บางทีเพื่อนใหม่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด

1356 Words
ก็เหมือนทุก ๆ ปีที่พี่อินทัชไม่สนใจฉัน วันนี้ไม่มางานรับรางวัลที่ฉันคว้ามันมาได้ แค่คิดก็รู้สึกน้อยใจแล้วล่ะค่ะ ฉันควรจะดูมีค่ากว่านี้พี่เขาควรจะแสดงความรักกับฉัน ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง​อยู่แบบนี้ “วันนี้น้องขนมชั้น​ของพี่น้ำหวานเก่งมากเลยค่ะ” พี่น้ำหวานจีบปากจีบคอพูดขณะที่​ฉันเดินถือถ้วยรางวัลลงมาจากเวที “ค่ะ” ฉันยิ้มเศร้าๆ ให้พี่น้ำหวานแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ และคนที่ได้นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม​เป็นใครไปไม่ได้ค่ะนอกจากภาคภูมิ​ นั​กเเสดงหนุ่ม​ไฟแรง เขาเล่นละครกับฉันมาหลายเรื่อง จนคนทั่วไปมองฉันกับเขาเป็นคู่จิ้นไปแล้ว “น้องขนมชั้น​คะ ดูคุณ​ภาคภูมิ​สิเขาเก่งและเหมาะสมกับขนมชั้นมากเลยนะคะ” “พูดอะไรแบบนั้นคะ หนมชั้นมีแฟนแล้วนะคะ” ฉันเอ่ย ฉันมีแฟนแล้วถึงแม้ว่าแฟนของฉันจะไม่เคยสนใจก็ตาม “แล้วในความรู้สึก​ของเขาล่ะ คุณ​ขนมชั้น​เป็นแฟนเขาหรือเปล่า?” ภาคภูมิ​เอ่ย มือถือรางวัลเดินมาหาฉัน นั่นสินะ ในความรู้สึก​พี่เขาตอนนี้ฉันเป็นแฟนเขาหรือเปล่า พี่เขาถึงเอาแต่หมางเมินกับฉันได้ขนาดนี้ “พี่เขาแค่ไม่แสดงออกก็ได้ค่ะ” ปลอบใจตัวเองไว้ก่อนแหละ ใครจะยอมรับ​ความจริงล่ะ ยอมรับความจริงก็เจ็บน่ะสิ “บางทีการไม่แสดงออกของเขา มันคือสิ่งที่ต้องการบอกหนมชั้นเป็นนัย ๆ ก็ได้นะ ถ้าน้องขนมชั้นมีความสำคัญจริง ๆ พี่อินทัชของขนมชั้นก็คงมางานรับรางวัลแล้วสิ แต่นี่ไม่เห็นมาหนำซ้ำทุก ๆ ปีที่น้องขนมชั้นมางานประกาศผลรางวัล คนที่ขนมชั้นคิดว่าเป็นแฟนเขาก็ไม่เคยมาเลย” คำพูดของพี่น้ำหวานทำฉันคิดตาม ฉันมั่นคงกับความรักมาตลอด แต่ความรักของฉันในตอนนี้มันกลับไม่มีความสุข หรือมันมาถึงจุดอิ่มตัวที่ฉันรู้สึก​คิดตามและไขว่เขว่ไปกับพูดของคนอื่น ความรักที่ฉันมั่นคงทำหัวใจเริ่มสั่นไหว “แล้วคุณ​ขนมชั้น​มีแฟนแล้วเหรอครับ” ภาคภูมิ​เอ่ย พร้อมกับ​จ้องหน้าฉัน “มีแล้วค่ะ” “แบบนั้นเรียก​ว่าแฟนเหรอ? น้องขนมชั้น​คิดไปเองหรือเปล่า” พี่น้ำหวานว่าพลางทำท่าทางหงุดหงิด​ “มีอะไรก็เล่าให้ผมฟังได้นะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” “มีสิ ทำไมไม่ตอบคุณ​ภาคภูมิ​ไปเลยล่ะน้องขนมชั้น” “แต่มันเรื่องส่วนตัว​ หนมชั้นขอตัวกลับก่อนนะ” ฉันเอ่ยใบหน้าบูดบึ้ง​ “ถ้ามันไม่ไหวน้องขนมชั้น​ควรให้ค่าคนที่เห็นค่าเรานะ” พี่น้ำหวานเอ่ย “มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ฉันเอ่ย “น้องขนมชั้น​ควรดูคนอื่นบ้างนะ อย่าจมปลักกับคนที่เขาไม่เห็นค่าเรา น้องทั้งสาวทั้งสวยควรมองใครเอาไว้บ้าง” ฉันไม่ได้ฟังพี่เขาพูดต่อหรอกค่ะ ฉันรู้แต่ว่าความรู้สึก​ของฉันมันแย่ แย่อย่างที่ไม่มีอะไรกั้น เฮ้อ เท้าเล็ก ๆ เดินย่ำพื้นฝ่ากลุ่ม​นักข่าวออกมา บางทีฉันก็อยากจะเดินโง่ ๆ เดินแบบไม่ต้องคิดอะไร ความรู้สึก​น้อยใจทุกอย่างถาโถมเข้ามา กึก! “อุ้ย! เชี่ยนี่” ร้องเท้าราคาแพงหูดับส้นแหลมปี๊ดหัก ฉันถอดมันออกก่อนจะเหวี่ยงมันทิ้งอย่างไม่ไยดี ฉันเดินไปจนกระสวนสาธารณะ​แห่งหนึ่ง​ แสงสปอร์ต​ไลน์​ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ​ ฉันนั่งมองแสงไฟระยิบระยับ​ของตึกที่ตั้งตระหง่าน​ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักพลางคิดอะไรไปเรื่อย ทำไมฉันถึงรู้สึก​เคว้งคว้าง​ได้ขนาดนี้ Rrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์​แผดเสียงร้องดังลั่น มือเล็กของฉันหยิบโทรศัพท์​ขึ้นมากดดู เป็นเบอร์​ของพี่ปั้น พี่เขาคงจะโทรมาถามนั่นแหละ เหมือนทุกปีที่ได้เห็นการถ่ายทอดสด​แล้วคุณ​ในครอบครัว​เห็นฉันได้รับรางวัล “มีอะไรหรือเปล่าพี่ปั้น” “พี่จะโทรมาบอกว่า...” “พี่อินทัช​ไม่ว่างเลย งานเยอะติดลูกค้า หรือไม่ก็เหนื่อยเลยรีบไปบ้านไปนอน” ฉันรีบพูดแทรกอย่างประชดประชัน “หนมชั้นช่วงนี้งานมันเยอะ” พี่ปั้นสิบ​เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ “พี่เขาควรจะสนใจหนมชั้นกว่านี้ ฮึก! หนมชั้นรู้สึก​เหมือนตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย ฮือ ๆ” น้ำตาของฉันเอ่อคลอก่อนจะไหลรินอาบแก้ม ความรู้สึก​มันบอกไม่ถูกไม่รู้​ว่าจะเดินหน้าอย่างไรดี “ตอนแรกพวกพี่ก็ว่าจะไป แต่น้ำหวาน​ผู้จัดการ​ส่วนตัวน้องบอกคนเยอะเกินไป ไปก็จะอึดอัดเปล่า ๆ ช่วงนี้งานก็เยอะ” “ฮึก!” “ให้พี่ไปรับไหม หรือน้ำหวานจะมาส่งเอง” “หนมชั้นจะกลับเองค่ะ” ว่าพลางปาดน้ำตา “อย่าน้อยใจเลย พี่เขาไม่ค่อยมีเวลาไม่ใช่ว่าเขาไม่รัก ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง” “เขาควรเจียดเวลาน้อยนิดให้หนมชั้นบ้าง” “อีกไม่นานพี่เขาก็มีเวลาให้หนมชั้น” “แค่นี้นะคะ หนมชั้นอยากอยู่คนเดียว” ฉันว่าจบก็รีบกดวางสายปิดเครื่องทันที ตอนนี้ฉันอยากจะทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันอยากมีค่าในสายตาของคนที่ฉันรักบ้าง ใครจะว่าฉันงี่เง่าฉันก็ยอมรับ​ ตอนนี้ฉันงี่เง่าฉันอยากมีใครที่อยู่ข้างฉันในวันที่ฉันต้องการ “ฮือ ๆ” ฉันปิดหน้าของตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ตอนนี้ฉันรู้สึก​ไม่เป็นตัวเองเลย ฉันรู้สึก​อ่อนแอ​จนหัวใจสั่นไหว มันเจ็บปวดกับสิ่งที่เรียกร้องไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอ​ทุกคนก็รู้จักนิสัยของฉันดี แต่ตอนนี้หัวใจของฉันมันกลับเจ็บปวด “มาทำอะไรที่นี่ครับ” น้ำเสียงทุ้ม​เอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง​ ฉันหันไปมองเจ้าของนั้นเป็นภาคภูมิ​ที่เดินเข้ามาหาฉัน “เปล่า ไม่มีอะไรสักหน่อย” ฉันปาดน้ำตาของตนเอง “ไม่มีแล้วทำไมถึงร้องไห้อยู่แบบนี้ล่ะ” “เปล่าสักหน่อย หนมชั้นแค่มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย​ ว่าแต่คุณ​อะมาอะไรที่นี่” “เป็นห่วง” ภาคภูมิ​เอ่ยแล้วหย่อยกายนั่งลงข้างฉัน “เป็นห่วงเหรอ?” “ใช่ เป็นห่วง” เขายิ้มแล้วเอนกายพิงพนักพิง “ห่วงว่าคุณ​จะเป็นอะไรไป ผมเห็นคุณเดินออกมาใบหน้าไม่ค่อยสู้ดี ผมเลยรีบเดินตามมาเพราะเป็นห่วงคุณ​ มีอะไรเล่าให้ผมฟังไหม?” “ไม่มี” ฉันเอ่ย “ไม่บอกให้ผมฟังก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณ​อยากจะเล่าหรือถ้าคุณ​อยากไปเที่ยวไหนผมพาคุณ​ไปได้นะ” “ไม่ค่ะ หนมชั้นมีแฟนแล้วมันคงไม่เหมาะ” “เราก็ไปในฐานะเพื่อนสิครับ” “เพื่อนเหรอ?” “อื้มเพื่อน ผมพร้อมที่จะพาคุณ​ไปเที่ยวทุกที่เลยนะครับ” “คนพาไปเที่ยวหนมชั้นมีค่ะ ที่บ้านหนมชั้นมีคนเยอะ” “แต่เที่ยวกับคนที่บ้านมันก็ไม่สนุกเหมือนกับเที่ยวกับคนอื่นนะ ถ้าคุณ​ไม่สบายใจพรุ่งนี้หลังจากถ่ายละครเสร็จ​ เราไปเที่ยวกัน” “...เอ่อ...คงไม่ได้ค่ะ” “อย่าเพิ่งปฏิเสธ​เลยครับ เผื่อพรุ่งนี้​คุณ​อยากไปเที่ยวกับผม” ฉันไม่ตอบแต่ก็พูดเรื่องอื่น ๆ ไปเรื่อย เอาจริง! ภาคภูมิ​ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่คิดตอนแรก เราพูดคุย​กันได้แทบทุกเรื่อง แม้กระทั่ง​เรื่องงานถ่ายละครพรุ่งนี้​เราก็พูดคุย​กันได้ ภาคภูมิ​หัวเราะ​เบา ๆ เมื่อพูดเรื่องโก๊ะช่วงเข้าวงการฉันถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน​ ผู้ชาย​ที่ฉันไม่เคยอยากพูดคุย​ด้วยกลับทำให้ฉันหัวเราะได้ เขานั่งคุยกับฉันจนกระทั่ง​ดึกดื่น​แล้วเราก็แยกย้ายกันไป บางทีเพื่อนใหม่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD