ตอนที่ 5

1325 Words
ร่างที่ก้าวเข้ามาให้นั้น ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องมองดูด้วยความรู้สึกอึดอัดขัดใจนัก นี่หรือคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ ตาหนูลักษมิน หลานชายของเขา ลูกของอชิระกับเพ็ญจันทร์น้าสาว จะมาทำให้เด็กใจแตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ชายหนุ่มตวัดดวงตาแวบหนึ่ง เขารู้สึกถึงความไม่พอใจของอีกฝ่ายที่แสดงตอบอ่านสีหน้าขณะนี้ ใช่แล้วเขาถูกหญิงสาวมองด้วยสายตาเข้มตึง แค่นี้โปฏกก็นึกยิ้มให้กับตัวเอง เขาถูกอีสาวลองดีเข้าให้แล้ว แต่เมื่อมาพิจารณาแล้ว คิดว่า ผิวพรรณแบบนี้ไม่น่าจะมาเลี้ยงเด็กเป็นคนใช้เลย น่าจะทำงานหรูๆสบายแบบนั้น เช่น นั่งกินนอนกิน เป็นเด็กในห้องแอร์ อาบอบนวด ทำให้เขาอยากจะรู้จักตัว ถ้วนทั่วทั้งหัวใจด้วย เพราะแปลกใจกับหญิงสาวสวยตรงหน้า จะว่าหล่อนยากจนอัตคัดหรือเปล่า ก็ไม่มีส่วนไหนที่บอกเขาว่า หล่อนเป็นอย่างนั้น แต่มันตรงกันข้ามมากกว่า ผิวพรรณที่ดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาก็จัดว่าเอาไปประกวดเทพีได้สบาย หน้าอ่อนเยาว์ หนำซ้ำยังหวานแบบธรรมชาติปราศจากการตบแต่งเครื่องสำอาง EP 05 ก็ดูสวยจริง นี่โปกฏนึกชมจากใจจริงๆที่เขามองไปแล้ว นี่เขาเป็นอะไร เขากำลังคิดอะไรกับเด็กคนใช้คนนี้ เขาเผลอไผลจ้องมองใบหน้าของหล่อนเข้า หล่อนก็เคืองอย่างเห็นได้ชัดทันที โดยสายตากร้าวไม่พอใจ โปฏฏนึกหัวเราะ แปลกจริงๆมาเจอผู้หญิงแบบนี้ ซึ่งเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน เห็นทีต้องทำความรู้จักนานๆเสียแล้ว เขาอยากรู้จักประวัติความเป็นมาของหล่อน ใครส่งหล่อนมา แล้วนึกยังไงถึงอยากเข้ามาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กชั้นประถม หรือ คิดหวังรวยทางลัด หน้าตาของหล่อนก็บอกด้วยว่าไม่น่าจะเข้ามาทำงานเลี้ยงเด็ก น่าจะสมัครเป็นอนุของใครบางคนมากกว่า เช่นเจ้าของบ้าน เพราะมันมีข่าวบ่อยนี่นา นายจ้างได้คนใช้ พี่เลี้ยงเด็กมาเป็นเมีย โดยเฉพาะน้าเขยของเขา คุณอชิระ มีแววเจ้าชู้อยู่มาก นี่ถ้าได้เห็นหน้าตาของพี่เลี้ยงสาวที่ดูแลลูกชาย คงจะหูตาแพรวพราวหูผึ่งทันทีที่ได้ยินว่าเป็นสาวและสวยมาก ยังไงเสียสักวันอชิระต้องมาเห็น เพราะต้องมารับลูกชายกลับไปบ้าน ถึงแม้เขาจะให้พักอยู่ที่คอนโดของเขาก็ตาม พอถึงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ที่โรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่อยู่ในละแวกนี้ปิดโรงเรียน ทั้งเพ็ญจันทร์กับอชิระต้องมารับลูกกลับไปที่บ้านหลังใหญ่ พอถึงวันจันทร์อีกทีค่อยมาส่งเข้าโรงเรียน โปฏกชายหนุ่มวัยเฉียดใกล้สามสิบอยู่รอมร่อตั้งปัญหาให้กับใจตนเอง ยิ่งเมื่อเขาได้พบเจอเด็กสาวคนนั้นแล้ว ที่สมัครเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงของหลานชาย หัวใจของเขาสั่นตุ๊มๆต่อมๆเป็นยังไงก็ไม่ทราบ ไม่เคยเกิดมีอาการวาบหวิวสยิวกิ้วไปถึงหัวใจอย่างนี้เลย หล่อนเป็นใคร อยู่ที่ไหน มาทำอะไรที่กรุงเทพ เขาไม่เชื่อแน่ว่า หล่อนจะมาเป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก ทั้งหมดถูกเก็บอยู่ในใจของโปฏก จากท่าทางที่ครุ่นคิด คิ้วขมวดของตัวเองนั่นแหละ เด็กสาวอย่างอิฐศอรกำลังหลบสายตาของเขา หล่อนไม่เข้าใจว่าสายตาที่เขามุ่งมองจ้องจับมาที่หล่อนนั้นหมายความว่ากระไร แต่หล่อนไม่พอใจอยู่มาก มันหมายถึงสายตาที่ดูถูกดูแคลน เพราะหล่อนเห็นที่มุมปากของเขามีแววยิ้มเยาะ เหยียดหยันอยู่มาก ใบหน้าของหล่อนผ่าวร้อนขึ้นกะทันหัน ระงับตัวเองไม่อยู่ จ้องหน้าเขากลับไป นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนได้พบหน้าเขา ปะทะกับตัวเขากันจังๆซึ่งหน้า และในห้องแห่งนี้เอง ผู้ชายตรงหน้าหล่อนเขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี ทุกกระเบียดนิ้วมีความเป็นหนุ่มเจ้าสำอางสง่างามบวกกับความเป็นผู้ดี แต่หล่อน กำลังมองข้ามความเป็นผู้ดีของเขา เพราะหล่อนไม่ชอบด้วย อาจจะหมายถึงไม่ชอบชะตา แต่เมื่อรู้ตัวแล้วก็พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตนเองเอาไว้ “งานที่ฉันให้เธอทำ เป็นงานที่นี่ คงรู้แล้วนะว่า จะต้องเลี้ยงเด็ก เธอเป็นพี่เลี้ยงของ ตามินหลานฉัน” อิฐศอรนิ่งสงบรับฟัง หล่อนรู้มาแล้ว รู้มาก่อนหน้านี้ รู้ตั้งแต่ญาติสนิทหรือเพื่อนสนิทของครอบครัวเขานำตัวหล่อนเข้ามา และให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก สุภาพี่สาวของหล่อน คิดว่า คงจะดีกว่าทำงานบ้าน ที่ต้องทำเองทุกอย่าง ในบ้าน ตั้งแต่ปัดกวาดเช็ดถู ไปจนถึงรีดผ้าซักผ้า แต่นี่ อิฐศอรเพียงแค่เลี้ยงเด็กเพียงอย่างเดียว เด็กชายในวัยชั้นประถม คงดูแลได้ไม่ยากนัก ทีแรกหล่อนคิดอย่างนี้เหมือนกัน ก่อนที่ใจของตนเองจะกลับมาเปลี่ยนใจในเดี๋ยวนี้และเวลานี้ เมื่อเห็นท่าทียโส วางก้ามอำนาจความเป็นเจ้าของบ้าน ในชีวิตของอิฐศอรเกลียดมากที่สุด คือ คนชอบออกอำนาจคำสั่ง หล่อนกำลังจะอ้าปากเพื่อตอบโต้เขากลับไปบ้าง แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้หล่อนเลย เขาคงเป็นฝ่ายพูดคนเดียวคนเดียว ฉอดๆใส่ เหมือนผู้หญิง ผู้ชายอะไรนิสัยเหมือนผู้หญิง ปากจัดน่าดู แล้วในที่สุด โปกฎนายจ้างของหล่อนก็หนีไปเฉยๆ ทำให้หล่อนงง ทำอะไรไม่ถูก ทั้งเจ็บใจ นี่เป็นก้าวแรกที่หล่อนเหยียบย่างเข้ามาในห้องชุดสุดหรูของอาคารแห่งนี้ อย่างที่เขาเรียกว่า คอนโด หล่อนคิดว่า จะถอนตัวออกจากเป็นพี่เลี้ยงเด็กวันนี้แน่ จะไม่ทนยอมให้เขาสับโขกหล่อนหรอก ไม่ได้งานในวันนี้ ก็ให้พี่สาวหางานใหม่ให้ทำ คงจะหาได้ เพราะพี่สาวก็กว้างขวางรู้จักคนพอสมควร อิฐศอรกำลังคิดในใจอีกครั้ง จะหนีกลับ หนีไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว แล้วนี่หล่อนจะกลับไปได้อย่างไร จริงสิ จำทางไม่ถูกแน่ ว่าที่นี่เป็นที่ไหน เพราะหล่อนเพิ่งมาครั้งแรก จริงสิ แท็กซี่ รถโดยสารคันเล็กนั่งสบายคงพาหล่อนไปส่งยังที่เดิมได้ ก็หล่อนจำได้ว่าบ้านที่พี่สาวอยู่ อาศัย ตั้งอยู่แถว พัฒนาการ ซอย หล่อนกำลังคิดเช่นนี้อยู่ในใจ โดยไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่า มีสายตาของนายจ้างหนุ่ม คอยจ้องสังเกต เขาเห็นความผิดปกติบางอย่าง ที่เขาไม่ไว้ใจนัก หลังจากที่เขาเอ่ยชี้แจงบอกว่า หล่อนจะต้องทำอะไรที่บ้านหลังนี้บ้าง จนเสร็จสรรพแล้ว เขาเห็นหล่อนพยักหน้ารับ ก็นึกว่าเข้าใจแล้ว ก็เลยไม่เอ่ยต่อ แต่ในคราวนี้ไม่ใช่แล้ว นัยน์ตาของหล่อน เหมือนคนที่พยายามจะหนีอะไรสักอย่าง เหมือนไม่อยากจะอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เสียค่าจ้างจ้างมาแล้วส่วนหนึ่ง จะไม่ยอมปล่อยให้หล่อนหนีไปไหน “นี่ คิดจะหนี ใช่ไหน คอนโดแห่งนี้เข้าออกด้วยคีย์การ์ดเท่านั้น คนภายนอกไม่มีสิทธิ์เข้ามา และเธอหลงแน่ ถ้าคิดจะออกไปข้างนอก ฉันขอบอกไว้นะ ก้มหน้าก้มตา ทำงานตามที่ฉันว่าจ้างเถอะ” “ถือตัวอภิสิทธิ์ คนบ้า หลงตัวเองชะมัด” หล่อนนึกเถียงในใจสบถกับตัวเอง จะเอ่ยแก้ตัวก็ไม่กล้า ไม่อยากจะเอ่ยตอบเขาด้วย เพราะไม่พอใจในน้ำเสียงที่วางอำนาจเสียงเข้มขู่ตะคอก ทำให้หล่อนนึกอยากจะเอาชนะทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD