“ กูพึ่งรู้ว่านอกจากพวกมึงจะเป็นหมาลอบกัดแล้วยังหน้าตัวเมียอีก ”
“ หึ โผล่หัวมาจนได้ ”
“ นาย!! ” ทุกยังจำคนที่ฉันเดินชนเมื่อหลายวันก่อนได้ไหม คนที่เข้ามาช่วยคือผู้ชายคนนั้น พอตั้งสติได้ฉันก็แกะมือผู้ชายที่จับฉันออก
แล้วเดินไปหลบอยู่ด้านหลังนายคนนั้นฉันจะต้องเรียกเขาว่ายังดีนะ
“ นิสัยเหี้ยเหมือนลูกพี่มึงไม่มีผิด ” ผู้ชายที่มาช่วยฉันก็พูดออกไปแบบไม่กลัว พวกเขารู้จักกันหรอ
“ อย่าปากดีให้มาก ดูรอบตัวมึงด้วย ” หลังจากจบคำพูดของผู้ชายที่จับฉันไว้ก็มีผู้ชายอีกสี่ถึงห้าคนเดินมาล้อมฉันกับคนที่มาช่วย
“ นะ นาย ” ฉันกระดุกมือของคนที่มาช่วยแล้วเรียกออกไปเสียงสั่นตอนนี้มันดูน่ากลัวมากๆเลย เหมือนในข่าวที่ฉันเคยดูเลยที่มีวัยรุ่น ยกพวกตีกัน ซึ่งฉันไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลยสักนิด
“ ถ้าคิดว่าแค่นี้จะทำอะไรกูได้ก็ลองดู ” หมอนี่พูดอะไรออกไป เขาไม่กลัวบ้างรึไง
“ พวกมึง ”
ตุบ !
“ กรี๊ดดด !!! ” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะคนที่ช่วยฉันโดนหนึ่งในคนพวกนั้นเล่นทีเผลอโดยการถีบเขาจากด้านหลัง
“ เจ็บรึเปล่า ” ฉันรีบเดินไปประคองผู้ชายคนนั้นทันทีเมื่อตั้งสติได้
“ โง่รึไงวะ ” ห้ะ? นี่ฉันมาช่วยเขานะ แต่เขากลับมาว่าฉันโง่
“ อร๊ายยย ” ฉันที่ยืนมองหน้าคนที่มาช่วยด้วยความงงว่าจะมาด่าฉันทำไม ก็โดนดึงตัวออกมาด้วยฝีมือของคนในกลุ่มที่มาจับฉัน หลังจากนั้นก็เกิดการชกต่อยกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
ตุบ
ผลั๊ว
ผลั๊ว
ตุบ
“ นี่พวกนายบ้ากันไปแล้วรึไง ปล่อยฉันนะ ” เมื่อทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันเลยพยายามแกะมือของคนที่จับฉันไว้ออก ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะเข้าไปช่วยเขาได้มากแค่ไหน แต่ฉันก็ทนยืนดูเขาโดนรุมแบบนี้ไม่ได้
“ อยู่เฉยๆดีกว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว ”
“ พวกนายมันบ้ากันไปหมด ปล่อยนะ ฮึก ” อยู่ ๆน้ำตาฉันมันก็ไหลออกมา ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม รู้แค่ว่าฉันไม่อยากเห็น
เขาต้องมาเจ็บตัว โดนใครก็ไม่รู้ที่มาทำร้ายฉันแล้วต้องมาทำร้ายเขาแบบนี้ และฉันก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาจะเละแค่ไหนแล้ว
ผลั๊ว ผลั๊ว
“ เห้ย ! ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกลุ่มนั้นทำให้ฉันที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นไปมอง และสิ่งที่เห็นมันทำให้ฉันยิ้มออกมา
ผลั๊ว
หมับ
“ ยืนนิ่งทำห่าไรว่ะ ” เขาปล่อยหมัดใส่หน้าผู้ชายที่จับฉันไว้ และจับมือฉันให้ออกตัววิ่งไปกับเขา เพราะฉันเอาแต่ยืนนิ่งอยู่
“ นาย นาย ช้าๆหน่อย ” ขาฉันสั้นกว่าเขาตั้งเยอะ ฉันวิ่งตามแทบไม่ทันแล้วเนี่ย
“ ภาระฉิบหาย ” เขาพูดว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัดหูฉันอื้อไปหมดแล้ว
“ จะไปไหน ” ฉันถามเขา เมื่อเห็นว่าเขาจะเดินไปทางตรอกมืดๆ
“ ....... ” ไร้ซึ่งคำพูดใดจากปากผู้ชายตรงหน้ามีแต่เพียงความเงียบที่ตอบกลับมา แต่ไม่นานก็มีเสียงจากด้านนนอกดังออกมาทำให้ฉัน
ยืนเกร็งด้วยความกลัว
“ หายไปไหนแล้ววะ ” ถ้าพวกเขาเจอฉันกับผู้ชายคนนี้ละ ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะสู้ไหวอีกไหม เอาจริงๆเขาดูไม่เป็นอะไรมากทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโดยคนเกือบสิบคนรุมกระทืบมานะ
.
.
.
ผมก้มลงมองผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมพึ่งจะช่วยมาเรียกว่าช่วยได้ไหมว่ะ แค่สงสัยเลยตามมาแล้วมันก็จริงอย่างที่ผมคิด ย้อนกลับไปตอน
กลางวันที่พวกผมเห็นว่าเป็นพวกไอไฟซึ่งผมก็นั่งดูอยู่ว่าพวกมันมาทำอะไรกันก็สังเกตเห็นว่ามันมองผู้หญิงสองคนที่ตึกอักษร ซึ่งผู้หญิงคนนี้มันน่าคุ้นไง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันคงจะไม่ใช่เรื่องของผม มันอาจจะแค่ชอบหรือบังเอิญมอง แต่ผมก็เห็นว่าตอนเย็นมันยังเดินตาม ผมเลยตามมาดู จนมาเจอว่าพวกมันกำลังจับตัวผู้หญิงคนนี้ มันคงไม่ผิดที่เรียกว่าจับ แม่งเล่นกระชากขนาดนั้น และนั้นแหละครับที่พาผมมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ตัวผมคนเดียวต่อให้มากันเยอะกว่านี้ผมก็ไม่กลัวหรอกแต่ไอคนที่ซุกหน้ากับอกผมแล้วยืนสั่นเป็นลูกหมานี้ดิ ผมเลยต้องเลือกมาแอบโง่ๆที่ตรอกบ้าๆนี้
“ นี่ ” เมื่อรู้สึกว่าเสียงข้างนอกมันเงียบไปแล้ว ผมเลยเรียกผู้หญิงคนนี้เบาๆ ตัวแม่งก็สั่นอยู่ได้ ผีเข้ารึไงว่ะ
“ นายจะไปไหน อย่าทิ้งฉันนะ ” ยัยนี้จับมือผมไว้ตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไปดูให้แน่ใจว่าพกวมันไปกันหมดแล้ว ผมปรายตามอง
นิดหน่อยก่อนจะสะบัดมือนั้นออกแล้วเดินออกไปดู
.
.
.
“ จะทิ้งฉันหรอ ” จะทิ้งฉันเหมือนทุกคนใช่ไหม ฉันได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของเขาที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ ถึงฉันจะอยู่คนเดียว แต่ฉันก็ไม่ชอบการโดยทิ้งมันยังคงไม่ชิน ไม่ว่าครั้งไหน ๆ มันก็ไม่เคยชิน ที่ฉันไม่ชอบความรุนแรงเพราะฉันเห็นมาตั้งแต่เด็ก มันทำให้ฉันไม่ชอบ
“ จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ” ฉันที่กำลังทิ้งตัวเองอยู่กับความคิดก็มีเสียงหนึ่งที่ดึงฉันออกมา
“ ..... ” ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปได้แต่มองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น
“ จะมองอีกนานไหม แม่งน่ารำคาญ ” เขาพูดออกมาอีกครั้ง ฟังดูแล้วเขาคงจะรำคาญจริงๆ ตอนที่เจอกันครั้งแรกกับตอนนี้มันไม่ต่างกันเลย นิสัยไม่ดี
“ ขอบคุณนะ ” พอเดินออกมาจากตรอกนั้นแล้ว ฉันก็บอกออกไป อย่างน้อยถึงเขาจะชอบทำหน้าว่ารำคาญฉันอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็ยังมาช่วยฉัน
“ ..... ” เขาก็คงจะเป็นผู้ชายที่นิสัยไม่ดีแบบที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิดนั้นแหละ ขนาดฉันขอบคุณยังทำหน้ารำคาญใส่ฉันอยู่เลย แต่ชั่งเถอะหลังจากนี้หวังว่าคงไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้ว
“ จะไปไหน ” ฉันกำลังจะเดินกลับหอแต่เขาก็พูดขึ้นมาก่อน
“ ก็กลับหอไง ” จะให้ฉันไปไหนได้ละ
“ หึ โดนมาขนาดนั้นยังคิดจะกลับหอ? ” เขาหมายความว่าไง
“ พูดแบบนี้หมายความว่าไง ”
“ ถ้าไม่โง่ก็คงพอจะรู้ว่าพวกนั้นรู้จักหอเธอ ” นั้นซิ ถ้าตลอดเวลาที่ฉันรู้สึกว่ามีคนตามอยู่ตลอดพวกนั้นก็คงรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน แล้วฉันจะทำยังไงดี ไปนอนกับน้ำหวานหรอแต่วันนี้น้ำหวานกลับไปนอนที่บ้าน นอกจากน้ำหวานฉันก็ไม่มีเพื่อนคนไหนแล้วนะ ฮืออ ฉันจะทำไง
“ นะ...นาย ฉันเอ่อ...ขอไปอยู่กับนายก่อนได้ไหม ” ไม่รู้อะไรดลใจถึงทำให้ฉันพูดไปแบบนั้น
“ หึ ” ท่าทางแบบนั้นคืออะไรกัน
“ ไม่กลัวฉัน ? ” ถามว่ากลัวไหมก็กลัวแต่ว่า…
“ ฉันกลัวพวกนั้นมากกว่า ” ถึงเขาจะดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่แต่ฉันว่ามันคงดีกว่าฉันเสี่ยงกลับไปที่หอ
“ ก็ไม่ได้โง่อย่างที่คิด ” ทำไมถึงชอบว่าฉันโง่ด้วยนะ
“ ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย ” ฉันทำหน้ามุ้ยตอบเขาไป แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรกลับมา แล้วเดินไปโดยไม่สนใจฉัน นี่ฉันโกรธเขาอยู่นะที่มาว่าฉันโง่
“ นี่ !! รอฉันด้วย ”