เงียบๆ

1504 Words
สุดท้ายฉันต้องจำใจเดินตามหัวหน้าห้องไปยังรถของเขาที่จอดออกไปพันลี้(เว่อร์ไปงั้นแหละ)อันที่จริงเขาแค่จอดอยู่ตรงมุมตึกใกล้ปากซอยแค่นี้เอง "หัวหน้าห้องจะหยุดเดินทำอุ๊บ!" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามจบประโยคเมื่อยู่ดีๆหัวหน้าห้องกลับหยุดเดินไปเสียดื้อๆ "เวรฉิบ!" พายุสบถเสียงกร้าวเมื่อเขาใช้ฝ่ามืหนาปิดปากของฉันเอาไว้แน่นแล้วลากตัวฉันให้หลบอยู่หลังป้ายร้านค้าให้พอปิดบังตัวได้ในซอย นี่แทบจะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันได้ยินหัวหน้าห้องสบถคำหยาบคายออกมา "อีอะอัย?(มีอะไร)" ฉันส่งเสียงถามอู้อี้ไม่เป็นสรรพเพราะเขายังใช้มือปิดปากของฉันเอาไว้อยู่ "เงียบๆเอาไว้ถ้ายังอยากเดินออกไปแบบดีๆ" ดวงตาคมกริบสีนิลที่ปาดตามองเป็นคำสั่งดูเหี้ยมดุน่ากลัวต่างจากสายตาของเขาที่เคยมองมา หงึกหงัก~ ฉันพยักหน้ารับรัวๆเป็นเชิงบอกว่าเข้าใจแจ๋มแจ้งแดงแจ๋เลย พายุเบือนหน้าออกไปมองยังอีกฝั่งของป้ายซึ่งมันจะเป็นเพียงถนนแคบๆให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านได้เท่านั้น "มึงแน่ใจนะว่าไอ้พายุมันเข้ามาในนี้" บทสนทนาของใครบางคนดังขึ้นอีกด้านนึงของป้าย นั่นเลยทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเหตุผลที่หัวหน้าห้องต้องซ่อนเป็นเพราะอะไร "มันมาในนี้แน่กูเห็นมันเดินเข้ามาเองกับตา" อีกคนในกลุ่มนั่นพูดเสริมขึ้นจนฉันต้องชะโงกไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น "อยากตายหรือไง" จากคนที่พูดมีหางเสียงทุกครั้งกลับพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมดุแบบี้ฉันมีเหรอจะกลัว ฉันก็แค่เอาหัวตัวเองกลับมาตั้งนิ่งๆเหมือนเดิมแล้วมองเขาตาใสแป๋ว "แล้วมันอยู่ไหน กูอยากจะฆ่ามันให้ตายห่าอยู่แล้ว" เฮือก! คำพูดที่แฝงไปด้วยความโกรธแค้นของอีกฝ่ายทำฉันเกือบทรุดตัวล้มไปกองกับพื้นเพราะเข่าอ่อนยวบด้วยความกลัว โชคดีที่หัวหน้าห้องใช้ท่อนแขนของเขารวบเอวบางของฉันเอาไว้เสียก่อน แกร๊ก! ไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรนักหนาไอ้ส้นเท้าไม่รักดีของฉันได้ไปโดนกับถังขยะที่ตั้งอยู่จนล้มลงไป ทำไมมาตั้งถังขยะไม่ดูตามเาตาเรือแบบนี้กันห้ะ คอยดูนะฉันจะฟ้องสคบ. "มัันอยู่นั่น!" เสียงที่ตะโกนข้ามป้ายมาทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายของพายุด้วยสายตาเป็นเชิงขอโทษ "โง่" คนตัวโตก้มหน้าลงมาใช้สายตาดุๆของเขาเป็นการคาดโทษ "ขะ ขอโทษ" ฉันบอกเสียงอ่อนเมื่อเขายอมปล่อยมือออกจากปากของฉันแล้ว แต่กลับเปลี่ยนเป็นจับขอมือของฉันเอาไว้แทน "เอาไว้ทีหลังแล้ววิ่งให้ไว" เมื่อพูดจบหัวหน้าห้องก็กระชากข้อมือฉันให้ออกวิ่งตามไปด้วยความเร็วแสง ตึกๆ ตึกๆ~ เสียงฝ่าเท้าหลายสิบคู่ที่วิ่งกรูกันตามก้นฉันราวกับหมาบ้าล่าเนื้อกระต่ายขนปุยน่ารักน่าเอ็นดูแบบฉันที่เร่งสปีดฝ่าเท้าให้วิ่งทันคนตัวโตตรงหน้า ที่ไม่รู้ว่าตอนเกินแม่เขาให้พลังแร่ธาตุอะไรให้กินถึงได้วิ่งอย่างกับนักวิ่งโอลิมปิกแบบนี้ "หัวหน้าห้องช้าหน่อย" "ช้ากว่านี้ก็คลานมาดีกว่าไหม" แม้จะหน้าสิ่วหน้าขวานขนาดไหนแต่สกิลปากของหัวหน้าห้องก็ไม่มีท่าทีว่าจะลดละเลยสักนิด พลั๊ก! เหมือนกับสวรรค์สาปส่งนรกเป็นใจถึงได้ให้ขาสั้นๆของฉันตองเกี่ยวกันจนล้มหน้าคะมำไปกับพื้นจนกระโปรงนักเรียนลายสก๊อตถลกเปิดขึ้นมากองอยู่บนสะโพกเผยให้เห็นกางเกงในลายหมีน้อยน่ารักสีชมพูหวานแหวว "แม่งเอ๊ย! ผมไม่เคยเจอใครที่โง่ได้ขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเหอะ" พายุหนกลับมาสบถอย่างหัวเสียแถมยังเดาะลิ้นราวกับเขากำลังขัดใจจนแทบจะกระทืบฉันซ้ำให้จมดิน "ไม่เจอกันนานหนิไอ้พายุ นึกว่ามึงรอดจากกูแล้วหรือไง" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พยุงตัวขึ้นจากพื้นน้ำเสียงดุดันก็ดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มชายร่างสูงน่ากลัวราวสิบคนที่เดินเข้ามา "แค่มึงเกือบตายครั้งก่อนถึงกับต้องวิ่งมาอ้อนหาตีนกูอีกเหรอวะ" ฉันเบิกตากว้างแทบจะถลนออกมาจากเบ้าเมื่อผู้ชายที่นักเรียนทุกคนต่างยกย่องให้เป็นแบบอย่างและสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยนที่สุดในโรงเรียนกลับมาตะโกนป่าวๆด้วยคำพูดที่ไม่ต่างจากนักเลงเลยสักนิดเดียว คุณพระช่วยนี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมขอแบงค์พันสองปึกมาตบหน้าสักทีสองทีให้ได้สติหน่อยได้ไหม "มึงย้ายโรงเรียนไปแล้วคิดเหรอว่าสันดานมึงจะเปลี่ยน" "สิ่งเดียวที่กูไม่เปลี่ยนคือแรงหมัดมึงจะลองไหม" พายุยิ้มเย้ยอย่างท้าท้าย มือหนาของเขาปลดเน็คไทให้คลายออกหลวมๆแแล้วตามด้วยกระดุมสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกที่รอยสักโผล่ออกมาให้เห็นนิดๆ มันกร้าวใจมากแม่เอ๊ย!