“เป็นแกใช่ไหมพราว......”
“ฮือ ฮืออออ ฮืออ” ฉันไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่เลือกที่จะร้องไห้ต่ออย่างหนัก
“พี่ไม้เหี้xมาก ถ่ายคลิปเก็บไว้ทำไม!” เป็นครั้งแรกเลยที่แทนใจด่าคนอื่นด้วยคำหยาบแบบนี้ คงจะแรงมากในสายตาของมันซินะเรื่องนี้
“ฉ..ฉันน ไม่รู้ตัววว ฮือ~” มันพูดอะไรไม่ออกจุกในลำคอ เขาทำไปเพื่ออะไร ทำไมเขาถึงแอบถ่ายคลิปแบบนี้ไว้
“แม่งโคตรเลวเลยวะ จะเอายังไงดี”
“ฮึก..ก ฮึก...ค..คลิปนี้พี่เขาส่งมา เมื่อกี้อ่า.. เขาขู่ให้ฉันไปหา ฮือ…ฉันอ่านแล้วไม่ได้ตอบ.. จะทำยังไงต่อ ถ้าคลิปนี้หลุดไปฉันตายแน่เลย ฮือ~”
ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วตอนนี้
ในชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งการที่มีคลิป…กับผู้ชายหลุดคือเรื่องใหญ่มากนะ มันเป็นแผลที่ไม่มีวันหายตลอดกาล ชีวิตฉันคงพังลงแล้วตั้งแต่วันนี้ เพราะยังไงฉันก็ไม่เอาพี่ไม้แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องนี้ย้ำอีกฉันพอแล้วจริง ๆ ไม่คุยไม่บอกเลิกอะไรทั้งนั้น
“แกไม่ได้เต็มใจให้ถ่ายใช่ไหม...” แทนใจขยับออกมามองหน้าฉันแล้วถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
“แกจะบ้าเหรอไง! ฮึก..ฉันไม่ใช่โรคจิตแบบนั้น ฮึก..ก... ฮือ”
“โอเค งั้นขอฉันดูอีกทีให้แน่ใจ” หลังจากมันแย่งโทรศัพท์ไปแล้วก็กดยุกยิกอะไรซักอย่างนึง
“พราว ฉันขอเซฟวิดีโอนี้ไว้ แล้วแคปทุกอย่างไว้ก่อนนะเพื่อเป็นหลักฐาน เดี๋ยวมันลบแชตไป” แทนใจเรียกพี่ไม้ว่ามันแล้วในตอนนี้!
“...” ตอนนี้ฉันไม่มีสติจะจัดการอะไรเลยด้วยตัวเอง เหมือนคนโดนยาพิษ แบบเป็นอัมพาตชั่วคราว มันคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงในขั้นต่อไป จะไม่กลับไปคบแล้วแต่จะทำยังไงกับคำขู่แล้วก็วิดีโอพวกนี้ จะบอกพ่อแม่เรื่องที่เกิดขึ้นยังไงในหัวมันคิดสะระตะไปหมดทำตัวไม่ถูกเลยจริง ๆ
“พราวฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนะ แต่มันพิมมาขู่อีกแล้ว ไม่ได้ส่งอะไรมาเพิ่ม แกสะดวกใจที่จะเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังไหม? พ่อแม่ หรือว่าเพื่อนคนอื่น”
ฉันเงียบได้แต่นั่งปิดหน้าร้องไห้อยู่แบบนั้น...
“พราว...” เพื่อนได้แต่กอดฉันไว้แน่นแล้วเรียกด้วยเสียงเบาที่อ่อนโยนมาก
“พราวแกต้องไม่กลัวคำขู่พวกนั้นนะ ฉันจะหาทางช่วยเอง แต่เรื่องนี้เราแค่สองคนอาจจะแก้ไม่ได้ต้องมีคนให้ปรึกษาเพิ่ม ถ้าแกไม่อายมาก...ฉันเล่าเรื่องนี้ให้พี่คุณฟังได้ไหมจะได้ช่วยกัน ไหน ๆ พี่ชายฉันก็ต้องใช้ทนายเรื่องที่ไปกระทืบไอ้ไม้อยู่แล้ว”
“ล..แล้วพี่ชายแกจะเห็นคลิปนี้ด้วยใช่ไหม?” แค่นี้ชีวิตก็พังพออยู่แล้วถ้าพี่ชายมันเห็นอีกคนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละทีนี้
“เฮ้ออออ! นั่นซิ พี่คุณเป็นผู้ชายก็ไม่ควรจะต้องมาเห็นเอาไงดีวะ”
….
เราสองคนนั่งเงียบกันสักพัก ต่างใช้ความคิดของตัวเองกับเรื่องนี้อยู่ ตอนนี้น้ำตาที่ไหล มันแห้งเหือดไปแล้ว จนตกผลึกได้ที่ ฉันจึงเอ่ยปากถามแทนใจออกไป...
“ให้ดูแค่..ต้นคลิปได้ไหมนิดเดียว แล้วก็ปิดยังไงเขาก็เดาได้ว่าเกิดอะไรต่อ” ฉันตัดสินใจที่จะบอกพี่แทนคุณอีกคน ว่าเราเจอกับสถานการณ์แบบไหนอยู่ รู้เขารู้เราก่อนไปรบ
“อืม! ได้เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ไม่อยากยุ่งก็ต้องยุ่งแล้วละ งานนี้! พี่คุณงานเข้าแล้ว!”
---------
Tankhun Part
ฮ..ฮัด ฮัดชิ้ว~
ระหว่างกำลังนั่งเล่นมือถือดูคลิป Reels เรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ก็ดันจามออกมาสงสัยจะเป็นหวัด ปวดหัวตุ๊บ ๆ เหมือนร่างกายจะไม่สบาย หลังจากมีเรื่องกับไอ้ไม้ไป ปากแตก มือก็ยับ มึนหัวนิดหน่อย ระบมหน้า ใส่ไปไม่ยั้งเลยวันนี้ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้มีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นหลังจากจบชั้นมัธยม...
เมื่อกี้ไปหาแทนใจที่ห้อง เห็นเธอ...นั่งน่าเศร้าอยู่ ใจก็อยากจะด่าสั่งสอนให้เด็กมันหลาบจำ แต่ก็ทำใจดุใส่ไม่ได้ น้องเขาน่าสงสารอยู่นะ คบคนผิดคิดจนตัวตาย
(เพราะอย่างนี้ไงละ ถึงไม่อยากมีแฟนให้ปวดหัว)
หลังจากที่คุยกับเพื่อน และพ่อแม่เรียบร้อย เรื่องนี้ดูท่าจะไม่ได้ยากขนาดนั้น ไอ้ไม้พ่อมันเป็นนักการเมืองก็จริง แต่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีมาตลอด เรื่องแบบนี้คงไม่อยากลดตัวมาเล่นให้ลูกชายเป็นข่าว แต่ก็คงจะเรียกค่าเสียหายแน่นอน ซึ่งบิดามารดาบังเกิดเกล้าของผม ก็คงจะหาทางช่วยจนถึงที่สุดได้อยู่แล้ว แถมยังถามย้ำเรื่องแทนใจมาอีก
ด้วยความที่น้องสาวเป็นลูกรัก ก็เลยห่วงเป็นพิเศษ ไม่มีใครโกรธเพื่อนน้องหรอกครับ แต่ตกใจมากกว่า ที่ยัยน้องสาวตัวดีห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทุ่มเทกระโดดสุดตัว ลงไปช่วยซะขนาดนั้น
(ผมละหัวจะปวด)
ตอนนี้ข่าวเรื่องที่ผมมีเรื่องชกต่อยกับไอ้ไม้ดังทั่วมหาลัยแล้วมั้ง เพื่อน ๆ ก็ส่งคลิปมาไม่หยุด แซวว่าผมไม่น่าจะแข่งแค่ยูโดได้ดี แต่น่าจะไปชกมวย กับตะวันฉายแทน…
ระหว่างที่นั่งเล่นเรื่อยเปื่อยตาขวาก็กระตุกไม่หยุด เป็นเพราะขาดวิตามินอะไรรึเปล่านะ หวังว่าคงไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้หรอก ใช่ไหม?
ก๊อก ก๊อก.. ตี๊ด ติ๊ด ตี๊ด
ยังไม่ทันหลุดออกจากวังวนความคิดถึงเรื่องตากระตุก ยัยตัวดีก็ถือวิสาสะเข้ามาในห้องผมอีกแล้ว ยังไม่ทันอนุญาต เรื่องที่มีรหัสให้ใช้เวลาฉุกเฉินเท่านั้น แต่ถ้าผมอยู่ห้องต้องรอให้ผมไปเปิดประตูให้เท่านั้น นี่คือกฎระหว่างเราพี่น้อง แต่ยัยแสบก็ยังฝ่าฝืนอีก! น่าหงุดหงิดชมัด
“พี่คุณทำอะไรอยู่อะ?” เสียงน้องสาวคนดีเดินเข้ามาใกล้
“ไม่ได้ทำอะไร คุยกับเพื่อน นั่งดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย”
“เจ็บแผลอยู่ไหมเนี่ย...”
“นิดหน่อยทนได้ ว่าแต่มีอะไรอีก... ห้องพี่ ไม่ใช่จะเดินเข้าเดินออกได้ทุกเวลานะ รู้ไว้ซะบ้าง!”
“....”
“....” เงียบอยู่นานสองนานก็ยังไม่พูด จนผมเริ่มคิ้วกระตุก มองไปด้วยสายตากดดันระอาใจ จนน้องเริ่มเอ่ยปาก...
“คือ..ว่า..... คือ ออ คือ เอ่อ..อืม..คือ” หน้าน้องยิ้มแห้งมากตอนนี้ แต่ก็ยังไม่พูดออกมาซักที
“อ้ำอึ้งอยู่นั่น มีอะไรก็รีบพูดมา แล้วออกไปได้แล้วไป”
“คือ..หนูมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย...ค่ะ....เกี่ยว-กับ-พราว” น้อง
ใช้เสียงอ่อนเสียงหวานกับผมแล้วยกนิ้วชี้จิ้มใส่กันเป็นสัญญาณที่ผมรู้ว่าเรื่องมันต้องลำบากใจและยากที่จะพูดออกมา น้องเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก
(นั่นไง! ว่าแล้ว...ทำไมตากระตุก สังหรณ์ใจไว้ไม่เกินจริง งานเข้าของแทร่!!!)
“....” 😑