เคยได้ยินคำว่าโลกสองใบ จากนักร้องดังในข่าว ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะเจอกับตัวเองสักครั้ง มีแต่คนสงสารผู้หญิงโลกใบที่ 1 สาปหญิงชู้รักโลกใบที่ 2 แซ่ซ้อง… แต่ลึก ๆ แล้ว คนที่ทำผิดในความสัมพันธ์มันเริ่มต้นมาจากฝ่ายชายตังหาก
เพราะในทุกเรื่องราวมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ มีตัวแปรสองฝ่าย… เหมือนที่เขาว่ากันว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง!
หลังจากที่เผื่อใจไว้ให้กับความน่าสงสัยถึง 20% ก็ทำให้ชีวิตในแต่ละวันผ่านไปด้วยความหวาดระแวง พึ่งจะเริ่มสังเกตเหมือนกันนะว่า ฉันพลาดอะไรไปบ้างกับช่วงเวลาที่ผ่านมา... ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ คำนี้ใช้ได้จริง มันเริ่มก่อตัวคลืบคลานเข้ามาช้า ๆ กัดกินความเชื่อใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แฟนของฉัน.....มีมือถือ สองเครื่อง!
ยี่ห้อโทรศัพท์เป็นรุ่นเดียวกัน แค่เปลี่ยนเคสระหว่าง สีเทา และสีดำ มองผ่าน ๆ สำหรับบางคน อาจจะไม่ได้ใส่ใจ แต่พอเริ่มตงิดใจสงสัยเท่านั้นละ! มันก็เริ่มเจอจุดให้จับผิดทันที!
…
ณ Condo แมกไม้
วันศุกร์กลางสัปดาห์ ได้โอกาสมาค้างที่คอนโดพี่ไม้ซักหน่อย แอบโกหกแม่ว่ามาทำรายงานบ้านเพื่อน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีกิจกรรมการเรียนของนักศึกษาเยอะ ที่บ้านเลยไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่...
จริง ๆ แล้วที่ฉันมานอนค้างที่นี่ เพื่อแอบสำรวจห้องอย่างละเอียด เพราะโดยปกติ ถ้าไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ก็คงปล่อยผ่านไปแล้ว ถ้าวันนั้น ยัยยี่หว่าไม่ส่งรูปนั้นมาให้ คงไม่มีวันที่คนอย่างพราวจะนึกระแวงได้เลยก็แฟนฉันเขาช่างแสนดี เสมอต้น เสมอปลาย…
ที่ผ่านมาโลกแห่งความรักครั้งนี้ช่างสดใสเหลือเกิน แต่พอลองคิดทบทวน ใช้ 'เซ้นส์' ของผู้หญิงเท่านั้นละ!
ก็เจอแจ็คพ็อตเข้าทันที!
ครืดด ครืด ครืด
(เสียงอะไรนะ!)
ระหว่างที่นั่งเล่นอยู่ในคอนโดคนเดียวในห้อง เพราะ พี่ไม้ลืมของไว้ที่รถพึ่งลงไปเอา
ครืด ครืดดด ครืดด~
พยายามหาต้นตอเสียงครูดสั่น เหมือนเสียงโทรศัพท์เปิดสั่นดังไม่หยุด… จนไปจอต้นตอของเสียงมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน
(หืม โทรศัทพ์มือถือ อีกเครื่องที่เป็นสีเทา จริง ๆ ด้วยซินะ ตาไม่ฝาด)
กำลังพยายามจำตัวเลขที่ขึ้นมาบนจอ และหาที่จดอยู่ ทำไม่ไม่รู้ สังหรณ์ใจว่าเบอร์แปลกนี้ไม่ใช่เบอร์คอลเซ็นเตอร์เถื่อนแน่ ๆ ต้องเป็นเบอร์ใครสักคน ที่คุยกับเจ้าของเครื่องอยู่แต่ไม่ได้เมมเบอร์เก็บไว้
ดวงฉันคงดีมากมั้ง! ถึงมีเบอร์โทรเข้ามา ตอนที่ฉันอยู่คนเดียว ในหัวตอนนี้คิดแค่ว่า จะหยิบมันขึ้นมาวางบนโต๊ะ รอเจ้าของห้องดีไหม? หรือ จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และรอถามทีเดียว เรื่องมือถืออีกเครื่อง?
ใจด้านที่ยังไม่ยอมรับความจริง... เป็นผู่้ชนะ! ฉันเลือกที่จะเก็บโทรศัพท์เครื่องนั้นไว้ที่เดิม ปั้นหน้าวางเฉย ทั้ง ๆ ที่หัวใจเต้นผิดปกติ มือเท้าเย็นเฉียบ เหงื่อออกที่มืออย่างไม่ทราบสาเหตุ นั่งคิดไปเรื่อยว่าจะทำยังไงต่อดี ทำไมพี่เขาถึงมีมือถืออีกเครื่องนะ…
“พราวว พราวครับ เฮ้~” รู้สึกตัวอีกทีตอนโดนเขย่าตัว ไม่รู้ว่าพี่ไม้กลับมาตอนไหนเลยด้วยซ้ำ
“เป็นอะไรรึป่าว เรียกไม่หันเลย”
“...” ค่อย ๆ หันกลับไปมองหน้าพี่ไม้
“พราว ไม่สบาย หรือเปล่าครับ?”
“เปล่าค่ะ แค่เหนื่อย...” สายตาว่างเปล่าจากฉันส่งตอบไปถึงเขา... มันรู้สึก มีคำถาม ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำ แต่ไม่กล้าเอ่ยออกไป ได้แต่มองหน้าคนรัก ด้วยแววตาตัดพ้อ
“หิว หรือยัง? วันนี้ จะสั่งมาทานที่นี่ หรือ อยากออกไปกินข้างนอกดีค่ะคนสวย” เหมือนพี่เขาจะรู้ตัว ว่ามีอะไรแปลกไปเลยพูดจาหวานหู เอาใจ พร้อมกับยื่นมือมาลูบหัวไปด้วย คงเดาได้จากท่าทางเฉยเมยที่ฉันเป็นว่ามันผิดปกติ
“สั่งมาทานแล้วกันค่ะ วันนี้ขี้เกียจออกไปแล้ว พี่ไม้เลือกร้านได้เลยนะ เดี๋ยวพราวดูเมนูอีกที”
ถึงวันนี้จะอยาก ทำตัวงี่เง่าแค่ไหน แต่ก็ต้องอดทน ทำตัวให้เหมือนเดิม ไม่อยากจะอะไรก็ได้ค่ะ! มันดูสิ้นคิดไปหน่อย อยากกินอะไรก็เลือกเองเหอะ! และก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วที่ไม่ได้ออกไปไหน ในระหว่างเราสองคนนั่งเลือก ร้านอาหารกันอยู่ เสียงสวรรค์เสียงเดิมก็ดังขึ้น!
ครืด ครืด ครืด
(หึ! โทรจังเลยนะ ใครมันโทรมาอยู่ได้ ดูซิว่าจะตอบยังไง!)
“เสียงอะไรอะ?” ฉันถามออกไปทำเหมือนไม่รู้ แต่ในใจกำลังลุ้นว่าพี่เขาจะแก้ตัวอย่างไงกับเรื่องนี้...
“พี่ไม้ได้ยินไหมคะ?” เหลือบมองสายตาของคนรักอย่างจ้องจับผิด…
“หืม เสียงอะไรค่ะ?” ท่าทางทำเบลอแบบนี้ อยากจะตบกบาลให้สักที
“พราวได้ยินเหมือนเสียง สั่นของมือถืออะคะ โทรศัพท์พี่ดังไหม?”
“ไม่ใช่นะคะ” พี่ไม้ส่ายหน้า ทำท่าทางยืนยันความบริสุทธิ์ ล้วงมือถือออกมาโชว์ให้ดู ทั้ง ๆ ที่ เสียงสั่นยังไม่หยุด
..
....
“แต่พราวว่า… เสียงมันดัง มาจากตรงนั้นนะคะ” ชี้ไปบริเวณที่โต๊ะทำงานตั้งอยู่ทำท่าจะเดินไปหา แต่พี่ไม้รั้งแขนฉันไว้ทันที พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น
“ไม่เป็นไร~ พี่ไปดูเองดีกว่า 🙂”
ระหว่างที่พี่ไม้เดินไปฉันก็ลอบสังเกตท่าทาง กับสีหน้าว่ามีหลุดอะไรออกมาบ้างไหม...
“อ๋อ! สงสัยนาฬิกาสมาร์ทวอทช์แน่ ๆ เลย น่าจะตั้งปลุกไว้ มันสั่น”
“ใช่ไหมนะ เก็บไว้แถวนี้...” เขารีบเดินไป ทำทีค้นหาเสียงที่หลังโต๊ะนั่น เเละเปิดลิ้นชัก ขยุกขยิกอยู่สักพัก ก่อนจะยิ้มและพูดว่า
“จริงด้วย! ลืมตั้งแบบเอานาฬิกาปลุกออก”
(โป๊ะแช๊ะ!)
(พี่เขาโกหก!)
(ทำท่าเนียนมากแบบไม่มีพิรุธ)