ให้ตายเถอะฉันจะรอดไหมเนี๊ย "กูจะฝังมึงเองไอ้พายุ อยากบอกลาแฟนมึงหน่อยไหม" คนที่ย่างเท้าเข้ามาหาฉันแล้วปรายตามองไม่ได้คิดที่จะช่วยแถมยังคิดไปเองอีกว่าฉันเป็นแฟนของหัวหน้าห้อง จะบ้าเหรอคะถึงเบ้าหน้าแบบนี้ก็เลือกนะ "ฉันไม่ใช่แฟนเขา ฉันแค่บังเอิ๊ญบังเอิญผ่านมา" ฉันตอบเสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ คุณพระช่วยกล้วยทอดตากแดดหัวเข่าฉันถลอกหมดเลย "ไม่ต้องพูดมากได้ไหมครับซัมเมอร์" พายุหันมาหรี่ตามองเป็นเชิงปรามให้ฉันหยุดพูด "รู้แล้วเดี๋ยวไปนั่งรอ" ฉันตอบเสียงขุ่นแล้วเดินกะแผลกๆไปนั่งที่ชั้นวางกองลังกระดาษยังข้างๆตึก พูดมากก็ไม่ได้ให้กลับบ้านก็ไม่ได้จะอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ไอ้พวกนี้นี่ หัวหน้าห้องมองตามฉันนิ่งจนเขาแน่ใจแล้วว่าฉันจะนั่งรออยู่ตรงนี้จริงๆจึงเดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปหาอีกฝ่ายอย่างไร้ความเกรงกลัว "จะเข้ามาพร้อมกันเลยไหมจะได้ไม่เสียเวลา" พายุเอ่ยขึ้นเสียงกร้าวเขาปาดตามองชายนับสิบตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง "ขอมากูก็จัดให้" ชายคนเดิมที่พูดกับพายุก่อนหน้านี้ยกยิ้มชอบใจก่อนจะส่งสัญญาณให้พวกของเขาปรี่เข้าไปรุมพายุกันหมด "อ้าว แบบนี้มันหมาหมู่ชัดๆเลยนะ" ฉันตะโกนบอกฝั่งเรามีคนเดียวให้คนเป็นสิบรุมก็มีแต่ตายกับตายสิ "ซัมเมอร์ช่วยนั่งเงียบๆด้วยสิครับ" แทนที่จะเห็นด้วยกับฉันหัวหน้าห้องกลับตะโกนกลับมาดังแทรกกับเสียงเตะต่อยที่ดังระงมไปทั่วทั้งซอกตึก "ก็ได้ เงียบก็ได้" ฉันนั่งมองสกิลการเตะต่อยของพายุที่รวดเร็วราวกับนักมวยมืออาชีพต่างจากภาพลักษณ์ที่แสนเรียบร้อยของเขา "หัวหน้าห้องฉันหิวแล้ว กินขนมปังของนายได้ไหม" ฉันตะโกนถามอีกรอบเมื่อนึกขึ้นได้ว่าขนมปังของเขาซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ฝากใส่ในกระเป๋าของฉัน "ใช่เวลามาถามกันไหมครับซัมเมอร์" พายุโยกตัวหลบหมัดของอีกคนแล้วตอบกลับมาเสียงดุ "ก็หิว สรุปได้ไหม" ฉันถามต่ออย่างไม่รอช้า "จะทำอะไรก็ทำแค่อยู่เงียบๆก็พอ" หัวหน้าห้องตอบกลับมาเสียงขุ่น ฉันไหวไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะแกะถุงขนมปังออกมากินอย่างช้าๆ ผั๊วะ! ตุ้บ! แค่กๆ~ โอ๊ย มัวแต่มองการเตะต่อยตรงหน้าจนก้อนขนมปังติดคอ ฉันจึงรีบเปิดกระเป๋าหาขวดน้ำที่ซื้อติดตัวมาเปิดแต่จะเปิดยังไงก็เปิดไม่ออก โครมมม ตุ้บ! เสียงดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับร่างของใครบางคนกระเด็นมาตรงหน้าฉันดูสบักสะบอมไปด้วยบาดแผล เห็นแล้วน่าสงสารจังเลย "พี่เปิดให้หน่อยมันเปิดไม่ออก" ฉันบอกพร้อมยื่นขวดน้ำไปให้คนตรงหน้าที่พยายามลุกขึ้นอีกครั้ง "....." "เร็วๆสิขนมปังจะติดคอตายแล้วเนี่ย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD