ตกใจที่บอสคนใหม่เป็นเขา

1207 Words
ตอนที่ 6 ผกายทิพย์หมายถึงสามี คือมิสเตอร์โจนาธาน “เอ้อ แล้วแม่หลานสาวของพี่ว่ายังไงบ้างล่ะ” นางหมายถึงเอริซ่า หรือริชา เป็นลูกสาวที่เพิ่งเกิดได้มานานของน้องสาว ระหว่างที่ทิญจน์ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย กับ น้องเขยคนสวิส “ริชา ขยันเรียนค่ะ คิดถึงพี่ทิญจน์ของเขาเหมือนกันค่ะ พี่มาศ อยากให้พี่ชายมาหา” “จ้ะทั้งน้องทั้งหลานแต่ว่าเธอต้องรู้ว่านะว่าทิญจน์ กลับมาอยู่กับพี่ที่เมืองไทย แหม ทิพย์ ก็บอกลูกสิจ้ะ หลานของพี่น่ะว่า พี่ทิญจน์เขาว่างเมื่อไหร่ จะบินไปหาน้องสาวของเขา เผลอๆไม่แน่ นะพี่อาจจะไปด้วยคนนะ” ซึ่งคุณผกายทิพย์ดีใจที่พี่สาวพูดแบบนั้น “ยังงั้นหรือคะก็ดีมากที่สุดที่พี่มาศจะขึ้นมาพร้อมกับตาทิญจน์” “จ้ะ แต่พี่คิดว่า น่าจะเป็นปลายปี คริสต์มาสนี่ล่ะ ทิญจน์เองก็อยากไปฉลองเฮฮาปาร์ตี้สนุกสนานกับเพื่อนเขาทางโน้นด้วย” คุณผกายมาศเล่าให้ผกายทิพย์น้องสาวฟัง “ค่ะ ก็ลูกชายคุณหมออีริคแพทย์ประจำตัวของทิญจน์ ไงคะ เอ้อ เพื่อนเขาที่ชื่อ เอรอน ก็คิดถึงตาทิญจน์มากนะคะ ยังบอกทิพย์เลยว่า เมื่อไหร่ ทิญจน์จะกลับมาที่สวิสอีก” คุณผกายมาศอุทาน “ตายแล้ว ตาทิญจน์เพิ่งกลับมาเมืองไทยยังไมถึงเดือนเลยนะจ้ะ” “เอรอนเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกับลูกทิญจน์มากนะคะ พี่มาศ สองคนนี่ ไปไหนไปด้วยกัน” ผกายทิพย์บอกพี่สาว และก็อดไม่ได้ ที่จะถามถึงลูกชายคนนี้อีกครั้ง “แล้วตอนนี้ตาทิญจน์ เป็นยังไงบ้างคะ เห็นพี่เล่ามาว่า แกกำลังทำงานแล้ว แล้วเป็นยังไงคะ ที่ทิพย์ห่วงคือ สุขภาพของลูกทิญจน์อาจจะไม่ดีสักเท่าไหร่” “จ้ะ เพิ่งปรับตัวเข้ากับอากาศเมืองไทยได้ไม่นาน แหม บ้านเรานี่เมืองร้อน พี่เองต้องประคบประหงมตลอดเวลา เอ้อ ตาทิญจน์ น่ะ พี่ จะให้ เขาเข้าไปบริหารงานที่บริษัท นะทิพย์ เพราะยังไงเสีย ทรัพย์สินในครอบครัวของพี่ทั้งหมดรวมทั้งกับของคุณธันว์ด้วยก็ต้องตกเป็นของลูกทิญจน์ พี่ก็ให้ลูกมาเรียนรู้งานตรงนี้เลย จะได้ไม่เป็นปัญหาทีหลัง เพราะถึงยังไงพี่เชื่อว่าลูกเก่ง และซึมซับการทำงานได้ดี อีกอย่างเขาเป็นคนฉลาด เรียนรู้งานไว จบมาทางด้านบริหารโดยตรง และมีประสบการณ์พี่จึงไม่กังวลจ้ะ” นางตอบผกายทิพย์น้องสาวอย่างอารมณ์ดี ด้วยรอยยิ้ม หากแต่คุณผกายทิพย์ถอนใจ “งั้นทิพย์ก็พลอยดีใจด้วยค่ะ ที่อาการของตาทิญจน์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากมาย ถ้างั้นทิพย์รบกวนถามพี่มาศแค่นี้ล่ะคะ พอดีมีธุระต้องทำ แล้วเจอกันใหม่นะคะพี่ขา” “จ้ะน้องสาวของพี่” ผกายมาศพูดกับน้องสาวจนจบเรื่องสนทนาเสร็จสิ้นกันทั้งคู่ แล้วนางจึงวางสาย นั่นเพราะวันนี้เป็นการประเดิมงานครั้งแรก ที่แกมอรุณจะต้องแสดงฝีมือกับการงานที่เธอได้รับผิดชอบ แต่ต้องรู้สึกประหม่าเหลือเกิน และทำอะไรไม่ถูก เมื่อทราบว่า เจ้านายคนใหม่ ที่หล่อนจะเข้ามาทำงานตำแหน่งเลขาให้เขาเพิ่งเข้ามาถึงบริษัท และก็ทำให้แกมอรุณนั้นก้มศีรษะลง เพราะเธอยังไม่กวาดตามองชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายของหล่อนคนแรก ที่หล่อนเคยจินตนาการไปก่อนหน้านั้น คงจะแก่พุงพลุ้ย หน้าตาคงดูเอาไม่ได้เลย หากแต่น้ำเสียงนั้น หล่อนกลับรู้สึกเคยคุ้นมาก่อน “เชิญเข้ามาครับ” จนกระทั่งว่า ฝ่ายแกมอรุณนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมหูของหล่อนเงี่ยฟัง หากแต่เหมือนน้ำเสียงที่เคยได้ยินมาก่อน และแล้วก็ต้องตกใจอย่างมากที่สุด จนหน้าซีดและเกือบจะช้อคเลยก็ว่าได้ ไม่นึกเลยว่า เป็นเขานั่นเอง ผู้ชายคนนั้น ที่นั่งเด่นเป็นสง่าในชุดทำงานที่ดูภูมิฐาน ของการเป็นนักธุรกิจเต็มขั้น แกมอรุณรู้สึกเขินอาย แม้จะมีความรู้สึกเหมือนช้อค และหล่อนแทบขยับขาแทบไม่ออกด้วยซ้ำ เหมือนถูกสาปชั่วขณะ และพูดไม่ออกเช่นกัน ต้องนิ่งตรึงเหมือนถูกสาปอยู่กับที่ จนกระทั่ง มีเสียงอ่อนโยนนุ่มเอ่ยขึ้นมาก่อน และเวลาในขณะเดียวกันนั้น ทิญจน์ก็ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า หญิงสาวที่เขาเคยได้พบมาก่อนหน้านั้น จะกลายเป็นหล่อน ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเป็นเลขาของเขา ที่ฝ่ายบุคคลนั้นได้รีบหาให้อย่างด่วนที่สุด จนกระทั่งได้ตัวแล้ว คือ ตรงหน้า แค่เพียงแรกเขาก็พึงใจอย่างมาก ต่อใบหน้าหวานคมของหล่อนเสียแล้ว ถือว่าเป็นสาวสวยที่ดูมีเสน่ห์ลึก และน่าค้นหาไม่น้อย ทิญจน์ถึงกับบอกกับตัวเองในเวลานั้น และแอบคิดเหมือนกันว่า เมื่อไหร่กัน จะได้พบเจอกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ก็เลยทำให้เขาอึ้งอย่างมาก กับสิ่งที่ไม่คาดฝัน จนเป็นอาการตกตะลึงไปเลย แกมอรุณ หล่อนเป็นหนัก ยิ่งกว่าเขาเสียอีก ที่ยืนจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ท่าทีเหมือนกับนิ่งช้อคไปเลย หากเมื่อเสียงนุ่มของเขาเอ่ยขึ้น เพื่อไม่ให้หล่อนตกใจมากกว่านั้น “เป็นอะไรไปล่ะ ครับคุณ เอ้อ เห็นหน้าผมเหมือนยังกะถูกผีหลอก ทำใจดีๆไว้นะครับ ผมนะเป็นคน แต่คิดว่า เราเคยรู้จักกันมาแล้วไม่ใช่หรือครับ คุณแกมอรุณ” นั่นไง เขายังจำชื่อหล่อนได้ถูกต้อง เมื่อหญิงสาวได้สติ หล่อนจึงเผยอรอยยิ้มตอบรับเขา แต่ท่าทียังเขินอายที่อยู่ต่อหน้าเขาในเวลานี้ และขนาดที่ว่าการทำงานต้องนั่งใกล้ชิดเขาด้วยเป็นการเทรนด์ “เข้ามานั่งก่อนสิครับ” หล่อนเขินจนไม่กล้านั่ง “เชื่อผมเถอะผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า ไม่ต้องกลัวผมจะกัด จะดุหรือโมโห” เขายังพูดกับหล่อนด้วยอารมณ์ที่หมั่นเขี้ยวใส่และเย้าหยอก และฝ่ายแกมอรุณที่ยังตื่นตะลึง หล่อนรีบปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นปกติ “เอ้อ ดิฉันขอโทษค่ะ ที่ไม่นึกว่า เป็นเจ้านาย” แกมอรุณรวบรวมความกล้า เมื่อเขาหันมายิ้มกับหล่อน “เรียกผมว่าบอสก็ได้ครับ” “ค่ะ บอส” “ผมเองก็ไม่นึกเลยนะว่าคนที่จะเป็นเลขาคนใหม่ของผมจะเป็นคุณนี่เองแต่ว่าก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่เป็นคุณ” เขาเอ่ยคำนี้ มันช่างทำให้หัวใจของแกมอรุณนั้นกระตุกและสว่างไสววาบอย่างมากในทันที อย่างน้อยก็เป็นคำชมที่ทำให้หล่อนรู้สึกระรื่นใจ ที่เขาไม่ได้มองหล่อนในด้านลบหรืออคติ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD