รับหน้าที่บอสคนใหม่

1210 Words
ตอนที่ 3 เชี่ยวชาญโรคที่เขาเป็นอยู่รวมทั้งบรรยากาศที่หล่อหลอมด้วยไอบริสุทธิ์ ก็เช่นกัน จึงเหมาะสมแก่การใช้ชีวิตอยู่ และรักษาตัว “สิบกว่าปีเต็มเชียวนะครับ ที่ผมอยู่กับแม่ทิพย์” เขาเอ่ยถึงแม่คนที่สอง ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆของคุณผกายมาศ “ผมรู้สึกเป็นบุญคุณ เพราะแม่ทิพย์เลี้ยงผมเหมือนลูก เช่นเดียวกับพ่อโจ” ชายหนุ่มบ่นรำพันถึงความหลังที่เป็นสุข เมื่อใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคุณผกายมาศเข้าใจดี แต่คุณผกายมาศ ก็อยากจะเปลี่ยนเรื่อง ด้วยไม่อยากให้บุตรชายจมอยู่กับอดีตบางเรื่องที่ไม่ดี ซึ่งอาจจะกัดกร่อนทำร้ายความรู้สึกและจิตใจที่เปราะบางอ่อนแอ เพราะบุตรชายประสบโรคร้าย ที่เขานั้นคงไม่อยากจะกล่าวถึง “งานที่บริษัท ลูกเป็นไงบ้าง แต่ได้รับคำชมจากพนักงานเก่าแก่ ว่าลูกทำงานดี คล่อง เฉลียวฉลาด มิเสียแรงเลยนะที่เกิดมาเป็นลูกแม่” ทิญจน์หันมายิ้มให้กับมารดา เขาจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด “ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหาร โดยเฉพาะต้องสืบสาน ดูแลธุรกิจของครอบครัว ผมจะทำมันให้ดีที่สุดครับ” ทิญจน์ให้คำมั่นสัญญากับมารดา “ดีมากจ้ะลูกแม่ แค่นี้ก็เป็นความหวังและความภาคภูมิใจที่แม่ดีใจที่สุด” “กลับมาถึงเมืองไทย ไม่ถึงเดือน ลูกไม่อยากจะออกไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือ” ถามก็เผื่อบุตรชายจะเกิดการอึดอัดบ้าง เพราะเขามีชีวิตขลุกอยู่ในที่ทำงาน และบ้านเท่านั้น ในสายตาของคุณผกายมาศ เห็นว่า ตั้งแต่บุตรชายบินกลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมารับผิดชอบธุรกิจของครอบครัว ในฐานะทายาท และอยู่ที่เมืองไทยเป็นการถาวร ไม่เคยเห็นทิญจน์อยากจะเที่ยว หรือออกไปสนุกสนานกับเพื่อนฝูง ซึ่งคุณผกายมาศอยากจะให้บุตรชาย เข้าหาสังคม กับเพื่อนฝูงเก่าในอดีต ที่ยังพอมีอยู่ และก็เพื่อให้ทิญจน์ลูกชายร่าเริง สดชื่นแจ่มใสไม่อยากจะให้เขากักตัวอยู่กับความเหงา และ ให้ความเศร้าเกาะกุมกินใจ เพื่อให้บุตรชายนั้นดูเป็นปกติมากกกว่าจะผิดปกติ เพราะจะว่าไปคุณสมบัติรูปร่างหน้าตาของเขา เด่นกว่าใคร ชนิดที่เรียกว่า หล่อเหลาไปทุกส่วน ความเพอร์เฟกต์สมบูรณ์ที่ไร้ที่ติ “ตอนนี้ ยังไม่อยากออกไปไหนครับ รอผมปรับตัวเข้ากับอากาศของเมืองไทยสักระยะก่อน” คำตอบของบุตรชาย ทำให้นางผกายมาศพยักหน้า แกมอรุณกลับมาถึงที่บ้านด้วยสีหน้าที่ดีใจ ตำแหน่งเลขานุการิณีที่หล่อนสมัครนั้น ได้รับทราบผลไวเกินความคาดหมาย แกมอรุณไม่อยากจะคิดว่าคุณสมบัติของหล่อนต้องตาอีกทั้งคงจะเป็นเพราะบริษัทแห่งนี้ต้องการเลขาด่วน ที่ห้องส่วนตัว หลังจากที่หญิงสาววางกระเป๋าสะพายส่วนตัว พอลงมาอีกครั้งที่ครัว ก็ถามหาอาหาร จากนางเอื้องจันทร์ ผู้เป็นอาสาว ที่ตั้งแต่บิดาของหล่อนหย่าขาดจากมารดานั่นคือ แกมอรุณได้รับทราบอย่างนั้นจากปากของบิดา นายเกาทัณฑ์เขาก็มอบหมายหน้าที่เลี้ยงดูลูกสาวให้กับน้องสาวที่ยังไม่ต้องแต่งงานและไม่ปรารถนาแต่งงานเอื้องจันทร์เป็นสาวโสด ความสนิทสนมของแกมอรุณกับคุณเอื้องจันทร์ จึงมีมากที่สุด