ตอนที่ 5
ดังนั้นแกมอรุณจึงยิ้มให้กับตัวเอง ที่เขาเป็นคนที่ประทับใจสำหรับหล่อนในเวลานี้
นั่นเพราะ แกมอรุณก็ไม่เคยคิดและนึกมาก่อนเลยว่า ผู้ชายที่หล่อนจะได้ใกล้ชิดเขานั้น คือ ยอดชายที่หล่อนใฝ่ฝันหาเขาเมื่อหลายวันก่อน ทำไมจึงเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน และฝันจะกลายเป็นจริง มิใช่ว่างเปล่าหรือผันผ่านจากไป ที่ ยามนี้ รู้สึกว่า หล่อนสมหวังเหลือเกิน คิดอะไรก็ได้ดังนั้น ทำให้แกมอรุณบอกกับตัวเอง และตอบกับหัวใจอย่างเงียบ
แต่ว่าในการที่มีเขาอยู่ใกล้ชิดอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้หัวใจของหญิงสาว นั้นมีแต่ความวาบหวาม หัวใจหวิวไหว
และดูเหมือนสายตาของทิญจน์นั้นเขามักจะมองมาที่หล่อนบ่อยครั้ง อืมส์เป็นผู้หญิงคนนี้คนเดียวกันและใช่จริงด้วย
เหมือนหล่อนคือคนที่เขารอคอยมานาน และชายหนุ่มบอกกับตัวเอง พร้อมทั้งยิ้มให้กับตัวเองในใจ
หากแต่ว่าแกมอรุณก็ยิ่งแปลกใจนักที่หล่อนรู้สึกหวั่นหวามใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้ตัวเขามันคล้ายเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้หล่อนต้องวนเวียนเข้าไปใกล้เขาและเมื่อกลับไปถึงบ้านเช่นกันหล่อนก็ไม่ทราบว่า ทำไมภาพของเขานั้นจึงยังจะลอยวนติดอยู่ในหัวสมองจนถึงบัดนี้
และในเวลาต่อมาแกมอรุณก็กำลังจะเข้านอนแล้ว เพราะว่าด้วยความเป็นห่วง ดังนั้นคุณเอื้องจันทร์ จึงได้เดินเข้ามาเพื่อดูหลานสาวและถามข่าวคราวเรื่องงาน
“ก็ไหนล่ะ ที่บอกอา ว่าได้ทำงานดีเงินเดือนดี เป็นยังไงบ้าง ดีอย่างที่คิดหรือเปล่า?”
เมื่อคุณเอื้องจันทร์ถามถึงงาน และขณะเดียวกับที่แกมอรุณกำลังใจลอยครุ่นคิด หากแต่เมื่อได้สติเธอก็ตอบ
“โชคดีที่สุดนะสิคะ อาเอื้องขา เจ้านายใจดี แถมจบมาจากนอก เอ้อ หล่ออีกต่างหากค่ะ”
แกมอรุณเอ่ยตอบผู้เป็นอา ด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ผู้เป็นอาเงยหน้ามอง พยายามสังเกตดูกิริยาของหลานสาวอย่างเงียบๆ
แต่เมื่อคิดว่า มันไม่น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่ เธอนั้นก็แสนโล่งใจ
“นี่ถ้าหากคุณพ่อหนูกลับมา เขาทราบข่าวดีแบบนี้ ก็คงจะดีใจด้วยสินะแก้ม”
“ค่ะ อาเอื้อง แก้มก็คิดอย่างนั้นค่ะ คุณพ่อต้องชมหนูแน่ ว่า แก้มเก่ง และนี่ เป็นความสามารถของหนูล้วนๆ”
แกมอรุณนั้นเลยอดคุยไม่ได้ ที่จะเอาไปอวดต่อหน้าของบิดา หากท่านเดินทางกลับมา
แล้วจากนั้น เมื่ออยู่คนเดียว ปิดประตูห้อง เพราะอาสาวกลับเข้าห้องแล้ว หล่อนได้รับสายจากแพรพิตรา เพื่อนสนิท ที่ไม่ได้เจอกันในช่วงนี้
“ว่าไงจ้ะแพร ที่เธอโทร.หาฉัน”
“แหม ก็ฉันได้ข่าวว่าเธอได้งานทำแล้วนี่ ดีใจด้วยนะแก้ม” แพรพิตราถาม
“โถนึกว่าเรื่องอะไร จริงจ้ะแพร นี่ก็ถือว่าเป็นความสามารถของฉันล่ะ ได้ทำงานที่บริษัทที่เขามีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น แถมซ้ำเจ้านายของฉันหล่อเสียด้วย เขาเพิ่งกลับมาจากสวิสเซอร์แลนด์”
และเรื่องนี้ ทำให้แพรพิตรามีความสนใจเหมือนกัน
“เขาเป็นคนที่โน่นหรือว่าคนไทยล่ะจ๊ะแก้ม”
“ก็คนไทยสิจ๊ะ ไทยแท้เลย แต่ว่าเขาดูหุ่นสูงเพรียว อุ้ยหุ่น ก็ ล้อหล่อ เหมือนลูกครึ่งบ้าง อาจจะเป็นเพราะเขาไปอยู่ที่โน่นนานหลายปีจ๊ะ”
คำนี้แกมอรุณก็กล่าวกับเพื่อนรักอย่างรู้สึกเขินๆ เมื่อนึกถึงทิญจน์
“ตายจริง แหม โชคดีเหลือเกินนะเพื่อนเรา ก็ขอให้เธอทำงาน อยู่ที่นี่ได้นานๆก็แล้วกันนะ แก้ม ถ้าเกิดว่าอยู่ที่นี่ดี สบายใจ”
“จ๊ะ อ้าว แล้ว เรื่องของเธอกับยุล่ะ”
และแกมอรุณก็รู้ ด้วยว่ามัศยุ เพื่อนอีกคน เขาเป็นแฟนหนุ่มของแพรพิตรา
“กับยุเหรอ ยุเขามัวแต่บ้างานอย่างหนัก ในช่วงนี้ ทำให้ไม่ได้ค่อยเจอกัน”
แพรพิตราตอบเพื่อนรัก
ในช่วงสี่ทุ่มของวันนั้น คุณเกาทัณฑ์เพิ่งกลับมา และเป็นการเดินทางกลับมาจากติดต่อธุรกิจที่ต่างจังหวัด
แกมอรุณจึงตื่นขึ้นมา ยิ้มทักด้วยความยินดี
“คุณพ่อกลับมาจากตราดแล้ว”
และนายเกาทัณฑ์ก็ยิ้มตอบ
เมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักที่เขาก็คิดถึงเหมือนกัน เพราะในชีวิตของเขาในตอนนี้มีเพียงแกมอรุณ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว
ส่วนภรรยาของเขา มารดาของแกมอรุณ เหมือนฉัตร มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับอุบัติเหตุ และเรื่องที่ร้ายแรงเหมือนเป็นชนวนให้เกิดการสูญเสีย และเสียชีวิตของภรรยา อีกทั้งยังตามมาด้วยธุรกิจของเขา ที่ล้มละลาย ป่นปี้ เพราะการทำลายล้างของคู่แข่ง ตรงกันข้าม
ที่เขาจดจำไม่เคยลืมเลือนเลย และกำลังรอวันชำระสะสางหนี้แค้น และเขาไม่เคยเอ่ยบอกเรื่องนี้ กับลูกสาว รวมทั้งประวัติต่างๆ และรวมถึงเรื่องราวของภรรยา ที่ไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้ว
สำหรับเขานั้นวันนี้ทิญจน์ตื่นแต่เช้าได้มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะในวันหยุด ความจริงเขาจะต้องไปทำงานครึ่งวัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร และไม่เกี่ยวกับพนักงาน ที่หยุดเสาร์อาทิตย์เป็นปกติ ที่นี่เป็นปอดใหญ่ ตั้งอยู่ย่านใจกลางกรุงเทพฯอีกแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท เพราะที่นี่เขาได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์อย่างเต็มที่
อีกอย่างเพราะรู้อยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะต้องต่อสู้กับโรคร้าย วันนี้มีร่างของคุณผกายมาศ เธอก็ตามมาด้วย
หลังจากที่เธอนั้นพาทิญจน์เข้าไปตรวจดูอาการกับหมอประจำตัว ที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อ แถวสุขุมวิท เช่นเดียวกัน เพราะทิญจน์จะต้องเข้าไปพบหมอ ตามที่ ได้นัดกับเขาเอาไว้ แต่ว่า เนื่องจากนายแพทย์ขอเลท เขาจึงได้นั่งรอรอย และ นายแพทย์ได้โทร.บอกคนไข้อย่างเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งเขาอยู่ตรงนี้แค่ฆ่าเวลาเพื่อที่จะพบกับหมอปสุต หมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคมะเร็ง ที่เก่งที่สุดในขณะนี้
ในขณะเดียวกันนั้นแกมอรุณกับคุณแสงนวลและคุณอาสาวคือคุณเอื้องจันทร์เธอก็ได้มาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งด้วยเช่นกัน ตามที่หมอนัด
ทำให้แกมอรุณ จึงต้อง เป็นธุระเพื่อขับรถมาส่งท่านทั้งสอง หลายครั้งแล้ว ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และเธอต้องอยู่เป็นเพื่อน ท่านทั้งสองด้วย จนกว่าท่านจะกลับบ้าน
ไม่ได้ไปไหนเพราะเป็นวันหยุดของเธอจึงเอาใจใส่ และทำหน้าที่หลานสาวที่ดีของทั้งคุณอาและคุณป้า ซึ่งเป็นฝ่ายของมารดา เป็นพี่สาวแท้ๆ ชื่อ คุณแสงนวล
เพราะคุณแสงนวลต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพที่นี่เป็นประจำ เนื่องจากความดันโลหิตและโรคหัวใจ
โรงพยาบาลแห่งนี้ล้วนหรูสำหรับคนที่มีฐานะ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้นค่อนข้างแพงกว่าโรงพยาบาลในละแวกนั้น