เช้าวันเสาร์ ณ คอนโดแมกไม้
หลังจากที่เมื่อคืนทำตัวเป็นนักสืบอยู่ ครึ่งชั่วโมง ก็กลับเข้าไปนอนต่อ เมื่อคิดหาทางออกไม่ได้ หลักฐานก็หาไม่เจอ
คนอย่างพราว สามารถหลับต่อได้อีกจ๊ะ! ตื่นมาแบบไม่สดใสเท่าไหร่ ในอ้อมกอดของพี่ไม้เช่นทุกครั้ง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคนสวย 😉” ตอนลืมตาขึ้นมาก็เจอเสียงทักทายของพี่ไม้นอนมองหน้าฉันอยู่แล้ว ส่งยิ้มอบอุ่นเหมือนปกติ
“วันนี้ มีนัดอะไรไหมคะ อยู่กับพี่ได้ทั้งวันไหม หืม...?”
“…” ฉันกะพริบตาปรับอารมณ์อยู่ซักพักจึงส่งยิ้มนิด ๆ กลับไปให้
“ไม่มีค่ะ แต่เย็นนี้ต้องกลับบ้านไปกินข้าว วันรวมญาติ แม่พราวนัดไว้แล้ว”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ เป็นอะไรคะ นอนไม่เต็มอิ่ม?”
“เมื่อคืนพราว ตื่นกลางดึกแล้วนอนต่อไม่สนิทค่ะ”
“งั้น…เรานอนเล่นกันต่อสักพัก! แล้วบ่ายค่อยออกไปหาอะไรทานกัน เย็นนี้พี่จะได้ไปส่งเราที่ร้านอาหารเลยดีไหม?”
“ก็ได้ค่ะ เพราะพราวบอกแม่ว่าจะไปเจอกันที่ร้านเลยเหมือนกัน” ระหว่างนั้นก็นอนคุยกันเหมือนเดิมทุกอย่าง ถ้าไม่ติดว่าเรื่องเมื่อวานยังค้างอยู่ในใจละก็… คงเป็นเช้าวันหยุดที่ดีมากเลย
“เมื่อคืนพี่ไม่ได้กอดหนูเลย เห็นพราวหลับไม่อยากกวน หายปวดหัว แล้วยังคะ?”
“หืมมมม ไม่ได้กอดอะไร พราวตื่นมาพี่ไม้ก็กอดพราวแน่นมากอยู่เหอะ”
“ไม่ได้กอดแบบนั้น ซิ~ กอดแบบนี้ตังหากละ!” คนที่หื่นที่สุดในโลก ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ รีบลุกขึ้นมาคร่อมตัวฉันทันที ตอนแรกยังมีอารมณ์โกรธคุกรุ่นอยู่หรอกนะ เรื่องที่สงสัยในตัวเขาอีกมาก แต่พอได้ใกล้ชิดกัน พี่ไม้เข้ามาอ้อน ก็ปล่อยตัว เผลอใจให้เขาไปอีกจนได้
เรานอนมองตากันอยู่อย่างนั้น ฉันช้อนสายตาขึ้นไป ที่พี่ไม้ และเวลาที่เขามองกลับมา แววตาเขาดูรักฉันมาก อยากครอบครอง หลงใหล เป็นเจ้าของ
(มันเป็นการแสดงรึป่าวนะ ถ้าใช่พี่เขาก็เล่นได้แนบเนียนมากเลย)
ระหว่างนั้น หน้าเราก็ขยับเข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น และฉันพอจะรู้ว่าบทต่อไปที่เขาจะเล่นหลังจากนี้ คือบทเลิฟซีนตอนเช้าแน่ ๆ
จุ๊บ จ๊วบ จุ๊บ
เราเริ่มจูบกัน แลกลิ้น กวัดเกี่ยวแบบที่ยังไม่ได้แปรงฟันถึงจะไม่ค่อยชอบเลย แต่ก็รู้สึกดีนะ คนละฟีลลิ่งกับตอนกลางคืนเข้าใจคำว่า Morning Kiss แล้วล่ะ
มือซุกซนนั้นค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนออกทีละเม็ด โน้มใบหน้าหล่อร้ายเข้ามา ขบกัดหน้าอกและตุ่มไตสีหวานจนสีชมพูนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อขึ้น ฝากรอยเม้มไว้หลายจุดทั่วไปหมด
“อื้อออ พี่ไม้ อย่าทำรอย…”
“ทำไมคะ ตรงนี้ไม่เห็นนิ หรือ พราวจะใส่สายเดี่ยวโชว์เนินอก”
“พี่ไม่ให้ใส่ พี่จะทำรอย” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุช่วงนี้เริ่มวุ่นวายกับการแต่งตัวของฉันอีกด้วยนะ
“อื้ออ อ..อย่า…ค่ะ วันนี้ พราวเอาชุดเว้าคอลึกมา”
“อย่า อย่า อื้อออ..พี่ไม้…” เอามือพยายมผลักหน้าหนานั้นออก แต่พูดไม่ทันขาดคำ ทั้งคอทั้งเนินอกทั้งสองข้างก็โดนดูดเล่นจนเหนียวน้ำลายไปหมด สร้างความกระสัน คันยุบยิบไปทั่วแอ่งชีพจร
เมื่อโดนปลุกเร้าอารมณ์ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนใจกลางส่วนล่างของฉัน เริ่มจะแฉะ พี่ไม้ก็เปลื้องผ้าตัวเองออกจนหมด
(รวดเร็วกว่าการใส่เสื้อผ้าอีกค่ะ)
เช้าแบบนี้เค้าว่ากันว่าผู้ชายจะแข็งง่าย ฟิตมาก! ท่าจะจริง เพราะส่วนนั้นของพี่ไม้ ชี้ตั้ง แทงสวนใส่หน้า ทักทายกันตั้งแต่เช้าแบบนี้ เซ็กซ์กับความรักมันไปด้วยกันรึป่าว? ฉันคิดว่าฉันจะดึงพี่ไม้ไว้ด้วยเหตุผลนี้ พอจะเป็นไปได้ไหม?
ถ้าฉันยอมแล้วเขายังจะรักฉันคนเดียวไหม? หรือ ว่าถ้าฉันไม่ให้ เขาจะเบื่อฉันรึป่าว?
คำถามเหล่านี้วนอยู่ในหัวตลอดเวลา พร้อมกับช่วงล่างของฉันที่กำลังโดนรุกอย่างหนักหน่วง
“แข็งแล้ว แข็งมากด้วย จับซิครับ” เขาจับฉันเอื้อมมือไปจับส่วนนั้นยิ่งสัมผัสด้วยแล้ว มันขยายพองขึ้นไปมากกว่าเดิม มือพี่ไม้ซุกซนกว่ามือฉันแน่นอนเพราะตอนนี้ ชุดนอนกางเกงขาสั้นของฉันได้หลุดออกไปจากตัวหมดแล้ว
“วันนี้ พราวต้องเสร็จ!”
“พี่จะเอาให้ถึง คา คxย พี่เลย” พอเริ่มมีอารมณ์ก็จะดุดัน แบบนี้ทุกครั้ง
“วันนี้พราวต้องลองเปิดใจ ปล่อยตัวปล่อยใจให้สบาย” หลังจากพูดจบเขาก็จับฉันนั่งซ้อนตักหันหน้าเข้าหากัน หลังชนกับหัวเตียง เราจูบกันอย่างดูดดื่ม พยายามทำตัวอ่อนไปกับทุกสัมผัส เริ่มรู้สึกเสียวแปร๊ด ที่ช่องท้องน้อยพอสมควร
โดนจับ ลูบคลำไปหมดทั้งตัว พี่เขาก็ค่อย ๆ เอื้อมมือมานวดคลึงหน้าอกฉัน พร้อมกับเอาฟันมาขบเขี่ย กัดจุกอีกข้างไปด้วยอย่างมันส์มือ
พอมันถึงจุดนึง ฉันก็ได้แต่แหงนหน้าขึ้นแอ่นอกเข้าหาปากเขาอย่างไม่รู้ตัว การรู้สึกว่าถูกรัก ถูกเติมเต็มด้วยการมีเซ็กซ์ โดนปรนปรอ มันคือความรู้สึกแบบนี้นี่เอง หลังจากนั้นพี่ไม้ก็พยายาม จับตัวตนของเขาเข้ามาในตัวฉัน โดยไม่สวมเครื่องป้องกัน
“วันนี้ขอเอาสด ได้ไหม”
“พี่ไม้ ทำก่อนแล้วค่อยถามพราวอีกแล้วนะคะ”
“หึหึ!”
ส๊วบ..ปึก!