แต่ไม่ได้วางฐานะกันเหมือนน้าสาวกับหลานแต่เป็นพี่น้องมากกว่าด้วยว่าวัยของเอื้องจันทร์มากกว่า แกมอรุณเพียงหกปีเท่านั้น ซึ่งแกมอรุณเติบโตเป็นสาวเร็วมาก และที่สำคัญใบหน้าของหล่อนสวยคมหวานไม่ต่างไปจากผู้เป็นมารดาของหล่อนเลย ที่แกมอรุณก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม? มารดาถึงได้มีจิตใจที่ร้ายกาจนักถึงขนาดทิ้งขว้างลูกสาวอย่างหล่อนไปได้อย่างลงคอ ทั้งๆที่หล่อนเป็นลูกสาวที่น่ารัก น่าเอ็นดูมาตั้งแต่ยังไม่รู้ความ และเป็นที่รักและที่ชอบของบรรดาญาติ ดูเหมือนจะเป็นปมด้อยค้างคาใจของเด็กสาวมาจนถึงทุกวันนี้ แต่หล่อนไม่ปริปากบอกใคร นอกจากจะเก็บไว้คิดคนเดียว “อาเอื้องคะ มีอะไรให้ทานหรือเปล่าวันนี้ แก้มหิ๊ว หิว” หญิงสาวอ้อนผู้เป็นอาสาว หลังจากที่กลับมาจากสมัครงานตอนบ่าย คุณเอื้องจันทร์อยู่กับบ้านและทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลข้าวปลาอาหาร ให้ครอบครัวของพี่ชาย และดูแลหลานสาว “นี่คงหิวแล้วสิท่า อาทำเสร็จแล้วจ้ะ แกงเขียวหวานไก่ของโปรดของหนไงู กินกับขนมจีน นี่ก็ตั้งใจว่า จะเผื่อเป็นอาหารเย็นเสียด้วย” คุณเอื้องจันทร์ทำแกงเขียวหวานไก่ปรุงด้วยมือ พร้อมขนมจีนอีกหนึ่งเข่งที่ซื้อมาจากตลาด เตรียมเอาไว้ให้หลานสาวที่ชื่นชอบนัก “ดีจังเลยค่ะ อาเอื้องขา แหมตรงกับใจของแก้มที่อยากท๊าน อยากทานมากที่สุด” แกมอรุณเอ่ยชมเอาใจอาสาว เอื้องจันทร์จึงตักใส่จานทั้งขนมจีนและน้ำยาแกงเขียวหวานราดใส่ให้พอชุ่ม แกมอรุณเลือกเด็ดผักเครื่องเคียงสดตามใจชอบ แค่นี้ก็ได้อาหารที่ถูกปากของหล่อน แก้หิวได้แล้วล่ะ และเมื่ออิ่ม หญิงสาวจึงทานน้ำและวางช้อนส้อมจากนั้นจึงขอตัวขึ้นไปชั้นบน ทิญจน์รู้สึกไม่สบาย บางครั้งมีอาการหนาวๆสลับร้อน เหตุเพราะอาการของโรคกำเริบ เขาแพ้อากาศด้วย ทำให้คิดว่า น่าจะเป็นอาการของโรคอื่นแทรก(ซ้อนดังนั้นจึงหยิบยามาแทนอีกครั้ง จึงได้รู้สึกดีขึ้นและเป็นปกติ เวลานี้เขาได้อยู่ในห้องส่วนตัว แต่พรุ่งนี้แล้ว ที่เป็นวันหยุด แต่เขาก็ต้องทำงานครึ่งวัน คิดว่าช่วงบ่ายๆ หมอปสุต หมอประจำตัวเขาที่เมืองไทย ถึงจะมาตรวจดูอาการของเขา และขณะนี้ แกมอรุณ ที่อยู่บนที่นอน แต่หลับก็วาดภาพฝันไปถึงชายหนุ่มหน้าตาคมมีเสน่ห์บุคลิกดีดูเฟอร์เฟกต์ไปหมด ความฝันยังคงอยู่เมื่อหล่อนคิดอีกครั้ง พรุ่งนี้ถ้าหล่อนไปทำงานช่วงเวลาเดิมก็อาจได้เจอเขาอีก ทำไม ? แกมอรุณกลับเป็นเช่นนี้ หล่อนคิดถึงเขา ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จัก คงเป็นผู้ชายคนแรกที่หล่อน เก็บเอามาเพ้อฝันได้มากมายขนาดนี้ ใช่สิ นี่หล่อนเกิดความลุ่มหลง ถึงขนาดคลั่งไคล้เขาแล้วนะ และที่อยากจะคิดตามมาอีก ก็คือว่า เขามีผู้หญิงอื่นหรือเปล่า หมายถึงแฟน แต่ยังไม่ได้คุยกันเลย อย่างนี้ คิดว่า ถ้าได้เจอ คงต้องคุยกับเขา และหล่อนจะหาทางคุยกับเขา ให้ได้ด้วย แต่ เอแล้วคุยยังไง แกมอรุณคิดกับตัวเอง นี่หล่อนเป็นผู้หญิง หล่อนจะกล้าพูดกับผู้ชายก่อนหรือ? จะว่าไป ผู้ชายคนอื่นไม่ได้หรอก? แต่ว่า สำหรับคนนี้ ไม่ได้ก็ต้องได้ล่ะ แกมอรุณ หล่อนคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าจะพยายามหาทางคุยกับเขาให้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD