นเคยจนคลายความเครียดลงได้ เธอก็จะค่อยๆ หายเป็นปกติเฉพาะกับคนที่รู้สึกคุ้นเคยและปลอดภัย”
“ต้องทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยงั้นเหรอ”
“นายทำตัวอันตรายเกินไปหรือเปล่าวะไอ้อัฐ ไปทำอะไรคุณโรสเข้าเธอถึงได้เครียดจนเป็นลมแบบนั้น” นายแพทย์เพื่อนสนิทหยอกเย้าก่อนจะหันไปยิ้มให้กับอรอุมาเป็นการส่งสัญญาณว่ามีเรื่องต้องคุยกันหลังจากนี้
เขาคือนายแพทย์ที่ตกกระไดพลอยโจนเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของอรอุมา นั่นก็เพราะเขาแต่งงานมีครอบครัว มีภรรยาแสนดีและลูกสาวที่กำลังน่ารักช่างจำนรรจา เขาจึงอยากให้อัศวินมีความสุขอย่างที่เขาเป็น แต่อัศวินก็ไม่ยอมอีกทั้งยังต่อต้านความรัก นี่ถ้าไม่แต่งเรื่องว่ามารดาป่วยเป็นมะเร็ง อัศวินคงไม่มีทางพาโรสเข้ามาที่ไร่ในฐานะภรรยาแน่ๆ วันๆ คงทำตัวลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัย ควงสาวไม่ซ้ำหน้าโดยไม่ยอมลงหลักปักฐานกับใครเสียที
เขาแอบถามพลเกียรติได้ความว่าอัศวินไม่เคยรู้จักกับโรสมาก่อน ตั้งใจจะคว้ามาเป็นภรรยาชั่วคราวเพื่อให้มารดาสบายใจ แต่ดูเอาเถอะไปๆ มาๆ เกิดเป็นห่วงเป็นใยภรรยาชั่วคราวขึ้นมาจริงๆ แถมเธอยังเป็นโรคกลัวการสัมผัสอีกด้วย งานนี้ไอ้เพื่อนเกลอคงต้องรับศึกหนักน่าดู น่าเห็นใจจริงๆ
“ฉันก็แค่...” อัศวินยกมือขึ้นเสยผมไปมา ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบออกไปอย่างเสียไม่ได้ “แค่กอดแค่จูบนิดหน่อยเอง”
“โรคนี้เป็นโรคละเอียดอ่อน นายควรทำความสนิทสนมพูดคุยสร้างความคุ้นเคยกับคุณโรสให้มากๆ ให้เขาไว้ใจจนยอมให้นายจูบ ไม่ใช่ไปปล้นจูบเขา”
“ฉันไม่ได้ปล้น!”
“งั้นนายกล้าบอกมั้ยล่ะว่าคุณโรสเขายอมให้นายจูบ”
เมื่อถูกย้อนถามเช่นนั้นอัศวินก็อ้ำอึ้ง อันที่จริงหญิงสาวไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะจูบเธอต่างหาก เขาใช้เล่ห์กลฉวยจูบจากเธอ เมื่อเธอพยายามจะเม้มริมฝีปากขัดขืนเขาก็แกล้งจับตรงนั้นตรงนี้ให้เธอตกใจจนยอมให้เขาจูบได้อย่างลึกล้ำ
เอ่อ...แบบนี้เรียกปล้นจูบหรือเปล่านะ
“นี่นายรักษาเสร็จแล้วก็กลับไปเสียที ฉันจะเข้าไปดูโรส” อัศวินแสร้งทำท่าทางฮึดฮัดไม่พอใจก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วปิดประตู ปล่อยให้เพื่อนสนิทและมารดายืนอมยิ้มกับท่าทางที่เขาแสดงออก
อรอุมาส่ายหน้าช้าๆ ไม่เคยเห็นบุตรชายเป็นห่วงผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน “นี่เจ้าตัวเขารู้หรือเปล่าว่าถูกซ้อนแผน”
“ไม่รู้หรอกครับคุณป้า ไม่รู้กระทั่งว่าพลเกียรติก็เป็นพวกเดียวกับเรา” นายแพทย์หนุ่มหัวเราะอย่างนึกสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนรัก
“ป้าก็หวังอยากให้ตาอัฐรู้จักความรักเสียที ถ้าแม่หนูโรสเป็นเด็กดีน่ารัก ป้าก็เบาใจไปได้กว่าครึ่ง” อรอุมาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะจากที่อ่านประวัติจอมเกล้าที่พลเกียรติเพิ่งเอามาให้ก็แทบล้มทั้งยืน แต่เมื่อได้รับการยืนยันจากพลเกียรติว่านิสัยของหญิงสาวกับประวัติต่างกันลิบลับเธอก็โล่งใจ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองว่าลูกสะใภ้ของเธอน่ารักจริงอย่างที่ทุกคนการันตี