ตอนที่ 10
เพราะผู้หญิงคนนี้เป็นใคร หล่อนก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่มาตู่ด้วยคำพูดแบบนี้ ไม่มีเหตุผล และบอสหนุ่มไม่เคยกล่าวถึงชื่อ
หากแต่ แกมอรุณก็ตอบอย่างที่ ใจของหล่อนอยากจะตอบและแกล้งกลับไปเช่นเดิม
“ขอบคุณที่มาจาระไนแนะนำตัวเองถึงคุณสมบัตินะคะ แต่ว่ายังค่ะ และต้องขอโทษด้วย ที่ดิฉัน เอ้อ เพราะฉันก็ไม่ได อยากจะทำความรู้จักกับคุณสักหน่อย”
สุดที่จะทำให้อารมณ์ของศุมิกาทานทนได้ และมันก็ขาดผึง
“แล้วนี่แกเป็นใคร ถึงได้กล้าพูดกับฉันแบบนี้”
ศุมิกาพูดพลางจ้องใบหน้าใส่แกมอรุณ
แต่แกมอรุณก็ใช้สายตามองจ้องกลับไปแบบเดียวกัน ไม่สะทกสะท้านและหวั่นไหว
“อ้อ ถึงจะเป็นใคร ฉันก็มีตำแหน่งเหนือกว่าเธอก็แล้วกันล่ะ อีกอย่างหากถ้าไม่ได้นัดกับบอสไว้จริงๆ ตามที่มีการนัดล่วงหน้าจากฉัน ฉันก็ไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปง่ายๆอย่างแน่นอนย่ะ แม่คุณ”
แกมอรุณเอ่ยเสียงเข้มและเอาจริง
จนอีกฝ่ายเกิดทั้งความกลัว และความไม่พอใจ และก็ทำให้ศุมิกาจ้องมองแกมอรุณ ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“นี่ แก แกกล้าตีฝีปากกับฉันอย่างมากเลย คอยดูเถอะนะ แล้วฉันจะไปฟ้องทิญจน์ แล้วให้เขานั้นได้เฉดหัวแกออกไปจากที่นี่”
หากแต่แกมอรุณก็ไม่สนใจ เพราะคำพูดของผู้หญิงคนนี้ ล้วนแต่ไม่น่าฟังอยู่แล้ว เท่าที่ดูก็ทราบแล้วว่า เป็นคนที่ค่อนข้างหย่อนต่อเรื่อง การอบรมบ่มมารยาทจากพ่อแม่
“ฮึ แปลกดีนะคะ เพราะคุณใช้คำเหมือนไพร่ เหมือนนางตลาด ทั้งที่เสื้อผ้าของคุณดูดี หากแต่มันช่างผิดกันมากเลยล่ะ และคนที่ถือตัวเอง อวดว่าเป็นผู้ดีจริงๆ นั่นนะคะ เขาจะไม่พูดคำทรามๆ ไร้การศึกษาอย่างนี้หรอกค่ะ ฉันว่า เชิญคุณออกไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเรียกร.ป.ภ.มาลากเอาตัวคุณออกไปจากที่นี่”
และน้ำเสียงของแกมอรุณยังเข้มคมกริบ นัยน์ตาของหล่อนวับวาว จนอีกฝ่ายต้องรีบล่าถอย
“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะแก แล้วฉันจะมาจัดการกับแกทีหลัง” พูดจบแล้ว ศุมิกาหญิงสาวมาดเปรี้ยว ที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นแฟนของทิญจน์ ก็รีบก้าวเท้าจากไปทันทีด้วยอารมณ์ไม่พอใจอย่างรุนแรง ที่หล่อนมาเจอด่านหน้าห้องของเขาสกัดหล่อน ไม่ให้ไปถึงตัวเขา เพราะศุมิกาตั้งใจมาดิบดี
หากแต่แกมอรุณก็ร้องหยันตอบหล่อนกลับไปในตอนท้าย
“ฉันไม่กลัวหรอกและไม่ต้องมาฝาก ฉันไม่รับฝากคำพูดของใคร แต่ถ้ากล้าและคิดว่าแน่จริง ก็มาเลยนะ เพราะ ฉันพร้อมเสมอระหว่างตัวต่อตัว”
ซึ่งแกมอรุณที่ต้องพูด ออกไปอย่างนั้นเพื่อขู่ ที่จริงเธอก็ไม่ชอบให้ใครมาทำอำนาจบาตรใหญ่ที่นี่เหมือนกัน แต่ก็มีหญิงสาวคนนี้ นี่เอง ที่โผล่ตัวเข้ามาเพื่อจะเสนอหน้า และหวังในจุดประสงค์บางอย่างของหล่อน ที่แกมอรุณไม่อยากจะรู้เรื่องด้วยเลย เพราะไม่ใช่เรื่องของหล่อนโดยตรง หรือส่วนตัว
แต่หากหน้าที่ของเธอที่เป็นเลขาของเขานั้นจะต้องดูแลรับผิดชอบทุกอย่างแทนเจ้านายทำให้ปัดการรับผิดชอบไม่ได้ และในกรณีนี้เช่นเดียวกัน เพื่อกันคนที่ เข้ามาแอบอ้างกุเรื่อง และแปลกปลอมเข้ามาในบริษัทเพื่อทำลายหรือมีจุดประสงค์ซ่อนเร้น
เธอก็ยอมรับว่า ชื่อ ศุมิกานี่ ไม่เคยผ่านเข้ามาในหัว สักนิดเลยคุณทิญจน์หรือบอส ไม่เคยเอ่ยถึงเพราะหล่อนเอาจริง และแข็งใส่ ก็เลยทำให้ผู้หญิงคนนั้น หล่อนยินยอม ที่จะเดินกลับไปในทางเดิม ที่หล่อน เดินเข้ามานั่นเอง
เพราะแกมอรุณก็คิดจะไม่ยอมเหมือนกันกรณีแบบนี้ ถ้าคิดจะผ่านด่านเช่นเธอแล้วละก็ สำหรับผู้หญิงทุกคนของเขา ที่จะมาติดต่อด้วยไม่ว่าธุระปะปังอะไร มันจึงไม่ง่ายหรอกที่จะผ่านเข้าไปหาเขาได้ หากไม่มีคำสั่ง หรือว่า แกมอรุณเห็นแล้ว ยินยอมอนุญาตให้เข้าไป เพราะหล่อนสังเกตคนด้วยเช่นกัน คนไหนสมควรและคนไหนที่ไม่สมควร เฉกเช่นผู้หญิงคนดังกล่าว
และครู่ต่อมานั้น ทิญจน์เรียกเลขาคนสวยเข้าไปพบ ทำให้หญิงสาวต้องก้มหน้า และไม่ได้เงยขึ้นเพื่อสบเขา เป็นเพราะหล่อนเขิน และทั้งอายด้วย ที่ได้อยู่ต่อหน้าของเขาทุกครั้ง มักเป็นเช่นนี้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แกมอรุณถึงเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง อาจจะเป็น เพราะรู้สึกเพริดตะลึง จากเสน่ห์ในเรือนกายของเขา ที่ดูไม่มีที่ติ สักนิด
หนำซ้ำใบหน้าคมคายนั้นดูสะอาดสะอ้านเหลือเกิน เขาเป็นชายหนุ่มที่ หล่อเหลาแบบหมดจด
“เอ้อ แก้ม ไม่ทราบว่าที่บอสเรียกให้เข้ามาพบ คือ แก้ม ใช่ไหมคะ ธุระอะไรหรือคะ มีอะไรให้แก้มรับใช้บอส”
หล่อนจะต้องเอ่ยบอกเขา ครั้นเมื่อได้ก้าวเข้ามายืนอยู่ใกล้โต๊ะทำงานของเขา
และทิญจน์นั้นหันมายิ้มให้กับหล่อนนั่นไงเสน่ห์จากรอยยิ้มของเขา ก็บาดใจ หล่อนนัก
เขาเป็นคนที่ยิ้มสวยและแสดงออกมาจากใจบริสุทธิ์ ไร้การเคลือบแฝงใดๆ
“ใช่ครับ เชิญนั่งสิ”
แกมอรุณจึงได้นั่งลงตามคำสั่งของเขา
หากแต่ว่าในเวลานี้ทิญจน์นั้นเขากลับอยากจะจ้องมาที่ใบหน้างดงามของหล่อน จนแกมอรุณรู้สึกเขินไปหมด ที่เขาทำแบบนั้น ทิญจน์ยังไม่ทันกล่าวว่าอะไร
เว้นชั่วครู่ เขากล่าวออกมาอีกคำหนึ่ง
“เอ้อดูแล้วท่าทางคุณแก้มเหมือนดูตื่นเต้นไปหน่อยนะ”
เมื่อเขาว่าหล่อนอย่างนั้นเพราะการสังเกตยิ่ง ทำให้แกมอรุณนั้นก็ยิ่งจะเขินหนักมากขึ้นไปอีกด้วยกับคำพูดและสายตาของเขา
หากแต่ หล่อนก็ต้องพูด เพราะอยากรู้ในสิ่งประสงค์ของเขา
“ค่ะ แล้วที่เรียก แก้มมาพบนี่ ก็ไม่ทราบว่า บอสนั้น มีธุระ ด่วน สำคัญอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีสิครับ เรื่องด่วนด้วย และผมมีเรื่องอยากจะถามคุณแก้มด้วย”
ครั้นนั้นเมื่อเขาบอกมีเรื่องจะถามหล่อนด้วยซึ่งแกมอรุณ ไม่รู้ด้วยว่า มันจะเป็นเรื่องใดกันแน่
หากแต่ก็อดคิดไม่ได้เพราะน่าจะเป็นเรื่องนั้นที่ ผู้หญิงร้องแจ้วๆตะแง้วๆปากเหมือนนกขุนทองเพิ่งมาอาละวาดที่นี่กระมังเพื่อแสดงสิทธิ์ของการเป็นคนที่รู้จักเขา แต่หล่อนไม่หลงกลด้วย
ซึ่งหากถ้าเป็นเรื่องนี้หล่อนจะต้องบอกความจริง กับเขาไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหล่อนปกป้องสิทธิ์ของเขา และทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัดปกติหล่อนก็ทำงานอย่างละเอียดจนได้รับความไว้วางใจจากเขาทุกครั้ง