ตอนที่ 5 คนสำคัญ

1051 Words
“ฟลินต์ คุณถูกยิง” ฟลินต์ที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงขนาดเล็กภายในห้องนอนกว้างสุดหรูหรา กลุ่มคนกำลังช่วยกันทำแผลให้เจ้าของห้อง ใบหน้าซุกลงหมอนใบใหญ่เงยหน้าปรือตามองเมื่อได้ยินเสียงตุบเบาๆ ตรงหน้าเขา ร่างสูงหรี่ตามองว่าใครกันที่นั่งจ้องเขาอยู่ “คะ…คุณหนู” เพราะความเจ็บปวดที่อดทนมาเกือบสิบห้านาทีหลังจากที่กินยามอร์ฟีน ซึ่งเป็นแก้ปวดชนิดรุนแรงหมดฤทธิ์ลง ตอนนี้กายแกร่งเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ ปลายมือปลายเท้าชา หัวใจเต้นเร็ว และที่สำคัญ เจ็บจนตาพร่าไปหมด ในจิตใต้สำนึกของเขามีแต่คุณหนูพาฝัน “คุณหนูอะไรกันคะ ฉันซูเจินค่ะ คุณเป็นยังไงบ้าง ทำไมนายสองคนถึงปล่อยให้ฟลินต์โดนยิงกลับมาแบบนี้” ซูเจินแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างไม่ปิดบัง ตำหนิลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งมือขวาและมือซ้ายของฟลินต์ ที่บ่งพร่องในหน้าที่จนทำให้เจ้านายถูกยิงกลับมา “อะ…ออกไป” ใบหน้าหล่อเหลาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ คิ้วคมขมวดเข้าหากันแน่น เมื่อไม่ใช่คนที่คิด ฟลินต์ก็ปั้นหน้าเย็นชา และออกปากไล่ “ซูเจิน” หรงซิ่งเดินเข้ามาประชิดหญิงสาว แตะแขนให้เธอลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้านายเอ่ยปากไล่ “ฉันจะอยู่ดูแลฟลินต์” ซูเจินว่า แววตาเต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร “ออกไป อย่าให้ต้องพูดซ้ำ” ดวงตาคมกริบเยือกเย็นแข็งขึง กัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ใบหน้าคมซุกฝังลงกับหมอนอีกครั้ง มือที่กำขอบเตียงอยู่กำแน่นยิ่งกว่าเดิมจนขึ้นข้อแข็ง “แต่…” ซูเจินมองคนตรงหน้าด้วยความห่วงใย ไม่ยอมลุกออกไปตามคำสั่ง แม้จะถูกมองด้วยสายตากดดันจากคนในนี้ “ซูเจินออกไปก่อนเถอะ” หมิงยู่เดินเข้ามาแตะแขนหญิงสาว มองเธอด้วยสายตาตำหนิที่กำลังทำให้การรักษาล่าช้า “ออกไป!” ครั้งนี้ทุกคนรู้ดีว่าจะต้องนำซูเจินออกไป และตัวซูเจินก็รู้ดีว่าไม่อาจขัดคำสั่งนี้ได้อีกต่อไป จึงถอยห่างออกไป โดยไม่ต้องมีคนนำพา แม้จะเป็นห่วงคนที่นอนอยู่บนเตียงสุดหัวใจ “คุณฟลินต์ครับล้างแผลเสร็จแล้ว ผมกำลังจะผ่าเอากระสุนออก ถ้าทนไม่ไหวบอกนะครับ” คุณหมอประจำตัวว่าก่อนจะยื่นผ้าขาวให้ฟลินต์กัด “ไม่จำเป็น” ฟลินต์ไม่รับ กดใบหน้าฝังลงกับหมอน กำมือเข้าหากันแน่น พร้อมทั้งกัดฟันจนรู้สึกปวดกราม นอกจากความรู้สึกเจ็บแล้วก็ไม่รู้สึกอย่างอื่นอีกเลย “อึก!” ฟลินต์กัดฟันแน่น ระบายความเจ็บปวดลงกับหมอนแน่น ไม่มียาชาหรือยาสลบก่อนผ่ากระสุน เพราะเขาแพ้ยาชา แก้ง! ไม่นานก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน พร้อมกับเสียงถอนหายใจจากทุกคนในห้อง รวมทั้งคนที่โดนผ่ากระสุนด้วย เสียงหายใจของเขาถี่มาก ราวกับกำลังเหนื่อยจากการออกกำลังกายอย่างหนัก ฟลินต์นอนเอียงหน้าไปทางด้านขวา ไม่ได้ซุกหน้าลงบนหมอนเหมือนอย่างเดิม คิ้วสองข้างขมวดแน่น เปลือกตาปิดสนิท เหงื่อเกาะพราวตามใบหน้า หายใจหอบถี่กัดฟันเป็นพักๆ ขณะหมอกำลังเย็บแผล “เสร็จแล้วครับ” หมอว่า หลังจากทำความสะอาด และปิดแผล “อืม” ฟลินต์รับคำ ก่อนจะพยายามพยุงตัวขึ้นนั่ง หมิงยู่เข้ามาช่วยประคองให้นั่งลงบนเตียง ส่วนหรงซิ่งเดินนำหมอและพยาบาลออกไปด้านนอก ซูเจินถืออ่างน้ำ และผ้าขนหนูสีขาวเดินเข้ามา “ซูเจินจะเข้ามาเช็ดตัวให้ฟลินต์” ซูเจินว่า ก่อนจะวางอ่างน้ำลงข้างเตียงของชายหนุ่ม “ไม่ต้อง ฉันจะอาบน้ำ” ฟลินต์บอกพร้อมพยายามลุกขึ้นยืน “น่าจะไม่ไหวนะครับบอส” หมิงยู่ไม่เห็นด้วยที่เจ้านายจะไปอาบน้ำในสภาพนี้ “ซูเจินว่าฟลินต์เช็ดตัวก่อน รอให้มีแรงกว่านี้ค่อยไปอาบน้ำดีกว่านะคะ ซูเจินเช็ดตัวให้ค่ะ” “หมิงยู่” หมิงยู่รู้ความต้องการของเจ้านายหนุ่มทันที “ผมเช็ดตัวให้บอสเอง ซูเจินออกไปก่อน” “แต่…” “อยากโดนดุอีกหรือไง” ซูเจินหน้าเจื่อน แม้จะอยากอยู่ดูแลฟลินต์ แต่ก็ต้องจำใจออกจากห้องไป ด้วยเขาไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง “บอสให้ผมสองคนไปรับคุณหนูพาฝันจะดีกว่านะครับ” ด้วยความเป็นห่วงเจ้านายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ลอบยิง และเพิ่งผ่าเอากระสุนออก หรงซิ่งจึงขันอาสาไปรับหลานสาวคนโตของอินทัช ผู้บริหารสูงสุด แทนไท คอร์ปอเรชั่น ทายาทรุ่นที่สอง ที่กำลังจะเดินทางมาถึงในเวลาอีกไม่ช้า “ฉันจะไปรับคุณหนูพาฝันด้วยตัวของฉันเอง” ไม่มีใครกล้าขัดใจคนเป็นนาย ด้วยต่างรู้ดีว่าคุณหนูพาฝันมีความสำคัญกับเจ้านายเพียงใด หรงซิ่งค้อมศีรษะรับทราบ เร่งไปเตรียมรถ “ฟลินต์จะไปไหนคะ คุณบาดเจ็บอยู่นะ” ซูเจินถือชามโจ๊กเข้ามา ในขณะที่หมิงยู่กำลังช่วยเจ้านายใส่สูท “ไม่ใช่เรื่องของเธอ นี่ก็ได้เวลาเข้านอนของจิวเจ๋อแล้ว เธอควรไปทำหน้าที่ของเธอ” น้ำเสียงเย็นเยียบ เช่นเดียวกับใบหน้าที่แสนจะหล่อเหลา แต่มักแสดงความเย็นชา ซูเจินได้ยินได้เห็นจนชินตา เช่นเดียวกับหมิงยู่ และหรงซิ่ง “ฟลินต์ต้องทานยา ซูเจินก็เลยเอาโจ๊กมาให้” “ฉันไม่หิว หมิงยู่ไปกันได้แล้ว” ฟลินต์เดินผ่านร่างของหญิงสาวด้วยท่าทางเย็นชา ซูเจินมองชามโจ๊กในมือตาละห้อย ก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้องนอนกว้าง หยุดสายตาที่เตียงขนาดใหญ่ ก่อนจะวางชามโจ๊กลงบนโต๊ะทำงานที่อยู่กลางห้อง แล้วนั่งลงบนเตียงนั้น มือเล็กลูบสัมผัสหมอนที่ฟลินต์หนุนนอนแผ่วเบา “ฟลินต์” ทันทีที่เห็นร่างสูงของอดีตบอดี้การ์ด พาฝันวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ กระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของคนตัวสูงทันที เรียวแขนเล็กโอบรอบลำคอแกร่ง เรียวขาขาวเกี่ยวกระหวัดกอดรัดเอวสอบไว้แน่น ในท่าหันหน้าเข้าหากันอย่างสุดคิดถึง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD