แรกพบแต่ไม่สบตา

1580 Words
สวนพฤกษาที่ห่างไกลหมู่บ้านออกมาจากตัวเมืองหลวงของแคว้นจ้าวไม่ไกลกันนัก บนต้นไม้หนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมธารที่มีสายน้ำไหลเอื่อยเฉื่อย ให้รู้สึกเย็นฉ่ำกำลังเคลื่อนตัวกระทบแสงวิบวับกับดวงตะวันบนฟ้า บนต้นไม้ต้นนี้นอกจากจะให้ร่มเงาแก่ผู้เดินทางเพื่อใช้หลบเลี่ยงแสงแดดอันแรงกล้าซึ่งแผดเผาแล้ว ยังเป็นที่พำนักพักพิงเพื่อหลบเร้นซ่อนกายให้แก่บุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง สำหรับให้เขาได้นั่งทอดอารมณ์ขุ่นเคืองเกี่ยวกับเรื่องราวหลากหลายที่ได้เจอะเจอมาในแต่ละวัน บุรุษผู้กำลังนั่งอยู่บนต้นไม้ มีรูปกายที่งดงาม ใบหน้าหล่อเหลา สันจมูกตั้งตรงรับกับริมฝีปากสีแดงสด โครงหน้าคมสันนี้มีความคมคายที่ละมุนละไมยิ่ง ทว่าดวงตาคมเข้มใต้คิ้วเรียวยาวกลับเย็นชามาก เนื่องจากชื่นชอบการแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาวธรรมดา ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบสีสันแสบตา ทั้งยังไม่นิยมชมชอบการอยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก โดยเฉพาะในวังหลวงที่มีบุปผาล่อลวง ในรั้วในวัง เขา ไม่ ชอบ! เขามีนามว่า จ้าวหนิงหลง องค์ชายที่ใครๆ มักจะคิดว่าเขาเป็นโอรสสุดที่รักของฮ่องเต้จ้าวเฟยเซียน นั่นจึงทำให้เขามีชีวิตในแต่ละวันภายในรั้วพระราชวังอย่างไม่เป็นสุขเท่าใดนัก เสด็จแม่ของเขาเป็นแค่สนมธรรมดาคนหนึ่ง เพียงแต่...เสด็จแม่มิใช่แค่สนมธรรมดา แต่เสด็จแม่ของเขาเป็นคนรักที่แท้จริงของเสด็จพ่อ หากว่าเสด็จพ่อของเขามิใช่ฮ่องเต้ ก็คงจะดีไม่น้อย เสด็จแม่ของเขาก็คงไม่ถูกเหล่าสนมและฮองเฮารุมอิจฉาริษยาจนสิ้นชีวิตไปอย่างอัปยศอดสู แม้แต่เสด็จพ่อกับเขาก็ไม่อาจเอื้อมมือเข้าช่วยได้ทันการ แต่ทว่า นั่นมิใช่ประเด็น นั่นมิใช่ประเด็นของเรื่องในวันนี้ ประเด็นของเรื่องในวันนี้ที่ทำให้จ้าวหนิงหลงต้องขุ่นเคืองในใจจนต้องมานั่งทอดอารมณ์บนต้นไม้นี่ เรื่องอันน่าขัดเคืองของวันนี้ก็คือการบังคับหมั้นหมายกับสตรีนางหนึ่ง ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ และเขามิได้ชมชอบนาง มิได้ต้องการหมั้นหมายหรือแต่งงานกับสตรีนางใดเพื่อการเมือง แต่จะว่าไปแล้ว... สตรีที่จะได้หมั้นหมายกับเขาเป็นใครกัน? เป็นสตรีที่ไหน? เป็นธิดาของใครกัน? เขาลืมถามเสด็จพ่อไปเสียได้! ในขณะที่จ้าวหนิงหลงกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนต้นไม้อยู่นั้น ภายใต้ต้นไม้ต้นเดียวกันนั่น พลันปรากฏกายของบุคคลสองคนในอาภรณ์ของบุรุษหนึ่งคนกับอาภรณ์สตรีหนึ่งคน พวกเขาเดินมานั่งหลบแดดที่กำลังแผดเผาอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนี้ เพื่อใช้ร่มเงาของมันช่วยแบ่งเบาไอความร้อน ที่กำลังแผ่กำจายอยู่โดยรอบเรือนกายในยามกลางวัน ท่ามกลางแสงแดดซึ่งกำลังบั่นทอนอากาศจนร้อนระอุแสบตา กระแสเสียงใสกังวานดังขึ้น “จ้าวหนิงหลงรึ?” บุคคลผู้แต่งกายสตรีปกติเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแหลมสูงไปทางบุคคลที่ใส่อาภรณ์บุรุษ นางเอ่ยนามของคนที่อยู่บนต้นไม้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งไม่รู้ว่ามีคนอยู่บนต้นไม้ เสียงหวานของอีกคนหนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยชุดบุรุษเอ่ยขึ้นบ้าง “ใช่แล้วล่ะ เป็นองค์ชายด้วยเชียวนะ องค์ชายองค์ใดกัน?” ทั้งนามทั้งประโยคที่เอื้อนเอ่ยเช่นนั้นพาเอาบุรุษรูปงามซึ่งกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่บนต้นไม้ต้นเดียวกันพลันสะดุดหู “เขาเป็นองค์ชายคนใด ข้าก็ไม่รู้จัก หน้าตาหรือข้าก็ไม่เคยเห็น สงสัยหน้าตาคงจะขี้ริ้วขี้เหร่เป็นแน่ ไยต้องหมั้นหมาย ข้าไม่เห็นเข้าใจ สตรีงดงามอย่างข้าไม่เข้าใจเสียจริง” ประโยคและน้ำเสียงแว่วหวานที่ขัดกับอาภรณ์ที่สวมใส่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องอยู่ใต้ต้นไม้ ทุกคำทำเอาเจ้าของนามที่ถูกบุคคลใต้ต้นไม้เรียกขานคิ้วกระตุก เขาหรี่ตาลงมองเจ้าของน้ำเสียงหวานๆ ที่ผิดกับชุดที่นางสวมใส่ นางว่าเขาขี้ริ้วแล้วใต้หล้านี้จะมีใครรูปงามกันเล่า? “เป็นถึงองค์ชาย ไยไม่หาคู่ครองเองล่ะ จะมาบังคับหมั้นหมายกับสตรีดีเลิศอย่างข้า ชิ!ฝันไปเถอะ” ประโยคถัดมาทำเอาจ้าวหนิงหลงเกือบตกต้นไม้ เสียงของบุคคลในอาภรณ์บุรุษใต้ต้นไม้ยังกล่าว “เป็นองค์ชายคิดว่าดีนักหรือไร? มีบุรุษอื่นดีกว่าเยอะแยะ เฮ้อ!” ประโยคนั้นพลันเงียบหายไปหลังจากเสียงถอนหายใจเกิดขึ้นอย่างปลดปลง “ใจเย็นๆ ก่อนจิวซิน” เสียงของสตรีที่มาด้วยกันเริ่มเอ่ยปลอบพลางตบไหล่ของบุคคลในอาภรณ์บุรุษอย่างเห็นอกเห็นใจ “ข้าจึงคิดจะหนีไปทำใจก่อน ยังทำใจไม่ได้จริงๆ นะ ข้าไม่อยากแต่งงานกับองค์ชายอะไรนั่นเลยนะ ลู่ชิง” สตรีในอาภรณ์บุรุษยังคงเอ่ยคำตัดพ้อต่อโชคชะตา จ้าวหนิงหลงถึงกับต้องก้มหน้าลงมองเจ้าของเสียงในฉับพลัน และคนถูกมองกลับมิได้รู้ตัวสักนิด สายลมเย็นโชยเอื่อยท่ามกลางแสงแดดแผดจ้า ใต้ต้นไม้ให้ร่มเงา หญิงสาวสองคนนั่งคุยกัน คนแต่งกายเป็นบุรุษเป็นใครไปมิได้นอกจากจิวซิน นางมีนามว่า หยางจิวซิน ธิดาคนเดียวของหยางเซิง องครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ นางแอบได้ยินท่านพ่อกับท่านแม่คุยกันว่าจะต้องหมั้นหมายกับองค์ชายผู้หนึ่ง นามว่าจ้าวหนิงหลง ซึ่ง... เขาเป็นองค์ชายคนใด นางก็ไม่รู้จัก วังหลวงหรือนางก็ไม่เคยได้เข้าไป ท่านพ่อของนางเป็นองครักษ์ข้างกายของฮ่องเต้ก็จริง แต่ทว่า...ท่านพ่อของนางมิใช่ขุนนางใหญ่โต มิใช่ข้าราชบริพารที่จะต้องออกงานเลี้ยงสังสรรหรือออกหน้าออกตาต่อธารกำนัล ท่านพ่อของนางทำงานเป็นองครักษ์เงา ซึ่ง...ไร้ตัวตน... ไร้ผู้ใดพบเห็น ...นอกจากฮ่องเต้ และยิ่งถ้าเป็นบุคคลในครอบครัวของบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์เงาด้วยแล้ว ยิ่งไม่สมควรปรากฏตัวตนออกสู่สาธารณชน แล้วไยต้องให้นางหมั้นหมายกับองค์ชายด้วยเล่า ชีวิตในรั้วในวังนางชอบเสียที่ไหน “เฮ้อ!” จิวซินถอนหายใจออกมาอีกครา ก่อนนั่งลงเอาแผ่นหลังพิงต้นไม้แล้วหลับตาเอียงหน้าขึ้นอิงศีรษะกับต้นไม้เพื่อพักผ่อนสายตา “อา...แต่จะว่าไป” สตรีในอาภรณ์บุรุษใต้ต้นไม้ยังคงกล่าว “เสื้อผ้าของท่านพ่อนี่ใหญ่เกินไปนะ” ว่าแล้วก็ลืมตาผงกศีรษะยกแขนขึ้นทั้งสองข้าง “แต่ก็ดี” นางเอ่ยประโยคถัดมาอย่างหลายใจหลากอารมณ์ “ใหญ่อย่างนี้ก็ดีจะได้บดบังหน้าอกอวบนูนนุ่มอิ่มของข้าได้อย่างมิดชิด” จบประโยคก็เอื้อมมือของตนลูบๆ คลำๆ แล้วบีบเคล้นเน้นเบาๆ ที่หน้าอกของตนเอง จ้าวหนิงหลงถึงกับเผลอกลืนน้ำลาย “เจ้าอยู่ที่นี่นั่นเอง” เสียงของบุรุษผู้หนึ่งพลันดังขึ้น “มาแล้วหรือ? อาเหอ” จิวซินเอ่ยทักทายบุรุษผู้กำลังเดินมาไกลๆแต่เสียงดังโวยวายก่อนตัวเสมอ เขามีนามว่าจิ้นเหอ เป็นสหายของจิวซิน ทั้งยังเป็นบ่าวชายในคฤหาสน์ใหญ่โตแห่งหนึ่งนอกเขตเมืองของวังหลวงในแคว้นจ้าวแห่งนี้ “นี่เจ้าปลอมตัวแล้วรึ?” จิ้นเหอถามจิวซินทันทีที่เดินมาถึงสตรีในอาภรณ์บุรุษที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ “ใช่” จิวซินตอบ “ไยยังงดงามปานนั้น” จิ้นเหอถามออกมาตรงๆ ตามวิสัย จิวซินยังไม่กล่าวตอบสิ่งใด นางเพียงยกฝ่ามือขึ้นแล้วกุมแก้มของตนเอง “เช่นนั้น ทำอย่างไรดี?” นางเอียงหน้าถาม จิ้นเหอมองสำรวจโดยละเอียดก่อนเอ่ย “เจ้าเห็นดินโคลนดำๆ ตรงริมลำธารหรือไม่?” จิวซินหันไปมองพลางตอบ “อืม...เห็น” “เจ้าเดินไปหยิบมันมา” จิวซินลุกขึ้นเดินแล้วไปหยิบดินโคลนมาตามคำ “แล้วทาเข้าไปที่ใบหน้าของเจ้า” จิวซินหยิบดินโคลนมาป้ายหน้าตามที่จิ้นเหอบอก "เช่นนั้นแหละ รอให้มันแห้งสักครู่ก็ใช้ได้แล้ว" จิ้นเหอกล่าวขึ้นพร้อมมุมปากยิ้มเล็กๆ แต่เจ้าเล่ห์มาก “อืม...” จิวซินพยักหน้าน้อยๆ “แต่...เดี๋ยวนะ” จิ้นเหอที่รู้แล้วว่าบุคคลที่ตนกำลังคิดจะกลั่นแกล้งรู้ตัวเสียแล้ว เขาจึงรีบกลับหลังหันแล้ววิ่งหนีไปอย่างเร็ว “หยุดนะอาเหอ...” จิวซินวิ่งตามจิ้นเหอไปติดๆ “อ๊ะ! รอข้าด้วย” เสียงของสตรีอีกนางหนึ่งที่มาด้วยกันพลันวิ่งตามไปติดๆ เช่นเดียวกัน ยามนี้...ทุกผู้คนที่อยู่บนพื้นดินได้หายหมดไปแล้ว แต่ยังคงเหลือเอาไว้เพียงบุรุษคนหนึ่งที่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนต้นไม้ และ...จ้าวหนิงหลงที่นั่งอยู่บนต้นไม้จึงได้เห็น ว่าที่คู่หมั้นของตน... โดยบังเอิญ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD