ฉันนั่งเรียนด้วยความวาดระแวงเมื่อรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่ที่สาดส่องมาเป็นระยะๆ จากมุมห้องที่ติดกับหน้าต่าง ยิ่งสายลมพัดเข้ามายิ่งเย็นสะท้านถึงกระดูกเลยทีเดียว
"อาจารย์ครับ ผมว่าเราน่าจะจัดที่นั่งกันใหม่ดีไหมครับ" อยู่ๆคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องก็เอยบอกกับอาจารย์ที่กำลังทวนวิชาเรียนให้พวกเราอยู่
"ก็ดีนะเพื่อคนด้านหลังอยากจะมานั่งด้านหน้าบ้าง" แทนที่อาจารย์จะดุด่าที่เขาพูดขัดเอากลางคัน แต่นี่อะไรอาจารย์กลับเห็นดีเห็นงามด้วยซะงั้น
"ผมขอเสนอให้สุ่มเลือกที่นั่งดีกว่าครับ" พายุยิ้มอย่างอ่อนโยนตามฉบับของเขา นี่ถ้าเมื่อตอนเช้าฉันไม่ถูกเขาขู่มาละก็ฉันก็คงจะเคลิ้มไปกับรอยยิ้มที่แสนจะสุภาพอ่อนโยนของเขาแล้วแน่ๆ
"งั้นอาจารย์ฝากหัวหน้าห้องจัดการละกันนะ"
"ครับ" พายุตกปากรับคำอย่างว่าง่าย แต่ชั่ววูบนึงถ้าฉันไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองละก็... เขากำลังหันมายิ้มเยาะเย้ยใส่ฉันใช่ไหม?
ไม่รู้จะบอกว่าบังเอิญโลกกลมพรหมลิขิตหรือเวรกรรมนำพากันแน่ ฉันถึงได้จับพลัดจับพลัดจับผลูมานั่งข้างหัวหน้าห้องได้
"ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับซัมเมอร์" ฉันที่นั่งหน้างอง้ำอยู่กับโต๊ะด้วยสภาพหมดอาลัยตายอยาก แต่ดูคนข้างๆพูดเข้าสิมีตาหามีแววไม่! หน้าฉันดูเหมือนกำลังจะดีใจตรงไหนกัน
"หัวหน้าห้องยังไงก็อยาถือสาฉันเลยนะ คิดซะว่าฉันเป็นเพียงธาตุอาหารที่นั่งอยู่ตรงนี้แล้วกันนะ" ฉันส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับคนตัวโตข้างๆและหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าใจแล้วช่วยทำเป็นไม่รู้จักฉันได้ยิ่งดี
"ผมคงคิดแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ ธาตุอากาศที่ไหนพูดได้กันครับ" คำพูดที่ดูเหมือนจะติดตลกของพายุแต่ฉันกลับขำไม่ออกเลยสักนิด
น่าแปลกที่คนแบบเขาจะยอมมาสุงสิงพูดคุยกับฉันราวกับรู้จักกันมาแต่ชาติปางก่อน แค่เพราะเรื่องเมื่อคืนเนี๊ยนะ
"กำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่เหรอครับ"
"บะ บ้าเหรอไม่ได้คิดอะไรเลยนะ เรื่องเมื่อคืนก็ไม่คิด ไม่เคยคิดเลยว่าคิดเลยสักนิด" ฉันโบกมือรัวๆเป็นการปฎิเสธ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปฎิเสธมากแค่ไหนก็ยิ่งเผยพิรุธมากเท่านั้น แกควรจะหุบปากน้อยๆของแกไปเลยนะซัมเมอร์ ปากพาซวยจริงๆเล้ยยย
"อ่า... แบบนั้นเอง แต่ผมควรจะบอกอะไรซัมเมอร์สักอย่างนะครับ เพื่อว่าซัมเมอร์จะเผลอทำพลาดขึ้นมา"
"พลาดเหรอ ฉันจะทำอะไรพลาด"
"นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวซัมเมอร์เองนะครับ ถ้าเผลอทำพลาดขึ้นมาจริงๆผลลัพธ์ที่ได้มมันจะไม่คุ้ม" พายุเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลราวกับคำบอกเล่าของเขาคือนิทานกล่อมเด็กที่แฝงไปด้วยข้อคิดที่อันตราย
"มะ ไม่ทำหรอกไม่มีทางทำพลาดแน่ๆ ฉันจะหุบปากให้สนิทเลย" ว่าจบฉันก็ใช้นิ้วเรียวทำท่าทางรูดซิบปากของตัวเองแน่นเป็นการยืนยัน
"ผมจะรอดูนะครับ" พายุตอบรับด้วยรอยยิ้มอีกครั้งก่อนที่เขาจะหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็วแล้วเผยให้เห็นสีหน้าดุดันเย็นชาในเสี้ยววินาทีก่อนที่เขาจะปรับสีหน้าให้เป็นสุขุมอ่อนโยนตามเดิม
อันตราย..
ผู้ชายคนนี้อันตรายจริงๆ ขนาดหมาจรแถวซอยในหมู่บ้านวิ่งไล่รถจักรยานฉัยังไม่ลุ้นระทึกเท่านี้เลย
พักเที่ยง...
ฉันแทบจะเต้นระบำไปต่อคิวร้านข้าวที่แสนจะหรูหราหมาเห่า อาหารที่ส่งกลิ่นหอมทันทีที่เดินเข้ามาก็ทำเอากระเพาะในท้องของฉันสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหว
"ขอเหมือนเดิมคะ" เมื่อถึงคิวที่ฉันยืนรอราวสามชาติเศษในที่สุดฉันก็ได้สั่งสักที และเมนูเดิมที่ฉันสั่งประจำเลยนั่นก็คือสปาเกตตี้ผัดขี้เมา
"ได้แล้วจ้าคนสวย" แม่ค้าในโรงอาหารยิ้มรับแล้วส่งจานสปาเกตตี้มาให้ฉันอย่างรู้กัน
"คนชมก็สวยค่ะ" ฉันรับจานมาด้วยรอยยิ้มกว้าง นี่คือข้อดีอีกอย่างที่ฉันเลือกร้านนี้ เพราะสั่งอาหารร้านนี้แล้วรู้สึกสวยขึ้นมาทันตาเห็น
"มานั่งตรงนี้สิครับซัมเมอร์" ยังไม่ทนที่ฉันจะได้เดินไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างก็ถูกใครบางคนเอ่ยเรียกเสียก่อน
"ขอบคุณนะ แต่ฉันไปนั่งตรงนั้นดีกว่า"
"ผมไม่ยักจะรู้ว่าซัมเมอร์เป็นคนพูดจาไม่รู้เรื่อง"