ตอนที่ 11
หล่อนจึงคิดว่า คนอย่างเขาคงไม่กังขาและสงสัยหล่อน หรือเคลือบแคลงมองในทางที่ไม่ดี
แกมอรุณไม่เคยพบเห็นสิ่งเหล่านั้นจากดวงตาของเขาเลยสักครั้ง จนเริ่มแน่ใจว่า เขาก็สนิทสนมและพึงพอใจหล่อนมิใช่น้อย แต่การพัฒนาการไปถึงความรัก ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป หล่อนเฝ้ารอดูเขาเพราะปกติเขาไม่มีเรื่องที่ผู้หญิงเข้ามายุ่มย่าม บอสทิญจน์เสมอต้นเสมอปลายอย่างนี้ หล่อนจึงมั่นใจในตัวเขา
และคนอย่างแกมอรุณนั้นไม่เคยกลัวต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน ถ้ามันเป็นความจริง และหล่อนไม่ได้ทำผิดอะไร
และเขา นั้นก็นิ่งนานไปสัก แค่สองนาทีเท่านั้น จากนั้นริมฝีปากจึงยิ้มออกมา
“คุณแก้มครับ นี่ช่วย ฟังผมให้ดีนะ ฟังจบแล้ว ให้คำตอบ เอ้อ เป็นข่าวดีอย่างมากไงครับ”
เมื่อเขาหลุดพูดคำนี้ออกมาแบบนี้เป็นการเฉลย
ทำให้หล่อนโล่งอกและแอบยิ้มในใจที่เขาไม่ได้พ่วงเอาเรื่องของแม่ผู้หญิงเจ้าปัญหาคนนั้นที่มาก่อกวนที่นี่ ด้วยเรื่องที่น่ารำคาญใจหล่อน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แกมอรุณไม่รู้ แต่ก็เดาว่าหล่อนคงจะรู้จักและสนิทสนมกับบอสหนุ่มรูปหล่อเป็นอย่างมาก
แต่ก็ทำให้แกมอรุณขมวดคิ้ว เมื่อเขาเอ่ยจบ
“ข่าวดีหรือคะแล้วเป็นข่าวดีแบบไหนกันล่ะคะบอส”
เพราะความงุนงงมากกว่าหลังจากที่เขาเอ่ยและหล่อนไม่ทราบว่าเป็นข่าวดี เกี่ยวกับเรื่องอะไรกันแน่
“ก็คือ ผมต้องขอถามแก้มเสียก่อนว่า เอ้อ แก้มว่างพอที่จะไปทำงานที่ต่างจังหวัดกับผมได้ด้วยไหมล่ะ และที่ผมพูดนี่ ก็ในฐานะที่แก้มเป็นเลขาส่วนตัวของผมนะครับ”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้และใจเขาเหมือนมีความปรารถนาที่ต้องการ จะให้หล่อน ร่วมเดินทางไปด้วย
ดังนั้นแกมอรุณจึงตอบ
“ต่างจังหวัดนี่ ขอให้บอสช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะ ว่าเป็นที่ไหน แล้วเกี่ยวกับงานด้วยหรือเปล่า หรือว่าเรื่องส่วนตัว”
และชายหนุ่มยิ้ม กับท่าทีชาญฉลาดของหล่อน
“เอ้อ ก็ ทั้งสองอย่างเลยครับ”
“ไปทั้งงานแล้วก็เรื่องส่วนตัวหรือคะ”
“ครับ ถูกต้องแล้ว”
“หน้าที่ของแก้มโดยตรงใช่ไหมคะ”
“อ้าว ก็ถูกต้อง คุณก็ ช่วยไปทำหน้าที่ของคุณให้ดีสิ ในฐานะที่ได้มาเป็นเลขาส่วนตัวประจำของผม และผมก็หวังว่า คุณแก้มคงไม่ปฏิเสธหรอกนะ กับการที่จะเดินทางไปสัมมานาเกี่ยวกับนักธุรกิจที่โรงแรมในต่างจังหวัด และผมมีนัดอยู่ที่นั่นแล้ว”
แกมอรุณคิดว่า หล่อนเข้าใจแล้ว จึงพยักหน้า
“ค่ะแก้มเข้าใจแล้ว แต่อยากทราบว่าเป็นที่ไหนคะ”
“ทางใต้ครับ”
“อ๋อ” หล่อนตอบเขา และทิญจน์เอ่ยพูดต่ออีก เพื่อให้หล่อนเข้าใจมากกว่าเดิม
ในทุกอย่างที่เขาตระเตรียมเอาไว้และเพิ่งจะนำแผนและโปรแกรมที่วางเอาไว้ในการทำงานครั้งนี้ ให้หล่อนช่วยอ่านและพิจารณาอีกครั้ง
ซึ่งการที่หล่อนตอบรับกับเขา ทำให้ทิญจน์นั้นดีใจอย่างมาก
“ผมมีประชุมสัมมนาที่โรงแรมในตัวจังหวัดสุราษฎร์ และเราจะต้องพักค้างคืนอยู่ถึง สิบห้าวัน ผมจึงถามคุณแก้มก่อนว่า คุณว่างพอ และพร้อมเตรียมตัวที่จะเดินทางไปกับผม และพนักงานของเราอีกสองคน ไหมครับ เราไม่ได้ไปแค่จังหวัดเดียวนะ เพราะว่าการประชุมสัมมนาทางธุรกิจมีความสำคัญมาก จะเป็นการทำงาน ทางภาคใต้ และส่วนที่เหลือ ถ้าหากเสร็จงานเร็ว เราก็ จะพากันแวะท่องเที่ยวกันต่อ ก่อนกลับไงครับ”
เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้ ก็ทำให้แกมอรุณนึกตื่นเต้นดีใจ ที่หล่อนจะได้ไปเที่ยวทางโน้นกับบรรยากาศที่สวยงามชวนหลงใหลทางภาคใต้ ภูมิประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีเกาะแก่งเลื่องชื่อสวยงามนักหนา ที่ใครๆกล่าวขาน
และสถานที่บางอย่างก็เป็นอุทยานแห่งชาติ อย่าง เขาสก หรือว่า เขื่อนรัชประภา
“เอ้อ แก้มตกลงค่ะ” หล่อนตอบเขา
ทำให้เขายิ้มออกมา
“ขอบคุณครับสำหรับคำตอบแล้วไปเตรียมจัดเสื้อผ้ารอไว้นะครับ เพราะว่า ศุกร์ที่จะถึงนี้ เราก็จะเริ่มเดินทางไปกันแล้วล่ะ
และหลังจากนั้นแล้ว เมื่อพอหมดธุระกับเลขาสาว ต่อมานั้น ทิญจน์ก็รับสายของมารดา คือคุณผกายมาศ ที่โทร.เข้ามาในช่วงนี้ ทันที
ในขณะที่แกมอรุณนั้นกำลังจะลุกเดินออกไปข้างนอก หลังจากที่หล่อนรับฟังพอคร่าวๆ และรู้หน้าที่ที่หล่อนจะต้องปฏิบัติตามอย่างที่ได้รับมอบหมาย ในฐานะเลขาที่ เจ้านายต้องการให้ไปทำงานด้วย
“ครับแม่ เอ้อ คุณแม่โทร.มามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” และทิญจน์ ได้ตอบคำพูดกับคุณผกายมาศ
เลยทำให้นางต้องถามเขา เพราะห่วงใยบุตรชาย
“เอ้อ ตอนนี้ ลูกว่างอยู่หรือเปล่า หรือว่ากำลังยุ่งล่ะ ทิญจน์”
เขาพยักหน้าตอบมารดา
“ก็ยุ่งนิดหน่อยครับ”
มารดาจึงไม่อยากจะรบกวนปล่อยให้เขาทำงานต่อ จากนั้นนางปิดเครื่อง
และเมื่อหล่อนเก็บความดีใจจนแทบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่นั้นเมื่อกลับถึงบ้านแล้วและคุณเอื้องจันทร์ นั้นได้พลอยสังเกตดูสีหน้าของหลานสาวคนสวย ที่ผุดความดีใจอย่างรู้สึกแปลกๆ ข้างในใจลึก นี่มีเรื่องอะไรอีกล่ะ เหมือนคนแช่มชื่น มีความสุขมากกว่าทุกวันเพราะ แกมอรุณในเวลานี้ มีสีหน้าที่ดูครื้มใจ อย่างคนที่อารมณ์ดี อย่างมากที่สุดเลย
“แหม อาว่า ดูอารมณ์ดีมากนะเรา นี่ไปสุขใจกับอะไรมาเหรอจ้ะหลานแก้มของอา”
คุณเอื้องจันทร์ถามหลานสาว พร้อมกับอมยิ้มด้วย
“ก็เจ้านายนะสิคะ เอ้อ บอส ท่านใจดีอย่างมากเลยล่ะ”
เพราะแกมอรุณกล้าที่จะเฉลยความจริงให้กับผู้เป็นอารับฟังด้วย ทีแรกเธอคิดว่า จะปิด แต่พลาดไปแล้วเพราะปากของเธอก็รื่นเริงบอกอาสาวไปแล้ว
แต่ก็คิดว่า คงปกปิดอาเอื้องจันทร์ได้ไม่นาน ถึงยังไงท่านก็ต้องรู้วันยังค่ำ และแกมอรุณก็คิดว่า มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร อีกอย่างนั้น เพราะว่าหล่อนได้เดินทางไปตามลำพังกับชายหนุ่มที่หล่อนแสนปลื้มนักหนา
ซึ่งเขาเป็นเจ้านายของหล่อนอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
หล่อนไปที่นั่นกับเขาก็ไปทำงานและก็คงไม่มีใครคิดในทำนองที่เสียหายหรอกนะแต่ไม่แน่หรอก อีกอย่าง หน้าที่ของหล่อน จะต้องมาร่วมสัมมนาทางธุรกิจกับเขาด้วย ในฐานะที่คอยแลกเชอร์จดทุกอย่างในระหว่างการประชุมจะขาดหล่อนไม่ได้ถือว่าเป็นความฟลุ๊กที่สุดละ ที่หล่อนได้ไปด้วย แล้วก็แถมเป็นการเที่ยวไปในตัวอีก สบายใจจัง ชีวิตแบบนี้ และเตรียมที่จะจัดกระเป๋าเดินทางเอาไว้ทันทีเลยทีเดียว